วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 23:29  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ย. 2009, 12:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ส.ค. 2009, 22:34
โพสต์: 173

ชื่อเล่น: เจ้ก
อายุ: 23

 ข้อมูลส่วนตัว


ได้หยิบหนังสือที่ตีพิมพ์ธรรมที่หลวงปู่มั่นแสดงไว้มาอ่านอีกครั้ง ยังคงได้รับความร่มเย็น และเข้าใจธรรมที่ท่านแสดงมากขึ้น และส่วนที่ตัดตอนมานี้ เผอิญไปอ่านตอนที่มีคำถามนี้อยู่ในใจพอดี เลยคิดว่าน่าจะสามารถตอบคำถามเรื่องความรักได้ในระดับหนึ่ง เลยเอามาฝากครับ

ความรัก...ตัดตอนมาจากปฏิปัตติวิภังค์
หนังสือธัมมานุธัมมปฏิบัติ โดย พระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถร

ถาม เมตตา กรุณา กับรัก นั้นเหมือนกันหรือต่างกัน

ตอบ ต่างกันมาก อย่างละอริยสัจทีเดียว ความรักนั้นเป็นสมุทัย เมตตานั้นเป็นมรรค

ถาม เช่นรักบุตรหลาน ญาติมิตร คิดให้เป็นสุขและให้พ้นทุกข์หรือสงสาร จะว่าเป็นสมุทัยได้อย่างไร รู้สึกรสชาติของใจประกอบด้วยความเอ็นดูปราณี

ตอบ ความรักและความสงสารบุตรหลาน ญาติมิตร ประกอบด้วยฉันทราคะอาลัยห่วงใย กังวลพัวพันยึดถือ หนักใจไม่โปร่ง เมื่อคนรักเหล่านั้นวิบัติไป เช่น ตาย เป็นต้น ก็เกิดทุกข์โทมนัส เศร้าโศกเสียใจ อาลัยคิดถึง ถ้ารักมาก็โศกมาก สมด้วยพระพุทธสุภาษิตคาถาธรรมบทปิยวรรคที่ ๑๖ ว่า

เปมโต ชายเต โสโก ความโศกย่อมเกิดแต่ความรัก
เปมโต ชายเต ภยํ ภัยย่อมเกิดแต่ความรัก
เปมโต วิปฺปมุตฺตสฺส ความโศกไม่มีแก่ผู้พ้นแล้ว
นตฺถิ โสโก กุโต ภยํ จากความรัก ภัยจะมีมาแต่ที่ไหน

เพราะฉะนั้น จึงผิดกับเมตตากรุณา ส่วนรักนั้นมีความชอบและสงสารบุตรหลานญาติมิตร ไม่ทั่วไปในสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง เป็นแต่พรหมวิหาร ส่วนเมตตากรุณาที่เป็นอัปปมัญญานั้นทั่วไปในสัตว์ไม่มีประมาณ และไม่ประกอบด้วยความห่วงใยอาลัยพัวพันยึดถือ มีความโปร่งและเบาใจไม่หนัก มีจิตเย็นเป็นสุขและเป็นข้าศึกแก่พยาบาทโดยตรง และได้รับอานิสงส์ ๑๑ ประการด้วย ตามแบบที่ท่านแสดงไว้ในเมตตานิสังสสูตร ว่า

๑. สขํ สุปติ หลับก็เป็นสุข
๒. สุขํ ปฏิพุชฺฌติ ตื่นก็เป็นสุข
๓. น ปาปกํ สุปินํ ปสฺสติ ย่อมไม่ฝันเห็นลามก
๔. มนิสฺสานํ ปิโย โหติ ย่อมเป็นที่ชอบใจของมนุษย์ทั้งหลาย
๕. อมนุสฺสานํ ปิโย โหติ ย่อมเป็นที่ชอบใจของอมนุษย์ทั้งหลาย
๖. เทวตา รกฺขนฺติ เทวดาทั้งหลายย่อมรักษา
๗. นาสฺส อคฺคิ วา วิสํ ไฟหรือยาพิษหรือศัสตรา
วา สตฺถํ วา กมต ย่อมไม่ต้องผู้เจริญเมตตานั้น
๘. ตุวฏํ จิตฺตํ สมาธิยติ จิตของผู้เจริญเมตตาย่อมมั่นเป็นสมาธิเร็ว
๙. มุขวณฺโณ วิปฺปสีทติ สีหน้าของผู้เจริญเมตตาย่อมผ่องใส
๑๐. อสมฺมูโฬฺห กาลํ กโรติ ย่อมไม่มีสติหลงตาย
๑๑. อุตฺตริ อปฺปฏิวิชฺณนฺโต เมื่อยังไม่สำเร็จพระอรหันต์อันยิ่ง
พฺรหฺมโลกุปฺโค โหติ ย่อมไปเกิดในพรหมโลก

เจริญในธรรมทุกท่านครับ หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านไม่มากก็น้อยครับ

.....................................................
จะขอเป็นแก้วน้ำที่ว่างเปล่า..เพื่อเติมเต็มธรรมที่ขาดหาย


แก้ไขล่าสุดโดย เว็บมาสเตอร์ เมื่อ 21 พ.ย. 2009, 12:53, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 68 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร