วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 19:42  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2009, 00:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2008, 14:07
โพสต์: 285

อายุ: 0
ที่อยู่: ประเทศไทย

 ข้อมูลส่วนตัว


๑) ทุกข์ทางใจ

จิต ที่เป็นปกติ สุขไม่อาจคิดลงมือคบชู้ การจะคบชู้ได้ต้องใช้จิตที่เป็นทุกข์เท่านั้น เพราะรู้ ๆ กันทั้งโลก ทุกชาติทุกภาษา ว่าเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องบาดใจ แม้แต่การแตะเนื้อต้องตัวคนมีเจ้าของด้วยความกำหนัด ก็นับว่าสมควรอดสูใจได้แล้ว เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าจะมากหรือน้อยก็เป็นการล่วงละเมิดสมบัติต้องห้ามของ ผู้อื่นอยู่ดี

ฝ่ายหญิงมีรูปเป็นทรัพย์ เมื่อยังเลี้ยงตัวเองไม่ได้ก็ต้องถือว่าทรัพย์นั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ ปกครองเลี้ยงดู แต่เมื่อเติบใหญ่ขึ้นในสังคมประชาธิปไตยที่ชายหญิงต่างเลี้ยงดูตนเองได้ อันนำไปสู่การมีสิทธิเท่าเทียมกัน ชายหญิงต้องถือกรรมสิทธิ์ร่วม กล่าวคือนับแต่การหมั้นหมายประกาศจองตัวกันและกันอย่างเป็นทางการ ให้นับว่าทั้งสองมีกรรมสิทธิ์ในร่างกายของอีกฝ่ายเสมอกัน ห้ามฝ่ายใดละเมิดสัญญาด้วยการมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น ขณะเดียวกันถ้าคนอื่นมามีเพศสัมพันธ์ทั้งรู้ว่าหมั้นหมายแล้ว ก็นับว่าผิดศีลเช่นกัน

เนื้อหนังคนเราเปรียบเสมือนอาหารอันโอชะที่ น่าแหนหวงสำหรับเจ้าของ ถ้าต้องลักกินขโมยกินเพียงเพื่อให้หายอยาก ใจเราจะเป็นสุขไปได้อย่างไร แม้เหมือนอิ่มหมีพีมัน ใจก็อดคิดไม่ได้ว่าเรากำลังใช้มือที่สกปรกหยิบอาหารใส่ปาก ทุกคำย่อมเจืออยู่ด้วยพิษหรือเชื้อโรคอันเป็นโทษ ให้ผลเป็นทุกข์ การสังเกตเข้ามาในตนเองจะทำให้เห็นทุกข์เป็นขณะ ๆ อย่างชัดเจน

ทุกข์ เริ่มต้นตั้งแต่เมื่ออยากมีเพศสัมพันธ์กับคนมีเจ้าของ สังเกตเข้ามาในตนเอง จะเห็นขัดแย้งกับส่วนลึกที่ยังมีมโนธรรม และมโนธรรมจะส่งแรงต้านความอยากได้ในสิ่งที่ไม่ควรได้เสมอ

ทุกข์จะ ทวีตัวขึ้นเมื่อตัดสินใจมีเพศสัมพันธ์กับคนมีเจ้าของ สังเกตเข้ามาในตนเอง จะเห็นเหมือนใจเริ่มก้าวพ้นเขตสว่างเข้าสู่แนวสนธยา ถึงแม้รู้สึกว่ามืดลงทุกที แต่ความตื่นเพริดไปกับจินตนาการที่เร้าใจ ก็รุนหลังเราให้มุ่งหน้าไปเรื่อย เยี่ยงคนไม่กลัวความมืดในป่ารกชัฏ เพียงเพราะได้กลิ่นยวนใจของเหยื่อล่อจากที่นั่น

ทุกข์จะทวีตัวขึ้น อีกเมื่อพยายามมีเพศสัมพันธ์กับคนมีเจ้าของ สังเกตเข้ามาในตนเอง จะเห็นเป็นการฝืนใจ เค้นราคะขึ้นมาเอาชนะความกลัวถูกปฏิเสธ หรือกลัวถูกด่าทอ หรือกลัวถูกจับได้

ทุกข์จะทวีตัวขึ้นถึงขีดสุด เมื่อลงมือมีเพศสัมพันธ์กับคนมีเจ้าของ สังเกตเข้ามาในตนเอง จะเห็นความหน้ามืด ดับสำนึกผิดชอบชั่วดีลง ราวกับทั้งชีวิตเหลือแต่การเคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณไม่ต่างจากสัตว์โลกทั่วไป

ทุกข์ จะไม่จบโดยง่ายแม้เมื่อมีเพศสัมพันธ์กับคนมีเจ้าของสำเร็จ สังเกตเข้ามาในตนเอง จะเห็นเป็นความรู้สึกไม่ดี น่าดูถูก ผิดที่ผิดทาง หรือกระทั่งชวนให้ขยะแขยง และที่สำคัญคือรู้สึกว่าต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ จะให้ใครรู้ไม่ได้ โดยเฉพาะผู้เป็นเจ้าของ

ถ้าคนมีเจ้าของไม่ค่อยมี เสน่ห์ทางเพศนัก สำนึกผิดชอบชั่วดีของเรามักจะกลับมาเร็ว และรู้สึกแย่กับพฤติกรรมของตนเต็มที่ แต่ถ้าคนมีเจ้าของเป็นพวกมีเสน่ห์ทางเพศสูง สำนึกผิดชอบชั่วดีของเรามักจะถูกกดไว้ ใจจะทะยานต่อตามแรงฉุดจากเสน่ห์ทางเพศของฝ่ายนั้น กระทั่งพุ่งลิ่วไปบนเส้นทางเห็นผิดเป็นชอบ สำคัญว่ากงจักรเป็นดอกบัว กว่าจะรู้สึกตัวว่าหลงเดินบนเส้นทางอันเน่าเหม็นและระทมทุกข์ ก็ตกอยู่ในเงามืดจนยากจะคลำหาเส้นทางใหม่เสียแล้ว

๒) การสั่งสมบาป

เมื่อ ทราบแล้วว่าความมืดเป็นเครื่องหมายของบาป เราก็สามารถสำรวจใจตนเองแล้วทราบได้ว่าการผิดประเวณีเป็นบาป เพราะไม่มีการผิดประเวณีครั้งใดที่ทำให้จิตของเราสว่างขึ้น มีแต่จะหม่นหมองลง กับทั้งไม่มีแก่ใจคิดอะไรในทางดี ในทางที่เจริญเอาเลย

แรง ผลักดันให้ผิดประเวณีได้คือราคะ ราคะต้องชนะความยับยั้งชั่งใจทางเพศ จึงขับให้เราก่อบาปด้วยการผิดประเวณี ความยับยั้งชั่งใจทางเพศเป็นสิ่งที่มนุษย์มีกันโดยธรรมชาติ แม้แต่เด็กเพิ่งรู้ความก็ทราบว่าไม่ควรให้คนแปลกหน้ามาจับต้องอวัยวะเพศของ ตน และตนก็ไม่ควรถือวิสาสะไปลูบคลำอวัยวะเพศของใคร การกล้าทำถือเป็นความทะลึ่งผิดธรรมดา

ที่น่ากลัวก็คือบาปสามารถ สั่งสมตัวได้ นั่นหมายความว่ายิ่งผิดประเวณีมากขึ้นเท่าไร ใจก็ยิ่งยับยั้งชั่งใจน้อยลงเท่านั้น มองไปทางไหนใครต่อใครกลายเป็นวัตถุทางเพศที่น่าลิ้มลองไปหมด ต่อให้รู้ทั้งรู้ว่ามีเจ้าของแล้วก็ไม่สน ไม่รู้สึกว่าเป็นกำแพงกีดขวางที่มีสาระสำคัญอันใดเลย

แม้แกล้งเอา ไหล่ไปเฉียดแขนคนที่เราเห็น ๆ อยู่ว่าเดินมากับคู่ครอง ไหล่ของเราก็ได้ชื่อว่าเป็นเครื่องรับเชื้อโรคทางวิญญาณแล้ว เมื่อเพาะเชื้อโรคแล้วลุกลามใหญ่โตจนครอบใจได้ทั้งดวง เราจะรู้สึกว่าตัวเราสกปรก แม้อาบน้ำชำระสะสางกายได้สะอาดสะอ้าน ก็เหมือนทั้งตัวเต็มไปด้วยยางเหนียวเหนอะหนะที่แกะไม่ออก บางคนถึงขั้นที่กลิ่นตัวเหม็นแปลก ๆ ฟอกถูด้วยสบู่หอม กลิ่นเหม็นก็ไม่หายเลยทีเดียว

ความคิดในทางผิดประเวณีจะลดความฉลาดใน การหาคู่แท้ให้ตัวเอง หรือแม้เจอคู่แท้แล้วก็จะไม่ฉลาดในการรักษาไว้ บาปที่พอกพูนขึ้นจะทำให้เราสำคัญไปว่า ชีวิตจะมีสีสันต่อเมื่อได้ลิ้มรสเพศสัมพันธ์แปลกใหม่ไม่รู้จบ

ฉะนั้น เพียงไม่ตั้งใจไว้ก่อนว่าจะเว้นขาดจากการผิดประเวณี ก็นับว่ามีโทษแล้ว เพราะเมื่อถูกเร้าใจให้เกิดราคะอย่างแรงกล้า ความยับยั้งชั่งใจทางเพศย่อมลดระดับแทบไม่เหลือ ยังผลให้สติพร่าเลือนลง เปิดช่องให้ราคะเข้าครอบงำจนโง่เขลา หลงนึกว่าบาปแห่งการผิดประเวณีเป็นสิ่งสมควรทำยิ่งกว่าบุญแห่งการระงับราคะ ผิด ๆ ขอเพียงสบโอกาสเหมาะ แม้แต่ก่อคดีข่มขืนชำเราก็ยังเป็นไปได้

๓) ความเป็นอยู่ที่เลวร้าย

ไม่ มีความรู้สึกอ่อนแออันใดย่ำแย่ไปกว่าความรู้สึกอ่อนแออันเกิดจากการเป็นชู้ เพราะบาปข้ออื่นยังทำลงไปด้วยจิตใจแกร่งกล้ากันได้ เช่น เราอาจฆ่าสัตว์ตัดชีวิตด้วยพละกำลังเหนือกว่าคู่ต่อสู้ เราอาจขโมยของด้วยความมุ่งมั่นที่แรงกล้า เราอาจโกหกแบบคนดื้อด้านไม่ยอมแพ้ เราอาจกินเหล้าเพื่อกระตุ้นความฮึกเหิม แต่ถ้ายอมถอดเสื้อผ้าทิ้งความละอายบาปทางกามลงพื้น เราจะพบว่าความเปลี้ยเพลียหลังผิดประเวณี จะเกิดขึ้นพร้อมกับความหย่อนสำนึกยับยั้งใจไม่ให้ไหลลงสู่ที่ต่ำ มีอาการมึนงง ปวกเปียก และเฉื่อยแฉะไร้แรง คล้ายกำลังใจจะทำอะไรดี ๆ หรือกำลังใจจะต่อต้านความคิดที่ชั่วร้าย เหือดหายไปจากเราเสียเกือบหมด

เมื่อ บาปจากการผิดประเวณีถูกสั่งสมมากแล้ว ผู้ผิดประเวณีย่อมเลื่อนฐานะเป็นหญิงร้ายหรือชายโฉด ดูเผิน ๆ เหมือนกร้านโลก ไม่หยี่หระกับความประพฤติผิดใด ๆ แต่ที่แท้บาปหนาจนความรู้สึกด้านชากว่าใคร ๆ ต่างหาก ความด้านชาของหญิงร้ายและชายโฉดเกิดจากการหมักหมมคราบสกปรกทั้งทางกายและ วิญญาณ จึงย่อมก่อให้เกิดกระแสในตัวที่น่ารังเกียจ ชวนให้รู้สึกคลื่นเหียนกับความสกปรกเน่าเหม็น เฉกเช่นหมูในเล้าที่จำต้องกินอยู่อย่างสกปรกเกือบตลอดเวลา

การผิด ประเวณีแต่ละครั้งคือการไม่ให้เกียรติผู้อื่น ซึ่งก็มีผลสะท้อนให้นับถือตนเองน้อยลง พูดง่าย ๆ ว่าได้สมบัติทางเพศของคนอื่นมา เพื่อเสียความนับถือตัวเองไป

จิตของ หญิงร้ายและชายโฉดเปรียบเหมือนคนที่จุ่มศีรษะลงไปในเมือกลื่นจนชุ่มโชก ย่อมไม่ได้รู้สึกถึงความแห้งสบาย แม้จมูกได้กลิ่นหอมของสวนดอกไม้ แต่ใจลึก ๆ ก็เหมือนได้กลิ่นเหม็นของกามผิด ๆ อยู่เกือบตลอดเวลา

จิตที่ชุ่ม ด้วยเมือกสกปรกย่อมเหมาะกับภพใหม่ที่สกปรก ต่ำชั้น เต็มไปด้วยความน่ารังเกียจ น่าอึดอัดระอา และอาจถึงขั้นเน่าเฟะ ถ้ายังมีวาสนาพอจะเกิดใหม่ในโลกมนุษย์ ก็ย่อมเป็นที่ชิงชังของผู้พบเห็น เหมือนใครเห็นก็พากันอยากเขี่ยทิ้งด้วยเท้า สภาพเช่นนั้นย่อมยากที่จะผูกมิตร แต่ง่ายที่จะผูกเวร ดึงดูดคนและสัตว์ให้อยากเข้ามาด่า เข้ามาว่า เข้ามาทำร้ายเป็นขบวน

ความ ผิดทางเพศย่อมนำไปสู่ความผิดปกติทางเพศ ถ้ามีวาสนาได้เป็นมนุษย์ก็อาจรังเกียจเพศของตน และอยากเป็นอีกเพศหนึ่งแทน หรือโตขึ้นอาจถูกดึงดูดเข้าสู่วิถีทางของการเบี่ยงเบนทางเพศได้ เป็นที่ทรมานใจของตนเองเนิ่นนาน

หากตายเยี่ยงชู้ผู้ยังไม่อิ่มไม่พอ กับการผิดประเวณี แต่ยังพอมีบุญพยุงไม่ให้ร่วงหล่นถึงนรก ก็อาจไปเสวยภพของพวกรักความสกปรกระดับเดรัจฉานภูมิ เช่น หนอนในส้วม เป็นต้น

แต่ หากตายเยี่ยงหญิงร้ายและชายโฉดผู้ล่อลวงใครต่อใครเข้ามาร่วมบาปแห่งการผิด ประเวณี ไม่เห็นแก่หัวอกหัวใจเจ้าของบ้างเลย ก็จัดว่ามีความเหมาะกับสภาพความเป็นอยู่อันเสียดแทงเจ็บแสบ ดังเช่นนรกภูมิสถานเดียว!



ที่มา: http://blog.hunsa.com/papamama/cat/14371

.....................................................
"ใครเกิดมา ไม่พบพระพุทธศาสนา ไม่เลื่อมใส ไม่ปฎิบัติ ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย เป็นโมฆะตลอด ตั้งแต่วันเกิดจนวันตาย"

"ให้พากันหมั่นให้ทาน รักษาศีล เจริญเมตตาภาวนา"

พระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
http://www.luangta.com/

"ทำสมาธิมากเนิ่นช้า คิดพิจารณามากฟุ้งซ่าน หัวใจของการปฏิบัติคือการมีสติในชีวิตประจำวัน"
หลวงปู่มั่น

"ดูจิต...ด้วยความรู้สึกตัว"
หลวงพ่อปราโมทย์ สวนสันติธรรม ชลบุรี
http://www.wimutti.net


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 27 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร