วันเวลาปัจจุบัน 18 เม.ย. 2024, 16:51  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2009, 11:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 08:36
โพสต์: 532

แนวปฏิบัติ: ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: กรรมทีปนี , วิมุตติรัตนมาลี , ภูมิวิลาสินี
ชื่อเล่น: เจ้านาง
อายุ: 0
ที่อยู่: อยู่ในธรรม

 ข้อมูลส่วนตัว


:b44: คุณแม่จอย & คุณพ่อธนกฤต พ่อแม่หัวใจเพชร :b44:

:b41: กำลังใจไม่มีวันหมด ความหวังไม่มีวันถดถอย

:b41: พลังแห่งความรักอันบริสุทธิ์ของพ่อแม่นั้นอยู่เหนือโรคร้ายที่คุกคามสุขภาพของลูก ไม่ว่าลูกน้อยจะเป็นเช่นไร ไม่ว่าจะเหนื่อยยากลำบากทั้งกายและใจ แต่พ่อแม่หัวใจเพชรที่ทั้งแข็งแกร่งและงดงามทั้งสองท่านนี้ก็ดูแลลูกน้อยอย่างดีที่สุด และความหวังไม่เคยเหือดหายไปจากหัวใจของพวกเขาเลย

:b41: เรื่องราวของคุณพ่อธนกฤต และลูกน้อยทั้งสามคนเป็นเรื่องราวที่รู้จักกันดีในเว็บบอร์ดของ momypedia.com น้ำใจจากเพื่อนๆ สมาชิกเว็บบอร์ดของเราได้หลั่งไหลสู่ครอบครัวหงษ์ดีอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่เรื่องราวของคุณพ่อธนกฤตถูกโพสต์ลงในเว็บบอร์ดโดยเพื่อนสมาชิก เมื่อเร็วๆ นี้ทีมงาน momypedia.com จึงได้เดินทางไปมอบของใช้จำเป็นที่ได้รับความอนุเคราะห์จากสปอนเซอร์ใจดี และเงินช่วยเหลืออันเป็นน้ำใจจากชาวรักลูกกรุ๊ป ที่ขอเป็นอีกหนึ่งแรงใจให้กับครอบครัวหงษ์ดี และแน่นอนเราไม่ลืมที่จะพูดคุยเพื่อนำเรื่องราวของคุณแม่จอย คุณพ่อธนกฤต และลูกน้อยทั้งสาม 3 คนมาบอกเล่าความเป็นไปสู่คุณผู้อ่าน

:b41: ความหวังที่ไม่เคยเลือนหายไปกับเวลา เมื่อลูกน้อยวัยกำลังน่ารักล้มป่วยลงด้วยโรคสมองฝ่อพร้อมกันทั้ง 3 คน จากเด็กสดใสวิ่งเล่นไปโรงเรียน ได้เช่นเด็กคนอื่นๆ ตอนนี้หนูน้อยทั้ง 3 คนนอนป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ พ่อแม่ต้องดูแลราวกับลูกทั้งสามคนกลับไปเป็นทารกอีกครั้ง หัวใจของคนเป็นพ่อแม่แทบสลาย แต่เพราะความหวังที่ไม่เคยถดถอย คุณแม่จอย ภัทรวรินทร์ และคุณพ่อธนกฤต หงส์ดี จึงไม่เคยละทิ้งความหวังที่ลูกจะกลับฟื้นมาดีขึ้น และเฝ้าดูแลลูกน้อยทั้งสามคนอย่างดีที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้ คุณพ่อธนกฤตบอกถึงความหวังของเขาว่า ไม่ต้องกลับคืนมาเป็นเด็กฉลาด ไม่ต้องเรียนหนังสือเก่งก็ได้ ขอแค่ลูกฟื้นตัวกลับช่วยเหลือตัวเองได้บ้างก็ดีใจที่สุดแล้ว

:b41: ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว น้องมินต์ และน้องมายด์ ลูกสาวฝาแฝดวัยประมาณ 5 ขวบเริ่มมี อาการของโรคสมองฝ่อขึ้นมาก่อน คุณพ่อธนกฤต พาเราย้อนกลับไปในวันแรกที่รู้ว่าลูกป่วย คุณพ่อบอกว่าครั้งแรกที่รู้เรื่อง คุณครูที่โรงเรียนโทรมาบอกว่า อยู่ดีๆ น้องมินต์ก็มีอาการทรงตัวไม่ได้ เดินเองไม่ได้ ต้องนั่งพิงผนังตลอดเวลา พอทราบเรื่องคุณพ่อคุณแม่ก็รีบพาน้องมินต์ไปหาหมอที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดน่าน หลังจากนั้นอีก 3 วัน น้องมายด์ แฝดผู้น้องก็มีอาการคล้ายกัน แพทย์ที่โรงพยาบาลน่านจึงส่งตัวเด็กทั้งสองคนไปรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางสมองและระบบประสาทที่โรงพยาบาลใหญ่ในตัวจังหวัดเชียงใหม่ ในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่า น้องมินต์ น้องมายด์ป่วยด้วยโรคอะไรกันแน่ ประมาณ 1 เดือนต่อมา น้องสมาร์ท ลูกชายคนสุดท้องที่มีอายุน้อยกว่าพี่สาวฝาแฝดแค่ปีเดียวก็เริ่มมีอาการเดียวกัน

:b41: เหนื่อยเพียงกาย แต่ยังมีแรงใจเสมอ ปัจจุบันเด็กๆ ทั้งสามคนมีอาการทรงตัว น้องๆ ยังดื่มนมและกินอาหารเหลวได้ แต่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เดินไม่ได้ นั่งไม่ได้ ขยับตัวไม่ได้ รับประทานอาหารเองไม่ได้ พูดไม่ได้ ดวงตาเหม่อลอย ไม่ตอบสนอง และไม่สื่อสารใดกับพ่อแม่ "คุณหมอบอกว่า อาการระดับที่แย่ที่สุดคือ น้องไม่กินอาหาร เพราะระบบประสาทแย่จนกลืนอาหารไม่ได้ ถึงตอนนั้นต้องเจาะคอให้อาหารทางสายยาง ซึ่งเราไม่อยากให้อาการน้องเป็นอย่างนั้น ทุกวันนี้น้องยังกินอาหารได้ แม่ก็ดีใจ แต่วันไหนที่น้องไม่ยอมกินอาหาร เขาอาจจะเบื่อ เวลาป้อนเขาจะนิ่งไปเลย ไม่กลืน ไม่กิน ถ้าเป็นแบบนั้นทีไรเราจะกลัวมาก ก็จะบอกลูก ลูกต้องกินนะ ไม่อย่างนั้นต้องเจาะสายยางนะลูก กินเถอะนะลูก เราไม่อยากให้อาการของลูกถึงขั้นนั้นเลย แต่ถึงจะกลัวแค่ไหน แม่ก็ไปเรียนรู้เรื่องการให้อาหารทางสายยางจากคุณหมอไว้แล้วนะ"

:b41: คุณแม่จอยเล่าถึงการดูแลลูก และการเตรียมตัว เตรียมใจของเธอด้วยน้ำเสียงสดใส คุณแม่จอยยังเล่าถึงกิจวัตรประจำวันในการดูแลเด็กๆ ทั้งสามคน ทุกวันคุณแม่จะเป็นผู้ป้อนนม และป้อนอาหารซึ่งน้องๆ รับประทานได้เพียงอาหารเหลวซีรีแล็ค และในช่วงเย็นของทุกวัน คุณพ่อหรือคุณแม่ต้องทำกายภาพบำบัดให้กับน้องๆ ทุกคนอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง "ตอนเช้าแม่จะป้อนนม พอสายๆ ป้อนอาหารเหลวซีรีแล็ค จะเปลี่ยนรสชาติไปเรื่อยๆ ทุกวันเพราะบางทีน้องเขาเบื่อ ถ้าเขาเบื่อเราจะเห็นเลยว่า เขานิ่ง ไม่ยอมกลืน เวลาป้อนอาหารต้องป้อนให้เสร็จไปทีละคน คนละถ้วย จะได้รู้ว่าแต่ละคนกินอาหารปริมาณเท่าไหร่ มื้อเที่ยงก็ป้อนอีก มื้อเย็นก็ป้อนอีก ตอนเย็นก่อนนอนพ่อหรือแม่จะมาทำกายภาพบำบัด บีบนวดที่นิ้ว แขน ขา จับแขนขาของลูกยืด ไม่ให้เส้นเอ็น ของเขายึดแข็ง บางวันถ้าร้อนก็จะเช็ดตัว เราไม่ได้อาบน้ำให้ลูกทุกวัน จะอาบประมาณอาทิตย์ละครั้ง เพราะน้องเขาภูมิคุ้มกันไม่ค่อยดี อาบน้ำแต่ละครั้งก็หมดเวลาไปครึ่งวัน ต้องอุ้มลงมาอาบทีละคน"

:b41: คุณแม่จอยบอกว่าการป้อนอาหารลูกแต่ละมื้อใช้เวลานานนับชั่วโมง การอาบน้ำให้ลูก 3 คนใช้เวลาถึงครึ่งวัน ต้องอุ้มลูกน้อยลงมาอาบน้ำทีละคน นี่คือภาระหนักหนาที่พ่อและแม่ต้องแบกรับมาตลอด 5 ปี แต่สำหรับคนเป็นพ่อแม่ ด้วยความรักลูกอันไม่มีขีดจำกัด ความเหนื่อยยากไม่ใช่อุปสรรคขวางกั้น ความหวังในเรื่องการรักษา เนื่องจากเป็นโรคที่พบเพียงหนึ่งในล้าน และยังไม่มีทางรักษาที่แน่ชัด คุณพ่อคุณแม่จึงทำได้เพียงดูแลสุขภาพของน้องๆ ให้ดีที่สุด "คุณหมอก็บอกเราไม่ได้ว่าโรคเกิดจากอะไร บอกได้แต่ว่าเป็นโรคทางกรรมพันธุ์ หนทางรักษาก็มีแค่การผ่าตัดสมองแล้วรักษาด้วยวิธีสเต็มเซลล์ ซึ่งค่าใช้จ่ายสูงมาก 4-5 แสนบาทต่อคน ตอนนี้ยังไม่ได้รักษา เพราะเรายังไม่มีกำลังทรัพย์ขนาดนั้น แต่อยากให้มีการช่วยเหลือเรื่องการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญ ให้มีการนำน้องไปวิจัยเพื่อรักษาด้วยครับ" คุณพ่อบอกถึงความหวังในการรักษาลูก

:b41: นอกจากนี้ในช่วงแรกที่น้องๆ ป่วย นอกจากรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแผนปัจจุบันแล้ว หากได้ยินว่ามีแพทย์ทางเลือกอื่นๆ ที่ไหนรักษาดี คุณพ่อคุณแม่ก็หาทางพาลูกๆ ไปรักษา ตราบใดที่วิธีการรักษาไม่มีอันตรายกับลูก "ตอนที่เป็นแรกๆ ได้ยินว่าหมอที่ไหนดี หมอแผนโบราณ หมอพระ คนอื่นรักษาแล้วหาย เราก็จะพาลูกไป หมด เสียเงินไปเยอะเหมือนกัน แต่เราจะดูว่าวิธีการรักษาต้องไม่มีผลกับลูก อย่างคุณพ่อเขาจะไม่ให้ลูกกินน้ำมนต์ หรือดื่มยาอะไรจากหมอแผนโบราณเด็ดขาด พอไปหามากๆ ตอนหลังก็ไม่ได้พาไปแล้ว เก็บเงินไว้ซื้ออาหาร ซื้อนมให้ลูกดีกว่าค่ะ" คุณแม่จอยเล่าถึงความหวังในการรักษาที่ผ่านมา

:b41: สำหรับคุณแม่จอย ตลอดเวลาที่พูดคุยกับทีมงาน คุณแม่จอยยิ้มแย้มหัวเราะอารมณ์ดีตลอดเวลา แต่เธอบอกว่า กว่าจะมีวันนี้ที่ยิ้มได้ เธอผ่านช่วงเวลาแห่งการต่อสู้กับความรู้สึกเศร้าหมองต่างๆ มาอย่างทรหด "ตอนแรกก็ทำใจไม่ได้ ไม่อารมณ์ดีแบบนี้หรอกค่ะ ช่วงแรกปิดบ้าน ไม่พาลูกออกไปไหนเลยนะ เพราะถ้าพาออกไปทุกคนก็จะถาม ถามเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ ว่าลูกเป็นอะไร เราไม่อยากตอบซ้ำๆ เพราะตอบแล้วมันเสียใจ มันตอกย้ำเรื่องที่เราเสียใจ แต่พอเวลาผ่านไป พอเราได้ออกไปเจอโลกกว้าง ไปที่โรงพยาบาลบ่อยๆ ก็เห็นว่า ไม่ใช่แค่เราที่มีปัญหา เด็กบางคนเป็นเยอะกว่าลูกเราอีก บางคนพ่อแม่ต้องทิ้งลูกไว้ แล้วออกไปทำงาน เด็กก็จะสภาพแย่กว่าลูกเรามาก ได้เห็นแบบนั้นเราก็อยากจะไปช่วยคนอื่นๆบ้าง"

:b41: เนื่องจากคุณพ่อธนกฤตนั้นเคยทำงานเป็นนักจัดรายการวิทยุ และยังเป็นนักกิจกรรมในชุมชนมาก่อน ตอนนี้ ทั้งคุณพ่อธนกฤต และคุณแม่จอยจึงมีโครงการที่จะสร้างศูนย์บำบัดและเสริมสร้างพัฒนาการเด็กขึ้นในชุมชน "ได้ปรึกษากับ อบต. แล้วก็หลายฝ่าย แต่คงเป็นโครงการระยะยาวมาก เพราะต้องติดต่อประสานงานกับหน่วยงานราชการอีกเยอะ แต่เราก็อยากเป็นคนริเริ่มให้มีศูนย์แบบนี้ขึ้นมา เพราะเราเห็นเด็กในท้องถิ่นของเราเป็นโรคลักษณะนี้หลายคน อยากให้เด็กได้มาบำบัดที่ศูนย์นี้ ให้ศูนย์นี้มีเครื่องมือที่จะช่วยเด็กคนอื่นๆ ได้ด้วย"

:b41: แม้เป็นโครงการระยะยาวที่หวังให้เป็นจริงขึ้นมาในระยะเวลาอันใกล้นี้ยากมาก เพราะต้องใช้กำลังเงิน และเวลาสูงมาก แต่เพียงได้คิดริเริ่ม ได้ประสานงานและกระตุ้นให้หน่วยงานในชุมชนให้ความสนใจ ปัญหาเรื่องพัฒนาการเด็ก นี่ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณแม่จอย และคุณพ่อธนกฤตมีความสบายใจ มีความภาคภูมิ ใจที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น และพวกเขาแอบมีความหวังเล็กๆ ด้วยว่า หากทำความดีมากขึ้น หากช่วยเหลือเด็กคนอื่นได้ หากผลบุญนั้นมีจริงอาจส่งผลให้ลูกๆของพวกเขามีอาการดีขึ้นมาได้บ้าง

สนใจอ่านเรื่องราวของคุณพ่อธนกฤตและเพื่อนๆ ในเว็บบอร์ดติดตามได้ที่นี่

รักเธอไม่มีวันหมด...จากใจคุณพ่อธนกฤต

http://community.momypedia.com/webboard ... tid=146588

ส่วนท่านใดที่อยากส่งแรงใจให้กับครอบครัวหงษ์ดี สามารถส่งของใช้จำเป็นต่างๆ
อาทิ อาหารเสริมซีรีแล็ค นมผงสูตรต่างๆ ผ้าอ้อมสำเร็จรูปขนาด XXL ผ้ายางรองกันเปื้อน

สามารถส่งไปได้ที่
50/321 ม.15 หมู่บ้านเอื้ออาทร ต.ดู่ใส อ.เมือง จ.น่าน55000

หรือหากต้องการช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวหงษ์ดี
สามารถโอนเงินเข้าที่บัญชีนี้ ชื่อบัญชี นายธนกฤต หงษ์ดี ธนาคารกรุงเทพ สาขาน่าน
เลขบัญชี 337- 0 - 73967-8
:b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41:

.....................................................
...รู้จักทำ รู้จักคิด รู้ด้วยจิต รู้ด้วยศรัทธา...
..................ศรัทธาธรรม..................


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2009, 13:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.ย. 2009, 15:37
โพสต์: 112

ชื่อเล่น: ดอกพุทธ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆ คนลยนะคะ ขอให้หายป่วยโดยไว และสุขภาพกลับมาแข็งแรงดังเดิมค่ะ
แรงบุญจะช่วยค้ำจุนทั้งหมดค่ะ :b42:

.....................................................
หลอมจิตบรรจง สู่แสงแห่งธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ต.ค. 2009, 15:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ส.ค. 2009, 02:56
โพสต์: 290

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b2: :b2: :b2: ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจ ให้กับครอบครัวหงษ์ดี ค่ะ...


:b16: :b16: :b16: นู๋เอค่ะ

.....................................................
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระพุทธเจ้า
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระธรรม
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระสงฆ์
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระมารดาพระบิดา
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในครูอุปัชฌาย์อาจารย์
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่าง...สาธุ สาธุ สาธุ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 14 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร