อ้อ...มี เรื่องน้องสะใภ้ มหาหิน ด้วยนะ...

ตอนที่แม่เราแต่งงานกับพ่อ ในบรรดาพี่น้องทางพ่อ ไม่เห็นด้วยเลย
เพราะเขาเห็นแม่เราเหมือนดอกดิน ส่วนพ่อเราถูกยกยอให้เป็นดั่งเทวดา ไม่คู่ควร

แต่พ่อเรา รักแม่เรานี่...หว่า และเห็นว่าแม่เราดีพอ
ก็เลย...แต่งงานโดยไม่สนใจใคร...
จนมีลูกผู้หญิงออกมาช่างน่ารัก หน้าทะเล้น อะไรป่านลิง...ฉะนี้...
จนพ่อสงสัย "มันเหมือนใคร..วะ"

ซึ่งแม่เราก็ไม่เคยต้องไป เอาอกเอาใจใครนะ...
ทำมาหากิน ดูแลคุณพ่อ และเลี้ยงดูพวกเรา
สร้างฐานะ ล้มลุกคลุกคลานกันมาเรื่อย...
ระยะเวลา ความดีของแม่เรา ได้พิสูจน์ให้พวกเขายอมรับไปเอง
จวบจนทุกวันนี้ พี่น้องทางพ่อเรียกแม่เราว่า "น้องสะใภ้ที่รัก"



คุณต้องถามใจตัวเองแล้วล่ะ
ว่าคุณเชื่อมั่นในคนที่คุณรักรึเปล่า...
ว่าเมื่อแต่งงานกันแล้ว เขาจะอยู่เคียงข้างเป็นแรงกายแรงใจ
และพร้อมลุยไปกับคุณได้ตลอดรอดฝั่ง...

ครอบครัวคุณ คุณต้องตัดสินใจเอง...นะจ๊ะ...

ขอระบายนิดนึงครับ ไม่เกี่ยวกับคำถามนะครับ

แม่ผมแกไม่ไว้ใจผม เพราะเมื่อก่อนพ่อผมสำมะเรเทเมาเป็นคนไม่สนใจความรู้สึกแม่ ที่รุนแรงที่สุดคือ บอกว่าแม่ผมล้างผลาญเงิน ซึ่งไม่จริงเลยครับแม่ประหยัดมาก พอคงพูดไปเพราะโมโหตอนทะเลาะกันโดยพูดมัึ่วๆไป แต่แม่แกจริงจังและใช้เหตุผล เลยเจ็บปวดอย่างแรง

ทุกวันนี้แกคอยมองหน้าผมทุกครั้งเวลา บอกว่าจะเอาค่าใช้จ่ายในบ้าน แกมองแบบจับผิดว่าผมจะแสดงสีหน้าไม่พอใจหรือเปล่า ผมละทำตัวไม่ถูกเลย หน้าผมจะซีดๆ ปกติผมไม่ใช่คนงกเงินเลย มีเท่าไหร่ให้แม่หมด แล้วก็ไว้ใจแม่มากที่สุด ใน จักรวาล พูดให้แม่ฟังหลายหนแล้ว(หลายปีแล้ว) แต่แม่แกคงเสียวๆ เลยต้องคอยเตือนผมตลอดว่าอย่าพูดแบบพ่อนะ ถ้าพูดเมื่อไหร่ล่ะก็ ..... ชั้นจะไม่อยู่ แล้ว ผมล่ะ หดหู่ใจครับ แต่ก็เข้าใจ สรุปว่า แกไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น ข้างบ้านเรียกขึ้นรถ ก็ไม่ขึ้น จะเดิน กลัวเขาทวงบุญคุณ แกเคยได้ยินข้างบ้านนินทาบ้านไหนไม่รู้ ว่า "ไม่มีรถแล้วยังหยิ่งอีก " แม่ผมเลยต้องยิ่งระวังมากขี้น
ไม่คบใครง่ายๆ

ถ้ามีลูกสะใภ้ มาอยู่ด้วย พูดคำเดียวว่าไม่เหลือ 55555 ลูกสะใภ้คนนั้นคงต้อง วัดใจสุดๆ ขนาดผมยังนอนร้องไห้บ่อยๆ เพราะเสียใจที่แม่ไม่ไว้ใจ (ทุกเรื่อง)

ถ้าย้อนกลับไปได้ ผมก็อยากเป็นโสดครับ กลัวแฟนจะรับไม่ไหว แล้วต้องเลิกกัน

เรื่องคนแก่น้อยใจนี่ผมเคยเห็น กรณีหนึ่งจากทีวีครับ ดาราตลกชายท่านหนึ่งที่เคยเล่นกับคุณล้อต็อก ผมจำชื่อไม่ค่อยได้ (สมพงษ์ พงษ์มิตร มั้ง)เคยดูข่าวว่า ด่าลูกหลาน ว่าเนรคุณ ซะเละเทะ จนลูกหลาน แย่ไปตามๆกัน

ผมเลยเข้าใจครับ

ระบายแค่นี้แหละ 5555

ระบายมาเถอะ ถ้ามันทำให้รู้สึก แจ๋มใส ขึ้นนะ
เมื่อแจ๋มใสแล้ว สมองก็ปลอดโปร่ง อาจจะเห็นทางสว่างรำไร



เท่าที่อ่าน ๆ ดู สภาวะจิตใจที่แม่คุณได้รับมา...น่าเป็นห่วง...ค่ะ
แต่ต้องมีคนสักประเภทสิ่คะ ที่พอจะมีกำลังสยบแม่คุณได้ อย่างเช่น...พระ...หน่ะ
แล้วแฟนคุณรู้เรื่องแม่ของคุณมากแค่ไหน...คะ... (ขอหัวเราะให้กำลังใจก่อน)



55555 อ่านแล้วเห็นภาพ... 5555 ขอหัวเราะเป็นกำลังใจให้อีกแรง



เป็นเราก็เผ่น... 55555 ถ้าไม่รีบเผ่นให้ทันคงเป็นได้เจอแม่คุณเอาไม้กวาดไล่ตี....

แล้วแฟนคุณรู้สถานการณ์ของแม่คุณรึเปล่าว แล้วเขามีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องแต่งงานว่าไงคะ

ไม่รู้ขนาดที่ผมเล่าให้ฟังหรอกครับ ความจริงเป็นสิ่งเจ็บปวด ผมเข้าใจว่า ทุกคนในกระทู้นี้คงอยากให้ผมบอกเลิกกับแฟนซะ 5555 แต่ ด้วยความเป็น ผู้ชายที่ต่อสู้มาด้วยตัวเอง มาตั้งแต่วัยรุ่น สิ่งทีผมเล่าเป็นความคิดภายในด้านหนึ่งเท่านั้น มีอะไรบางอย่าง(หัวใจที่เด็ดเดี่ยวมั้ง) บอกว่า ผมเอาอยู่

ผมอาจจะพูดวกวน ไปมา เืพื่อต้องการหลายความคิดเห็น เพราะพอผมมั่นใจในแฟนมากก็จะมีความเห็นว่าคิดไปเองหรือเปล่า ตาบอดหรือเปล่า ถ้าผมไม่มั่นใจ ก็จะมีคนบอกว่า ผมโลเล ขอโทษจริงๆครับที่ผมต้องทำเช่นนี้ กระทู้ตอบ 2-3 กระทู้แรก ดูจะทำให้ผม สุขุมใจเ้ย็นขึ้น แต่กระทู้ตอบ หลังๆ ทำผมป่วนและไม่แน่ใจ ตอนอ่านกระทู้ของคุณ โอรากอน ตอนแรก มันเสียดแทง จน แปล๊บ สะดุ้งเลยครับ แต่ก็ทำใจได้และ

ยังไงก็ขอบคุณครับ

หว๋าย...อะไรเราจะเป็นมือฝังเข็มที่แม่นยำปานนั้น...

ก็คิดอยู่ เพราะ...เห็นคุณชะงัก...จี๊ด...เลยล่ะ...

แอบเขกหัวเราในใจด้วย...รู้นะ... เจ็บนะ จะบอกให้

นี่คุณ ขอถามก่อนนะ คุณเกรินเรื่องแต่งงานกับแฟนคุณรึยัง...

นี่แฟนคุณยังไม่รู้เรื่องของคุณ จริง ๆ ง่ะ
5555....บอกความจริงกับแฟนคุณเสียเถิด...ได้โปรด
อย่าให้เขาต้องมารู้ในภายหลังเลย มันไม่แฟร์...มันทำร้ายจิตใจเรามาก ๆ เลย

เราไม่รู้นะ สมมติเปลี่ยนตัวตุ๊กตา แป๊บนึง
...ถ้าเราเป็นคนที่คบกับคุณเป็นแฟนมาตั้ง 8 ปี
แล้วคุณปิดบังเบื้องลึกในครอบครัวของคุณขนาดนั้น...
จนกระทั้งวางใจแต่งงาน หลังคืนวันแต่งงาน เราตื่นมาเผชิญหน้ากับความจริง...
คุณมองตาเราซะก่อน นี่... 5555
คงจะเป็นเรื่องที่ทำให้เราสบอารมณ์มาก ๆ เลย...
หะ หะ หะ รับรอง เราร้องหาใบหย่า แน่นอน...
ไม่สนด้วย... เราดื้อใส้ขาดเลย...จะบอกให้...





นี่...แล้วตอนนี้คุณหยุดวกไปวนมารึยังล่ะ...
นี่...ตอนอยู่กับแฟนเป็นงี๊ด้วยป่าว... นี่ดูตา 55555

ผมเชื่อครับว่า คุณ เอรากอน ดื้อ ไส้ขาด เลย แฟนผมก็พอรู้บ้างครับ ไม่ใช่ ไม่รู้อะไรเลย คงไม่เหมือนละครเรื่องปราสาทมืด อ่ะ แต่เรื่องละเอียด ๆ เล็กๆน้อยๆ ผมก็ไม่เล่าครับ คิดว่าไม่จำเป็นเท่าไหร่ ถ้ายิ่งทั้ง 2 ฝ่ายรู้เรื่องกันมากเท่าไหร่ แล้วไม่ได้เจอกัน จะจินตนาการกันเอาเองมากกว่า ให้เจอกันเองดีกว่า
ซึ่งก็เจอกันบ้างครับ ไ่ม่เห็นมีอะไร แฟนผมก็ชวนแม่คุยได้ตามปกติ แม่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าที่รังเกียจอะไร
ก็กลางๆครับ อย่าปล่อยให้ทั้งคู่จินตนาการก็พอ ผมว่า.......

ทีมีคนแนะให้เลิกกับแฟนล่ะ ไม่ยอมเชื่อ มีเล่นตัว
แต่พองี๊ล่ะ เชื่อง่ายจัง ...



คุณคงให้เขารู้เท่าที่จำเป็น...
OK นายกสมาคมสิทธิสตรี...พอจะยอมรับได้...



อื้อ...คงงั๊น ลองปล่อยให้เป็นเรื่องของผู้หญิง ... ก็อาจจะเป็นการดี
ผู้หญิงน่ะ ปรับตัวเก่งจะตาย... น่าจะงั๊นนะ...

แล้วถ้าแต่งงานกัน จริง ๆ เราถามแล้ว
ว่าคุณได้คุยเรื่องแต่งงานกับแฟนหรือยัง

และคุณได้คุยเรื่องแต่งงานกับแม่คุณรึยัง...

คือถ้ายังไม่คุย เราอยากรู้ว่าคุณวางแผนการณ์ในเรื่องนี้ไว้อย่างไร...
เผื่อสมาชิกในกระดานที่เขามีประสบการณ์ตรงกับคุณเขาจะเข้ามาช่วยแชร์ความคิด...

ตามดูการซักโจทย์อย่างกระชั้นชิด ท่านเอฯ go on..

ท่านบัวฯ ผมกำลังลุ้นระทึกนะครับ


...........

นี่คุณ... เรากำลังพยายามลองเป็นศีราณี...นะคุณ... อย่าทำเป็นมาแซวสิ่

นี่...มาแซวอย่างนี้ แสดงว่าฝีมือในการออกความเห็นในกระทู้ รัก ๆ ใคร่ ๆ ของเรา
มันห่วยแตกมาก...เลยใช่มั๊ย

ช่วยไม่ได้ ก็ไม่เคยมีประสบการณ์...นี่หว๋า...

ก็เห็นคนอื่นทำได้ แล้วอยากทำได้บ้าง...ง่ะ อย่างเช่นคุณ ดิดี๋...หน่ะ ดูคุณพูดเหมือนง่ายจัง...

คุณทำให้คนมีปัญหาหัวใจ...ผ่อนคลายลงได้ง่ายจัง...

แต่ดูเราสิ่... ไม่รู้ท่าทางเราจะทำให้ท่านบัว ฯ รู้สึกกดดันรึเปล่าล่ะนี่...

คุณบัวฯ จ๋า... อย่าคิดมากนะจ๊ะ เราถามไปตามน้ำ...หน่ะ...

ยังไงซะ... คุณก็ตอบมาตามน้ำ...ซะดี ๆ

ท่านเอฯท่านทำได้ยอดเยี่ยมแล้ว... ผมอดนึกไม่ได้ว่า ท่านบัวฯ คงมีบุญ"ไม่ธรรมดา" จึงสามารถได้รับคำแนะนำจากท่านเอฯได้ต่อเนื่องเช่นนี้.

ขออนุโมทนาทั้งสองท่านครับ ที่จะได้นำประโยชน์ทางความเห็นมาเจือจานแก่ผู้มีปัญหาคล้ายกันในที่ธารณะครับ

กลับมาแล้วครับ กำลังคิดว่าจะตอบดีไม่ตอบดีครับ เห็นบอกว่าเผื่อเป็นประโยชน์กับคนในบอร์ด เลยตอบซะหน่อย

ก็เพราะเตรียมตัวจะแต่งนี่แหละครับ แม่ผมถึงได้ ออกอาการชัด และแสดงความรู้สึกด้วยคำพูดหลายๆครั้งเมื่อก่อนแกก็ไม่ได้รู้สึกอะไร คิดว่าผมไม่เอาจริง คิดว่าจะเอาแฟนมาอยู่บ้าน เป็นไงเป็นกัน แต่แม่ผมเขาก็พูดออกมาบ้างว่าให้ผมไปอยู่กับแฟน 2 คนได้ เพราะสิ่งที่แกกลัวที่สุดยิ่งกว่าการที่ผมไปอยู่ที่อื่นคือ...... ถ้าเกิดเวลาแม่ไม่พอใจแฟนผมไม่ว่าจะเป็นเรื่องกิจวัตรประจำวันที่แกไม่ชอบ(ไม่สอดคล้องกับแก) หรือเรื่องใหญ่กว่านั้น เช่นแฟนผมไปว่าแกไปดูถูกแก ....ถ้าผมไปออกรับแทนแฟนผม แล้วมาว่าแก ....นั่นคือสิ่งที่แกกลัวที่สุดครับ
แต่ผมไม่อยากออกไปอยู่ 2 คน อยากอยู่กับแม่มากกว่า ส่วนแฟนผมกลัวที่จะต้องมาอยู่กับแม่ผมแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจเด็ดขาด แค่กลัวเท่านั้น

อันนี้ยังต้องคิดกันอีก รอดูเหตุการณ์ไปก่อนครับ ระหว่างที่รอนี่ คงโดน... อีกหลายรอบ เสียน้ำตากันอีกหลายยก (หมายถึงผมนะ)