วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 20:07  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 57 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2009, 03:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




ไม่เคยเรียกร้องให้รู้สึกเท่ากัน


เธอต้องให้ฉันเท่านั้น . . . เมื่อฉันให้เธอเท่านี้
เรื่องของหัวใจยกขึ้นตาชั่งไม่ได้ . . . ก็รู้ดี
และผิดถูกก็ไม่มี . . . อยู่ในความผูกพัน

รูปภาพ

เธอให้มาเท่าไหร่ . . . ฉันยินดีรับเท่าที่ได้
และดีใจที่ชีวิตเธอยังมีฉัน
ไม่หวังสูงถึงที่หนึ่ง . . . หรือที่สุดความสำคัญ
แค่ดาวดวงเล็ก . . . บนท้องฟ้าผืนกว้าง

รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2009, 03:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

เค้าทิ้งเราไป เราควรให้อภัยหรือเปล่า

ไม่ เด็ดขาด นอกจากไม่มีวันให้อภัยแล้ว ยังทำพิธีแช่งชักหักกระดูก เผาพริกเผา เกลือสาบส่ง อย่าได้เจอหน้ากันอีกเลยชาตินี้ แต่ถ้ามัวแต่นั่งคุมแค้น แรงอาฆาต พยาบาทอาจทำให้เรามีจิตใจที่ไม่เป็นสุข

ดังนั้นสิ่ง ที่ควรทำคือให้อภัย ถือเสียว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตอย่างหนึ่งก็แล้วกัน การฟื้นตัวจาก ความเจ็บช้ำ ที่ถูกทรยศย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย ครั้นจะให้อภัยอีกใจ ก็คิดขึ้นมาได้ว่า เรื่องอะไรฉันจะให้เลิกราไปง่ายๆ มันจะสบายไปหรือเปล่า สมควรให้มันชดใช ้กรรมโทษฐานที่ ทำให้ฉันเจ็บช้ำดีไหม ความคิดแบบนาง มารร้ายที่ประดัง ประเดเข้ามาในสมองแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก…ธรรมดามาก เพราะการให้อภัยเป็นเรื่องยากจริงๆ โดยเฉพาะตอนเริ่มต้นนี่ละ ส่วนใหญ่มักไม่รู้ว่า ควรเริ่มต้นจากจุดไหน

คนส่วนมากคิดว่า ปล่อยให้อดีตผ่านไปแล้วเริ่มต้นใหม่ดีกว่า ชีวิตต้องเดินหน้า ต่อไปเรื่อยๆ แต่ความเจ็บช้ำและความกลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอยก็ยังคอย ติดตามหลอกหลอนทุกเมื่อเชื่อวัน ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้ จะมีมากหรือน้อย แล้วแต่อายุของแต่ละคน อายุน้อยๆยังอ่อนประสบการณ์ ก็คงเจ็บมากหน่อย แต่ถ้าอายุมากๆเคยผ่านประสบการณ์มาแล้วหลายฤดูฝน ก็คงสามารถ ควบคุมความรู้สึกได้ดีกว่า

ความทรงจำในอดีตที่ตามหลอกหลอนสำหรับ บางคนอาจเป็นบาดแผลเรื้อรัง แต่กับบางคนอาจเป็นสิ่งมีค่าที่ช่วยให้จิตใจแข็งแกร่งขึ้น แต่ถ้าเราพยายาม กีดกันอดีตออกไปจากชีวิตของเรา โดยไม่นำมาเรียนรู้ สิ่งเหล่านั้นมักย้อนกลับมาหา จนกลายเป็นบทเรียนซ้ำซากครั้งแล้ว ครั้งเล่ากระหน่ำชีวิตเราอย่างไม่รู้จบ แทนที่จะจงเกลียดจงชังความทรงจำอันเลวร้าย หรือเกลียดคนที่เรา เคยอยู่ด้วย เคยพบเคยรู้จัก สู้มาเรียนรู้คิดหาหนทางทำให้ ประสบการณ์เหล่านั้น ช่วยให้เรา เข้มแข็งขึ้นไม่ดีกว่าหรือ คิดเสียว่าคนที่เราได้เคยพานพบ ไม่ว่าจะเป็นคน ที่เรารักหรือเกลียด ล้วนแต่เป็นครูช่วยให้เราได้เรียนรู้ ความรักและ เข้าใจชีวิต มากขึ้น สิ่งสำคัญที่ทำให้เราเข้าใจโลกมากขึ้นคือ การรู้จักให้อภัยผู้อื่น ผลพลอยได้คือ เพื่อเยียวยารักษา ความเจ็บช้ำของเราเองด้วย

สี่ขั้นตอนในการให้อภัย

พยายามทำความเข้าใจถึงสิ่งที่เขาทำกับเราในช่วงเวลานั้น

พยายามมองให้ออกว่า การที่เราคาดหวังในตัวเขามาก ยิ่งทำให้เรา เจ็บช้ำมาก ยามที่ผิดหวัง

เลิกตัดสิน ปฏิเสธ หรือวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่น เลิกคิดเสียทีว่าคนนั้น ดีคนนี้เลว

ลอง พิจารณาสิ่งที่เราคาดหวังในตัวเอง และยอมรับให้ได้ว่า เราไม่มีทาง ได้ พบสิ่งเหล่านั้นในตัวใครคนใดคนหนึ่งแน่นอน ขนาดตัวเราเอง เรายังทำไม่ได้อย่างที่หวังเลยนี่นา

ถ้าเราสามารถยกระดับจิต ใจตัวเอง และเติมเต็มหัวใจตัวเองได้แล้ว เราก็จะสามารถ ทำในสิ่งที่เราหวังไว้เองได้ โดยไม่ต้องไปคาดหวังในตัวคนอื่นมากนัก โดยเฉพาะ กับแฟนด้วยยิ่งแล้วใหญ่ และเมื่อเราทำใจให้อภัยผู้ชาย ไม่รักดีคนนั้น ได้แล้ว เราจะรู้สึกอิสระเสรีเหนืออื่นใด สามารถเปิดใจรับคนหน้าใหม่และ ประสบการณ์ ชีวิตใหม่ๆเข้ามาในชีวิตได้อย่างเต็มที่ ทำให้เราดำเนินชีวิต ต่อไปได้อย่างมั่นใจ



รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2009, 10:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
ข้อแนะนำ 10 ข้อเมื่อคุณถูกแอบรัก

อย่าแสดงท่าทีใดๆ ถ้าเขาไม่มาสารภาพออกมาตรงๆ ว่ารักคุณ
ถ้าคนที่แอบรักคุณ ไม่น่าพึงใจก็อย่าสร้างโอกาส ที่จะอยู่ด้วยกันตามลำพังเด็ดขาดและควรพูดคุยกับเขาด้วยเหตุผล และมิตรภาพ

การปฏิเสธที่ดีที่สุดคือการแสดงความรู้สึกขอบคุณที่เขามีความรู้สึกที่ดีด้วย และยืนยันอย่างอ่อนโยนชัดเจนในข้อจำกัดของคุณ

ถ้าเขาเป็นลูกผู้ชายพอเขาจะยังคงปฏิบัติกับคุณด้วยดีในแบบเพื่อน แต่ถ้าเขาเอาคุณไปเผาหรือนำไปพูดลับหลังในแบบไม่ดีก็ต้องทำใจว่าซวยแท้

ถ้าคุณรำคาญที่เพื่อนๆช่วยกันเชียร์เขาจนออกนอกหน้าให้หาโอกาสคุยกันในแบบ ส่วนตัวกับเพื่อนโดยอ้างข้อจำกัดของตัวเอง ที่ไม่ใช่การติติง หรือไม่พอใจในข้อด้อยของเขา

ถ้าใครคนนั้นเป็นเจ้านายที่คุณไม่เล่นด้วย ก็ต้องพยายามปฏิบัติต่อเขาในแบบเป็นทางการและไม่นำไปบอกเพื่อนร่วมงานให้เขาเสียหน้า

ถ้าคุณยังชัดเจนและยึดมั่นในสเปคของตัวเองก็ให้ทำต่อไปโดยไม่ต้องหวั่นไหวอะไร การปรบมือข้างเดียวไม่มีวันดัง

ผู้ชายรักหน้าตาและศักดิ์ศรีดังนั้นคุณจะทำหรือตอบโต้เขาอย่างไรก็ตามให้อยู่บนพื้นฐาน ของการให้เกียรติ โดยเฉพาะต่อหน้าบุคคลที่สาม

เมื่อผู้ชายผิดหวังเขามักโทษผู้หญิงว่าเป็นคนแสดงท่าทีก่อน ดังนั้นเมื่อคุณไม่ชอบเขาในแบบนั้นก็ต้องคิดและจำกัดการแสดงพฤติกรรม ทุกอย่างให้รอบคอบ อย่าให้เป็นชนวนที่เขาจะนำมากล่าวอ้างได้ว่าคุณให้ท่า

แม้จะรำคาญการถูกตามตื๊อแต่ถ้าคุณสามารถเปลี่ยนเขาเป็นมิตรได้ย่อมดีกว่าเพิ่ม ศัตรูอีกหนึ่งคน



รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2009, 10:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ


อย่าล้อเล่นกับความรัก

มีใครหลายคน....พยายามสร้างความมั่นใจให้ตัวเองด้วยการ"โปรยเสน่ห์"
คือการพยายามทำทุกอย่างเพียงเพื่อเอาชนะใจคนซักคน
แม้ในใจจะคิดว่า..ไม่ได้จริงจังอะไร..แต่ถ้าทำให้ใครรักได้
ถือว่า..ประสบความสำเร็จ..และมันก็น่าสนุกทีเดียว

หรือบางที..การทำให้ผู้อื่นรัก..มันฝังอยู่ในใจมนุษย์ทุกคนอยู่แล้ว
เพียงแต่ว่า...
ใครจะกล้าแสดงมันออกมามากน้อยต่างกันเท่านั้นเอง
มันไม่น่าแปลกใจ..หากความรักที่เกิดขึ้น..
เป็นความจริงใจของทั้ง2ฝ่าย
แต่หากเป็นความรักที่ทำ..เพื่อหวังให้เขามองเราแบบชู้สาว
ทำให้เขารัก..เพียงเห็นเป็นแค่เรื่องสนุก..และอยากเอาชนะ
"ความรัก"ครั้งนี้ของเธอ..ถือว่าเป็นความรักที่อันตราย
เมื่อเราพยายามทำให้ใครรัก..
สิ่งที่เธออาจจะได้รับจากเขาคือ"ความจริงใจ"

หรือบางที..การทำให้ผู้อื่นรัก..มันฝังอยู่ในใจมนุษย์ทุกคนอยู่แล้ว
เพียงแต่ว่า...
ใครจะกล้าแสดงมันออกมามากน้อยต่างกันเท่านั้นเอง
มันไม่น่าแปลกใจ..หากความรักที่เกิดขึ้น..
เป็นความจริงใจของทั้ง2ฝ่าย
แต่หากเป็นความรักที่ทำ..เพื่อหวังให้เขามองเราแบบชู้สาว
ทำให้เขารัก..เพียงเห็นเป็นแค่เรื่องสนุก..และอยากเอาชนะ
"ความรัก"ครั้งนี้ของเธอ..ถือว่าเป็นความรักที่อันตราย
เมื่อเราพยายามทำให้ใครรัก..
สิ่งที่เธออาจจะได้รับจากเขาคือ"ความจริงใจ"


ความจริงใจ
การแกล้งทำให้เขารัก..แล้วเขารักเราจริง
เธอกำลังล้อเล่นกับ"ความรัก" ที่คนอื่นมีให้เธออย่างบริสุทธิ์ใจ
เธออาจจะไม่ทุกข์..แต่เขาทุกข์..
และมันก็ชักไม่สนุกเหมือนก่อนแล้ว
เพราะเมื่อถึงตอนนั้น..มันจะมีความวิตกกังวล..
เพราะเธอกำลังทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
เธอจะหันหลังกลับยังไง เมื่อมีคนยืนร้องไห้อยู่ข้างหลังเธอ

ความจริงใจ
การแกล้งทำให้เขารัก..แล้วเขารักเราจริง
เธอกำลังล้อเล่นกับ"ความรัก" ที่คนอื่นมีให้เธออย่างบริสุทธิ์ใจ
เธออาจจะไม่ทุกข์..แต่เขาทุกข์..
และมันก็ชักไม่สนุกเหมือนก่อนแล้ว
เพราะเมื่อถึงตอนนั้น..มันจะมีความวิตกกังวล..
เพราะเธอกำลังทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
เธอจะหันหลังกลับยังไง เมื่อมีคนยืนร้องไห้อยู่ข้างหลังเธอ


เมื่อเธอกล้าทำร้ายใคร
เขาก็กล้าทำร้ายเธอเช่นกัน
และเมื่อถึงวันที่เธอจะรักใครจริง
เธอก็จะเข้าใจคำว่า"เกม"ที่เธอเคยเป็นฝ่ายชนะ

และเมื่อถึงวันนั้น..เธอจะต้องหยุดเล่นพร้อมๆกับ
..... น้ำตาตัวเอง

บอกแล้วนะ....อย่าล้อเล่นกับความรัก :b45:


รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2009, 10:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
วิธีป้องกันคนรักนอกใจ



:b47: วิธีที่ 1 เขียนบัญชีรัก ลองเอากระดาษและดินสอมาจดรายการ สิ่งที่เขาทำให้คุณมีความสุข ถึงแม้จะเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ และผลัดกันให้เขาเขียน สิ่งที่คุณทำให้แล้วเขารู้สึกมีความสุขบ้าง ผลัดกันอ่านแล้วอ่านอย่างเดียวไม่พอ ต้องทำด้วย คุณทั้งสองลองทำให้กันและกันอาทิตย์ละหนึ่งอย่าง วิธีนี้เป็นการยืนยันความรักของคุณและเขา และเป็นการบอกเขาว่าเขาสำคัญแค่ไหนสำหรับคุณ

:b48: วิธีที่ 2 เอาใจใส่ต่อปัญหาของกันและกันอย่างจริงจัง การเทคแคร์ดูแลกันในเรื่องทั่วๆ ไปยังไม่พอ คุณควรต้องหมั่นดูแลเอาใจใส่ต่อปัญหา หรือสิ่งไม่สบายใจเล็กๆ น้อยๆ ของคู่คุณบ้าง และคอยฟังหรืออาจคอยช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างจริงจังเท่าที่คุณจะสามารถทำได้ การห่วงใยอาทรกันทั้งในยามสุขและยามทุกข์ จะทำให้ความรักของคุณหยั่งรากลึกไปจนถึงก้นบึ้งหัวใจของอีกฝ่ายเชียว

:b47: วิธีที่ 3 เดทกันที่เตียงนอน ไม่จำเป็นต้องรอให้มีอารมณ์อย่างว่าแล้วค่อยขึ้นเตียง บางคู่มักต่างรอให้กันและกันมีอารมณ์ตรงกันก่อนถึงจะตรงดิ่งไปที่เตียงนอนและมีเซ็กซ์ แต่บางทีถ้าอีกฝ่ายหนึ่งไม่มีอารมณ์ขึ้นมา ต่างฝ่ายต่างรอพอดีเฉาตาย น่าจะลองนัดกันเล่นๆ ดูว่าวันไหนที่ควรจะจูงมือกัน แล้วตรงดิ่งเข้าห้องโดยไม่ต้องรออารมณ์

:b48: วิธีที่ 4 อย่ามีความลับต่อกัน อันนี้สำหรับคู่ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด ความลึกลับระหว่างกันไม่ควรมีอีกต่อไป ถ้าคุณเก็บความลับเรื่องสำคัญไว้ นั่นเท่ากับเป็นการทลายกำแพงความไว้วางใจที่ควรมีต่อกันลงไปอย่างง่ายดาย ทั้งที่อาจจะใช้เวลาเป็นปี หรือหลายปีในการร่วมกันสร้างมันขึ้นมา อย่าลืมว่ารอยร้าวเล็กๆ จะขยายใหญ่ได้ไม่ยาก

:b47: วิธีที่ 5 จดจำสิ่งดีๆ บางทีผู้ชายที่แสนดีตรงหน้าคุณ ที่คุณเคยทุ่มเทความรักจนหมดใจเมื่อ 3 ปีที่แล้ว หรือสาวแสนสวยที่อยู่หน้าคุณตรงนี้ ก็กลับกลายเป็นคนที่น่าเบื่อ น่ารำคาญ บ่อยครั้งสิ่งที่เคยน่าดึงดูดใจกลายเป็นสิ่งที่น่ารำคาญเอาง่ายๆ แต่คิดสักนิดก่อนที่คุณจะไปมองคนใหม่ที่ใสกว่า ลองมองเธอหรือเขาดูอีกครั้ง มองให้เหมือนกับที่คุณเคยมองในตอนแรกๆ คุณอาจจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกเก่าๆ ของความรักและความชื่นชมที่เคยมีให้กันก็ได้

รู้อย่างนี้แล้ว อย่าลืมหันมาดูแลเอาใจใส่คนรัก คนรักจะได้ไม่นอกใจ

รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2009, 10:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

เมื่อ รักเรา ไม่ใช่ที่หนึ่ง


การไม่ได้เป็นที่ หนึ่ง ในใจคนที่เรารักนั้น
ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเสมอไป
การเป็นที่สอง ในใจเขานั้น ย่อมดีกว่าการเป็นที่สาม ที่สี่
หรือถึงแม้ว่า . . . เราจะเป็นที่สุดท้าย
แต่มันก็ยังดีกว่า การที่เราไม่ได้อยู่ในใจเขาคนนั้นเลยไม่ใช่หรือ


จงยิ้มให้ความรัก และ รักต่อไปเถอะ
แม้ว่า . . . รักนั้นอาจไม่ใช่ที่หนึ่ง
จนกว่าที่เรา จะบอกกับตัวเองว่า . . .
"เราทนอีกต่อไป ไม่ได้แล้ว
เราเหนื่อยกับรัก ที่เป็นเช่นนี้เหลือเกิน"

การรักใครสักคนนั้น . . .
ง่ายกว่าการตัดใจ จากใครสักคนนัก
การสบตา จากใครสักคนนั้น . . .
ย่อมมีความสุข กว่าการหลบตาใครสักคน เป็นแน่แท้
จะมีสักกี่คน ที่สามารถทำให้เรายิ้มได้ . . .
. . . อย่างสุดหัวใจ และเศร้าได้อย่างสุดหัวใจ


อย่า . . . โทษเขา ที่ไม่ได้รักเรา
อย่า . . . โทษพรหมลิขิตที่ทำให้เราเจอกัน แต่ไม่ได้ทำให้เรารักกัน
อย่า . . . โทษหัวใจตัวเองที่ไปรักเขา
อย่า . . . โทษกาลเวลาที่ทำให้เราเจอกันช้าไป
จงมีความสุข และยิ้มให้กับสิ่งต่าง ๆ เถอะ


ยิ้มให้กับคนที่เขาไม่รักเรา . . .
เพราะอย่างน้อยเขาก็คือ คนที่ได้รับความรักจากเรา

ยิ้มให้กับพรหมลิขิต ที่ทำให้เราเจอกันถึงแม้เราจะไม่ได้รักกัน . . .
เพราะอย่างน้อยพรมลิขิต ก็ยังได้ทำให้เราได้รู้จักกัน


ยิ้มให้กับหัวใจตัวเอง ที่ไปรักเขา . . .
เพราะอย่างน้อยหัวใจของเรา ก็ยังได้เรียนรู้กับความรัก



ยิ้มให้กับกาลเวลา ที่ทำให้เราเจอกันช้าไป . . .
เพราะอย่างน้อย ก็ยังทำให้เราได้เจอกัน

เราควรดีใจไม่ใช่หรือ ที่อย่างน้อยเรายังยิ้มให้กับคนที่เรารักได้


รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2009, 11:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

ความรัก กับ วงกลมความรัก

คนเรามายืนและก้าวไปพร้อม พร้อม กัน
จากจุดเดียวกัน บางคนอาจจะก้าวไปเร็วกว่า
บางคนอาจจะค่อยๆ ก้าว ... ทีละก้าว
ก็เปรียบเสมือนวงกลมหนึ่งวง ที่ก้าวจากจุดเดียวกัน
. . . และลากเส้นไปในทิศทางเดียวกัน ไม่สามารถลากเส้นมาบรรจบกันได้
ถ้าต่างคนต่างที่จะลากเส้น



ถ้าคนใดคนหนึ่งหยุดอยู่กับที่ . . . แล้วอีกคนหนึ่ง ลากเส้นไป
. . . แล้วพอไม่นานมันก้อจะลากเส้น มาบรรจบกันที่จุดเดิม
เหมือนกับความรัก ที่ต่างคนต่างดิ้นรนแสวงหา
แล้วก็ไม่พบกับสิ่งที่แสวงหา เจอแต่ความว่างเปล่า และความปวดร้าว



ถ้าหยุดอยู่กับที่ . . . ความรักก้อจะวิ่งเข้ามาหา.
ถ้าเราไม่ลากเส้นให้ก้าวต่อไป
ความรักก็เหมือนกับวงกลมหนึ่งวง ถ้าเราก้าวไป
และมีจุดมุ่งหมายอันเดียวกัน
ความรักมันคงจะมาบรรจบกัน ในจุดหนึ่ง จุดใด . . .
ของเส้นวงกลม . . .



ถ้าคนละจุดมุ่งหมาย เส้นที่ลาก ก็จะกลายเป็นวงกลม
คนละวง ที่จะไม่สามารถก้าวมาบรรจบกันอีกเลย . . .



ความรัก ถ้าเรายิ่งวิ่งตาม ยิ่งค้นหา เชื่อได้ว่า สิ่งที่ได้มาคือ . . .
ความผิดหวัง ยิ่งเดินเข้าไป ยิ่งเดินหนี . . .



แต่เชื่อว่า สักวัน ความรัก . . . คงจะเดินเข้ามา


รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2009, 11:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

รักเกรด4


:b54: เกรด 1 – รักใคร่ใฝ่กามา (กะฟันแล้วทิ้ง)

ลักษณะ : เห็นปุ๊บรักปั๊บ เกิดง่ายจบง่าย ไม่ยั่งยืน ไม่ผูกพัน ประเภทกะฟันแล้วทิ้ง
กามารมณ์ VS. ความรัก : กามารมณ์อยู่เหนือความรัก เป็นความรักชนิดต่ำสุด
ความทุกข์มากกว่าความสุข
และมักเป็นทุกข์อันทนทานนานนับเดือนถึงแรมปี…ถูกทิ้งเนื้องอกในมดลูก
(รูปร่างเหมือนคน) โดนเชื้อ HIV เข้าสิง ฯลฯ…
บทสรุป : ไม่คุ้มกันเลย…กับสุขแค่ประเดี๋ยว กับความเสียวแค่ประด๋าว…

:b54: เกรด 2 – รักหวังวิวาห์มาคู่กัน (รักจริงหวังแต่ง)

ลักษณะ : พัฒนาความสัมพันธ์มาเป็นความผูกพัน
อาจขยายผลจนเป็นการสืบเผ่าพันธุ์ของมวลมนุษย์
เป็นความรู้สึกที่นำไปสู่การใช้ชีวิตร่วมกันระหว่างคนสองคน รู้สึกรับผิดชอบ
มีความจริงใจ ต้องการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ภาษาชาวบ้านเรียก "รักจริงหวังแต่ง"
กามารมณ์ VS. ความรัก : มีเซ็กส์เข้ามาเกี่ยวข้องสูงมาก อยากครอบครอง อยากเป็นเจ้าของ
ผลข้างเคียง : ความหึงหวง ถ้ารักมากๆ
แต่ติดอยู่แค่เพดานเกรดนี้จะเกิดเป็นภาวะกดดัน ความรู้สึกถูกตีกรอบ
สิ้นไร้ซึ่งอิสรภาพทางจิตใจ ถ้าพบว่าคนรักตนปันใจให้คนอื่น
อุณหภูมิหึงหวงจะพุ่งทะลวงพ้นจุดเดือด…พาดหัวข่าวประเภท "รักต้องฆ่า" ก็เพราะสาเหตุนี้

:b54: เกรด 3 – รักปันแบ่งความสุข (รักแบบปรารถนาดี)

ลักษณะ : เป็นความรักแบบปรารถนาดี อะไรก็ตามที่ทำแล้วอีกฝ่ายมีความสุข
เราจะทำสิ่งนั้นสม่ำเสมอ อะไรก็ตามที่ทำแล้วอีกฝ่ายมีความทุกข์
เราจะหลีกเลี่ยง หากอีกฝ่ายทำให้เราเป็นทุกข์ เสียใจ เจ็บปวด เราจะให้อภัย
กามารมณ์ VS. ความรัก : ไม่มีเรื่องเซ็กส์เข้ามาเกี่ยวข้อง หรือมีก็น้อยมาก
ผลพวง : เกิดการให้อภัยและมุทิตาจิตเสมอหากเห็นคนรักมีความสุข
ไร้ความอิจฉาริษยา จิตเปี่ยมไปด้วยความปิติ อิ่มเอิบเมื่อได้ทำให้เขามีความสุข
จิตล่วงพ้นพรมแดนแห่งความลุ่มหลง โบยบินด้วยปีกแห่งรัก
ด้วยความรู้สึกอันเป็นอิสรภาพ…ลึกซึ้งๆ

:b54: เกรด 4 – รักยอมทุกข์เพื่อสุขเธอ (รักบริสุทธิ์)

ลักษณะ : เป็นรักอย่างอุทิศ รักด้วยความเสียสละ
เพื่อให้คนที่รักได้สมหวังและมีความสุข โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน
แม้บางครั้งเราอาจต้องยอมทุกข์ใจหรือเจ็บปวด เดือดร้อนบ้าง ก็เพื่อคนที่เรารัก
ใครบ้างมีรักบริสุทธิ์ : ความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูก ถือเป็น "รักบริสุทธิ์" พันธุ์แท้

เวลาใดก็ตามที่เอ่ยคำว่า " รัก " ลองคิดเล่นๆ ดูนะคะ ว่าเป็นรักเกรดไหน?
เวลาเราเลี้ยงสุนัข…ความรักของเราที่มีต่อสุนัขอยู่เกรดไหนครับ ?
มีใครเลี้ยงสุนัขแบบเกรด 1 ไหมคะ เลี้ยงเพื่อบำบัดความใคร่
อยากมีเซ็กส์กับสุนัข หรือใครเลี้ยงสุขแบบเกรด 2
อยากแต่งงานใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ไม่มีนะคะ…ความรักที่เรามีต่อสุนัขอยู่เกรด 3 ค่ะ
ปรารถนาดีและแบ่งปันความสุขแก่กัน

น้องๆ หลานๆ ที่น่ารัก…ถ้ามีหนุ่มคนไหนมาบอกรักเรา
ลองพิจารณาผู้ชายที่พยายามมาจีบเราสิคะว่าเขารักเราเกรดไหน
เขาให้ความรักเราเท่ากับความรักที่เราให้กับสุนัขของเรารึเปล่า
หรือเขาเพียงต้องการใช้ร่างกายเราเป็นอุปกรณ์ในการบำบัดความต้องการทางเพศ
ผู้ชายประเภทนี้ส่วนใหญ่มักบอกว่ารักจริงๆ สาวๆ ฟังแล้วมักหลง เพราะหนุ่มๆ
พูดไม่จบ ประโยคเต็มๆ เขาหมายถึง "รักจริงหวังยิงสเปิร์ม"

ถ้าเขาให้เกียรติ เอาใจใส่ความรู้สึกของเรา ห่วงใยยามเราเป็นทุกข์
ซื่อสัตย์ต่อความจริงใจที่เรามีให้เขา อย่างนี้ประมาณได้ว่า เป็นความรักเกรด 2
ขึ้นไป ให้เวลาในการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ปรับตัวสำหรับความแตกต่าง

ตัดสินใจแต่งงานเมื่อพร้อม…Happy beginning ! …ไม่ใช่ Happy ending อย่างที่หลายคนเข้าใจ




รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


แก้ไขล่าสุดโดย ณ มรณา เมื่อ 17 ต.ค. 2009, 11:14, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2009, 12:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
"ความรัก"ไม่มีใครดีพอสำหรับใคร


|l บางอย่างเปลี่ยนไปใช่ว่าเปลี่ยนไป l|

บางที ...
บางอย่างก็ไม่ต้องนึกถึงมัน
... ใช่มั๊ย
แต่ ...
ถ้าไม่มีให้นึกถึง
มันก็ไม่ต้องนึกถึง
... จริงมั๊ย

ไม่ใช่ว่า ... ไม่อยากนึกถึง
... แต่ คงเพราะมากเกินกว่าที่จะไม่นึกถึงหล่ะมั้ง
ณ ... เวลาที่เราเริ่มต้น
ทุกอย่างที่เราคิดมักจะดีเสมอ
เพื่อที่จะเหมาะแก่การเริ่มต้นใหม่

แต่ ... เมื่อเวลาผ่านไป
มันคงจะเป็นการเรียนรู้
ที่เราจะได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ศึกษากันไป

บางครั้ง ... บางที ... เราคิดว่าเราดีแล้ว ... แต่ไม่ ... เรายังไม่ดี
บางครั้ง ... บางที ... คิดว่าเรายังดีไม่พอ ... ก็พยายามต่อไป
เพื่อทำตามความที่ที่เราคิดเสมอว่า " เรายังดีไม่พอ "
กลับด้านที่เป็น ที่คิด
ถ้ามัวแต่คิดว่าเราดีไม่พอ ลองมองกลับไป

ในด้านที่เราเคยคิดบ้างว่า " เค้าดีพอสำหรับเรารึเปล่า"
อย่ามัวแต่พยายาม เพราะสิ่งที่เราพยายาม บางครั้งมันดูงมงาย
อย่ามัวแต่คิดว่าเราไม่ดี
เพราะ บางที ... คนที่ไม่ดี มันอาจไม่ใช่เรา

อย่ามัวแต่คิดที่จะทำเพื่อคนอื่น ไม่ดูตัวเอง
เพราะ
บางที ... คนที่ทำเพื่อคนอื่น
อาจจะมีแต่ " เรา " คนเดียว เท่านั้น

บางสิ่งที่คนอื่นต้องการ เรากลับไม่มี
เรากลับไม่ทำให้
เพราะ เรามัวแต่ให้ในสิ่งที่คนที่คนอื่นไม่ต้องการ
ทำไปมันก็เท่านั้น ให้ไปมันก็เท่านั้น

ถ้ามันไม่ใช่ในสิ่งที่เค้าต้องการ แล้วเราทำไปเพื่ออาราย
บางที ... ความคิดเรามันก็ต่างจากคนอื่น
ไม่ผิดหรอกที่คิดอะไรต่างกัน
แต่บางที คิดถึงกัน " บ้าง " ก็ดีนะ

ลองเข้าใจเราดูบ้าง
ไม่ใช่ว่าให้เราพยายามเข้าใจอยู่ฝ่ายเดียว
เพราะ...ในบางครั้ง บางที ในขณะนี้

ก็รู้แล้วว่า เราไม่เหมือนกัน
คำว่า " เรา " มันต่างจากคำว่า " ฉัน " หรือ " เธอ "

ถึงมันจะพยางค์เดียวเหมือนกันก็ตาม
แต่คำว่า " เรา " มันสื่ออารายที่มากว่า " ฉัน " และ " เธอ "


ไม่มีอะไรที่พิสูจน์ได้ว่า
" ความรักมีค่ามากมายเพียงไร "
วันนั้นที่รู้ว่ามันมีค่ามากแค่ไหน
คงเป็นวันที่เข้าใจความรู้สึกของอีกคน

ไม่ต้องการอะไรมากมาย
เพียงแค่ ...
" อย่าให้ใครคิดที่จะทำอะไรเพื่อใครอยู่ฝ่ายเดียว "
" ดีไม่พอ "

คำๆนี้ไม่ควรมีใครคิดถึงมัน

และไม่มีความหมายอะไรมากมาย


" เพราะเหตุผลของทุกอย่าง

มีเพียงแค่ว่าไม่มีใครดีพอสำหรับใคร "


ก็เท่านั้นเอง



:b53: ที่มาจาก FWD Mail

รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2009, 12:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
รักกับหลง ต่างกันอย่างไร



ความรัก ค่อยๆก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ
ความหลง เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ความรัก อดทนต่อกันและกันเสมอ
ความหลง กระทำไปตามอารมณ์

ความรัก ทำสิ่งดีๆให้กัน
ความหลง ทำสิ่งดีๆให้ตัวเอง

ความรัก ไม่คิดถึงตัวเองฝ่ายเดียว
ความหลง คิดถึงแต่ตัวเอง เรียกร้องแต่สิ่งที่ตัวเองต้องการ

ความรัก ชื่นชมสิ่งดี ไม่ยอมรับสิ่งผิด
ความหลง หาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง แก้ตัว

ความรัก ปกป้องกันและกัน
ความหลง ปกป้องตัวเอง ไม่แคร์ว่าใครจะเจ็บ

ความรัก ไว้ใจซึ่งกันและกัน
ความหลง หวาดระแวง จับผิด ขี้สงสัย

ความรัก ให้อภัย
ความหลง แค้นนี้ต้องชำระ

ความรัก ทนต่อทุกอย่าง
ความหลง ถอยหนียามลำบาก

ความรัก ให้โดยไม่มีการเลิกรา
ความหลง หยุดเมื่อไม่ได้รับการปรนเปรอ

ความรัก เป็นอมตะ คงทนถาวร
ความหลง ไม่มั่นคง อยู่ได้ไม่นาน

ความรัก ซื่อสัตย์ต่อกัน
ความหลง หลอกลวง เชื่อถือไม่ได้

ความรัก ไม่ฉุนเฉียวง่าย
ความหลง ด่าว่าให้เจ็บช้ำ

ความรัก ไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย
ความหลง ไม่ให้เกียรติ ฉันต้องสำคัญที่สุด เป็นรองไม่ได้

ความรัก มีความหวังอยู่เสมอ
ความหลง คุณพลาดแล้วหมดโอกาสแก้ตัว

ความรักจะช่วยส่งเสริมคนทั้งคู่ให้เจริญก้าวหน้าขึ้นเช่น การเรียนดี ประพฤติดี
ความหลงไม่สนใจอะไร มุ่งแต่จะอยู่ด้วยกัน สุดท้ายก็ลงเอยเรื่อง *


ความรักจะเตือนสติถ้าอีกฝ่ายทำสิ่งไม่สมควร และมีความยับยั้งชั่งใจ ไม่ชิงสุกก่อนห่าม
ความหลงไม่มีการเตือนสติกัน แต่จะมองสิ่งผิดให้เป็นสิ่งถูก เช่นแฟนกินเหล้า สูบบุหรี่ เสพยา หนีเรียนก็ไม่ว่าเพราะหลงจนไม่อยากขัดใจ

ความรักจะทำดีต่อกัน รักกันเสมอต้นเสมอปลาย
ความหลงแรก ๆ รักจนไปลืมหูลืมตา ต่อมาอีกไม่นานก็เริ่มหน่ายตีตัวออกห่างไปหาคนอื่นต่อ

..รัก หลง ชอบ..แตกต่างกันอย่างไร 3 อย่างนี้นะคะ เป็นพื้นฐาน ของคำๆเดียว ก็คือรัก การที่เราจะรักใครสักคน มันเริ่มมาจาก หลง ก่อน เวลาเราหลงใครสักคนเราก็อยากที่จะใกล้ชิดเขาให้มากที่สุด ปกติไม่เคยคุยโทรศัพท์กับใครนานก็จะคุยมากขึ้น เวลาจะไปไหนกับคนที่เราหลง ก็ต้องแต่งตัวให้ดี ระวังคำพูดมากขึ้น อาการหลงเป็นอาการชั่ววูบของผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ เช่น ตอนที่เราหลง ผู้หญิงจะทำอะไรก็เห็นดีเห็นงามไปด้วยเอาง่ายแม้แต่ดอกหญ้ามันยังว่าสวยเลย แต่ถ้าเราผ่านอาการนี้มาได้ ก็จะมาเป็นชอบ ชอบกับหลงแตกต่างกันนะ อาการชอบจะเป็นอาการที่เป็นผู้ใหญ่มากกว่าอาการหลงจะรู้จักเข้าใจกันและกัน มากขึ้น เมื่อเราชอบแล้วก็จะพัฒนาเป็นรัก แต่กว่าจะผ่านอาการหลง ชอบ มาถึง รักได้ ก็คงลำบากน่าดูเลย

รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2009, 12:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
การรักษาใจ กับ การข่มใจ
โดย หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม



วันนี้จะบรรยายธรรม อนุสาวรีย์ของสมเด็จพระบรมศาสดา
แสดงความเคารพต่อพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์
ซึ่งเป็นหลักแห่งพระศาสนาที่นับถือของตน
คนเราจะต้องมีพระศาสนาเป็นเครื่องจูงใจ
จึงจะทำความรู้และความประพฤติของตนให้ประกอบด้วยประโยชน์
การนับถือพระศาสนาต้องเคารพนับถือพระพุทธเจ้าผู้เป็นเจ้าของ
ประพฤติตามธรรมคำสั่งสอนของพระองค์
นับถือพระสงฆ์เป็นผู้ปกครองรักษา เช่นเดียวกับอาณาจักร
อย่างพวกทหารเคารพนับถือสมเด็จพระมหากษัตริย์
และประพฤติตามวินัยที่ทรงบัญญัติ
สำหรับหมู่คณะของตนไม่ฝ่าฝืน
นับถือนายที่เป็นผู้ใหญ่เหนือตน
อันได้รับการศึกษาคุ้นเคยในกิจการ
ซึ่งสมเด็จพระมหากษัตริย์ทรงวางพระทัย
แต่งตั้งให้เป็นผู้บังคับบัญชา
ฉะนั้นพระศาสนา ปฏิบัติให้ถูกทางแล้ว
ย่อมสำเร็จประโยชน์แก่บุคคลทุกจำพวก
แม้พวกข้าราชการทหารก็ต้องยึดธรรมเป็นหลัก
จึงจะนับว่าเป็นทหารที่ดี

ธรรมที่ทหารควรยึดถือเป็นหลักนั้น
จะยกขึ้นกล่าวในที่นี้ ๒ ประการคือ
๑ ความรักษาใจ
๒. ความข่มใจ

ธรรม ๒ ประการนี้เป็นของสำคัญ
เพราะใจเป็นเครื่องกระทบอยู่รอบข้าง
ถ้าไม่มีธรรมกำกับอยู่ด้วย
มักจะเพลิดเพลินไปในอารมณ์ที่ล่อให้มัวเมา
และสะดุ้งหวาดหวั่น ด้วยอำนาจอารมณ์ที่ขู่ให้ตกใจ
เมื่อใจแชเชือนไปเช่นนั้น
การพูดการทำก็ย่อมเชือนไปตามกัน

เมื่อความประพฤติเสีย แม้จะมีวิทยาความรู้สักเพียงไร
ก็ไม่เป็นประโยชน์ กลับจะใช้ความรู้ในทางที่ผิด
เป็นดังนี้ ก็ด้วยอำนาจความคิดอันวิปริต
สมดังสุภาษิตโบราณท่านกล่าวไว้ว่า
ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด ข้อนี้ ต้องจำใส่ใจไว้


ที่มา คัดลอกจาก...กฎแห่งกรรม - ธรรมปฏิบัติ เล่มที่ 1


รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ต.ค. 2009, 13:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
11 ข้อแนะนำเด็ดๆ ให้คนอยากมีรักพิจารณา


แม้จะเลยวันที่ 14 กุมภาวันวาเลนไทน์มาแล้ว ดูเหมือนว่าโลกของหลายคนยังเป็นสีชมพู
มองอะไรก็ดูงดงามไปหมด แต่...ใช่ว่าโลกทั้งใบจะใช่สำหรับคนมีความรักกลุ่มเดียวเท่านั้น
เพราะมีอีกไม่น้อยที่โลกยังคงขรึมทึมเทา ด้วยความรักไม่ได้หอมหวานเช่นใครเขา


หลายคนท้อแต่หลายคนก็ยังมุ่งมั่นที่อยากจะมีคู่ตุนาหงันกับเขาเสียที
แต่จะทำอย่างไรดีที่ไม่ต้อง เศร้า เหงา เพราะรักอีกต่อไป

เรื่องนี้ น.พ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์ โรงพยาบาลมนารมย์เล่าว่า
แม้การมีคู่สำหรับบางคนอาจเป็นเรื่องง่ายแต่ก็เป็นเรื่องยากสำหรับบางคน
อยากให้คิดว่า การมีคู่มิใช่สักแต่ว่าขอให้มี หรือมีเพราะลบคำสบประมาท
หรือมีแก้เหงาเท่านั้น แต่ควรพิจารณาเลือกคู่ด้วยความรอบคอบ

วิธีการอินเลิฟแบบมีสตินั้น ควรจะเริ่มต้นด้วยการสลัดความเหงาทิ้งไปก่อน
เริ่มต้นความรัก ด้วยการรักตัวเอง ดูแลสุขภาพกาย-ใจ
เปลี่ยนจากการเป็นผู้รับมาเป็นผู้ให้ ค่อยๆ มอง ค่อยๆ พินิจผู้ที่เข้ามาอย่างประณีต

และนี่คือ 11 ข้อแนะนำเด็ดๆ มาให้คนอยากมีรักพิจารณา

:b43: 1.อายุ ไม่ควรต่างกันเกิน 10 ปี และฝ่ายชายควรจะอายุมากกว่าฝ่ายหญิง
เพราะความต่างของอายุจะมีผลต่อความคิดที่อาจเป็นสาเหตุของการไม่ลงรอยกัน
ขณะเดียวกันที่คนที่อายุมากกว่ามักคิดว่าตนเองดูแก่กว่าคู่
ทำให้เกิดความหึงหวง หวาดระแวงกลัวการสูญเสีย บั่นทอนความสุขของชีวิตคู่

:b43: 2. ความมั่นคงในอาชีพและรายได้ แต่ละฝ่ายควรมีความสามารถในการเลี้ยงดูครอบครัว
โดยมีบทบาททัดเทียมกัน เช่น ฝ่ายชายทำงานเลี้ยงครอบครัว
ฝ่ายหญิงก็ทำหน้าที่แม่บ้านได้ไม่ขาดตกบกพร่อง
ปัญหาที่จะมองว่า ฝ่ายหนึ่งมาเกาะอีกฝ่ายหนึ่งกินก็จะไม่เกิดขึ้น

:b43: 3.มีความปรารถนาดี นับถือ และยอมรับ ในรสนิยมและบุคลิกภาพซึ่งกันและกัน
แม้จะมีความคิดที่แตกต่างกันก็ตาม การยอมรับในตัวตนของกันและกัน จะทำให้มีการปรับตัวได้ดีขึ้น
และเวลาที่อยู่ด้วยกันไม่ควรทำให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้สึกต่ำต้อยด้อยคุณค่ากว่ากัน

:b43: 4.ควรมีความใกล้เคียงกันในทุกๆ ด้าน เช่น ระดับการศึกษา ภูมิหลัง คุณธรรม ศาสนา
วัฒนธรรม ประเพณี ความสนใจ ฐานะทางเศรษฐกิจ รวมไปถึงรสนิยมทางเพศ

:b43: 5.มีเวลาที่ได้ใกล้ชิด ได้เรียนรู้กันและกันนานพอสมควร เพื่อจะได้รู้จักกันในทุกๆ ด้าน
โดยเฉพาะวิธีการแก้ปัญหาและการปรับตัวต่ออุปสรรคในการดำเนินชีวิตของแต่ละฝ่าย

:b43: 6.อย่าคิดว่า "โลกนี้มีเราแค่สองคน" ควรรู้จักครอบครัว เพื่อน และสังคมของกันและกัน
นอกจากเป็นการให้เกียรติต่อกันแล้ว ยังเป็นโอกาสที่จะได้ปรับตัวเข้ากับสังคมของอีกฝ่ายด้วย

:b43: 7.อย่าตัดสินใจเลือกคู่ด้วยความฉาบฉวย เพียงแค่ถูกใจแบบ "คนนี้ใช่เลย"
หรือคิดว่าเป็น "บุพเพสันนิวาส" เพราะอาจจะเป็นความคิดเข้าข้างตัวเอง
การหลงรูปลักษณ์ภายนอกเป็นอันตรายอย่างใหญ่หลวงสำหรับการเริ่มต้นคบใครสักคนหนึ่ง

:b43: 8.แต่ละคนทดแทนกันไม่ได้ อย่ามองว่าการมีคู่จะชดเชยสิ่งที่ขาดหาย
หรือคาดหวังสูงที่จะใช้เป็นที่พึ่งพิง เพราะในที่สุดความสัมพันธ์แบบนี้จะจบลง
เพราะไม่มีใครที่จะคอยมาตอบสนองความต้องการของเราได้ตลอด

:b43: 9.เปลี่ยนตัวเองก่อนที่จะะเปลี่ยนคนอื่น
หรือพร้อมที่จะปรับตัวโดยไม่คาดหวังว่าอีกฝ่ายจะแก้ไขข้อบกพร่อง
การเริ่มจากตัวเองเป็นวิธีการที่ดีและง่ายที่สุด

:b43: 10.เป็นที่ปรึกษาซึ่งกันและกัน เพราะการร่วมกันวางแผนชีวิต
จะบอกได้ว่าอนาคตของชีวิตคู่จะเป็นอย่างไร

:b43: 11.อย่าลืมใช้ EQ หรือ การใช้ความฉลาดทางอารมณ์
เพราะสาเหตุของการเลิกรามักจะเกิดจากการใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล
ต่างฝ่ายต่างเอาชนะกัน ทำให้ครอบครัวจะไม่สามารถไปถึงจุดมุ่งหมายที่ต้องการได้


หากยังไม่มีผู้ที่ผ่านกระบวนการสรรหาก็อย่าได้เศร้าโศกเสียใจ
มองตัวเองอับเฉาจนบุ่มบ่ามรีบตัดสินใจจนผิดๆ พลาดๆ ไป

พึงคิดเสียว่า หากแผ่นดินไร้ชาย (หรือหญิง) ที่พึงเชย...
จงอย่ามีคู่เสียเลยน่าจะดีกว่านะ จะบอกให้ !!

รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 57 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 56 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร