วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 17:42  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 19:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 23:32
โพสต์: 5

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คบกับเขามา 6 เดือนแล้ว อายุต่างกันพอสมควรเขาอายุ 50 เรา 25 เราเจอกันที่ชะอำ ตอนนั้นก็ไม่คิดอะไร เขาขอเบอร์เราก็ให้ไป ขำๆ แต่พอเขาโทรมาคุย นัดทานข้าวกัน เราก็เกิดรักเขาไปโดยไม่รู้ตัว เขาโดนรถชน เราไปดูแลเขาจนดีขึ้น ตอนนั้นถามเขาว่ามีญาติพี่น้องไหม ลูกเมียล่ะมีไหม จะได้ให้เขามาเซ็นรับรองกับทางรพ เขาบอกว่าไม่มีเขาตัวคนเดียว เราก็เชื่อเขามาตลอด แต่เขาอยู่คนเดียวจริงๆ เพราะไปอยู่ดูแลเขามาหลายอาทิตย์ เรารักเขามาก จนวันหนึ่งเรามารู้ความจริงว่า เขามีเมียแล้ว แต่สถานะภาพหย่า ดูจากประวัติการทำงานของเขา ที่เขาเก็บไว้ในคอม เราไม่ได้ตั้งใจจะจับผิดอะไรเขานะ แต่ไหนๆเห็นแล้วก็เลยขอดูหน่อยเถอะ แล้วมีลูกชายและลูกสาวอย่างละคน อายุก็น่าจะไม่ต่างจากเรามากเท่าไร คงจะไล่ๆกัน เราควรทำยังไงดี เพราะเขาก็ไม่ได้มีเราคนเดียว เขาใกล้ใครก็รักคนนั้น วันนี้นอนกับเรา พรุ่งนี้ก็นอนกับคนอื่น เขาไม่เคยหยุดเลยจริงๆ ตอนนี้เขายังไม่รู้ ว่าเรารู้ความจริงแล้ว ถ้าเขารู้ว่าเรารู้ความจริงทั้งหมด เขาจะโกรธเราไหม เสียใจที่เขาโกหกเรามาตลอด เราจะตัดใจได้ยังไง ในเมื่อเรารักเขามาก เรารู้ว่าสักวันหนึ่งก็ต้องเลิกกัน แต่เราก็ไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไร เหมือนคบกันไปวันๆ เราทำงานแบงค์บางที เขาทำเรื่องขอกู้อะไรก็ได้ยกเลิกดอกเบี้ย เราไม่รู้ว่าที่เขาคบกับเราเพราะเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า พี่พี่ช่วยหนูด้วยเถอะคะ

ปล. การที่เขาเลิกกับเมียเขาแล้ว (หย่า) แล้วเราไปคบหากับเขา ถือว่าผิดศีลธรรมไหมคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 19:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณทราบดีว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร เพียงแต่ไม่อยากแก้ แล้วใครจะช่วยได้เล่าครับ ....

อ้างคำพูด:
ปล. การที่เขาเลิกกับเมียเขาแล้ว (หย่า) แล้วเราไปคบหากับเขา ถือว่าผิดศีลธรรมไหมคะ

ไม่ผิดครับ


อันสิ่งทั้งหลายทั้งปวงย่อมเปลี่ยนแปรไปได้ตลอดเวลา ข้อที่เราจะยึดมั่นกับสิ่งไรๆว่าต้องเที่ยงแท้เช่นนั้น
ย่อมไม่ควรเพราะรังแต่จะพบแต่ความทุกข์ ความเศร้าหมองเท่านั้น จริงอยู่ว่า เราท่านล้วนเวียนว่ายอยู่ในทุกข์และสุขปนเปกันไป เพราะเหตุแห่งกุศลและอกุศลที่เคยทำมาแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องปล่อยตนให้เป็นไปตามยถากรรม ไม่หาทางแก้ไขใดๆเลย นั่งนอนรอว่าเมื่อไรหนอ ผลกรรมจะจบสิ้นกันไป...

เวรกรรมแท้ๆเทียวหากเป็นเช่นนั้น..
พระบรมศาสดา ผู้ทรงคุณอันเลิศ ยิ่งด้วยพระปัญญา มิได้เคยตรัสสอนเลยว่า " ท่านทั้งหลาย อย่าได้ขวนขวายหรือเพียรเพื่อละทุกข์เลย ..รอจนกว่าเวรกรรมหมดไปเอง เธอจะสิ้นทุกข์เข้าถึงบรมสุขคือนิพพานได้ โดยไม่ยากเลย.." ในทางตรงข้าม พระองค์ ทรงสรรเสริญ "การประกอบ" หรือวิริยะ คือความเพียรเพื่อการกำจัดทุกข์ เป็นอย่างยิ่งดังพุทธภาษิตว่า

"วิริเยนะทุกขะมัจเจติ คนผู้ล่วงทุกข์ได้ต้องอาศัยความเพียร"

..... เพราะเราไม่ได้เป็นผู้วิการทางสมองหรืออยู่ในอาการโคม่า ที่ไม่สามารถคิดอ่านแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้จึงต้องมีชีวิตไปตามยถากรรม....
.....เพราะเรามีปัญญา ทราบวิธีการพาตนออกจากทุกข์ได้ ...จึงควรหรือที่จะปล่อยตนให้อยู่ใต้อิทธิพลของตัณหาราคะจนมืดบอดแลเที่ยวร้องถามชาวบ้านว่า ...

อ้างคำพูด:
เรารู้ว่าสักวันหนึ่งก็ต้องเลิกกัน แต่เราก็ไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไร


เรานั้นย่อมสามารถกำหนดเหตุปัจจัยบางอย่างเพื่อการมีชีวิตที่สันติได้หากไม่อ่อนแอต่อกิเลสของตัวเองจนเกินไป..หรืออยากจะเป็นคนที่มีชีวิตตาม"ยถากรรม"จริงๆ?

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 23:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ม.ค. 2009, 19:04
โพสต์: 21


 ข้อมูลส่วนตัว


มีความรักเมื่อไหร่ ก็มีทุข์เมื่อนั้นค่ะ

ใช่ค่ะความรักทำให้คนเราตาบอด ทำให้เรารู้สึกเจ็บปวด ทรมาน แต่หลายๆๆ คนก็ชอบที่จะมีรักกัน อยากให้คุณ intention ตัดใจเถอะค่ะ ใหม่ๆๆ ก็คิดว่ายากมากที่จะลืมเค้า มันทรมานใจ ใช่ไหมค่ะ หมั่นสวดมนต์ซิค่ะ แองจี้บอกได้เลยว่า ช่วยได้มากเลย ช่วยให้เราได้คิด ได้ตริตรอง และ เห็นสัจจะธรรมของชีวิต ถ้าคุณ intention สวดมนต์และแผ่เมตตาให้เค้า และให้อภัยเขาคนนั้น จิตใจคุณทำแล้วก็จะมีความสุขน่ะค่ะ คุณ intention เหงา หรือคิดถึงเขาคนนั้น เมื่อไหร่ ก็แว่ะเวียนมาในเวปธรรมจักรซิค่ะ ยังมีเพื่อนๆๆ ในเวปนี้ ที่ยังเป็นห่วง และเป็นกำลังใจให้คุณเสมอค่ะ ....แองจี้ขอเอาใจช่วยน่ะค่ะ

แองจี้อาจจะพูด หรือเขียนไม่เก่ง เพราะตัวเองไม่ใช่นักเขียน แต่แองจี้มีใจ และกำลังใจให้คุณ intention เสมอค่ะ สู้ๆๆ น่ะค่ะ :b45:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2009, 23:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 23:32
โพสต์: 5

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ด้วยความเคารพค่ะคุณบัวบาน....ชีวิตคนเราทุกคนมีกรรมเป็นกำเนิดกันทุกคนไม่ใช่หรอคะ ตราบใดที่เรายังชดใช้กรรมไม่หมด เราจะหลุดพ้นความทุกข์ที่เกิดจากบ่วงกรรมนั้นๆได้อย่างไรคะ ความทุกข์ใจที่เกิดจากถูกทอดทิ้ง ถูกคนรักนอกใจ ล้วนแต่เป็นเวรกรรมทั้งนั้น ที่เราอาจจะไปทำเขาไว้เมื่อชาติที่แล้ว มาชาตินี้เราต้องชดใช้ให้เขาใช่ไหมค่ะ แล้วถ้าเรายังชดใช้ไม่หมดเวรกรรมที่ทำมา ยังเสวยกรรมเก่าอยู่นั้น แล้วเราจะหลุดพ้นได้อย่างไร ยิ่งดิ้นมันจะยิ่งทุกข์ไหมค่ะ ด้วยความเคารพนะคะ ดิฉันเข้าใจแบบนี้ถูกไหมคะ รบกวนช่วยชี้ทางสว่าง ทางที่ถูกที่ต้องให้ด้วยนะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2009, 01:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
มาชาตินี้เราต้องชดใช้ให้เขาใช่ไหมค่ะ แล้วถ้าเรายังชดใช้ไม่หมดเวรกรรมที่ทำมา ยังเสวยกรรมเก่าอยู่นั้น แล้วเราจะหลุดพ้นได้อย่างไร ยิ่งดิ้นมันจะยิ่งทุกข์ไหมค่ะ ด้วยความเคารพนะคะ ดิฉันเข้าใจแบบนี้ถูกไหมคะ--intention


ไม่ถูกครับ..

พึงเข้าใจว่า เเม้เรากำลังถูกอกุศลวิบากเล่นงานอยู่ก็ตาม เราสามารถทำกรรมใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงหรือยุติการส่งผล หรือลดกำลังของอกุศลวิบากนั้นได้..เรามีปัจจุบันเพื่อประกอบกรรมใหม่ที่ดีได้นี่ครับ...จึงไม่ควรคิดว่าจะรอจนกว่ากรรมจะหมด...เพราะเรารู้ไม่ได้ว่ากรรมนั้นยังจะมีผลอีกนานเท่าใด..อาจเป็นอีก ร้อย พันชาติหน้าก็เป็นได้..

อ้างคำพูด:
แล้วเราจะหลุดพ้นได้อย่างไร?


...ด้วยการพาตนออกจากเหตุที่ทำให้ทุกข์นั้นเสีย วิธีการนั้นย่อมแตกต่างกันไปตามลักษณะของปัญหา...บางเรื่องราวต้องละเหตุทั้งทางกายและใจ ..บางเรื่องราวต้องละเหตุด้วยการสร้างเกราะที่ใจอย่างเดียวเพราะติดขัดเงื่อนไขบางอย่างทางกาย...

เช่น คนรักของเรามีคนอื่น หากยังอยู่กับเขาเราก็ทุกข์ หากเราแยกทางเสีย...ข้อที่ไม่ต้องเสียความรู้สึกทุกครั้งที่ทราบพฤติกรรมของเขาก็จะหมดไป..ส่วนความเศร้่าโศกที่ตามมาภายหลังนั้นย่อมเกิดขึ้นเพราะความไม่แยบคายของตนเอง นี่เป็นเรื่องที่เราต้องจัดการสร้างกำลังใจให้เข้มแข็งขึ้น... เพราะตนเองคาดคะเนไปเองว่าจะต้องเป็นทุกข์เพราะไม่มีคนชั่วอยู่ข้างๆ.. จึงคล้ายกับการ ตั้ง program ไว้ในใจว่าฉันจะต้องทุกข์อีกนานเพราะไม่มีเขา.... เราก็จะได้ความเศร้าเพ้อรำพันสมใจอยากตลอดกาลนานดังที่หวังไว้นั่นเทียว..

...แต่ถ้าเราเข้าใจได้..หรือตั้งปนิธานกับตนว่า เรานั้นจะมีความสุขยิ่งกว่า ถ้าชีวิตนี้ไม่ต้องเกลือกกลั้วกับคนชั่วที่รังเเต่นำความเดือดร้อนมาให้..และนี่น่าจะเป็นโอกาสที่ผลของกรรมชั่วจะหมดลงไป เราอาจได้พบคนดีมีศีลธรรม หรือมีชีวิตที่ไม่บัดซบไปวันๆกับใครก็ไม่รู้ที่ไม่อินังขังขอบกับเราเลย...ดังนี้ นี่เรียกว่า"การพยายาม"ที่จะยุติผลของบาปกรรมและความทุกข์ทั้งหลายจากเหตุนั้น..

คนที่ไม่อยากแก้ไขสถานการณ์ที่เลวร้ายของตนนั้นย่อมปล่อยโอกาสให้อกุศลวิบากเล่นงานจนถึงที่สุดแม้เขาเจ็บปวดอยู่แล้วๆเล่าๆก็ไม่อาจปลดเปลื้องตนเองออกจากทุกข์นั้นราวกับทาสที่ปล่อยไม่ไป..จึงต้องถูกล่าม จองจำไว้กับทุกข์ตลอดกาลนาน น่าสงสารยิ่งนัก..!! ใครเล่าจักช่วยเราได้หากเราไม่ช่วยตนเอง?!!

อุปมาเหมือนว่า เราป่วยด้วยโรคมะเร็งแล้ว เจ็บปวดแสนสาหัสนัก และมีทีท่าว่าจะถึงแก่ความตายในไม่ช้าถ้าไม่รีบรักษา..แต่เมื่อหมอแนะนำว่า ต้องผ่าตัดมันออกนะ.. เรา เกิดกลัวเจ็บเพราะการผ่าตัดจึงปฏิเสธการรักษานั้นว่า "ไม่เอาๆ ฉันไม่อยากเจ็บตัวเพราะการผ่าตัดเลย ฉันขอทุกข์กับมะเร็งดีกว่า"..เช่นนี้..ในที่สุดคนไข้รายนี้ ย่อมเข้าถึงมรณะเป็นแน่แท้ทีเดียว..นี่คือผู้ที่มีชีวิตล่องลอยไปตามยถากรรม เป็นผู้ที่อ่อนแอที่ตกเป็นเหยื่อให้ถูกกระทำย่ำยีอย่างหมดรูป..อะไรจะเลวร้ายไปกว่าเกิดมาแล้วไม่มีแม้ความคิดจะปกป้องตนเองได้ขนาดนี้ ไม่มีอีกแล้ว..

ทีนี้ เมื่อใจเคว้งคว้าง เพราะขาดที่ยึดเหนี่ยว ใจจะหันไปคิดปรุงแต่เรื่องราวเก่าๆ แล้วๆเล่าๆ เป็นการตอกย้ำย่ำยีความรู้สึกตนเองราวกับเป็นโศกนาฏกรรมฮอบบี้ที่ตนชื่นชอบยิ่งนัก....บางรายแทบเสียสติ บางรายคิดฆ่าตัวตายเพราะคิดว่าปัญหาจะยุติ แต่นั่นกลับเป็นการก่อปัญหาที่น่ากลัวให้ตามมาอีกนับภพชาติไม่ถ้วน..จึงเป็นความจำเป็นขั้นเร่งด่วนที่ต้องหาที่พึ่งให้ใจ เพื่อให้ใจมีที่ยึดเหนี่ยวต่อไป

ที่พึ่งอันเกษมที่แท้จริงเสีย นี้คือ พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนไว้ดีแล้ว พระธรรมจะช่วยให้เรามีปัญญารู้เท่าทัน ความจริงของชีวิต รู้เท่าทันสุขและทุกข์ที่เกิดกับเรา เราจะสามารถจัดการกับปัญหาที่เกิดกับเราได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม และจะสามารถใช้ชีวิตให้มีคุณค่า มีประโยชน์ ต่อตนเองและคนรอบข้าง.. มีอานิสงค์อันไพบูลย์ในการกำจัดทุกข์ให้ตนเองได้ทั้งในปัจจุบันและในภพต่อๆไป..เป็นปัจจัยเพื่อความหลุดพ้นจากสังสารทุกข์เป็นที่สุดโดยสิ้นเชิง

ดังนั้น ขอให้เลิกเสียเวลากับความเศร้าโศก หันมาใช้เวลาศึกษาธรรมะอย่างจริงจังเสียนับแต่บัดนี้ขอยืนยันด้วยประสบการณ์ของตนเองว่าชีวิตที่มีธรรมะเป็นเครื่องนำทางนั้น มีความสุขสงบอย่างน่ามหัศจรรย์เกินบรรยายครับ..

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2009, 21:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2009, 22:06
โพสต์: 194

อายุ: 38
ที่อยู่: นันทบุรีศรีนครน่าน

 ข้อมูลส่วนตัว


เหนื่อยนัก..พักก่อน
แรมรอน..เลือนลาง..ห่างฝัน
มาไกล..ไม่รู้..คืนและวัน
ใจนั้น ฝันไฝ่..จิตปอง

เหมือนเหรียญที่มี..สองด้าน
เดินห่าง..ออกไปจากฝัน
พักก่อนเถิด..อย่าเพิ่งตามหามัน
เพียงเธอนั้น..ได้หายเหนื่อย..ได้ตริตรอง

ถามดูใจ ตนเอง ว่าถูกไหม
สิ่งต่างๆ..ทำไป..ใช่เพ้อฝัน
มีสติ..และปัญญาพร้อมด้วยธรรม
ตัวเธอนั้น..จะได้พบ ทางออกแห่ง..หัวใจ

อันเวรกรรมที่เป็นบ่วงรัดตรึงหยุด
เธอว่าสุดแก้ไข ใช่ไหมนั่น
ช่างมันเถอะ มันเป็นเรื่องของบ่วงกรรม
ตัวฉันนั้น พร้อมรับสู่บ่วงกรรมตน

ยังมีทาง..ออก นกน้อยเอ๋ย
อย่ากลัวเลย..เพียงแค่ปีกเจ้า..ยังมีฝัน
โผขึ้นฟ้า..บินไปสู่..ดวงตะวัน
ภาพที่แลเห็น..ลงมานั้น นั่นของจริง

รักให้เป็นก็จะเห็น..เช่นรักแก้
รักที่แน่แท้จริงไม่ใช่ฝัน
ดั่งรักเหมือนนางพิมพา..แลสิทธถะ..กุมารธรรม
กี่ร้อยพันทุกชาติ..เกื้อหนุน..ตามติดมา

ยอยกน้ำพระทัยสอง..พระองค์นัก
อยู่ครองรักทุกภพ..ทุกชาติขัย
ไม่เคยห่าง..ราร้างทิ้งกันไป
จนสุดท้าย ก็ได้ห่าง..ใช่บ่วงกรรม.

จนสุดท้าย..
ก็ได้ห่าง...
เพราะได้สู่..
พระนิพพาน :b8:



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2009, 22:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 เม.ย. 2009, 21:35
โพสต์: 13


 ข้อมูลส่วนตัว


ความรัก...ทำให้คนตาบอดได้อย่างไร
บอดตรงที่ ทำให้ เราไม่เห็น ทางที่จะออกจากทุกข์
เพราะที่ใดมีรัก ที่นั้นมีทุกข์ ความรัก ทำให้เรา ต้อง โหยหา หึง ห่วง

ทำให้ รัดรึง ตรึง จิตอยู่ เกิดความสับสน
การถือศีล 8 ตั้งใจ ละออกจากกาม นั้นได้
ปฏิบัติ กรรมฐาน เพื่อให้พ้น มลทิน จาก กามทั้งหลาย
เป็น สิ่งที่ ควรกระทำอย่างมาก

จงรักษาศีล 8 ประพฤติ พรหมจรรย์
และรัก อย่างเมตตา ปราศจากกำหนัด
ชีวิตย่อมอยู่เป็นสุข


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 19 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร