ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
การเป็นเมียน้อย http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=27&t=23188 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | kritsadakorn [ 22 มิ.ย. 2009, 00:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | การเป็นเมียน้อย |
ถาม – ในทางธรรมะ เมียน้อยถือว่าเป็นบุคคลเลวร้ายขนาดไหน? จะต้องได้รับผลกรรมอย่างไรคะ? กรณี ‘กินน้ำใต้ศอก’ นี่ ทุกประเทศจะถกกันในประเด็นใครถูกใครผิด ใครน่าเห็นใจหรือน่ารังเกียจ ใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบ ซึ่งก็จะไม่ได้ข้อยุติตราบเท่าที่ฝ่ายชายยังยุติความพอใจในกามหลากรสไม่ได้ และฝ่ายหญิงยังห้ามใจจากเงินง่ายและชายเจนสังเวียนไม่ไหว เพราะผลประโยชน์จะสรรหาเหตุผลที่ฟังขึ้นและน่ายอมรับได้หลายข้อเสมอ ในแง่มุมของกรรมวิบากแล้ว เหตุผลน่าเห็นใจไม่มี มีแต่จิตสำนึกและเจตนาในการเป็นเมียน้อย ฉะนั้นคำว่าเมียน้อยไม่ได้แปลว่า ‘เลวร้าย’ หรือ ‘ผิดทันที’ แต่ต้องดูว่าเงื่อนไขของเมียน้อยคืออะไร ๑) ได้รับการยินยอมพร้อมใจจากเมียหลวงหรือรู้ทั้งรู้ว่าเมียหลวงจะต้องเจ็บปวดสาหัส หากเมียหลวงโอเคอย่างเต็มใจก็ไม่มีใครผิดศีล ไม่มีใครก่อบาป เพราะเป็นการกระทำอย่างเปิดเผยโดยไม่มีใครเป็นทุกข์จากการรับรู้ความจริง เหตุผลโดยมากที่เมียหลวงยอมคือเบื่อเซ็กซ์ บางคนนี่ขนาดเป็นแม่สื่อหาเมียน้อยให้สามีทีเดียว แต่หากยังไม่มีการตกลงจากเมียหลวงว่าโอเค แล้วแอบปล่อยตัวปล่อยใจเป็นเมียน้อยลับๆ โดยรู้ๆอยู่ว่าเมื่อเมียหลวงรู้เข้าจะต้องปวดร้าว อย่างนั้นก็เข้าข่ายเป็นชู้ ผิดศีลธรรม เป็นการก่อบาปเต็มประตู ๒) หลวมตัวตกเป็นน้อยด้วยความไม่รู้หรือว่ารู้อยู่ล่วงหน้า ปัจจุบันสังคมโลกทำงานปะปนกัน ไม่ใช่ให้ผู้หญิงอยู่ก้นครัวที่บ้านเหมือนสมัยโบราณ แล้วชายหญิงก็ปิดบังกันเรื่องคู่ครองง่ายเสียด้วย ก็ถ้าไม่บอกเสียอย่างใครจะไปรู้ หากฝ่ายหญิงถูกหลอกต้มอย่างสนิทก็ถือว่าไม่บาป เพราะในกรณีนี้บาปจะเกิดต่อเมื่อรู้ทั้งรู้แล้วขืนทำ พวกที่รู้ว่าเขามีเมียแล้วยังฝืนเอาตัวเข้าไปบวกนี่ ส่วนใหญ่เพราะฝ่ายชายมีดีเกินห้ามใจ แล้วส่วนใหญ่ที่ยังสวย ยังอ่อนเยาว์ ก็มักสำคัญตนผิด คิดว่าในที่สุดต้องชนะ เดี๋ยวฝ่ายชายต้องใจอ่อน ยอมหย่าขาดจากเมียหลวง ซึ่งจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ ก็เจอข้อหาแย่งสมบัติน่าหวงแหนจากมือผู้อื่นมาครอง ผลย่อมหนักหนา อาจจะยิ่งเสียกว่าโจรชิงทรัพย์อันเป็นที่รักจากเจ้าของยามเผลอ หลายคนมักมองว่าผู้ชายเป็นฝ่ายเลว เห็นแก่ตัว แต่ก็มีบางกรณีครับที่ทนเทคนิคการยั่วจากฝ่ายหญิงไม่ไหว ธรรมชาติให้อาวุธลับล่อใจมาหลายชิ้น เปิดของลับวับๆแวมๆหน่อยชายส่วนใหญ่ก็ตะลึงงงลืมศีลธรรมกันแล้ว ซึ่งพออะไรๆเลยเถิดแล้วเรื่องแดงขึ้นมา ฝ่ายหญิงบีบน้ำตาหน่อยสังคมจะรุมประณามฝ่ายชายทันที อย่างไรก็ตาม ธรรมชาติจะไม่ถูกหลอกให้สงสารใครเพียงเพราะเห็นน้ำตา ในที่ที่กรรมเผล็ดผลนั้น สิ่งเดียวที่มีให้คือการลงโทษอย่างหนักหน่วง ดุดัน ปราศจากความปรานีปราศรัย และไม่ต้องสอบสวนหาความจริงจากปากใครแต่อย่างใดทั้งสิ้น ๓) ทำเพื่อเงินหรือทำเพื่อความรัก ถ้าแพ้เงินก็บาปมาก แต่ถ้าแพ้รักก็บาปน้อยลง แต่ไม่ใช่ไม่บาปเลย อย่างไรการเป็นชู้ก็เป็นอกุศล เป็นสิ่งบาดจิตให้ทุกฝ่ายเกิดแผลวันยังค่ำ ข้ออ้างที่ฟังขึ้นและดูเหมือนน่าเห็นใจที่สุดคือ ‘เรารักกันมาก’ แต่ที่ซุกไว้ใต้พรมคือ ‘ถึงรู้ว่าคนเป็นหลวงจะต้องเจ็บเจียนขาดใจก็ช่าง’ สมัยที่ผู้หญิงทำงานหาเงินเองได้อย่างยุคเรานี้ มีด้วยซ้ำครับที่เมียน้อยรวยกว่า และเอื้อเฟื้อ ให้การจุนเจือ ‘ครอบครัวหลัก’ ของฝ่ายชาย แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าได้รับข้อยกเว้นจากสังคม อย่างไรใครรู้เข้าก็ต้องถูกตราหน้าว่าเป็นเมียน้อยอยู่ดี ตราบเท่าที่ฝ่ายชายยังมีพันธะทางกฎหมายหรือทางกายอยู่กับเมียหลวง ๔) ทำเพื่อตัณหาส่วนตัวหรือทำเพื่อพ่อแม่พี่น้องที่เดือดร้อน หากยอมเป็นเมียน้อยด้วยความ ‘กลั้นไม่อยู่’ ของตัวเอง แปลว่ายอมทำผิดเพราะแพ้ความรู้สึกฝ่ายต่ำ แต่หากจำใจเป็นเมียน้อยด้วยความจำเป็นทางครอบครัวบีบคั้น อาจหมายถึงการยอมเป็นนางบาปเพื่อช่วยให้พ่อแม่รอดพ้นจากความอดตาย บางคนไม่ยอมนิยามว่าตัวเองเป็นเมียน้อยด้วยซ้ำ คือกำหนดใจไว้แต่แรกว่าขอตากหน้าเอากายแลกเงินเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้มีพระคุณสักครู่หนึ่ง เมื่อได้เงินทองเท่าที่จำเป็นก็จะทำตัวสาบสูญไปจากฝ่ายชายชั่วนิรันดร์ หากคิดอย่างนั้นและทำอย่างนั้นได้จริงๆ โทษก็จะเบาลงตามส่วน ๕) ทำแล้วสำนึกหรือไม่สำนึกผิด หากสำนึกผิดจิตจะไม่จับบาปไว้เต็มกำ แต่ยิ่งด้านชาไร้สำนึกเท่าไหร่ จิตก็จะเข้าฝ่ายอกุศล มืดมน จนไม่ค่อยเห็นทางสว่างทางดี และเหมือนถูกบีบให้คิดก่อการร้ายเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ อันที่จริงผู้หญิงเป็นเพศที่รู้สึกสกปรกกับเรื่องทางเพศง่ายกว่าผู้ชาย เพียงแค่ธรรมชาติส่งเลือดมาเป็นประจำทุกเดือน ก็ทำให้รู้สึกย่ำแย่กับสภาพฟ้องมลทินของตนเองพอแรงแล้ว ยิ่งถ้าเพิ่มมลทินทางใจเข้าไปอีก ตามธรรมดาก็ย่อมเหมือนถูกบีบสองด้านจากซ้ายขวา หรือถูกอุดทั้งปากอุดทั้งจมูก เกลียดตัวเองจนจะกลายเป็นโรคจิตเอาง่ายๆ แต่ก็มีผู้หญิงอีกพวกหนึ่งที่ใช้ชีวิตแบบค่อยๆหลุดเป็นอิสระจากมโนธรรมมาทีละน้อย กระทั่งอิสระเต็มที่ มโนธรรมถูกปลดปล่อยเหมือนว่าวที่ขาดลอยกู่ไม่กลับ ความรู้สึกข้างในคล้ายมีชีวิตเพื่ออาศัยเรือนกายหลอกพวกหน้าโง่มาติดกับท่าเดียว ประเภทนี้คติข้างหน้ามักเกิดเป็นอะไรที่ต่ำกว่ามนุษย์ เพราะมาตรฐานมโนธรรมไม่ถึงมนุษย์ ๖) เมื่อรู้ตัวว่าตกเป็นเมียน้อยแล้วตั้งใจจะหยุดหรือคิดเป็นน้อยต่อไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะโดนเขาหลอกหรือหลอกตัวเอง ผมเชื่อว่าถ้าสำรวจดีๆมีเมียน้อยกว่าครึ่งที่อยากเลิกให้ได้วันนี้พรุ่งนี้ แต่เลิกไม่ได้ก็เพราะทำใจไม่ได้เท่านั้น แต่แม้ประสบกับความล้มเหลวในการตัดเยื่อตัดใย อย่างน้อยตั้งใจจริงก็ถือว่าดีแล้วครับ จัดเป็นกรรมขาวบนฐานของกรรมดำแล้ว มีผลลดหย่อนผ่อนโทษได้แล้ว ส่วนพวกที่ขอเป็นเมียน้อยไปจนตายนั้น ภพของเมียน้อยจะตั้งมั่น วิบากร้ายมีเท่าใดก็จะให้ผลหนักแน่นยืดยาว การเป็นอะไรอย่างหนึ่งไปทั้งชาตินั้นมีผลใหญ่หลวงเกินกว่าที่คิดมาก เหตุผลต่างๆของการตัดสินใจเป็นเมียน้อยข้างต้น จะเป็นตัวกำหนดความหนักเบาของวิบากในปัจจุบันคือ ๑) ความทรมานใจ เหมือนการกินบอระเพ็ดที่ต้องขมและไม่มีสักกี่คนชอบใจ แต่เพื่อแลกรางวัลบางอย่างก็ต้องจำทน แต่ยิ่งทนนานก็ยิ่งทรมานใจมาก ฉะนั้นจะทรมานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขว่าจะหลุดพ้นจากการเป็นเมียน้อยได้ช้าเร็วเพียงใด ๒) ความรู้สึกเป็นรอง ถึงแม้ฝ่ายชายจะไหว้ปะหลกๆก่อนออกจากบ้าน หรือต่อให้เมียหลวงยิ้มย่องผ่องใสก้มลงกราบตักเมื่อเจอเงินปึกใหญ่ฟาดเข้าที่บริเวณศีรษะ ความรู้สึกเป็นรองก็จะไม่หมดไปจากใจเมียน้อย ตราบเท่าที่ฝ่ายชายยังประกาศกับใครต่อใครว่าเมียหลวงเป็นภรรยาตามกฎหมาย ยิ่งถ้าโดนเมียหลวงไล่บี้เอาด้วยตบะของผู้มาก่อน ความรู้สึกเป็นรองยิ่งแจ่มชัดหายห่วง หรือแม้สมัยนี้มีเมียน้อยสายพันธุ์ใหม่ เป็นฝ่ายบุกระรานรังควานเมียหลวงเสียเอง อย่างไรความรู้สึกในส่วนลึกก็ฟ้องอยู่ว่าตัวเองมาทีหลัง ตัวเองไม่มีทะเบียนตามกฎหมาย ตัวเองไม่มีหน้ามีตาให้สังคมยอมรับว่าเป็นหมายเลขหนึ่ง นั่นแหละปัญหาทางใจของเมียน้อย ผมเคยได้ยินกว่าผู้ชายบางคนเสน่ห์แรงจัด ผู้หญิงเห็นเป็นเรื่องธรรมดาที่เขามีสาวมาติดเยอะ แต่ละคนไม่หวังครอบครองเขาไว้คนเดียว แค่หมายจะได้เป็นเบอร์หนึ่งเท่านั้นพอ ความคิดทำนองนี้นับว่าตลก เพราะชายเจ้าชู้ไม่มีทางวางใครเป็นเบอร์หนึ่งถาวร เขาจะมีแต่เบอร์หนึ่งชั่วคราว ส่วนจะสั้นหรือยาวก็ว่ากันตามเหตุปัจจัย ถ้าเขามีเมียน้อยได้คนหนึ่ง ทำไมเขาจะมีเมียน้อยคนต่อไปไม่ได้ แล้วเบอร์หนึ่งมันจะอยู่ที่ไหน ในที่สุดเขาก็ใจดำกับทุกคนอย่างเสมอภาคนั่นเอง ๓) ความน้อยใจง่าย คนเราถ้าขาดสิ่งใด พอขอสิ่งนั้นแล้วไม่ได้หรือรอแล้วไม่มา ธรรมดาก็ต้องน้อยใจ สิ่งที่เมียน้อยขอนั้นมีทั้งเงิน ทั้งเวลา เพียงไม่ได้อย่างใดอย่างหนึ่งก็แย่แล้ว ยิ่งถ้าได้เพียงกะปริบกะปรอยทั้งสองอย่างก็ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ ตามกฎแห่งกรรมวิบากนั้น การเป็นคนขี้ขอจะทำให้ต้องขอต่อไป เมื่อขอบ่อยแล้วไม่ค่อยได้อย่างที่ขอ ก็มักก่อให้เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจเป็นธรรมดา ตราบใดที่ยังสร้างกรรมอันเป็นไปเพื่อความอ่อนแอ เพื่อความเป็นผู้ขอ ตราบนั้นจะไม่พ้นจากความเป็นหญิงที่มีภาวะพึ่งพาสูงไปได้เลย และนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้น้อยใจง่าย คิดมาก และอารมณ์แปรปรวนแบบเด็กไม่ได้อย่างใจไปจนตาย ๔) ความไม่มีศักดิ์ศรี ผมเคยทราบมาว่ามีผู้หญิงรูปร่างหน้าตาดีระดับนางงามนางแบบคนหนึ่ง เป็นเมียน้อยที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง มีเงินหลายสิบล้าน มีบ้านอยู่ฮาวาย มองภายนอกทุกอย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติไปหมด แต่สิ่งเดียวที่เขาไม่มีคือความรู้สึกเกี่ยวกับศักดิ์ศรีของตนเอง คือพอไปถึงจุดที่ ‘เหมือนมีหมดทุกอย่าง’ คนเราจะเห็นจริงๆนะครับว่า ‘ที่ยังไม่มี’ คืออะไร การมีครบแบบไร้ศักดิ์ศรีนั้น นานไปจะรู้ว่าไม่มีอะไรเลยอย่างมีศักดิ์ศรียังดีเสียกว่า คำว่าศักดิ์ศรีกินไม่ได้นั้น ขอให้ช่วยๆกันลืมเสียเถอะ เปลี่ยนใหม่เป็นว่า ศักดิ์ศรีนั้นกินไม่ได้ แต่ทำให้กินข้าวได้อร่อยกว่าคนไร้ศักดิ์ศรี แทน นอกจากนั้น เหตุผลในการเป็นเมียน้อยต่างๆยังเป็นตัวกำหนดวิบากในอนาคตกาล ซึ่งจะหนักเบา กินเวลาสั้นหรือยาว ก็ขึ้นอยู่กับวิธีคิด วิธีทำ หากเป็นเมียน้อยไม่พอ ยังสะใจกับการทิ่มแทงให้เมียหลวงหรือผู้เป็นขวากหนามให้เจ็บปวด ก็อาจต้องไปเสวยทุกข์ในนรก แต่หากทำบุญทางอื่นจนมีวาสนาพอจะได้เกิดมาในโลกมนุษย์นี้อีก ผลของกรรมเก่าจะบีบให้เป็นฝ่ายตกที่นั่งทุกข์บ้าง รวมทั้งเปิดโอกาสให้เลือกทำดีขึ้นหรือเลวลง เหมือนเป็นคำถามลองใจจากธรรมชาติ ว่าถ้าคนๆหนึ่งทุกข์เท่าที่เคยทำคนอื่นไว้ จะเลือกแก้ไขสถานการณ์อย่างไร ระหว่างหาทางป่ายปีนขึ้นพ้นเหว หรือเหยียบตัวเองให้จมธรณีลงไปอีก การให้อภัยของเมียหลวงจัดเป็นการถอนตัวเองขึ้นจากหล่มวิบากอย่างหนึ่ง สถานการณ์ทุกข์ของเมียน้อยในอนาคตชาติเป็นไปต่างๆได้ดังนี้ ๑) แนวโน้มที่จะเกิดเป็นสตรี ทั้งนี้เพราะตามสามัญสำนึกของเกือบทุกคน สตรีเพศคือภาวะอ่อนแอ ต้องการการพึ่งพาสูง หรือแม้เป็นผู้มีความเข้มแข็ง พึ่งพาตัวเองได้ ก็ต้องเป็นเบี้ยล่างในทางใดทางหนึ่ง (ยากประมาณหนึ่งในแสนหรือหนึ่งในล้านครับ ที่ผู้หญิงจะได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำประเทศ ในขณะที่มองกันเป็นเรื่องธรรมดาถ้าผู้นำประเทศและผู้นำองค์กรจะเป็นชาย) เมียน้อยที่คิดหวังแค่สบาย ได้เอาเงินค่าเลี้ยงดูมากิน นอน เที่ยว ช็อปปิ้ง ไม่คิดเก็บเงินทำทุนตั้งตัว อันนี้เที่ยงที่สุดที่จะเกิดเป็นหญิงอีก ๒) แนวโน้มที่จะถูกพิจารณาเป็นรองหรือตัวสำรองในทุกๆด้าน ทั้งนี้เพราะการยอมตัวเป็นเมียน้อยนั้น ไม่ใช่จำเพาะแค่เรื่องทางเพศว่าต้องมาทีหลัง แต่ยังรวมตลอดครอบคลุมไปถึงศักดิ์ศรี ครอบคลุมถึงหน้าตา และครอบคลุมไปถึงความรู้สึกทางใจอีกด้วย ผลของความรู้สึกเป็นรองในชาติปัจจุบันเป็นอย่างไร อนาคตชาติก็จะมีเหตุการณ์มากดความรู้สึกให้ต้องเป็นรองซ้ำอีก เช่นแม้ตั้งใจทำงานและผลงานออกมาดี แต่กลับไม่ค่อยเข้าตากรรมการ ไม่ถูกเชิดชูให้เป็นผู้นำ มักถูกยัดเยียดให้เป็นลูกน้องร่ำไป นอกจากนี้ยังมีทางเลือกน้อย โอกาสเกิดในฐานะนางบำเรอสูง แม้บุญมากหน่อยก็ได้แค่นางสนมของพระราชาเท่านั้น ที่จะถึงระดับมเหสีคงยาก ๓) แนวโน้มที่จะต้องเศร้าหมองเพราะถูกแย่งของรักของหวง อันนี้เป็นเรื่องเข้าใจได้ง่าย ถ้าหากสมัครใจเป็นเมียน้อยโดยไม่สนใจหัวอกเมียหลวงยิ่งร้าย ความสะใจที่แย่งสำเร็จหรืออย่างน้อยได้พยายามแย่ง จะบันดาลเหตุการณ์สนองคืนแบบตรงไปตรงมา คือไม่ใช่แค่เรื่องเสียชายอันเป็นที่รักให้คนอื่น แต่รักอะไรก็มักเสียสิ่งนั้นไปเพราะถูกแย่งเป็นประจำ ถาม – หากรู้สึกอ่อนแอเกินกว่าจะหยุดเป็นน้อย พอมีวิธีอะไรให้ใจเข้มแข็งขึ้นได้บ้างไหมคะ? ผู้หญิงมีสองเหตุผลหลักๆที่ยอมเป็นเมียน้อยต่อ คือ ๑) เสียดายเงินที่ได้มาง่าย ๒) ตัดใจจากผู้ชายไม่ได้ ก่อนอื่นคุณต้องมองว่าทั้งสองข้อนั้นเป็นเรื่องของอกุศลจิต และกรรมที่ทำไปขณะมีอกุศลจิตก็ย่อมมีวิบากเป็นทุกข์ ตรงข้ามกับบุญที่มีวิบากเป็นสุขเสมอ น้ำเน่าต้องไล่ด้วยน้ำดี ไม่มีน้ำเน่าที่ไหนล้างน้ำเน่าด้วยกันได้ ฉันใดก็ฉันนั้น จิตที่ดำมืดย่อมไล่ได้ด้วยจิตที่สว่างไสว จิตที่สกปรกย่อมไล่ด้วยจิตที่สะอาด ถ้าคุณเสียดายเงิน ทำไมไม่ลองเป็นผู้ให้เงินดูบ้าง เริ่มให้จากส่วนเกิน อย่าให้จากส่วนที่จำเป็นต้องใช้ แต่ละครั้งที่ให้ ก็จงอธิษฐานไป ว่าด้วยความจริงที่เราเป็นฝ่ายเสียสละส่วนเกินเช่นนี้ ขอให้ใจเรามีความสามารถสละสิ่งที่เป็นโทษทั้งหลายในชีวิตทิ้งด้วยเถิด ถ้าเป้าหมายของคุณคืออยากสร้างบุญสร้างกุศลที่ยิ่งใหญ่ โดยการทำมหาทาน สละสิ่งที่ไม่ใช่ของตนคืนเจ้าของ คุณจะหมดความอาลัยไยดีเรื่องผิดศีลธรรมอย่างรวดเร็วยิ่ง หากอ้างว่าไม่มีเงินทำบุญ ลองหารเงิน ๑๐๐ บาทออกเป็น ๒๐ ส่วน คือเอาเงิน ๕ บาทไปใช้ทำบุญ ๒๐ ครั้งในเวลา ๒๐ วันติดๆกัน แล้วอธิษฐานซ้ำๆอย่างที่ผมว่าข้างต้นทุกหน คุณจะรู้สึกเหมือนสั่งสมกำลังใจใส่กระปุก วันที่ ๒๐ กำลังใจอาจยังไม่เต็มกระปุก แต่คุณก็รู้สึกว่ากระปุกชักหนัก ชักมีความสามารถเอาไปตีหัวกิเลสให้แตกได้ ถ้าสะสมต่ออีกนิดมีสิทธิ์ฟาดกิเลสให้ตายสนิทเป็นแน่แท้ ขอให้จำไว้ว่าการทำบุญไม่ใช่การเอาเงินมากๆไปแจกคนอื่น แต่เป็นการเอาส่วนเกินน้อยๆไปละลายความตระหนี่ในตนเอง ส่วนในกรณีที่เงินไม่เกี่ยว แต่คุณตัดใจจากผู้ชายไม่ได้ ก็ขอให้มองว่าปัญหาเมียน้อยมักลงเอยแบบไม่เป็นสุข ไม่มีนิทานเรื่องไหนบอกว่าเจ้าชายควบเจ้าหญิงสองคนขึ้นพิธีแต่งงานแล้วอยู่ร่วมกันอย่างปรองดองไปจนตาย พูดง่ายๆว่าน่าจะเกือบร้อยทั้งร้อยที่เรื่องดำเนินไปอย่างเศร้าสร้อย จบเรื่องก็หงอยเหงา ยิ่งไปกว่านั้นยังต้องมีใครบางคนหรือทั้งหมดได้ไปต่อทุกข์ในขุมนรก เนื่องจากกรรมจากการผิดประเวณีนั้น ย่อมทำให้จิตเศร้าหมอง ทั้งวันหมกมุ่นอยู่กับเรื่องราคะผิดๆ โทสะผิดๆ หลงสำคัญอะไรต่ออะไรผิดๆ พระพุทธเจ้าตรัสว่าจิตที่เศร้าหมองด้วยราคะ โทสะ โมหะย่อมมีอบายเป็นคติที่หวังได้ อบายย่อมไม่ใช่ปลายทางอันน่าแปลกใจสำหรับคนผิดศีลข้อกาเม ถ้าคุณตัดใจไม่อยากไปอบายได้ ก็ควรจะตัดใจไม่อยากเกี่ยวก้อยไปกับชู้ได้เช่นกัน หากไม่กลัวนรกข้างหน้า ก็ขอให้กลัวนรกทางใจวันนี้ การยอมให้ความกลัวเกิดขึ้นเสียบ้างขณะที่มโนธรรมขี้เกียจทำงาน ก็นับเป็นนโยบายอันประเสริฐครับ ที่มา: http://dungtrin.com/prepare/archive/prepare071.htm |
เจ้าของ: | ทักทาย [ 22 มิ.ย. 2009, 09:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การเป็นเมียน้อย |
เป็นข้อความที่แจ่มชัดมากๆ ไม่ต้องแปลเลย ถึงแม้ว่าเดี๋ยวนี้ดิฉันอโหสิให้กับคู่กรณีไปแล้ว แต่ใจลึกๆก็รับทราบอยู่ว่าเขาก็ไม่ได้เป็นสุขเลย ของดิฉันนี่เขาเป็นแบบตั้งใจและเต็มใจมากๆด้วย ทุกข์ทรมานใจมากตอนที่รับรู้ แต่บุญเก่าคงมีจึงทำให้มองเห็นสัจจธรรมอะไรหลายๆอย่าง และก็คิดได้ ทำให้ใจนิ่ง ตัดความอาวรณ์ออกไป เพิ่มกำลังใจในการทำกุศลมากขึ้น เดี๋ยวนี้ยอมรับว่าไม่ได้สนใจพวกเขาเลย ไม่รับรู้ว่าเขาจะพากันปีนต้นงิ้วกันอีกหรือเปล่า? ยกผลประโยชน์ให้จำเลย จะอธิษฐานอย่างเดียวคืออย่าได้เจอกันอีกเลยในอนาคตกาลเบื้องหน้าโน้น ขอให้เป็นสุขๆเถิด ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | เจ้านาง [ 09 ก.ค. 2009, 18:43 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การเป็นเมียน้อย |
![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ไหว้พระปล่อยปลา [ 14 ก.ค. 2009, 11:29 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: การเป็นเมียน้อย | ||
ศีลข้อกาเม วิบากแรง ไม่น่าเสี่ยงครับ
|
เจ้าของ: | homealone [ 02 ส.ค. 2009, 18:16 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การเป็นเมียน้อย |
แล้วคนที่ถูกหลอกให้เป็นเมียน้อย หรือเป็นเมียน้อยโดยไม่รู้ตัวหล่ะ ผู้ชายจะได้รับกรรมอะไรบ้าง เมียน้อยจะได้รับกรรมอะไรบ้าง จะมีใครเห็นใจเมียน้อยกลุ่มนี้มั๊ย กฎหมายก็ช่วยอะไรเมียน้อยกลุ่มนี้ไม่ได้ เอาผิดผู้ชายไม่ได้ ดีไม่ดีภรรยาหลวงจะเอาเรื่องอีก แล้วเมียน้อยกลุ่มนี้จะทำอย่างไร (คงได้แต่ทำใจแน่ๆ เลย) เมียน้อยกลุ่มนี้ก็คงต้องได้แต่เสียใจและยอมรับกรรม ละมั๊ง ซึ่งไม่ยุติธรรมเลย เฮ๊ย! เศร้าใจ ![]() ![]() |
เจ้าของ: | แม่ลูกสาม [ 14 ส.ค. 2009, 12:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การเป็นเมียน้อย |
อยากให้เมียน้อยทุกคนได้อ่านบ้างจังเพราะดิฉันกำลังประสพพบอยู่ในขณะนี้ดิฉันเป็นเมียหลวงค่ะแต่ดิฉันว่าเขาคงไม่มีความสุขแน่นอนเลยตอนนี้เขามีลูกอ่อนเขาคงต้องการทั้งพ่อและแม่ที่พร้อมหน้ากันแต่สามีของดิฉันไม่เคยไปนอนค้างเลยเขาคงทุกข์ใจมากกว่าเรานะคะเห็นด้วยกับคุณอยากให้เมียน้อยทุกคนรู้ไว้ว่าเมียหลวงทุกคน(ตอนที่ยังทำใจไม่ได้)เจ็บอยู่ทุกวันที่เห็นหน้าสามีและยิ่งสามีไม่ยอมจากไปเพื่อให้เราทำใจแต่เห็นแก่ตัวคือไปทั้งสองบ้านเลยเมียหลวงจะยิ่งเจ็บมาก ขอเป็นกำลังใจให้เมียน้อยคิดเร็วจะได้ไม่ต้องทุกข์ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | kanalove [ 17 ส.ค. 2009, 17:00 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การเป็นเมียน้อย |
ได้ความรู้จริงๆคะ ขอบคุณมากๆเน้อ |
เจ้าของ: | Bwitch [ 19 ส.ค. 2009, 15:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การเป็นเมียน้อย |
อ้างคำพูด: ๖) เมื่อรู้ตัวว่าตกเป็นเมียน้อยแล้วตั้งใจจะหยุดหรือคิดเป็นน้อยต่อไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะโดนเขาหลอกหรือหลอกตัวเอง ผมเชื่อว่าถ้าสำรวจดีๆมีเมียน้อยกว่าครึ่งที่อยากเลิกให้ได้วันนี้พรุ่งนี้ แต่เลิกไม่ได้ก็เพราะทำใจไม่ได้เท่านั้น แต่แม้ประสบกับความล้มเหลวในการตัดเยื่อตัดใย อย่างน้อยตั้งใจจริงก็ถือว่าดีแล้วครับ จัดเป็นกรรมขาวบนฐานของกรรมดำแล้ว มีผลลดหย่อนผ่อนโทษได้แล้ว ส่วนพวกที่ขอเป็นเมียน้อยไปจนตายนั้น ภพของเมียน้อยจะตั้งมั่น วิบากร้ายมีเท่าใดก็จะให้ผลหนักแน่นยืดยาว การเป็นอะไรอย่างหนึ่งไปทั้งชาตินั้นมีผลใหญ่หลวงเกินกว่าที่คิดมาก ![]() ![]() |
เจ้าของ: | มานิตา [ 01 ก.ย. 2009, 14:46 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การเป็นเมียน้อย |
คนที่สมัครใจเป็นเมียน้อยเท่าที่เคยเห็นมา ก็ทำด้วยความตั้งใจคิดเป็นร้อยละ 100 ก็ว่าได้ เพราะด้วยเหตุด้วยผล ถ้าคนเราจะมีสามีสักคนจะต้องดูต้องสืบประวัติกันบ้าง ด้วยวัย ด้วยอายุ หน้าที่การงานมีหรือจะดูไม่ออกว่าเขามีครอบครัวหรือยัง นอกเสียจากว่าจะไม่สนใจสิ่งเหล่านี้ เพราะคำที่เมียน้อยชอบพูดก็คือ เอาผัวไม่ได้เอาเมีย ก็มีถมไป เมียน้อยบางคนก็ชอบเที่ยว ชอบกิน ได้เงินใช้ และสบายกว่าเมียหลวงด้วยซ้ำ ใครที่คิดอยากจะเป็นเมียน้อยก็เลิกเถอะนะคะเพราะถึงอย่างไร ผู้ชายหลายคนก็คงเลือกเมียหลวง และที่สำคัญผู้ชายบางคนก็ไม่ได้รวยอย่างที่เมียน้อยคิดกู้หนี้ยืมสินมาเลี้ยงเมียน้อยทั้งนั้น ทรัพย์สินต่าง ๆ เมียหลวงและลูกก็คงจัดการหมดแล้ว ไม่มีเมียหลวงที่ไหนเขาประมาทในเรื่องนี้แน่นอน |
เจ้าของ: | พิมพลอย [ 13 ธ.ค. 2009, 19:46 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การเป็นเมียน้อย |
taktay เขียน: เป็นข้อความที่แจ่มชัดมากๆ ไม่ต้องแปลเลย ถึงแม้ว่าเดี๋ยวนี้ดิฉันอโหสิให้กับคู่กรณีไปแล้ว แต่ใจลึกๆก็รับทราบอยู่ว่าเขาก็ไม่ได้เป็นสุขเลย ของดิฉันนี่เขาเป็นแบบตั้งใจและเต็มใจมากๆด้วย ทุกข์ทรมานใจมากตอนที่รับรู้ แต่บุญเก่าคงมีจึงทำให้มองเห็นสัจจธรรมอะไรหลายๆอย่าง และก็คิดได้ ทำให้ใจนิ่ง ตัดความอาวรณ์ออกไป เพิ่มกำลังใจในการทำกุศลมากขึ้น เดี๋ยวนี้ยอมรับว่าไม่ได้สนใจพวกเขาเลย ไม่รับรู้ว่าเขาจะพากันปีนต้นงิ้วกันอีกหรือเปล่า? ยกผลประโยชน์ให้จำเลย จะอธิษฐานอย่างเดียวคืออย่าได้เจอกันอีกเลยในอนาคตกาลเบื้องหน้าโน้น ขอให้เป็นสุขๆเถิด ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() พี่ทักทายเก่งจังเลยค่ะ พิมไม่สามารถอโหสิกรรมให้ได้แน่นอน ![]() ![]() รู้เมื่อไหร่ก็โกรธทุกทีค่ะ |
เจ้าของ: | มานิตา [ 13 ธ.ค. 2009, 20:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การเป็นเมียน้อย |
homealone เขียน: [color=#BF00FF]แล้วคนที่ถูกหลอกให้เป็นเมียน้อย หรือเป็นเมียน้อยโดยไม่รู้ตัวหล่ะ [/color][/color]
ผู้ชายจะได้รับกรรมอะไรบ้าง [color=#FF00FF]ขอบอกว่า ก็มีความสุขบ้างทุกข์บ้าง และก็เสียตังไงคะ เมียน้อยจะได้รับกรรมอะไรบ้าง เมียน้อยก็มีความสุขบ้างทุกข์บ้าง และส่วนใหญ่ได้ตัง จะมีใครเห็นใจเมียน้อยกลุ่มนี้มั๊ย คงไม่มีใครสงสารและเห็นใจหรอกค่ะ มีแต่คำประนามมากกว่า กฎหมายก็ช่วยอะไรเมียน้อยกลุ่มนี้ไม่ได้ เอาผิดผู้ชายไม่ได้ ดีไม่ดีภรรยาหลวงจะเอาเรื่องอีก การรู้ตัว สติ การไม่เห็นแก่ตัว ช่วยเมียน้อยได้ แต่ภรรยาหลวงเอาเรื่องแน่นอน แล้วเมียน้อยกลุ่มนี้จะทำอย่างไร (คงได้แต่ทำใจแน่ๆ เลย) เมียน้อยต้องทำใจ และยอมรับกรรม ตามรูปที่คุณไหว้พระปล่อยปลา จัดไว้ให้ดูค่ะ และเมียน้อยกลุ่มนี้จะไม่เสียใจเพราะส่วนใหญ่จะเป็นเมียน้อยให้กับผู้ชายหลายคน เฮ๊ย! เมียหลวงก็เศร้าใจเหมือนกัน :b7: ![]() |
เจ้าของ: | ทักทาย [ 14 ธ.ค. 2009, 06:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การเป็นเมียน้อย |
พิมพลอย เขียน: พี่ทักทายเก่งจังเลยค่ะ พิมไม่สามารถอโหสิกรรมให้ได้แน่นอน ![]() ![]() รู้เมื่อไหร่ก็โกรธทุกทีค่ะ พี่ไม่ได้เก่งหรอกค่ะหนูพิม แค่พอจะรู้ เหตุ และ ผล เมื่อรู้แล้วก็หาวิธีตัดเหตุ เพื่อจะได้ ไม่ต้องรับผล เท่านั้นเองค่ะ ![]() รู้เมื่อไหร่ก็โกรธทุกที ![]() เหตุก็คือรู้ ผลก็คือโกรธ เราก็ตัดเหตุคือไม่ต้องรู้ ผลก็จะได้ไม่ต้องโกรธ เมื่อไม่โกรธ เราก็ไม่ต้อง ทรมาน และร้อนรนเพราะไฟโทสะมันเผา ![]() เรายึดมั่นว่าเขาเป็นของเรา และรู้สึกว่าของของเรา กำลังถูกแย่ง เราก็วางความรู้สึกตัวนี้ลงเสีย แก้ตรงนี้ ตรงที่เหตุนี้ ![]() ถ้าไม่มีของเรา เราก็ไม่รู้สึกถูกแย่ง เมื่อเราไม่ได้ถูกแย่ง ใจเราก็ไม่ร้อนเหมือนถูกเผา พอไม่ร้อน ก็จะมีแต่ความเยือกเย็น ทำให้ใจสงบ ไม่มีโทสะ เมื่อไม่มีโทสะ เข้ามาครอบงำ เราก็จะอโหสิกรรมให้พวกเขาได้เอง และจากใจด้วยค่ะ ![]() |
เจ้าของ: | kaekai [ 14 ธ.ค. 2009, 14:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การเป็นเมียน้อย |
แล้วกรณีอย่างของเก๋ละคะ ผู้หญิงคนนั้นจะเรียกว่าเมียน้อยก็คงไม่ได้ เพราะเขาถือโอกาสเข้ามาตอนที่เก๋กับแฟนมีปัญหากันอยู่ ยังตกลงกันไม่ได้ว่าจะเอายังไง พอผ่านไปสักพัก สามีอยากกลับมาก็ไม่ได้ เพราะได้อยู่กับผู้หญิงคนนั้นแล้ว แล้วก็ได้ตัดสินใจเลือกทางนั้นไปแล้ว อันนี้ก็ทำให้เก๋ทุกข์ใจเหมือนถูกแย่งสามีไปเหมือนกัน ตอนนี้ทำใจได้แล้วล่ะ แต่ยังอยากรู้ว่า เขาทำแบบนี้ถือว่าผิดไหม ถ้าผิดจะได้รับผลกรรมแบบไหนคะ ถึงจะทำใจได้ แต่ความคับแค้นก็ยังอยู่ค่ะ |
เจ้าของ: | tonnk [ 16 ธ.ค. 2009, 11:14 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การเป็นเมียน้อย |
ถึงจะหาเหตุผลอย่างไรมาก็แล้วแต่ ผิดศีลข้อ 3ดูภาพหนูกำลังกัดคนทางด้านบนได้ |
เจ้าของ: | พุดพิชญา [ 17 ธ.ค. 2009, 10:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การเป็นเมียน้อย |
![]() ![]() ![]() พี่ทักทายค่ะ ของพุดนี่เลวร้ายกว่านั้นค่ะ พุดบอกผู้หญิงคนนั้นว่า เธอรู้ไหมว่าเธอทำแบบนี้มันบาป ตายไปเธอต้องตกนรก (เหมือนมิวสิคเพลงบาปกรรม ของปานธนพรเลย...) แต่ผลเป็นไงรู้เปล่าค่ะผู้หญิงคนนั้นบอกว่าพุดก็ต้องตกนรกเหมือนกัน อันนี้พุดก็เลยงง แต่ก็ไม่แปลกใจอะไรหรอกค่ะ เพราะพวกนี้ ศีล 5 คงไม่เข้าถึง เพราะถ้าเข้าถึง เขาคงไม่ทำแบบนี้ ในเมื่อเขารู้อยู่เต็มอกว่าผู้ชายแต่งงาน และมีลูกแล้ว อย่าไปหวังเลยค่ะ ว่าคนพวกนี้เขาจะเกรงกลัวต่อบาปกรรม เขาเลือกความสุขเฉพาะหน้า โดยไม่สนใจอยู่แล้วว่าคนอื่น จะทุกข์ จะเจ็บปวด อย่างไร พุดก็แค่หวังว่าวันหนึ่งใจพุดจะแข็งแรงเต็มร้อยได้อย่างพี่ทักทาย สักวันพุดจะสามารถสลัดเขาทั้งสองออกจากใจพุดได้ เพราะทุกวันนี้พุดยอมรับค่ะว่ายังแค้นเขาสองคนมากมายเลยที่เดียว .... 9 ปี ไม่น้อยเลยนะค่ะ ...... เป็นกำลังใจให้พุดด้วยนะค่ะพี่ทักทาย พุดจะทำให้ได้ เพื่อตัวพุดเองค่ะ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |