วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 08:09  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 281 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10 ... 19  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2009, 22:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผูกใจคนโลภ . . .ด้วยการให้ของ
ผูกใจคนโกรธและจองหอง. . .ด้วยการนอบน้อม
ผูกใจคนมีปัญญาปลอม. . .ด้วยการคล้อยตามใจ
ผูกใจบัณฑิตได้. . .ด้วยความจริง

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


แก้ไขล่าสุดโดย ปลายฟ้า...ค่ะ เมื่อ 20 ส.ค. 2009, 02:54, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2009, 12:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หากเรามีโอกาสมาเสวนาธรรม หรือพูดธรรมะนั้น
เป็นการพูดในสิ่งที่เป็นมงคล เป็นสิ่งที่ดีสำหรับชีวิต
เพราะว่าเป็นการป้องกันภัยอันตรายไม่ให้เกิดขึ้น

ปกติเราต่างก็มีความกลัวเหมือนกันหมด กลัวภัยอันตรายไปร้อยแปดพันเก้า
แต่ก็เป็นปกติอีกเช่นกันที่เราใช้ชีวิตกล้าเสี่ยง คือ อยู่ในความประมาท
พร้อมที่จะพลาดไปในอกุศลทั้งหลาย
เพราะเรามีอดีตเหตุและก็มีปัจจุบันเหตุด้วย
โดยเฉพาะอดีตเหตุอย่างเดียวนั้นก็มีกำลังแล้ว
และถ้าเราสร้างปัจจุบันเหตุด้วย กำลังก็จะทวีคูณขึ้นเกิดเป็นอันตรายกับตัวเรา
เพราะฉะนั้น ถึงเราจะพยายามป้องกันอย่างไร
ภัยอันตรายก็เกิดขึ้นกับเราอยู่อย่างเนืองนิตย์

อดีตเหตุที่ทำให้เราต้องพบกับอันตรายก็คืออกุศลเหตุทั้ง
หลายที่เราสร้างไว้ หรือกรรมชั่วทางกาย วาจาและใจนั่นเอง
และปัจจุบันเหตุก็คือ การกระทำความชั่วทางกาย วาจา และใจ
ที่ทำอยู่ในขณะนี้ซึ่งเป็นการตั้งตนไว้ไม่ชอบ
เป็นการกระทำที่เร่งเร้าเอาสิ่งที่เป็นผลจากอดีตเหตุให้เกิดขึ้น
จึงเท่ากับว่าเรากำลังใช้ชีวิตให้อยู่ในภัยอันตรายอย่างยกกำลังสอง

ฉะนั้น การเสวนาธรรม หรือการพูดคุยเกี่ยวกับธรรมะ
จึงเป็นการกระทำ " ถ้อยทีถ้อยอาศัย" ให้ ปัญญาซึ่งกันและกัน
เพราะว่าจะได้มีความรู้เป็นที่พึ่งแก่ชีวิตได้
โดยเฉพาะคำสั่งสอนขององค์พระตถาคตเจ้านั้น
เป็นการปัดเป่าภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้นทุกทวาร
และเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


แก้ไขล่าสุดโดย ปลายฟ้า...ค่ะ เมื่อ 20 ส.ค. 2009, 02:54, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 16:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชีวิตนั้นเคลื่อนไหวแปรเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ
แต่ละขณะหมุนเวียนเปลี่ยนไป ไม่เคยเหมือนเดิม
ทั้งร่างกายและจิตใจเราเปลี่ยนไปทุกขณะโดยที่เราไม่รู้ตัวเลย
แต่หากเรารับรู้ต่อการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้
เราจะมีความสุขกับชีวิตและติดต่อสัมพันธ์กับผู้อื่นได้
แต่หากเราไม่รับรู้ต่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในชีวิตของเรา
เราอาจระลึกขึ้นมาทันทีว่าเราได้สูญเสียชีวิตไปแล้วครึ่งหนึ่ง
โดยที่เราได้ปลดปล่อยตัวเองให้อิสระจากอุปสรรคต่าง ๆ
และพัฒนาคุณภาพฝ่ายบวกขึ้นมาได้เพียงเล็กน้อย
เพราะชีวิตนั้นเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา รวดเร็วกว่ากระแสน้ำ
เราจำต้องใช้เวลาแต่ละขณะให้คุ้มค่า

จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องรู้ตัวต่อทุกขณะ
มองและใคร่ครวญต่อสิ่งที่เรากำลังกระทำ
ไม่กระทำอะไรอย่างประมาทเลินเล่อ
ดังนั้นเราจึงต้องควบคุมอารมณ์ที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน
และพึ่งพาต่อศรัทธาและความเข้มแข็งภายในเท่านั้น
แต่พวกเราส่วนมากยังคงพอใจที่จะทำตามสิ่งยั่วยวนชั่วขณะ
โดยไม่ใคร่ครวญถึงผลที่จะตามมา

ดังนั้นจงมีสัมปชัญญะอยู่เสมอในกายและสัมผัส
จงออกมาจากเมฆหมอกแห่งความฝันถึงอนาคต
และการฟื้นความทรงจำในอดีตเสีย จงเลิกอารมณ์เพ้อฝัน
แต่จงรับรู้ต่อจิตใจและความรู้สึกของตัวเอง เมื่อเราพบความสมดุลแล้ว
เราจะสามารถรักษามันไว้ได้ไม่ว่าอะไรจะผ่านเข้ามาในชีวิตก็ตาม

เมื่อเราทำเช่นนี้อย่างสม่ำเสมอ
เราจะพัฒนาคุณภาพแห่งความจริงแท้ ชีวิตของเราจะสับสนน้อยลง
เราจะไม่สนใจต่อความใฝ่หาความพึงพอใจจากภายนอก
การเผชิญหน้าต่อทุกสิ่งด้วยความรู้และเตรียมพร้อม
คือวิถีทางแห่งความรับผิดชอบที่ดีที่สุดสายหนึ่ง

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


แก้ไขล่าสุดโดย ปลายฟ้า...ค่ะ เมื่อ 20 ส.ค. 2009, 02:54, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2009, 10:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




0421d6be.jpg
0421d6be.jpg [ 29.45 KiB | เปิดดู 4220 ครั้ง ]
ขีดเขียนอักษรเป็นกลอนกานท์
ตามชีวิตที่ผ่านทุกเช้าค่ำ
ผ่อนระกำลำบากความชอกช้ำ
เพื่อลำนำบทกานท์จารบรรเทา

ด้วยน้ำทิพย์รินไหลได้ผ่อนเย็น
ใจที่เร้นร้อนรุ่มคลุมแผดเผา
มีสรณะกำบังเป็นร่มเงา
คอยขัดเกลาเงาดำกล่ำครอบคุ้ม

อันเรื่องราวเร้าจิตให้คิดร้อน
ดั่งมีฟอนกองไฟเข้าล้อมสุม
ดวงจิตกุมกิเลสเฝ้ากลุ้มรุม
ดังเหมือนเราซ่องสุมทุกข์ภายใน

ชีวิตนี้ไม่มีเครื่องต้านทาน
คงไม่ผ่านกองทุกข์พ้นไปได้
ล้วนตกในอำนาจอันตราย
ธรรมสัมมารัตนตรัยคุ้มครองตน

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2009, 22:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนบางคน ใช้เวลาทั้งชีวิตให้หมดไปกับความโลภ

คนบางคน ใช้เวลาทั้งชีวิตให้หมดไปกับการหาเงิน

คนบางคน ใช้เวลาทั้งชีวิตให้หมดไปกับความแค้น

คนบางคน ใช้เวลาทั้งชีวิตให้หมดไปกับความริษยา

คนบางคน ใช้เวลาทั้งชีวิตให้หมดไปกับความหลังอันหดหู่

คนบางคน ใช้เวลาทั้งชีวิตให้หมดไปกับความรัก

คนบางคน ใช้เวลาทั้งชีวิตให้หมดไปกับกามารมณ์

คนบางคน ใช้เวลาทั้งชีวิตให้หมดไปกับการทำธุรกิจ

คนบางคน ใช้เวลาทั้งชีวิตให้หมดไปกับการบ้าอำนาจ

คนบางคน ใช้เวลาทั้งชีวิตให้หมดไปกับเกียรติยศ
โดยลืมไปว่า ตัวเองเกิดมาเพื่ออะไร

คนบางคน ใช้เวลาทั้งชีวิตให้หมดไปกับอุดมการณ์

คนบางคน ใช้เวลาทั้งชีวิตให้หมดไปกับสุรายาเสพติด

คนบางคน ใช้เวลาทั้งชีวิตให้หมดไปกับอบายมุข

โดยลืมไปว่า ตัวเองเกิดมาเพื่ออะไร

มีคนไม่กี่คน !
ที่ตระหนักรู้ว่า แท้ที่จริงนั้นเรามีเวลาอยู่ในโลกเพียงน้อยนิด,
เราเกิดมาทำไม,
และเราจะใช้ชีวิตอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดในช่วงเวลาอันแสน สั้นนั้น ?

........ว.วชิรเมธี

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


แก้ไขล่าสุดโดย ปลายฟ้า...ค่ะ เมื่อ 20 ส.ค. 2009, 02:53, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2009, 19:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




1238497221.jpg
1238497221.jpg [ 60.55 KiB | เปิดดู 4195 ครั้ง ]
“เป็นอะไรก็ไม่สู้เป็นกูเอง”

กบ ตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในสระใกล้กุฏิของพระในวัดแห่งหนึ่ง
ทุกเช้ามันจะโดดออกจากสระขึ้นไปหมอบอยู่ริมทางเดิน
มันเห็นพระเดินออกไปบิณฑบาตและเห็นโลกกว้างทุกวัน

อยู่มาวันหนึ่ง
มันเห็นพระออกไปบิณฑบาต ไม่นานก็กลับวัดพร้อมกับมีข้าวเต็ม
บาตรมีกับข้าวและขนมเต็มย่าม
มันจึงคิดว่า “เออ เป็นพระนี่ก็ดีเหมือนกันนะ ดีกว่าเราเป็นไหนๆ
แค่เดินเข้าบ้านไปชั่วโมงเดียวก็ได้อาหารมากมาย” >>

หลักจากพระฉันอาหารเสร็จแล้ว
ท่านก็นำเศษข้าวมาโปรยให้ฝูงไก่กิน กบเห็นเข้าก็คิดอยากเป็นไก่ขึ้นมา >>
“อ๊ะ เป็นไก่นี่ดีกว่าเป็นพระอีก ไม่ต้องเดินไปหากินไกล ๆ
ถึงเวลาพระก็มาโปรยข้าวให้กิน สบายดีจริงๆ” >>

ทันใดนั้น
มีหมาวัดตัวหนึ่งเห็นไก่กำลังจิกอาหารกินอย่างเพลิดเพลิน
จึงวิ่งมาไล่ไก่จนแตกกระเจิงไป กบเห็นเข้าก็อยากจะเป็นหมาขึ้นมาอีก >>

“เป็นหมานี่ก็ไม่เบา เป็นฮีโร่ไล่ไก่เล่นสนุกดี ทำอย่างไรเราจึงได้เป็นหมาได้หนอ” >>

ขณะกำลังคิดเพลิน ๆ อยู่
เด็กวัดคนหนึ่งเห็นหมาไล่ไก่เข้าก็คว้าไม้ไล่ตีหมาร้องลั่นวัดไป

กบเห็นเข้าถึงกับสะดุ้งโหยง คิดว่า “โธ่เรานึกว่าเป็นหมาจะเก่ง
ที่แท้ก็สู้เด็กไม่ได้ ขนาดเป็นเด็กหมายังกลัวถ้าเป็นผู้ใหญ่คงปราบอะไรได้ทั้งหมด
เราน่าจะเป็นคนดีกว่า” กบคิดเตลิดไปอีก >>

หลักจากเด็กวัดไล่ตีหมาแล้วก็มานั่งหอบอยู่บนม้านั่งใต้ร่มไม้
ขณะนั้นมีแมลงวันหลายตัวมาตอมแข้งตอมขา เด็กวัดจึงปัดแมลงวันให้วุ่นไป
เมื่อสู้ไม่ไหวทนรำคาญไม่ได้ก็ลุกหนีไปพลางบ่นว่า >>
“รำคาญจริง ตอมได้ตอมดีไอ้พวกแมลงวันนี่” >>

กบได้ยินเสียงบ่นก็เลิกคิดเป็นคนทันที สู้เป็นแมลงวันไม่ได้ “หนอยเป็นคนนึกว่าจะเก่ง
ที่แท้ก็แพ้แมลงวันตัวเล็กนิดเดียว เป็นแมลงวันท่าจะดีเป็นแน่” >>

กำลังคิดเพลินอยู่นั้น
แมลงวันตัวหนึ่งบินผ่านหน้ามันไปพอดีมันจึงใช้ลิ้นตวัดแมลงวันตัวนั้นเข้า
ปากไปด้วยสัญชาตญาณ พอได้สัมผัสแมลงวันเท่านั้น
ตัณหาของกบก็สะดุดกึก มันได้ดวงตาเห็นข้อสัจธรรม ถึงกับรำพึงว่า >>
“เป็นอะไรก็ไม่สู้เป็นกูเอง”

เรื่องนี้สื่อความให้เห็นว่า
อันความอยาก เช่นอยากได้ อยากมี อยากเป็น ที่ภาษาพระเรียกว่าตัณหานั้นไม่มีขอบเขต
ไม่มีจุดจบ หาฝั่งไม่เจอ เพราะเป็นเรื่องของใจ ใจจึงคิดอยากเรื่อยไป นี่เป็นธรรมดา
ถ้า หากรู้ทันไม่หลงละเมอไปกับตัณหาที่เกิดขึ้นก็จะไม่เดือดร้อนอะไรมาก
หากปล่อยให้มันมีอำนาจเหนือใจเหนือความรู้สึก ก็จะยุ่งวุ่นวายไม่เลิก
อันที่จริงความอยากนั้นเกิดจากความหิวและความไม่รู้จริง
คิดแต่เพียงว่าที่ตัวเองเป็นหรือที่ตัวมีนั้นไม่ดี
ยังไม่สมบูรณ์แบบ สู้เป็นอย่างนั้นไม่ได้ สู้มีอย่างนี้ไม่ได้

แต่ถ้ารู้ความจริงว่าไม่ว่าจะอะไรล้วนมีดีและมีเสีย
ล้วน มีข้อดีข้อด้อยอยู่ในตัวทั้งสิ้น ไม่มีอะไรดีอย่างเดียวหรือเสียอย่างเดียว
ก็จะผ่อนเพลาความอยากลงได้

และหากยอมรับภาวะที่ตัวเองเป็นอยู่ และพยายามพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ
ก็ย่อมประจักษ์ว่าเป็นอะไรก็สู้เป็นตัวเรา และเป็นตัวของตัวเองไม่ได้เลย

ที่มา http://www.dhammajak.net/forums

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มิ.ย. 2009, 20:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




The sacred declining Buddha at Wat Po ka.jpg
The sacred declining Buddha at Wat Po ka.jpg [ 78.01 KiB | เปิดดู 4186 ครั้ง ]
แสงเทียนทองทาบทาพระพุทธพักตร์
จิตหนาวนักลูกกราบนมัสการจากใจใส
บังเกิดอัศจรรย์พลันพร่างสว่างใจ
มุ่งหมายใดดั่งบัวพ้นน้ำเหนือความทุกข์

นิ่งท่ามเงียบเรียบง่ายคล้ายสิ้นร่าง
วางและวางทุกสิ่งทิ้งทุกข์สุข
แก้วกระจ่างสว่างแล้วแก้ววิมุตติ
ทิพยสุขนิรันดร์ฝันกัปป์กาล

พรหมสถานปาริสัชชาวิมานทิพย์
สู่แดนปุโรหิตมหาพรหมสถาน
ปฐมภูมิผลิพ้นสมาบัติฌาณ
ดั่งบัวบานเหนือบึงทองล่องนิรพาน

แสงเพชรพร่างพราวพรายฉายฉัพพรรณรังสี
ดั่งมณีรุ้งเรืองรายฉาดฉายฉาน
งามเย็นฉ่ำลำแสงนิรันดร์สราญ
ส่องตระการเกินจันทร์ใดในเวิ้งวัน

พุด...ไทยโพสต์

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


แก้ไขล่าสุดโดย ปลายฟ้า...ค่ะ เมื่อ 08 ก.ค. 2009, 11:21, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มิ.ย. 2009, 20:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




117นะโม.jpg
117นะโม.jpg [ 97.79 KiB | เปิดดู 4170 ครั้ง ]
หลวงปู่ชา ท่านกล่าวไว้ว่า

" โลกนี้มีความเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยไป

จะอยู่ที่โน่นก็เปลี่ยนแปลง อยู่ที่นี่หรือที่ไหนก็เปลี่ยนแปลง

เพราะพวกเราทั้งหลายอยู่ได้ด้วย การเปลี่ยนแปลง

ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลง เราก็อยู่ไม่ได้ หายใจ ออกมาแล้ว

ก็เปลี่ยนเป็นหายใจเข้า แล้วก็หายใจออก ไม่เช่นนั้น ก็อยู่ไม่ได้

ออกไปหมดก็อยู่ไม่ได้ ลมเข้ามาแล้วไม่ออกก็อยู่ไม่ได้

เราทั้งหลายอยู่ในโลกนี้ก็เป็นของโลก มันเป็นของๆ โลก

ไม่ควร ทำความน้อยใจ ไม่ควรทำความเสียใจใดๆ

เราต้องเป็นผู้มีจิตใจ เข้มแข็ง จะตกไปอยู่ที่ไหนก็สร้างแต่คุณงามความดี

แม้หมดชีวิต ก็อย่าทิ้งคุณงามความดี "

" คนตาดีเมื่อพบดวงไฟก็มองเห็นแสงสว่าง

ส่วนคนตาบอดนั้น ถึงจะนั่งเฝ้าดวงไฟก็มองไม่เห็นอะไร "

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2009, 22:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




poster1.jpg
poster1.jpg [ 49.47 KiB | เปิดดู 4162 ครั้ง ]
ห า ค ว า ม สุ ข ไ ด้ จ า ก ที่ ไ ห น...

ในตอนกลางดึกมีหญิงชราคนหนึ่ง
กำลังคลำหาอะไรอยู่สักอย่างรอบๆ เสาไฟฟ้าข้างถนน
สักครู่หนึ่งมีหนุ่มสาวกลุ่มหนึ่งเดินผ่านมา
เห็นหญิงชราผู้นั้นกำลังคลำหาอะไรอยู่
เลยถามขึ้นว่า 'ยาย..ยาย ยายกำลังหาอะไรอยู่?

หญิงชราผู้นั้นตอบว่า 'ยายกำลังหาเข็มเย็บผ้าอยู่ ยายทำตกหายไป
ช่วยยายหาหน่อยซิ'
พวกหนุ่มสาวกลุ่มนั้นจึงช่วยกันหาทั่วไปหมด แต่ก็หาไม่เจอ
ในที่สุดพวกเขาก็สงสัยจึงถามยาย

ยาย..ยาย..ยายทำเข็มเย็บผ้าหล่นหายไปที่ไหน'
ยายตอบว่า 'ยายกำลังเย็บผ้าอยู่ในห้องยาย แล้วก็ทำเข็มเย็บผ้าหล่นหายไป
แต่ห้องยายมันมืด ยายมองไม่ค่อยเห็น
ยายก็เลยออกมาที่ถนนเพราะมีแสงสว่างจากไฟฟ้า
...พอพวกหนุ่มสาวกลุ่มนั้นได้ยินเช่นนั้นก็เลยหัวเราะ แล้วเดินหนีไป

เมื่อเราทำของหาย เราก็ต้องไปหาในที่ๆ เราทำหาย
มันจะมีประโยชน์อะไรที่จะไปหาที่อื่น
เช่นเดียวกัน เมื่อเราแสวงหาความสุข
เราก็ต้องหาในจุดที่เราได้สูญเสียความสุขไป
มันจะมีประโยชน์อะไรที่จะหาความสุขที่ไนต์คลับ หรือสถานเริงรมย์ต่างๆ
หรือไปหาที่ประเทศนั้นประเทศนี้ หรือไปหาที่คนอื่น

ความสุขของเราได้สูญหายไปจากตรงไหน?
คำตอบก็คือ เราได้ทำหายไปจากใจของเรา ได้สูญเสียความสุขจากตัวเรา
จากใจเรา ดังนั้น เราก็ต้องแสวงหาความสุขที่จุดนั้น คือ ในตัวเรา

แหล่งที่มา : จาก 'แนวทางสู่ความสุข'
โดย ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2009, 02:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5975

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




9112008-112951-56063_big.jpg
9112008-112951-56063_big.jpg [ 30.17 KiB | เปิดดู 4155 ครั้ง ]
ดับที่เรา นั้นง่ายกว่า ดับที่เขา
ไม่ถือเรา ก็เบาโล่ง โปร่งสบาย
เขาจะมี เรื่องของเขา ปล่อยเขาไป
เราไม่มี เป็นใช้ได้ ก็แล้วกัน

เพราะเรามี ทุกข์จึงมี ทุกที่ไป
เดี๋ยวพอใจ ไม่พอใจ อยู่อย่างนั้น
พอถูกใจ ก็ระรื่น ชื่นตาบาน
ไม่ถูกใจ ก็ร้าวราน สะท้านทรวง

ดับที่เรา เบากว่ากัน เยอะจริงๆ
ไม่ต้องอิง ไม่ต้องอ้าง ไม่ต้องท้วง
เราหายได้ ทุกข์ก็หาย สิ้นทั้งปวง
ใครจะท้วง ใครจะทัก ไม่หนักเลย...

พอเขามี ก็มีหนัก ให้ทุกข์หัว
เพราะมีตัว จึงมีเรา ให้พลุกพล่าน


เห็นบทความกวี คิดถึงคุณปลายฟ้าค่ะ เลยนำมาฝาก

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2009, 12:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


"รัก" มีแต่สิ่งดี ดี ให้กันและกัน...
"รัก" ไม่มีคำว่าเศร้า ทุกข์ ขมขื่น หรืออะไรที่ทำให้รู้สึกไม่ดี ...
สิ่งไม่ดีที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจาก "รัก" แต่เกิดจากการคาดหวัง
ที่แต่ละคนคิดว่าหากรักกันแล้ว…ต้องทำให้ได้ทุกอย่าง

ในความเป็นจริงแล้วใช่อย่างนั้นหรือ…การคาดหวังเกิดขึ้นได้กับทุกคน…
แล้วจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อสิ่งที่คาดหวังของคนสองคนไม่ตรงกัน…
คุณคงนึกภาพออก…

แล้วถ้ายิ่งคุณทำอะไรให้กับคนที่คุณรักแล้ว
แต่...ไม่ตรงกับที่คนรักคุณคาดไว้...สิ่งนั้นก็หมดความหมาย...
คนทำก็หมดกำลังใจ...ทำตั้งเยอะไม่ได้อะไรตอบแทนเลย...
จึงกลายเป็นการเรียกร้องเกิดขึ้น...

เมื่อคุณเป็นฝ่ายให้แล้ว ทำไมอีกฝ่ายไม่เป็นฝ่ายให้บ้าง ?...
โดยคุณอาจลืมไปว่าอีกฝ่ายก็ได้ให้คุณเหมือนกัน
เพียงแต่สิ่งนั้นไม่ได้ตรงกับที่คุณคาดไว้...และมันไม่มีความหมายกับคุณเลย ...
เมื่อคนสองคนคิดไม่ตรงกัน…

ที่ต้องการจะเป็นฝ่ายรับ...หรือเรียกร้องที่จะรับโดยบอกให้อีกฝ่ายเป็นฝ่ายให้...
ความทุกข์ต่างๆ ก็จะตามมา...

"รัก" ไม่ต้องคาดหวัง…ทำให้ เมื่ออยากทำ…ไม่ต้องรอสิ่งตอบแทน…
และรับในสิ่งที่อีกฝ่ายให้ เมื่อเขาอยากให้…ไม่ต้องเรียกร้อง
เป็นตัวของตัวเองในบางครั้ง…โอนอ่อนในบางที...
สิ่งดี ดี ก็จะเกิด ..."รัก"...ก็จะปรากฎ...
"รัก" มีแต่สิ่งดี ดี ให้กันและกัน...เสมอ
จะสุขจะทุกข์อยู่ที่ตน สิ่งรอบข้างดั่งหมอกมายา


รูปภาพ

ขอบคุณคุณน้ำมากนะค่ะ....แล้วเก็บมาโพสต์อีกนะ..สาธุ..ค่ะ..สาธุ

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


แก้ไขล่าสุดโดย ปลายฟ้า...ค่ะ เมื่อ 20 ส.ค. 2009, 02:52, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2009, 20:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลักสำคัญของคนที่มีความรัก..
คือ..ต้องรักให้ถูกทาง..ต้องวางให้ถูกที่..
รักให้เป็น..เย็นให้ได้..ใจอย่าร้อน..ถอนตัวตน..

นี้คือ..หลักของคนที่มีความรัก...
รักให้เป็น..
คือ..วางใจให้ถูกต้อง..
รักแล้ว..อย่าหลง..
รักแล้ว..อย่าหึงหวงเกินไป..
รักแล้ว..อย่าลืมใส่ใจคนที่เรารัก..
รักแบบเมตตา..พาใจให้พบความสุขสันต์..

เย็นให้ได้..
คือ..วางใจได้ถูกที่..
เวลาโกรธหรือทะเลาะกัน..
เมื่อรู้สึกตัว..เราต้องเป็นฝ่ายนิ่งและหยุด..
ถ้าเราหยุดไม่ได้..นิ่งไม่เป็น..มันก็เย็นไม่ได้..
แต่ถ้าเรารู้จักหยุดนิ่งเสียบ้าง..
เรื่องราวที่เราทะเลาะกัน..ก็จะยุติได้เร็ว..

ใจอย่าร้อน..
คือ..วางใจได้เป็นอย่างดี..
ไม่หุนหันพลันแล่น..ไม่วู่วามโกรธง่าย..
พยายามดูแลรักษาใจตนเอง..

เมื่อฝึกจิตใจของเราได้เช่นนี้..
ความสุขสงบก็จะเกิดขึ้นมาในจิตใจของเรา..
กลับกลายเป็น..ใจดี..ใจเย็น..ใจสงบ..แล้วใจจะพบความสุข..

ถอนตัวตน..
คือ..สละปล่อยวางทางจิตใจ..
การถอนตัวตน..จากการยึดมั่นถือมั่น..
เป็นสิ่งที่งดงามในจิตใจ..
เพราะเมื่อใดที่เราเข้าใจตัวตนที่แท้จริงของเราได้แล้ว..
ก็จะสามารถเข้าใจผู้อื่นได้...เป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน..

ความรักจะงดงาม..
เมื่อเราต่างฝ่าย..ต่างเข้าใจซึ่งกันและกัน..
เห็นอกเห็นใจกัน..
เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง..
และวางใจได้อย่างถูกต้อง..

นั้นแหละ..จึงจะได้ชื่อว่า..
ความรัก..คือ..มีพลังมีอานุภาพที่ยิ่งใหญ่
ที่สามารถสร้างสรรค์ที่งดงามในจิตใจให้แก่ผู้ที่มีความรักได้..

บทความ..โดย..ชายน้อย..

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


แก้ไขล่าสุดโดย ปลายฟ้า...ค่ะ เมื่อ 20 ส.ค. 2009, 02:52, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2009, 23:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5975

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




__fwdDer.com__-112813257-m103916.jpg
__fwdDer.com__-112813257-m103916.jpg [ 93.9 KiB | เปิดดู 4090 ครั้ง ]
หัวใจแกร่ง

ใจที่เจ็บแท้จริงคือใจหวง

ใจหลอกลวงพาเศร้าเหงาสับสน

ใจเราอ่อนใจเรากล้ามากเล่ห์กล

แล้วใครดลใจเราให้เศร้ากัน

หรือจะสร้างหัวใจให้ดูแกร่ง

ให้เข้มแข็งอดทนจนสุขสันต์

สร้างความดีควบคู่ทุกคืนวัน

ใจเรานั้นสุขได้ด้วยแรงบุญ



นำมาฝากค่ะ ไม่ได้แต่งเองค่ะ :b12:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มิ.ย. 2009, 23:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




222ed69cdl4.jpg
222ed69cdl4.jpg [ 26.41 KiB | เปิดดู 4019 ครั้ง ]
แน่ใจน่ะ..ว่ารู้จักความรักดีพอ..?

เราชอบเขา เพราะเขาเป็นเขา หรือเพราะปัจจัยภายนอกอย่างอื่น
เรายังคงความเป็นตัวเองได้หรือไม่ ขณะที่เรามีเขาเข้ามาผูกพันด้วย
เขาคือคนที่เราไว้ใจและเชื่อมั่นได้มากน้อยแค่ไหน
และที่สำคัญ เรารู้สึกมีความสุขเมื่อได้อยู่กับเขา มากกว่าการอยู่คนเดียวหรืเปล่า
..ถ้าหากคำตอบที่ได้หลายๆ ข้อนี้ออกมาเป็นบวกเสียส่วนใหญ่
เราก็ไม่น่าจะต้องรีรอที่จะยอมตกหลุมรักใครสักครั้ง

..เพราะชีวิตของคนเราไม่ได้ยืนยาวสักเท่าไหร่
การได้พบเจอคนที่ถูกใจ บางทีมันก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้งนัก
แต่สิ่งที่สำคัญ คือ เมื่อได้รักแล้วเราต้องรักแบบเข้าใจในความรักด้วย
อย่าเพิ่งรีบคาดหวังว่าจะต้องเป็นรักแท้ที่ยั่งยืน
ปล่อยให้ความรักค่อยเติบโต ให้มิตรภาพที่มีค่อยๆ งอกงามไปตามธรรมชาติ
พร้อมๆกับการเรียนรู้แบบค่อยเป็นค่อยไป

..ในโลกของความรัก เดี๋ยวนี้มันไม่ได้มีคำตอบแค่
"รัก" กับ "ไม่รัก" เท่านั้น มันยังมีคำว่า ความเหมาะสม
การยอมรับ ครอบครัว หน้าที่การงาน และอะไรอื่นๆ อีกเยอะแยะ

เพราะฉะนั้นเมื่อเราอยากจะรักใคร เรารักได้
แต่อย่าคาดหวังว่าจะได้ "รัก" กลับคืนมาในรูปแบบที่เราต้องการ
เมื่อเรารักเป็น เราก็จะสามารถยอมรับได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น
ไม่ว่ามันจะเป็นอย่างไร แม้ความรักอาจะไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต
แต่มันก็มีค่า ต่อการมีชีวิตอยู่
...เป็นแรงบันดาลใจให้เราทำอะไรได้มากมาย...

ส่วนคนที่ผิดหวังกับความรักมา
คุณอาจมีอดีตที่เลวร้าย แม้คุณจะสามารถเก็บมันไปคิดทบทวน
เพื่อเป็นบทเรียนที่ดีได้ แต่ไม่มีประโยชน์หรอกที่จะจมกับมันตลอดไป

ลองเปิดใจที่จะเรียนรู้กับความรักอีกสักครั้ง
บางทีคุณจะพบว่า ความสุขจากการได้รักนั้น
ไม่ได้เกิดจากคนอื่นเลย
แต่มันเป็นความสุขที่เราสร้างมันขึ้นมาเอง
จากหัวใจเราเอง และเมื่อรักเป็นของเรา
ไม่ว่าคนที่เรารู้สึกรักนั้นจะจากไปไหน
เราก็ไม่จำเป็นต้องฟูมฟาย กับการจากไปของเขา
เพราะถึงอย่างไร รักที่คุณมีนั้นมันก็ยังอยู่กับตัวคุณเสมอ

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


แก้ไขล่าสุดโดย ปลายฟ้า...ค่ะ เมื่อ 24 มิ.ย. 2009, 20:30, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2009, 20:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วิเวกแว่ว สรรพเสียง จำเรียงหรีด
หวิวหวิวหวีด กรีดร้อง ก้องไพรสัณท์
สายลมโลม ลูบไล้ ไผ่รำพัน
แกว่งลำสั่น เสียงซู่ซ่า ช่างน่ากลัว

ส่ำสายวัลย์ พันพฤกษ์ย้อย ห้อยระย้า
แสกถลา ลอดร้อง สยองหัว
ค้างคาวโผ บินผ่าน ใจสั่นรัว
แล้วหายตัว เข้าสูป่า พนาไพร

กิ่งไม้แห้ง แกว่งไกวฟัง ดังกรากแกรก
ความเย็นแทรก กายสะท้าน พาลหวั่นไหว
หิ่งห้อยพราว พร่างแดง ดังแสงไฟ
กลิ่นจับใจ ซ่อนซ่าน พล่านพนา

จันทร์ข้างแรม ลับปลายฟ้า พาสิ้นแสง
ดาวเคยแจ้ง กลับมืดมัว ทั่วเวหา
ดั่งม่านดำ ล้อมกรอบ รอบกายา
ในอุรา ยิ่งหวาดหวั่น พรั่นกมล

บนสันเนิน หลุมศพนอน ร้าวรอนจิต
แสงน้อยนิด ธูปเทียนส่อง มองเห็นหน
กลิ่นควันธูป ควันเทียน ลอยเวียนวน
ซบหน้าชน หลุมศพซม พนมมือ

โอ้ชีวิต คิดไว้เถิด มีเกิดดับ
มวลสิ่งสรรพ ไม่จีรัง ดังนั้นหรือ
จะร่ำรวยหรือยากเข็ญ ไม่เว้นคือ
มีสายถือ โยงถัก สายรักพาน

เมื่อจิตที่ สุดอาลัย อยู่ในรัก
นรกจัก เรียกหา กล้ารับขาน
ขอนอนเคียง พุ่มพวง ยอดดวงมาลย์
ชีพวายปราณ จักได้อยู่ เคียงคู่นอน

ภายใต้มุม หลุมศพ สงบเงียบ
จะขอเทียบ หลุมแนบ แอบสมร
อยู่ชิดใกล้ มิต้องพราก จำจากจร
มิต้องวอน ขอดินฟ้า ให้ปราณี

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


แก้ไขล่าสุดโดย ปลายฟ้า...ค่ะ เมื่อ 20 ส.ค. 2009, 02:58, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 281 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10 ... 19  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 62 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร