เผอิญไปอ่านเจอมาเลย COPY มาให้อ่านหน่ะค่ะ ...


การอธิษฐานนั้นเหมือนกับการโปรแกรมตัวเองไว้
ถ้าอ้างสัจจะ หรือการกระทำบางอย่างเป็นตัวตั้ง
เช่น "ขอให้ผลบุญนี้ จงทำให้เราได้ครองคู่กับ... (ระบุชื่อ)"
อย่างนี้มีผลจริง แต่จะแท้แค่ไหนต้องดูปัจจัยอื่นประกอบ

ยกตัวอย่างแบบอธิษฐานข้ามชาติ
เมื่อมีสามีภรรยาไปทูลถามพระพุทธองค์ว่าทำอย่างไรจะได้ครองคู่กันทุกชาติ
(ตรงความตั้งใจนั้นเองถือว่าเป็นการอธิษฐานอยู่ในตัวเองแล้ว เพราะเป็นความปรารถนาอย่างแรง)
พระพุทธองค์ตรัสว่าทาน ศีล ภาวนาต้องเสมอกัน
ถ้าร่วมศึกษาและบำเพ็ญทาน ศีล ภาวนาให้เสมอกัน
ก็คือเป็นตัวแปรให้การอธิษฐานสำเร็จผล 100%

สมมุติว่ามีใครนึกอยากจะครองคู่กับผู้ที่ตนชอบใจ
แล้วไปทำสังฆทานหนึ่งครั้ง ปล่อยนกปล่อยปลาอีกหน
จากนั้นแอบอธิษฐานเงียบๆฝ่ายเดียวว่าขอให้บุญนี้เป็นปัจจัยไปครองคู่กับคนนั้น
หรืออธิษฐานคนเดียวแล้วไปฝืนใจให้อีกคนยอมอนุโมทนาทั้งที่ไม่มีความเต็มใจอยู่ก่อน
อันนี้ก็อาจให้ผลเหมือนกัน แต่น้อย และจะมาในรูปของการหลงรักข้างเดียว

เท่าที่เคยได้ยิน เล่าให้ฟังแบบเล่นๆนะ
หากใครมีกำลังจิตแรง คือตั้งสัตย์อะไรแล้วทำได้ตามคิดหรือตามที่พูด
กับทั้งมีโอกาสทำบุญใหญ่กับพระชั้นอริยะ
พออธิษฐานอะไรมักเกิดผลตามนั้น
เช่นขอให้ชนะใจใครบางคนสักชาติหนึ่ง
ก็อาจจะชนะใจเขาได้จริงๆ แต่จะอยู่ด้วยกันแบบไม่มีความสุข
เพราะไปใช้กำลังบุญบีบบังคับหัวใจเขาโดยเจ้าตัวไม่ยินยอม

เรื่องของการอธิษฐานนั้นมีตัวแปรอยู่มากมาย และมีผลจริงถ้าอ้างบุญที่ทำเป็นสัจจวาจา
มีพระเกจิบางองค์ที่ท่านพูดเผื่อสัตว์ที่ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกนาน
ท่านว่าทำบุญแต่ละครั้งควรอธิษฐานกำกับไว้ เพื่อให้ได้เดินทางแบบมีทิศ มีสัญญาณนำร่อง

โดยส่วนตัวแล้วถ้าหากจะฝึกทำบุญแล้วอธิษฐานกำกับ
ก็อยากให้อธิษฐานเช่นขอให้พบอริยเจ้า อย่าปรามาสอริยเจ้า ขอให้มีศรัทธาในอริยเจ้าของจริง
อย่าหลงไปศรัทธานักบวชเก๊หรืออลัชชีเข้าได้
ขอให้เป็นสัมมาทิฏฐิ ขอให้เป็นคนไม่หลงสติคบคนพาลเป็นมิตร ฯลฯ
อะไรในทางดีๆที่เข้ากันได้จริงกับนิสัยปัจจุบัน ขอให้อ้างอันนั้นไว้
จะได้เป็นปัจจัยสำทับบุญกุศลในทางที่ตนถนัดให้รุ่งเรืองยิ่งๆขึ้น


..................................
nuchy 2525

ผมคิดว่า ถ้าจะเลือกคู่ครองหรือแฟนหรือคนรักหรือคนที่ถูกใจจริงๆแล้วละ
ต้องเลือกคนที่สเปก, cycle,สัญญาณคลื่นที่ใกล้เคียงกับตัวเราเองด้วย ถึงจะอยู่ด้วยกันได้
หรือคุยแล้วเข้าใจกันดี และรักกันยืด

"เพราะว่าคนเราหากเลือกคนที่เขารักเรา ย่อมดีกว่าเลือกแต่คนที่เรารักเขาอย่างเดียว แน่ๆ"

เรื่องของอธิษฐานๆ อาศัยพื้นฐานของพลังจิตที่สะสมมา และความบริสุทธิ์ของจิตในตอนนั้นด้วยว่า
มีมากน้อยแค่ไหน เพราะหลายครั้งอธิษฐานก้ไม่ได้ผล แต่บางครั้งอธิษฐานแบบไม่คิดอะไรมาก
ปรากฏสิ่งที่ขอไปเป็นจริงขึ้นมา ก้เป็นเรื่องแปลกเหมือนกัน..
(เรื่องอธิษฐานขอคนรัก ผมก้เคยทำเหมือนกันนะ แต่ว่าขอไปก้ไม่เหนมีอะไรเกิดขึ้น ผม
เลยมาเปลี่ยนใหม่อธิษฐานใหม่ ให้เห็นวิธีดับทุกข์และให้หมดกิเลสตามความสามารถที่พอจะทำได้
ซึ่งทำแบบนี้ มีข้อดีคือหนึ่งเราจะสบายได้มากกว่าหลายเท่าถึงอธิษฐานไปแล้วยังทำไม่ได้ยังเจอปัญหา
แต่เป็นการปูทางในการทำความดีทุกรูปแบบหรือหากปฏิบัติสมาธิ ทำให้จิตสงบจะทำได้ดีกว่าและมีความ
ตั้งใจมั่นคงขึ้นกว่าเดิม แน่นอนว่าเมื่อความตั้งใจดีขึ้น สติมั่นคง และอารมณ์และความคิดและความเอาใจใส่ตัวเองก็จะมีมากยิ่งขึ้น และสิ่งดีๆที่เราปรารถนาหรือขอไว้ในตอนแรกจะค่อยๆเข้ามาในชีวิตเอง
และจะมีสิ่งดีๆเกิดขึ้นตามลำดับด้วยครับ ดังนั้นขอแบบหลังที่จขกท.นำมาโพสทถือว่าได้ขอที่เหมาะสม
และดีที่สุดครับ

อธิษฐาน เป็น ๑ ใน บารมี ๑๐ ครับ

อธิษฐาน จะสำเร็จได้ต้องมีอีกสามบารมีมาเสริม คือ สัจจะ วิริยะ ขันติ
ทั้งสี่บารมีนี้เกี่ยวข้องกัน ขาดบารมีใดบารมีหนึ่ง ก็ถือว่าขาดทุกบารมี

การอธิษฐานฝ่ายเดียว (เลือกคู่ครอง) ก็อาจจะไม่ได้ดั่งใจ เพราะคนหนึ่งอาจเป็นคนดีอีกคนอาจเป็นคนไม่ดี
เมื่อมาพบกันอาจจะเป็น นางฟ้ากับเปรต หรือ เทวดากับเปรต เป็นต้น

อธิษฐานสองฝ่าย ต่างคนต่างทำดีเพราะต้องการพบกันในชาติหน้า ก็อาจจะเป็น
เทวดากับนางฟ้า ก็ได้

คนจะพบกันทุกชาติเป็นเนื้อคู่กระดูกคู่ ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร พระองค์ตรัสว่า

- จาคะเสมอกัน ๑
- ศรัทธาเสมอกัน ๑
- ศีลเสมอกัน ๑
- ปัญญาเสมอกัน ๑

ถึงจะไม่อธิษฐานก็ต้องเจอกันทุกชาติ (แหะ ผมว่าเอง)

*ที่ว่า ทานศีลภาวนา ไม่น่าจะใช่นะครับ

การอธิษฐานจะแม่นหรือไม่แม่มีเหตุปัจจัยหลายอย่างค่ะ ถ้าเป็นเรื่องคู่ก็อย่างว่าคือทำบุญอธิษฐานร่วมกันมาแต่ชาติก่อน ชาตินี้ได้อยู่ร่วมกันชัวร์ แต่...เหตุปัจจัยอื่นก็มีผลแมรกแซงได้อีก เช่น คนอื่นที่เข้ามายุ่งเกี่ยว สภานการณ์ของคู่ครอง ฯลฯ นั่นทั้งหมดอยู่ที่คำเดียวค่ะ "กรรม"

การอธิษฐานในขณะที่จิตมีสมาธิเป็นการอธิฐานที่จะได้ผลที่สุดค่ะ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงได้ หมายความว่ามีกรรมมาแต่อดีตส่งเสริมคำอธิษฐานนั้นๆได้น่ะค่ะ

อนุโมทนา สาธุค่ะ

...การอธิษฐานขอมีผลมากเมื่อได้ทำบุญที่มีกุศลมาก...
...โดยเฉพาะทำกับพระพุทธเจ้าแล้วได้รับพุทธพยากรณ์...
...ตัวอย่างของพระนางพิมพาและพระพุทธเจ้าโคดม...
...เมื่อครั้งพระนางพิมพาเสวยพระชาติเป็นนางสุมิตตา...
...พระพุทธเจ้าโคดมเสวยพระชาติเป็นพระสุเมธดาบส...

...ในยุคพระพุทธเจ้าทีปังกรจะเสด็จมาโปรดชาวเมืองปัจจันตคาม...
...จึงมีการแผ้วถางทาง...พระสุเมธดาบสได้เหาะผ่านมาเจอ...
...ถามได้ความจึงขอสร้างกุศลด้วย...ชาวเมืองเห็นมีฤทธิ์...
...จึงให้ทำในที่ที่มีทั้งโคลนทั้งเลน...ขณะนั้นนางสุมิตตา...
...มีจิตคิดเห็นใจว่าทำลำบากจึงเข้าไปช่วยเหลือพระสุเมธดาบส...
...ยังเหลือถมโคลนเลนประมาณช่วงตัว...พระพุทธเจ้าทีปังกรเสด็จมาถึงก่อน...
...พระสุเมธดาบสจึงอธิษฐานขอใช้ร่างกายตนเองปูเป็นทางเดิน...
...ให้พระพุทธเจ้าทีปังกรพร้อมพระสาวก500พระองค์เดินข้าม...

...จึงได้รับพุทธทำนายว่าจะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต...
...พระนามว่าสมเด็จพระศรีศากยมุนีโคดมพระสัมมาสัมพุทธเจ้า...
...นางสุมิตตาได้ยินจึงตั้งคำอธิษฐานต่อหน้าพระพุทธเจ้าทีปังกร...
...ขอให้พระสุเมธดาบสได้เป็นสามีของตนในภายภาคหน้า...
...พระสุเมธดาบสบำเพ็ญเพียรจึงขอให้สุมิตตาถอนคำอธิษฐาน...
...และพระพุทธเจ้าทีปังกรจึงเอ่ยว่า...ดูกร สุเมธดาบส...
...ตัวท่านอย่าห้ามกุมารีน้อยผู้นี้เลย เพราะว่าในอนาคตภายภาคหน้า...
...นางจะเป็นที่พึ่งของท่าน ขณะที่ตัวท่านบำเพ็ญพุทธบารมีธรรม...
...เพื่อบ่มพระบรมโพธิญาณให้เต็มเปี่ยมบริบูรณ์...

...เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ทั้งคู่ได้เวียนว่ายตายเกิดเป็นคู่สามีภรรยา...
...แม้บางคราวจะเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานก็ได้เป็นคู่ไม่พรากจากกัน...
...นานแสนนานถึงสี่อสงไขยกับเศษอีกแสนมหากัป...ฉะนี้แล...
...จนถึงพระชาติสุดท้ายได้เกิดเป็นพระนางพิมพาและเจ้าชายสิทธัตถะ...