ขอคำแนะนำหรืออะไรก็ได้ที่ทำให้ผมสามารถไปสอบในวันพรุ่งนี้และวันต่อ ๆ ไปได้ด้วยครับ

ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ

พูดไม่ออกเเต่เจอมาบ่อยแล้วละ

แบบนี้ยิ่งกับตัวเอง

เรื่องทะเลาะระหว่างศาสนา

เพื่อนผมก็เป็นคริส 55+

แล้วก็พูดแต่เรื่องพระเจ้า

แต่เผอิญผมรู้ทัน

55+

เพราะอ่านคัมภีย์ไบเบิล ใหม่ + เก่า และนักบุญของคริส

จนหมดแล้ว

พอพูดอะไรมา ผมรู้ทันหมด มันพูดไม่จบผมก็ต่อให้ด้วย

55+

มันจะชวนผมอ้างพระเจ้ายังไง

ผมก็ทันหมด 55+

มิสซา ก็ไปมาแล้ว ทำหมดทุกอย่างแล้ว ยกเว้นเปลี่ยนศาสนา 55+

ตั้งแต่ การเข้าไปสัมผัสพุทธะ

ก็เลิกทำบุญนอกข่ายพระศาสนา

ไม่สงสัยใน พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ สิกขา 3

แล้วก็เปลี่ยนศาสนาไม่เป็นด้วย



แต่ก่อนทะเลาะกันบ่อยมากเรื่องพระเจ้า

ต่อมาเลยตกลงสัญญา สันติภาพ

คุยกันได้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องศาสนา จะได้ไม่มีวิวาท



แนะนำเล็กๆน้อยๆ

1. เรื่องชอบผู้ชาย ผมไม่รู้ ไม่เคยเป็นต้องช่วยตัวเอง

2. เรื่องศาสนาก็คุยกันให้ดีๆ ตกลงสัญญา สันติภาพ เลยดีกว่า

จะได้ไม่ลำบากใจทั้งสองคน

อิอิ

เท่านี้ละ

เรื่องสอบไม่ยาก เมื่อรู้ว่า ความฟุ้งซ่านเป็นธาตุที่ถูกจิตรู้ จิตเป็นธาตุ

เมื่อธาตุนี้มีเหตุเกิดจึงไม่ใช่ของเรา เมื่อไม่ใช่ของเราจะทุกข์กับธาตุนี้ทำไม

เท่านี้ละอุบาย

เค้าเปลี่ยนไปอยู่ศาสนาที่antiเกย์ แล้วโปเตสแตนท์(คริสเตียน)ก็เคร่งกว่าโรมันคาทอลิก(คริสตัง)

อ่านหนังสือก่อนนะครับ พรุ่งนี้จะสอบอย่าให้เรื่องนี้มากวนใจเลยนะครับ คือบางทีต้องเลือกการเรียนไว้ก่อนอ่ะครับ เรื่องนี้ผมว่าเอาไว้ทีหลังเถอะนะครับ จะไปเอาพระคัมภีร์จากเพื่อนที่เป็นคริสตร์เตียนมาแจงให้ฟัง แต่เห็นว่าไม่ใช่เวลาที่คุณควรจะมานั่งอ่านอย่างอื่น เลือกสิ่งที่ควรเลือกก่อนนะครับ สิ่งที่เอาไว้วันหลังก็ได้ค่อยว่ากันวันหลังดีกว่า ตอบไปก็รังแต่จะมอบความฟุ้งฝันในเรื่องที่ต้องยกเอาไว้ก่อนในตอนนี้ให้กับคุณ กำลังใจย่อมมาจากใจ ใจคุณเองนะครับ สู้กับข้อสอบก่อนแล้วค่อยมาสู้กับตรงนี้ภายหลังนะครับ จะได้ไม่ผิดเวลา(ว่าช่วงไหนควรจะทำอะไร)

ดูเอาเถิด เมื่อตอนเกิดก็มาคนเดียว อยู่มาได้อย่างสงบสุข แล้วณ.ช่วงเวลาสั้นๆกับการคบคุ้นใครบางคน..แม้พบว่ามีความขัดแย้งกันจนต้องเลือกแยกทางเดิน กลับสร้างกรงข่ายแห่งเสน่หาขึ้นกักขังตนเอง จนทุรนทุรายเช่นนี้ โอ้หนอใจนี้ช่างเลี้ยงไม่เชื่องเลย...

ความเดือดร้อนทั้งปวงไหลมาจากความคิดไปในอดีตบ้าง อนาคตบ้าง ไม่อาจอยู่กับปัจจุบัน..นี้เป็นการปล่อยจิตให้เป็นไปกับความฟุีงซ่าน เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ย่อมไม่สามารถมองเห็นว่า สิ่งใดเป็นประโยชน์หรือหน้าที่อันตนพึงกระทำในขณะปัจจุบัน ..


ให้ถามตนเองดูว่า เรายังมาทุกข์กับสิ่งที่เกิดแล้วจบแล้วเพื่อประโยชน์อันใด หากได้คำตอบว่า คิดแล้วชีวิตจะเจริญขึ้น มีความสำเร็จเป็นผล มีความสุขรออยู่ ก็คิดไป แต่ถ้าได้คำตอบว่า กำลังจะถึงความวิบัติโดยประการทั้งปวง ก็พึงตั้งโยนิโสมนัสสิการนึกถึงพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนไว้ดีแล้วว่า สิ่งทั้งปวงไม่เที่ยง มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา แม้ใจเราก็ไม่เที่ยง วันนี้ทุกข์ แต่พรุ่งนี้อาจสุขได้ เพราะความผันแปรของเหตุปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเช่นกัน...ใครจะได้อะไรๆตามใจปรารถนาถาวรย่อมไม่มีในโลก คราหนึ่งพบกันแล้วก็ต้องจาก ไม่จากเป็นจากก็ตาย..ที่เคยรักกันเมื่อก่อนต่อมาก็เกลียดจนหน้าแทบไม่อยากมองก็มี...ใครจะบังคับบัญชาอะไรได้เล่า ในเมื่อทุกสิ่งเกิดได้เพราะการประชุมพร้อมของปัจจัยที่ไม่คงที่ตลอดเวลา..

สิ่งที่เกิดกับเจ้าของกระทู้ก็เป็นเรื่องปกติในโลกที่อาศัยกิเลสตัณหามานะทิฏฐิบงการ ในฐานะที่ท่านมีบุญมีศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนาอันเป็นศาสนาที่สอนให้มีปัญญา จึงใคร่ขอให้ท่าน จขกท. นำเอาปัญญาที่ได้จากพระธรรมมาเป็นเครื่องรักษาใจ ณ.บัดนี้เถิด..ตัณหาเยื่อใยที่เราผูกมัดตนเองไว้กับใครๆนั้น ไม่มีใครช่วยตัดให้ได้หากเราไม่ตัดเอง ..ด้วยปัญญาครับ

ขอให้โชคดีในการสอบครับ

อ่านหนังสือได้รึยังครับ เป็นห่วงนะครับ โชคดีในการสอบครับ(อารายผิดหวังในรัก....สอบตก) แล้วจะจบมั๊ยเนี่ย ไปคิดถึงวัน(ที่คุณคิดว่า)ชื่นคืน(ที่คุณคิดว่า)สุขในอดีตรึเปล่า ทำไมไม่ยอมอ่านหนังสือฟะ ยั๊วแล้วนะ เป็นลูกเป็นให้ไปนานแล้ว(บาทา)

อย่าเพิ่งไปหลงตรงนั้น ผมไปโบสถ์คริสเตียนมาก็หลายรอบ รู้จักคริสเตียนมาก็เยอะ หมอรักษาแม่ผมยังคริสเตียนเลย อาจารย์(ที่สอน)น่ะเค้าเรียกผมว่าพี่ เค้าก็ทำดีกันแบบนี้ทั้งนั้น อย่าเพิ่งคิดไปเองนะ อ่านหนังสือสอบก่อนเถอะ ค่าเทอมเดี๋ยวนี้แพง เข้าใจ๋

ใครจะทำหน้าบึ้งไปชวนคนอื่นเข้ารีตเล่า คุณก็ วาดวิมานในอากาศซะ ถ้าเค้าชอบคุณเค้าจะเปลี่ยนเป็นคริสเตียนเรอะ ตัดอะไรต้องตัดให้ขาดดิ่ โหขืนต้องตัด100ทีถึงจะขาดนี่ตกหมดทุกวิชาเลยมั้ง

ค่าเทอมแพงนะขอย้ำ มันแพงเกินกว่าที่จะเอาวิมานในอากาศมาแลก เพราะผลสอบหมายถึงอนาคตตลอดชีวิตของคุณ

โชคดีในการสอบนะครับ รู้ก็รู้อยู่ว่าคิดไปเอง ยังจะยอมให้ ภาพที่ตัวเองคิดไปเองปรุงแต่งไปเองตามหลอกตามหลอนอยู่ได้ จบ จบ จบ สลัดศีรษะ3ที อ่านหนังสือ คิดอีกก็สลัดศีรษะอีกที เดี๋ยวก็มึนเลิกบ้าไปเองแหละ (โอ้โห คิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะแนะนำได้ฉลาดขนาดนี้) มายาก็คือมายา ความจริงก็คือความจริง ความจริงก็คือ พรุ่งนี้สอบ มายาหลบไปก่อน แหวกม่านมันออกมาก่อน ต่อให้พระเอกฮอลลีวู้ดมายืนอยู่ตรงหน้าให้เลือก10คน คนไทยอีก10คน และพร้อมจะรักคุณเสมอ ผมไม่คิดหรอกนะว่าจะมีใครแนะนำให้ไปอ่านหนังสือ จึงพึงเลือกอ่านหนังสือไว้ก่อน คืนนี้ไม่พึงคิดหรือทำอย่างอื่น นี่อยากตามไปตีให้ถึงที่เลยนะเนี่ย

เอ้า อยากได้คำตอบ

1.ทุกคนดีเช่นนี้และบอกว่าจะช่วยให้เราพ้นจากไฟนรก
2.บอกไปแล้ว ถ้าเขาชอบคุณเขาจะเข้าคริสเตียนให้มันเกิดประโชน์อะไรขึ้นมา อย่ามั่วน่า อารมณ์คน
ถูกจับได้จากกิริยาท่าทาง คุณเข้าคริสต์ เขาได้บุญ ได้คุณ(อาจมีชวนเข้ากลุ่มเพราะหลอกง่ายเหลือเกิน)แต่ไม่ใช่ได้ครอบครองหรือคุณได้ครอบครองเขานะ ประมาณได้พวก ได้สมาชิก(อาจมีสะสมแต้ม มีจริงๆนะ ไม่ได้มาพิมพ์ให้ตลก) ลองไปดูที่คริสตจักรความหวัง กรุงเทพฯดิ่ กลุ่มบานตะไท แค่เขาโจมตีจุดอ่อนทำท่าทางว่ามีใจ คุณก็ระทวยซะขนาดนั้น หนู น้ำผึ้งกับยาพิษ มันต่างกันเช่นไรแยกให้ออกก่อนนะ ไม่งั้นสอบตกแน่
3.ปัญหาแค่นี้ก็พ่าย ต่อไปคิดจะทำงานอะไรไม่ทราบที่มันมีปัญหาเบาๆขายนุ่นเหรอ

ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจที่ให้มานะครับ

บัดนี้ (เริ่ม) มีสมาธิอ่านหนังสือแล้วครับ

คนที่จะเสียใจที่สุดถ้าเราสอบไม่ได้คือตัวเราและแม่พ่อ
(ไม่ใช่ไอ้คนนั้นสักหน่อย)

พอ พอ พอ
จบจบจบ

ขอบคุณทุกคนมากครับ
ขออนุโมทนาบุญครับ

สาธุ สาธุ สติมา ปัญญาเกิดแล้ว ดีใจด้วยครับ!!

ต่างศาสนาแต่ไม่ต่างในหลักการนี่คะ ทำดี ละชั่ว เพียงแต่ทำใจให้เปิดกว้างค่ะ

จุฬาภินันท์มีเพื่อนเป็นคริสต์เหมือนกัน เคยไปโบสถ์ด้วย ได้ยินได้ฟังความเชื่อและศรัทธาในพระเจ้าของเขา จุฬาภินันท์รู้สึกดีนะคะ การที่คนเราศรัทธาในความดี ย่ิอมนำมาซึ่งความคิดที่ดี แล้วก็ไปสู่การกระทำที่ดี

จุฬาภินันท์ว่าคุณต้องลองพิจารณาตัวเองก่อนค่ะ ว่าคุณแรงไปหรือเปล่าในการปฏิเสธเขา เพราะ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลย คุณเองยังโกรธที่ใครมาดูถูกพุทธ

แน่นอนว่าเรานับถือพุทธ เราก็อยากให้เขาเป็นพุทธ เขาเป็นคริสต์ เขาก็อยากให้เราเป็นคริสต์ ธรรมดาค่ะ เพียงแต่เปิดใจรับกับการแตกต่างของการปฏิบัคิได้น่ะค่ะ

ถ้าเขาชวนหนักๆ เราก็เฉยยิ้มๆ อธิบายว่า หลักการไม่ต่างนะคะ อะไรประมาณนั้น เรามาดูกันที่เหตุและผล เหตุคืออยากให้เข้าศาสนาเราเพราะดี ดี แน่นอน คนรู้จักว่าดีคืออะไร โอเค เหตุเหมือนกัน ผล ก็มองว่า ผลคืออยากให้รักกัน ทำดี ละชั่ว เชื่อในความดี รับกันและกันได้ ใจเย็น รับรองเข้ากันได้แน่ค่ะ

เพื่อนขิงจุฬาภินันท์ บอกตามตรง ว่าเชื่อในพระเยซูคริสต์จนน่าหมั่นไส้ ทำเหมือนไม่รับว่าพุทธดี ซึ่งจุฬาภินันท์เข้าใจ ก็ยอมรับสิ่งที่เธอบอกอย่างเข้าใจ ไม่มีการอภัย เพราะเธอไม่ผิดเลยซักนิด แล้วก็สบายใจ เพราะเราหวังดีกับเพื่อน เหมือนที่เพื่อนหวังดีกัยเรา เจตนาค่ะที่สำคัญที่สุด

หวังว่าคำแนะนะของจุฬาภินันท์จะช่วยคุณได้บ้าง โชคเดีค่ะ

๑. วันนี้สอบเสร็จแล้วครับ รู้สึกว่าทำได้ดี (เกินคาด) แฮะ กับการที่มีอะไรมารบกวนจิตใจในระหว่างสอบ และการได้อ่านหนังสือเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนสอบ (คือผมเรียนในสายวิทยาศาสตร์สุขภาพน่ะครับ เป็นคณะในลำดับต้น ๆ เลยอ่า-ปกติถ้าอ่านแค่นี้รับรองเน่าแน่นอน-แต่มีกำลังใจ+แรงฮึด (จากการถูกดูถูก เหยียดหยามโดยเขา (มัน)) ครับ เลยทำได้) ไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถไปติวให้เพื่อนคนอื่นก่อนสอบได้ด้วย รู้สึกดีมากเลยครับ
๒. ผมไม่ได้ (อยาก) ชวนเขาให้กลับมาเป็นพุทธนะครับ ไม่เคยคิดจะพูดเรื่องศาสนากับเขาด้วย เพราะผมคิดว่าทุกคนมีสิทธิเชื่ออะไรก็ได้ที่ทำให้ตนเองมีความสบายใจ ไม่มีใครผิดครับที่จะเชื่อในอะไรสักสิ่งหนึ่ง และผมก็ไม่เคยคิดที่จะดูถูกความเชื่อของใครด้วยครับ และทุกศาสนาก็สอนให้คนเป็นคนดีครับ (ประมาณว่าอยากเชื่ออะไรก็เชื่อไปผมไม่ยุ่ง แต่ผมจะเชื่อในพุทธและก็อย่ามายุ่งกับ (ความเชื่อของ) ผมด้วย)
๓. ผม (คิดว่า) ไม่ได้พูดแรงไปนะครับ ต้องลองมาอยู่ในเหตุการณ์ด้วย เพราะเขาพูดดูถูกพุทธศาสนารุนแรงมาก จนผม (และเพื่อนอีกคนที่อยู่ด้วย) รับไม่ได้ แต่ผมก็พยายามขันติแล้วนะครับ จึงพูดไปแค่นั้น (ถ้าไม่ขันติอาจได้ตายกันไปข้างหนึ่งครับ หุหุ)
๔. ตอนนี้ผมสอบวิชาของวันนี้เสร็จแล้วครับ แต่เหลืออีกตัวหนึ่งในวันพรุ่งนี้ (เป็นตัวที่ยากที่สุดเพราะเกี่ยวกับการรักษาคนไข้น่ะครับ แล้วก็ยังไม่ได้อ่านเลยสักตัวด้วย) เอาเป็นว่าตอนนี้ขอนอนก่อน เพราะเมื่อคืนไม่ได้นอน (โต้รุ่ง) ครับ แล้วค่อยตื่นมาฮึดสู้อีกรอบ สู้ (ตาย) เต็มที่ครับ เพราะเราก็คือพระเจ้าของตัวเราที่สามารถดลบันดาลความสำเร็จจากการกระทำของตัวเราเองให้ตัวเราเอง และลิขิตชีวิตของตัวเราเองด้วยตัวเราเองได้ครับ

ปล. ขอบคุณ คุณจุฬาภินันท์ นะครับ ที่ให้คำแนะนำและร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความคิดเห็น

ขออนุโมทนาบุญทุกท่านครับ

--------------------------------------------------------------------------------------------
อย่าเข้าใจผิดต่อพุทธศาสนา
พุทธศาสนา ไม่ช่วยอะไรเลย แก่ผู้ที่มัวแต่ ทำพิธีบูชา ขอร้องอ้อนวอน นะโว้ย!
พุทธทาส อินทปัญโญ

อ่านหนังสือได้แล้วใช่มั๊ยครับ ผมพูดแรงไปมั๊ย ถ้าแรงไปขอโทษด้วยนะครับ คืออาการของคุณเมื่อวานนี้ถ้าราคะไม่ถูกกระแทกด้วยอะไรที่พลังอำนาจมากกว่าเข้าไปอยู่ในจิตส่วนลึก คุณอ่านหนังสือไม่ได้ การปลอบการโอ๋ก็เหมือนการกระทืบซ้ำให้คุณอาการหนักเข้าไปใหญ่ ข้อธรรมจิตคุณก็ไม่พร้อมจะรับ(เหมือนภาชนะว่างเปล่าปิดฝาที่ข้างในมืดแต่คุณคิดว่ามีสิ่งสวยงามอยู่ที่ไหนซักมุมนึง) ถ้าไม่กระแทกฝาออกความสว่างเข้าไม่ได้ คุณจะไม่เห็นความว่างเปล่าในนั้น นะครับ ผมเอาชื่อจริงตามบัติประชาชนเข้ามารองรับความหมั่นไส้จากรอบนาทาทิศ ก็เพื่อคุณ ให้ผมอย่างนึงได้มั๊ยครับ เพื่อนผมเป็นคริสเตียนสมัยผมเรียน ป.ตรี เราไปรับประทานข้าวกันตามร้านอาหารข้างรั๊วมหาวิทยาลัยกับรุ่นพี่ผู้หญิงอีก2คน(ที่เปลี่ยนจากพุทธเป็นคริส) เขา3 ผม1 เถียงกันแทบจะล้มโต๊ะ ผมไม่ยอมให้ใครมาพรากผมไปจากพระรัตนตรัยหรอก ต่อให้จะหล่อหรือสวยสุดประมาณ แต่เพื่อนชาย(คริสแต่แรก)ไม่พูดอะไรซักคำ ผมไม่คิดอะไรไร้สาระว่า2สาวนั่นจะช่วยผมให้พ้นจากไฟนรกหรือ1หนุ่ม มีใจ ไม่เถียง เพียงแต่เขาเคารพความคิดเราเราก็เคารพความคิดเขา นับถือพระเยซู..ได้ แต่ไม่ถึงขนาดเป็นที่พึ่งเป็นสรณะ เป็นผู้อาวุโสที่มีคุณธรรมผู้หนึ่งสำหรับเรา ก็ไม่ค่อยกล้ามาชวนหรอก เพราะเขารู้เราไม่ยอมแน่ หรือจะเดินสวนกันบนถนนแล้วยิ้มให้หรือแถมยักคิ้ว(แล้วไง) เราก็ยิ้มไป เพื่อนสาวที่เป็นคริสเตียนมาชมว่าหล่ออีก(เอาเข้าไป) ต่อมาหลังจากเรียนจบนานเหมือนกันผมไปนั่งที่สวนสาธารณะคราวนี้เป็นขโยงเลยครับมา อาจารย์ด้วย ชวนไปโบสถ์ผมก็ไป(พี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องยังบอกว่าถ้าเขาเอาคนจำนวนมากมาหว่านล้อม น่ากลัว) ไม่เลย มั่นคงในพระรัตนตรัย จะหว่านอะไรมาแค่ไหนก็เถอะ ไปโบสถ์มาตั้งหลายครั้ง สนุก ได้ความรู้ บางครั้งข้อคิดของเขาก็ดีๆนะ แต่ไม่เปลี่ยนหรอก ผมไม่ออกนอกรอยทางที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้หรอก เพราะผมเชื่อว่าคือทางที่ถูก เรื่องรูปโฉมมันฉาบฉวยมันแล้วแต่ว่าใครจะมองยังไง

นะครับ ดูสถานการณ์ก่อนนะ จะได้ไม่ถูกลวงด้วยรูปโฉม(หรืออะไรก็ตามที่ เอารูปรสกลิ่นเสียงเคียงสัมผัส เกิดกำหนัดลุ่มหลงในสงสาร)ไม่งั้นการหลอกคุณด้วยรูปโฉมหรือกิริยาท่าทางจะง่ายมาก ผมก็เคยผิดทางพระพุทธองค์มานะครับ การไปแหกปากเถียงกับคนที่นับถือศาสนาไม่เหมือนเรา สัมมาสังกัปโป สัมมาวาจา สัมมาวายาโม สัมมาสติ สัมมาสมาธิ หายหมดเลยแล้วอาจเกิดความแตกแยกในสังคมโดยนำเอาคำว่า ต่างศาสนามาอ้าง ผมพลาดมาแล้ว ตอนนี้ไม่ว่าจะพุทธคริสต์นิกายใด ผมก็ยิ้มแย้มแจ่มใสกับเขา เพราะเราอยู่กันอย่าสันติได้นี่ ทางคริสเตียนเค้าก็ไม่ได้สอนให้รังเกียจพุทธ คือให้อยู่ด้วยความรักแต่ไม่ใช่ด้วยปรารถนาและอารมณ์นะ ที่ผมขอคือ ตั้งใจเรียนให้จบนะ จบมา ทำประโยชน์เลี้ยงดูบุพการี สงเคราะห์ญาติพี่น้อง สร้างประโยชน์ให้ประเทศชาติบ้านเมืองในขอบเขตที่เราทำได้ เรื่องรักเอาไว้จบแล้วค่อยคิดก็ได้ นะครับก็ตามทางชีวิตของคุณ ให้อยู่บนทางกุศลก็แล้วกัน

มาอธิบายเหตุผลให้ฟังแค่นี้นะ หมดหน้าที่ของผมแล้ว

อีกนิดนะครับ ผมวิทยาศาสตร์ ชีววิทยาครับผม วันอาทิตย์ก็สอบ โห คนละสถาบันมั๊ง

ขอบคุณ คุณกังวาล ครับ ที่มาช่วย (กระแทกแดกดัน) ทำให้ผมอ่านหนังสือได้

ผมอโหสิกรรมให้เขา (ผ่านเพื่อนอีกคน) ไปเมื่อคืน (ก่อนอ่านหนังสือ) แล้วครับ

ยังบอกไปอีกว่า เรายังกลับมาคุยกันตามปกติได้เหมือนเดิม (แต่ผมไม่เริ่มก่อนนะ-แบบว่าหยิ่งในศักดิ์ศรีอ่ะครับ-น่าหมั่นไส้เนาะ)

เรื่องที่เกิดขึ้นมันทำให้ผมมีภูมิคุ้มกันขึ้นมาก ๆ เลยครับ และผมก็ (คิดว่า) จะไม่ทำแบบนี้กับใคร เพราะผมเข้าใจ (อย่างสุดซึ้ง) ว่าเขาจะมีความรู้สึก (เสียใจและเสียความรู้สึก) อย่างไร

ตอนนี้อยู่ปี ๔ อีก ๒ ปี จะจบแล้วครับ (หวังว่าอย่างนั้นนะ)

รับรองว่าจะไม่ทิ้งบุพการี (และมวลมนุษยชาติ) ให้ลำบากแน่นอนครับ

ขออนุโมทนาบุญครับ

--------------------------------------------------------------------------------------------
อย่าเข้าใจผิดต่อพุทธศาสนา
พุทธศาสนา ไม่ช่วยอะไรเลย แก่ผู้ที่มัวแต่ ทำพิธีบูชา ขอร้องอ้อนวอน นะโว้ย!
พุทธทาส อินทปัญโญ