วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 02:26  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2009, 11:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2009, 09:31
โพสต์: 292

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะ มีข้อสงสัยค่ะ อยากทราบว่าการแผ่เมตตาให้กับคนอื่นที่ยังมีชีวิตอยู่ หรือคนที่เขาโกรธเรา เกลียดเรา ไม่ชอบเรา หรือมีปัญหากับเราจะได้ผลอะไรบ้างคะ คือเรามีคนที่เรารักและเคารพเขา เคยเป็นเพื่อนที่คอบปลอบใจ ให้คำปรึกษากันมา แต่เราทำผิดกับเขาทำให้เขาโกรธ และไม่อยากคบหรือให้คำปรึกษากับเราอีกแล้ว แต่เรายังอยากคบและเป็นเพื่อนกับเขาอยู่เหมือนเดิม มีเพื่อนแนะนำว่าให้แผ่เมตตาให้เขาจะช่วยได้ แต่เราก็สวดมนต์แผ่เมตตาให้เขาทุกวันเป็นเวลาเกือบเดือนนึงแล้วนะคะ แต่ก็ยังไม่เห็นผลอะไรเลย เขาก็ยังเป็นเหมือนเดิม ไม่ค่อยอยากคุยกับเราเหมือนเดิม แต่เราก็พยายามโทรหาเขาเสมอ เวลาว่างๆหรือจิตใจไม่สงบ ฟุ้งซ่านคิดมาก เสียใจ เหงาก็จะพยายามสวดคาถาชินบัญชร แผ่เมตตาให้เขาตลอด ช่วงนี้ก็สงบจิตใจขึ้นมากเพราะว่าได้เข้ามาที่ลานธรรมจักร ก็ได้ข้อคิดอะไรมากขึ้น ถ้าเราอยากมีจิตใจที่สงบไม่ฟุ้งซ่าน ไม่ต้องปรุงแต่งจิตของเราให้เศร้าหมองเหมือนที่ผ่านมา เราต้องทำอย่างไรบ้างคะ รบกวนช่วยอนุเคราะห์แนะนำแนวทางด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2009, 12:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 06:18
โพสต์: 731

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อัพพะยา ปัชฌัง สุขัง โลเก
การไม่เบียดเบียนกันเป็นความสุขในโลก


ในทางพุทธศาสนานั้น พระพุทธเจ้าสอนให้เราถือว่า
สัตว์ทั้งหลายเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
เราอย่าไปโกรธเขา เราอย่าไปเกลียดเขา
ให้นึกถึงอกเขาอกเราว่าเราต้องการความสุขอย่างใด
เขาก็ต้องการความสุขอย่างนั้น
เราเกลียดความทุกข์อย่างใดเขาก็เกลียดความทุกข์อย่างนั้น
สิ่งใดเราไม่ชอบสิ่งนั้นเขาก็ไม่ชอบเหมือนกัน
เวลาเราพบใครเราก็ควรนึกว่า ขอให้คุณเป็นสุขเป็นสุข
ให้คุณปราศจากความทุกข์ ความเดือดร้อน
ขอให้คุณมีความเจริญก้าวหน้าในชีวิต ในการงาน
เพียงแต่เราคิดเท่านั้นเราก็สบายใจแล้ว
เพราะเป็นความคิดที่แผ่เมตตาปรารถนาดีต่อเขา
ถ้าเราคิดให้คนอื่นสบาย เราก็สบาย
ถ้าเราคิดให้คนอื่นเดือดร้อน เราก็มีความทุกข์ความเดือดร้อน
ลองพิจารณาดูตัวเราเองขณะที่เราเกลียดคนอื่น
โกรธคนอื่น เราคิดพยาบาทคนอื่นใจของเราป็นอย่างไร?
เราก็จะรู้ได้ด้วยตนเองว่าใจของเราร้อน ใจของเรามืดมัว ใจของเราวุ่นวาย ไม่มีความสงบเกิดขึ้น
ตรงกันข้าม ถ้าเราคิดไม่เบียดเบียนใคร ไม่ทำใครให้เดือดร้อน เราก็มีความสุขความสบาย ตามพุทธภาษิตข้างต้น

ขอกราบอนุโมทนาบุญ สาธุ.................. tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2009, 13:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ส.ค. 2009, 12:54
โพสต์: 70

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b16: การแผ่เมตตาอย่างน้อยก็สามารถทำให้เรารู้สึกดีขึ้นจิตใจสงบและทำให้เราไม่โกรธหรือโมโห จะเป็นเวลวที่ดีในขณะแผ่เมตตาคุณทำไปเถอะซักวันคนที่คุณแผ่เมตตาให้เขาจะดีขึ้นค่ะ(อาจจะช้าหน่อยนะค่ะ) :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2009, 14:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ส.ค. 2009, 02:56
โพสต์: 290

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8: การแผ่เมตตาทำให้เรารู้สึกสุขใจค่ะ มีความสุข และเกิดปิติขึ้นในใจอ่ะคะ

:b17: :b17: :b17: นู๋เอค่ะ

.....................................................
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระพุทธเจ้า
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระธรรม
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระสงฆ์
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในพระมารดาพระบิดา
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในครูอุปัชฌาย์อาจารย์
ข้าพเจ้าเคารพพระธรรม ที่มีอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่าง...สาธุ สาธุ สาธุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2009, 15:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ค. 2009, 16:10
โพสต์: 149

งานอดิเรก: ปลูกต้นไม้
ชื่อเล่น: off
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สบายใจค่ะ

.....................................................
(กัมมุนา วัตตะตี โลโก)
สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2009, 15:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ม.ค. 2009, 20:45
โพสต์: 1094

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อย่างแรกช่วยลดความมีทิฏฐิ ความเห็นแก่ตัวของเรา

เพียงแค่คิดอยากให้ผู้อื่นเป็นสุขก็เป็นกุศลจิตแล้ว

ไม่มีใครที่เป็นได้ดั่งใจเรา หรอก ขนาดเรายังไม่เป็นอย่างที่ใจเราต้องการทุกครั้งเลย

แผ่เมตตาทุกวันดีแล้วครับ อย่างน้อยเมื่อจิตใจเรามีเมตตา

ความเมตตานี้จะแผ่ไปยังคนรอบข้างเราแน่นอนครับ

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2009, 20:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2009, 09:31
โพสต์: 292

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณค่ะ ที่เข้ามาช่วยให้คำตอบ แล้วถ้าเราแผ่เมตตาให้เขาไปเรื่อยๆ เขาจะกลับมาคบหาเราเหมือนเดิมหรือเปล่าคะ เพราะเราอยากให้เขากลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเหมือนเดิม อีกอย่างรู้สึกผิดกับเขาที่ทำไม่ดีต่อเขา ก็หวังว่าเขาจะให้อภัยในสิ่งที่เราทำผิดไป ที่ผ่านมาก็พยายามปรับปรุงตัวแล้วนะคะ แต่เขาบอกว่าเราไม่นิ่ง เราไม่มีสมาธิ เป็นคนใจร้อน เอาแต่ใจตัวเอง อยากให้เราไปปฏิบัติธรรมหรือศึกษาธรรมะให้จิตใจไม่ฟุ้งซ่าน เขาคงไม่อยากมีเพื่อนที่เป็นเหมือนคนบ้าใช่มั้ยคะ บอกตามตรงว่าที่ผ่านมาเหมือนคนบ้าเลยค่ะ พูดจาวกไปวนมา วันนี้อย่างพรุ่งนี้อย่าง คิดอะไรได้ก็ทำตามนั้นเลย ใจมีแต่ความฟุ้งซ่าน ไม่นิ่งไม่ปกติ ตอนนี้อยากเป็นคนปกติเหมือนอย่างคนอื่นเขาบ้าง อยากเป็นผู้หญิงดีๆที่มีแต่คนเข้ามาหา ตอนนี้แม้แต่เพื่อนก็เบื่อหน่ายนิสัยแบบนี้ของเรามาก ไม่รู้จะทำอย่างไรดีค่ะ


แก้ไขล่าสุดโดย ปริตา เมื่อ 03 ก.พ. 2010, 11:40, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ต.ค. 2009, 22:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2008, 14:07
โพสต์: 285

อายุ: 0
ที่อยู่: ประเทศไทย

 ข้อมูลส่วนตัว


แผ่เมตตา ไม่ได้ช่วยให้เพื่อนจะคบหรือไม่คบเรานะ
แผ่เมตตาช่วยให้เราใจเย็น ให้อภัยหรืออวยพรคนอื่นได้ง่ายขึ้น ไม่อิจฉาริษยา คุยด้วยก็มีความรู้สึกดีๆ
ซึ่งเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง ที่ทำให้คนอยากคบหาด้วย
แต่ไม่ใช่สิ่งรับประกัน 100% ว่าเพื่อนจะคบด้วยแน่นอน

แต่ถ้าอยากให้เพื่อนกลับมาคบด้วย
ก็ต้องกลับไปทบทวนตัวเองว่า มีข้อเสียอะไร ที่ทำให้เสน่ห์เราหายไป
แล้วค่อยแก้ๆ กัน

สำหรับปัญหาว่าคุณใจไม่นิ่ง
ทางที่เพื่อนคุณแนะนำ ผมก็เห็นด้วยนะครับ คือให้ไปลองปฎิบัติธรรมดู

ถ้าอยากทำใจให้สงบ
ควรเริ่มจากวิธีง่ายๆ ก่อน คือสวดมนต์ไหว้พระ เพื่อเป็นพื้นฐานไปสู่ การเดินจงกรม หรือนั่งสมาธิ
สำหรับการสวดมนต์ครับ แนะนำให้ลองสวดบทสวดมนต์ที่หลวงพ่อจรัญสอนนะครับ
ให้ลองสวดบทอิติปิโสสัก 108 จบด้วยก็จะดีครับ
เสร็จแล้วก็ไปเดินจงกรม 15-30 นาที นั่งสมาธิสัก 15-30 นาที จะรู้สึกว่าจิตใจสงบขึ้นมาบ้าง

และถ้ามีเวลาว่างก็ลองไปฝึกกับครูบาอาจารย์วิปัสสนาจากสถานที่ต่างๆ เช่น
หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน http://www.jarun.org
แม่ชีทศพร วัดพิชยญาติการาม http://www.thossaporn.com
เสถียรธรรมสถาน http://www.sdsweb.org

แต่ถ้าใจยังฟุ้งซ่านอยู่ คิดมาก สงบได้ยาก
ก็แนะนำให้ฝึกวิธี ดูจิต ของหลวงพ่อปราโมทย์
สำหรับรายละเอียดวิธีฝึก ก็ขอให้ศึกษาได้ตรงที่เวบ
http://www.wimutti.net


ลองฝึกปฎิบัติดูนะครับ แล้วสักพักผลจะปรากฎต่อคุณเองครับ ลองพิสูจน์ดู

.....................................................
"ใครเกิดมา ไม่พบพระพุทธศาสนา ไม่เลื่อมใส ไม่ปฎิบัติ ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย เป็นโมฆะตลอด ตั้งแต่วันเกิดจนวันตาย"

"ให้พากันหมั่นให้ทาน รักษาศีล เจริญเมตตาภาวนา"

พระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
http://www.luangta.com/

"ทำสมาธิมากเนิ่นช้า คิดพิจารณามากฟุ้งซ่าน หัวใจของการปฏิบัติคือการมีสติในชีวิตประจำวัน"
หลวงปู่มั่น

"ดูจิต...ด้วยความรู้สึกตัว"
หลวงพ่อปราโมทย์ สวนสันติธรรม ชลบุรี
http://www.wimutti.net


แก้ไขล่าสุดโดย kritsadakorn เมื่อ 06 ต.ค. 2009, 22:05, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 15 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร