สวัสดีคะ จริงๆ แล้วพวกเราน่าจะหาโอกาสรวมตัวกันสักครั้งก็น่าจะดีนะคะ

ทรรศนะเกี่ยวกับโลกและชีวิตฝ่ายพระพุทธศาสนานั้น พระพุทธองค์ทรงแสดงเป็นกลางๆ ว่า สิ่งทั้งหลายเกิดแต่เหตุ เมื่อเหตุดับ สิ่งที่เกิดแต่เหตุก็ย่อมดับไป เหมือนไฟซึ่งเกิดแต่เชื้อ เมื่อสิ้นเชื้อไฟก็ย่อมดับไปเป็นธรรมดา พระพุทธเจ้าทรงแสดงว่าสิ่งทั้งหลายย่อมเป็นไปตามเหตุปัจจัย เป็นปฏิจจสมุปบาท คือ สิ่งที่อาศัยกันเกิดขึ้น (Dependent Orgination or Interraction) เป็นเหตุเป็นผลของกันและกัน

เกี่ยวกับสุขทุกข์แห่งชีวิตนั้น พระพุทธเจ้าทรงแสดงสุขทุกข์ว่า เกิดแต่เหตุ เช่น ในอริยสัจ ๔ ทรงแสดงเรื่องทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ ความดับทุกข์ (สุข) และทางปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์

ในเรื่องจริยธรรม ทรงสอนให้มนุษย์เว้นจากการเบียดเบียนกัน ให้เอื้อเฟื้อช่วยเหลือกัน บำเพ็ญประโยน์ต่อกัน เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขในสังคม คนในสังคมใดปฏิบัติตามหลักที่ทรงสอนไว้นี้ สังคมนั้นก็ประสบสันติสุขตามสมควรแก่การปฏิบัติ

พระพุทธองค์ตรัสต่อไปว่า สัตว์ทั้งหลายถูกทิฏฐิต่างๆ ดังกล่าวมาคล้องไว้ หมกอยู่ในทิฏฐิแล้วนั้นเหมือนปลาติดข่าย ไม่อาจดิ้นให้หลุดออกไปได้ พวกเขาพอใจ ติดใจในผัสสะแห่งอายตนะต่างๆ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ มีความทะยานอยาก มีความยึดมั่นหรือติดใจ ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดทุกข์โทมนัสเป็นอันมาก ส่วนคถาคต (คือ องค์พระพุทธเจ้า) เป็นผู้ตัดตัณหาอันเป็นเหตุให้วนเวียนเกิดในภพน้อยใหญ่ได้แล้ว (จึงไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป ไม่มีทิฏฐิใดๆ คล้องไว้ได้ เหมือนปลาที่หลุดออกจากข่าย ว่ายไปได้ตามปราถนา)
*****ความทุกข์เป็นสิ่งที่มนุษย์เผชิญหน้าอยู่ทุกวัน

*****นั้นไม่ใช่หนทางดับทุกข์
คุณ ควรหันมาสนใจปัญหาทางจริยธรรมและทางดับทุกข์ อีกทั้งรีบปฏิบัติตามมรรคมีองค์ ๘ และควรหมั่นเจริญวิปัสนาทำปัญญาให้รุ่งเรืองแจ่มใส ก็จะสามารถรู้เห็นสิ่งต่างๆ ตามเป็นจริงได้เอง เมื่อรู้จริงแล้วก็ไม่แล่นไปติดนั่นติดนี่อันเป็นส่วนสุดโต่งด้านใดด้านหนึ่ง แต่จะเดินอยู่ในทางสายกลาง (มัชฌิมา-ปฏิปทา) นั้นได้เอง

ขอให้โชคดีนะคะ

สวัสดีค่ะ.... พี่เพชร



บ้านพิมน้ำยังไม่ท่วมค่ะ.... แหะ แหะ คงไม่ท่วมแล้วล่ะ

พี่เพชรเก่งจัง.... หากระทู้ของพิมเจอด้วยค่ะ


คิดถึงพี่เพชรนะคะ

พิม

สวัสดีค่ะ น้องพิมพลอย

ขออนุญาตเรียกน้องนะคะ เพราะพี่แก่กว่า(นิ๊สนึง) ได้เข้ามาเยี่ยมชมบ้านและรับฟังเรื่องราว (ยาววววว...มั่ก) ชีวิตของน้องพิมนี่เอามาสร้างเป็นละครได้เลยนะ แต่เชื่อมั้ยว่า พี่เป็นคนไม่ชอบดูละครค่ะ ยิ่งเรื่องเมียหลวงเมียน้อย อย่าง เรย่า หรืออะไรประมาณนั้น ชีวิตใครก็เป็นชีวิตมัน ไม่มีใครก๊อปปี้ใครได้อ่ะ พี่ยิ่งไม่สนใจใหญ่ เอาเวลามาอ่านหนังสือดีๆ หรือดูสารคดีดีๆจะดีกว่า จรรโลงโลกกว่าเยอะอ่ะ เอ...แต่เชื่อมั้ยคะว่า ชีวิตพี่เจออะไรหนักๆจากมารยาหญิงชู้ของสามีเยอะเลยค่ะ ถ้าเล่าแล้วอาจมีไตรภาค

ตอนนี้ เป็นยังไงบ้างแล้วคะ ชีวิตปกติสุขดีแล้วหรือยัง น้องพิมเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งและเด็ดขาดมากคนนึงนะ ขอชื่นชมค่ะ เราสองคนมีอะไรหลายๆอย่างคล้ายกันเลยค่ะ ที่สำคัญอยู่ใกล้ๆกันด้วยจ้ะ (ไว้วันหลังจะเล่าให้ฟังค่ะ)

แวะมาเยี่ยมบ้านแค่นี้ก่อนนะคะ แล้วจะมาคุยด้วยใหม่ค่ะ

พี่มะกอกมะนาว

สวัสดีค่ะ มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ ต้องใจเย็น ๆ ค่ะ ตั้งสติ ทำตัวเหมือนปกติ เคยเจอปัญหานี้
มาเหมือนกัน แต่ไม่เท่าของคุณพิมพลอยแค่คบกันที่ทำงานค่ะ พอเราจับได้เขาก็เลิก
จนมาระยะหลังๆ ก็คุยกับเขาตรง ๆ ว่าถ้าจะคบกับใครก็เลือกไปเลย อย่ามาทำแบบนี้
เขาก็บอกเขาเลือกเรา ผู้หญิงก็โทรมาหานะค่ะ ก็เลยคุยกับเขาไปตรง ๆ ว่าจะเอาแฟนพี่จริงไหม
จะยกให้ เอาไปแล้วห้ามเอามาคืนนะ ผู้หญิงเป็นแม่ม่ายลูกติด มีลูก 2 คนแต่คนละพ่อ แฟนเขา
โดนจับติดคุก แต่เราไม่มีลูกด้วยกัน ไม่มีจดทะเบียน ผู้หญิงคนนั้นเลยบอกว่าเขารักแฟนเรา
แต่แฟนเราเขาบอกว่าทิ้งเราไปไม่ได้หรอก เลยบอกว่าถ้าจะอยู่กันแบบนี้ขอเลิกดีกว่า แฟนเรา
ก้เลยเลิกกับเขาไป ผู้หญิงคนนั้นคงอายลาออกจากงานไปเลย เรากับแฟนทำงานกันคนละที่
พอเลิกกับแฟนเราได้สักพัก ก้ได้ข่าวว่าได้ผู้ชายคนใหม่แล้ว ก็ทำตัวปกติทุกอย่างตอนที่เกิด
เรื่อง ไม่เคยไปยุ่งโทรศัพท์เขาเลย บางครั้งรู้ก็ทำเป็นไม่รู้ จนเขามาสารภาพเองว่าเขาทำผิด
กับเรา สู้ ๆ นะค่ะ เป้นกำลังใจให้ค่ะ

สวัสดีค่ะ ... พี่มะกอกมะนาว


ชีวิตพิมก็ปกติสุขดีค่ะ..... ยังใช้ชีวิตในฐานะ พ่อ แม่ ลูก กันตามเดิม สามีก็กลับบ้านทุกวันค่ะ ไม่ได้ทะเลาะกัน เขาก็ยังดูแลลูกดีค่ะ..... ไปรับไปส่งลูกๆ ที่โรงเรียนทุกวัน

เราแยกกระเป๋าเงินกันอย่างชัดเจน แบ่งภาระรับผิดชอบในเรื่องเงินกันชัดเจน เขาก็รับผิดชอบดีอยู่....เพียงแต่ช่วงนี้เขาเองมีปัญหาบ้าง เนื่องจากวิกฤตน้ำท่วม ทำให้ธุรกิจกระท่อนกระแท่นพอสมควร ... พิมก็ให้ความช่วยเหลือเท่าที่พอจะช่วยได้บ้าง (แต่แอบบอกว่า .... ถ้ามีตังต้องคืนฉันนะ พร้อมดอกเบี้ย)

ตอนนี้โรงเรียนเปิดแล้ว..... ลูกๆ กลับมาอยู่กับพิมครบทั้งสามคน (พี่ทักทายไม่ต้องห่วงแล้วนะคะ) ก็เลยค่อนข้างยุ่งมาก เนื่องจากวันธรรมดาต้องดูเรื่องอาหารเช้า เสื้อผ้า การเรียน อ่านหนังสือ ทำการบ้าน ออกกำลังกาย ส่วนวันเสาร์ช่วงเช้าก็พาเด็กๆ ไปเรียนพิเศษภาษาอังกฤษ ตอนบ่ายก็พาไปเที่ยว แล้วแต่เด็กๆ จะเป็นคนคิดว่าจะไปไหน ส่วนวันอาทิตย์ช่วงเช้าก็พาเด็กๆ ไปเรียนดนตรี ช่วงบ่ายก็ไปนอนเล่นบ้านของคุณยายกัน ...... ส่วนใหญ่คุณพ่อเขาก็ทำหน้าที่ขับรถรับส่งค่ะ...



เมื่อก่อนพิมไม่ค่อยดูละครนะคะ เนื่องจากไม่ค่อยมีเวลา แต่ปัจจุบันพิมคิดว่าชีวิตคนก็เหมือนละคร พิมดูละครบ่อยขึ้น บางครั้งมันก็ทำให้เราเข้าใจอะไรมากขึ้น คนทุกคนมักจะมีเหตุผลอะไรที่เข้าข้างตัวเองเสมอค่ะ ดูแล้วก็ปลงได้ดีขึ้นค่ะ

พิม

สวัสดีค่ะคุณอรทัย 369


เพิ่งเห็นคุณตอบกระทูเข้ามาพอดีเลย ดีใจด้วยนะคะที่เขายอมเลิกได้ .... ขออนุญาตตอบสั้นๆก่อนนะคะ เนื่องจากติดประชุมตอน 10.45 น. ค่ะ

พิม