วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 19:13  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2009, 10:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 2009, 09:12
โพสต์: 9

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: เรียน
สิ่งที่ชื่นชอบ: BTS
ชื่อเล่น: จันทร์
อายุ: 20
ที่อยู่: ห้องเล็กๆ

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อเจอกับความทุกข์อ่านสักนิดก็ยังดี...!!!

:b8: อยู่บ้านตอนเช้าก็เจอพระ..ไปเรียนก็ยังเจอพระ..แม้แต่ขึ้นรถเมล์ก็ยังเจอพระ..ชีวิตเจอแต่พระ..ก็เลยลองศึกษาเรื่องงพระดู..ตอนนี้ก็ได้รู้แล้วว่าชีวิติที่เกิดมาเพื่ออะไร..ครั้งแรกตอนที่ศึกษาใหม่ๆก็เคยถามตัวเองว่าทำไมในหนังสือนวโกวาท(ของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส)ท่านจึงรจนา(เขียน)เรื่องของสติกับสัมปชัญญะใว้เรื่องแรกพอไปหาดูในพระไตรปิฏกก็เจออยู่ในเรื่องของมหาสติปัฏฐานสูตร(เป็นพระสูตรสำคัญในพระพุทธศาสนาที่พระพุทธเจ้าตรัสแก่ชาวกุรุชนบท)ซึ่งเป็นสุดยอดวิชาของพระพุทธศาสนาเลยก็ว่าได้..ยิ่งในสมัยนี้มีสำนักปฏิบัติมากส่วนมากสายมหาสตินี้จะมีพระสอนน้อยแต่ก็ยังพอมีอยู่บ้าง...เป็นการฝึก(รู้)ทุกก้าวที่เราเดินทุกคำที่เรารับประทานทุกความคิดที่เราคิด..ไม่ไช่แค่การนั่งสมาธิกำหนดหรือภวานา..เป็นการนำไปไช้ในเวลาทำงานหรือเวลาว่างหรือแม้กระทั่งในเวลาเศร้าเหงา.. ทำไห้เรามีสติเป็นเพียง (ขณิก) แต่พระอาจารย์เคยบอกว่าถ้าด้ายเส้นเดียวเอามารวมกันมากๆก็กลายเป็นเชือกได้..ถ้าคุณว่างพอมีเวลาที่จะ..เหงา..เศร้า..หรือเสียใจ..คุณก็ลองหาวิธีฝึกทำดูก็ได้..ง่ายๆไม่ยาก.. :b8:

สอบถามได้ที่yokelgo@hotmail.com. :b9: (ไม่ค่อยได้เล่นซักเท่าไหร่ต้องขออภัย) :b9:
:b17: :b17: :b17: ***เบื้องหลังความเข้มแข็ง สมควรมีความอ่อนโยน ***ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และยอมรับกับสิ่งที่เสียไป*** :b17: :b17: :b17:

.....................................................
การสร้างวัดนั้นเป็นสิ่งสำคัญก็จริง แค่เป็นได้แค่เพียงมรดกโลก
แต่การสร้างคนให้เป็นพระนั้น สำคัญยิ่งกว่าเพราะจะได้เป็นมรดกธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2009, 10:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 2009, 09:12
โพสต์: 9

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: เรียน
สิ่งที่ชื่นชอบ: BTS
ชื่อเล่น: จันทร์
อายุ: 20
ที่อยู่: ห้องเล็กๆ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b17: :b17: คนส่วนมากเมื่อมองเห็น...ก็มักจะมองข้าม..ก็แล้วแต่บุญกุศลของแต่ละท่านที่ได้สั่งสมมาก็แล้วกันคร๊าฟฟ :b17: :b17: :b8:

.....................................................
การสร้างวัดนั้นเป็นสิ่งสำคัญก็จริง แค่เป็นได้แค่เพียงมรดกโลก
แต่การสร้างคนให้เป็นพระนั้น สำคัญยิ่งกว่าเพราะจะได้เป็นมรดกธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2009, 13:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
อุดมการณ์ ดั่ง ขุน เขา แต่ กระ เป๋า เบา เหมือน ขน นก เอิ้กๆๆ..!!


ความคิดไม่เบาๆ ไม่เลื่อนลอย มีหลักมีเกณฑ์ ใช้ได้ขอรับ :b1:

แต่สงสัยอยู่นิดนึ่ง เกี่ยวกับนกอ่ะคับ นก เอิ้กๆๆ นี่รูปร่างเป็นไง ไม่เคยได้ยินชื่อ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 29 ธ.ค. 2009, 13:04, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2010, 13:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


เผื่อใครที่กำลังทุกข์จะผ่านมาอ่าน

เมื่อกายป่วยก็หาหมอ
เมื่อใจป่วยก็พึ่งธรรมะ
คนเราที่ทุกข์เพราะยึดมั่นถือมั่น
หากเข้าใจว่าทุกสิ่งอย่างในโลกล้วนอยู่ภายใต้กฎไตรลักษณ์...คงไม่ทุกข์ :b51: :b53:
หมั่นศึกษา-ปฏิบัติเยอะๆ จะได้หลุดพ้นจากวังวนนี้

............................

อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้คลายทุกข์ได้อย่างดี
เมื่อต้องประสบกับการพลัดพรากจากความเป็นของผู้เป็นที่รักที่ชอบใจ
ก็คือพยายามไม่ไปคิดถึงความรู้สึกหรือจิตใจของคนอื่น ให้ดูใจตัวเอง ดูความรู้สึกของตนเองเท่านั้น

มีอธิบายเกี่ยวกับที่กล่าวว่าอย่าไปคิดถึงความรู้สึกหรือจิตใจคนอื่น
ให้ดูความรู้สึกของตนเองเท่านั้น ดังนี้

อย่าไปคิดว่าเขามีจิตใจที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว
เขารู้สึกเช่นนั้นต่อเราแล้ว
เขารู้สึกเช่นนั้นต่อคนนั้นต่อคนนี้แล้ว
เขาไม่เหมือนเดิมแล้ว
เช่นนี้เป็นต้น


การคิดเช่นนั้นจะเป็นการเพิ่มทุกข์แก่จิตใจโดยถ่ายเดียว
เป็นโทษโดยถ่ายเดียว ไม่เป็นคุณอย่างใด ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น
ไม่ทำให้เหตุการณ์ดีขึ้น ไม่ทำให้จิตใจสบายขึ้น
ดังนั้นจึงไม่ควรคิดเช่นนั้นอย่างเด็ดขาด

คือไม่ควรไปดูความคิดหรือไปดูจิตใจของคนอื่นอย่างเด็ดขาด
ให้ดูความคิดหรือจิตใจของตัวเองเท่านั้น
คิดอย่างไรรู้สึกอย่างไรก็ให้ติดตามดูของตัวเองไป ระวังอย่าให้ไปเกี่ยวกับคนอื่น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคืออย่าไปเกี่ยวกับจิตใจ
หรือความรู้สึกนึกคิดของผู้พลัดพรากไปทั้งเป็นผู้นั้นเป็นอันขาด

แล้วจะได้รู้สึกด้วยตัวเองว่าความทุกข์แม้หนักเพียงใดอันเกิดจากการพลัดพรากจากเป็น
จะกลายเป็นความเบาสบายขึ้นในช่วงระยะที่สามารถรักษาสติ
ไม่ปล่อยความคิดให้ไปเกี่ยวกับจิตของผู้อื่นดังกล่าวนั้น

นี้เป็นการบริหารจิตโดยตรงที่จะช่วยให้เกิดผลทันทีที่ปฏิบัติ
และจะเกิดยั่งยืนตลอดไปได้แม้ปฏิบัติสม่ำเสมอ
ไม่ไปดูใจคนอื่น ดูแต่ใจตนเอง ไม่ไปดูความคิดคนอื่น ดูแต่ความคิดของตนเอง ดังกล่าวแล้ว

....


บทความจาก
http://rarinn.bloggang.com/

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=16558

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 72 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร