ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

อุธาหรณ์สำหรับคนโกหก
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=27&t=30610
หน้า 1 จากทั้งหมด 6

เจ้าของ:  Wylsmith [ 04 เม.ย. 2010, 07:43 ]
หัวข้อกระทู้:  อุธาหรณ์สำหรับคนโกหก

เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้เป็นความเลวที่เกิดจากการกระทำของผมเอง ผมได้ทำร้ายจิตใจและดูหมิ่นศักดิ์ศรีของภรรยาผมด้วยการโกหกต่าง ๆ นานาเพียงเพื่อผมจะได้มีผู้หญิงคนใหม่ สร้างเรื่องโกหกมากมายเพื่อให้ตัวเองดูดีในสายตาของคนในสังคมรอบข้าง โดยไม่สนใจว่าภาพลักษณ์ของภรรยาจะเป็นอย่างไร ความรู้สึกของภรรยา และครอบครัวเธอจะเป็นอย่างไร ตลอด 1 ปีที่ผ่านมานี้ทำเลวแบบนี้ซ้ำ ๆ ซาก ๆ ทั้งที่ภรรยาผมให้อภัย และให้โอกาสหลายครั้งในการกลับตัว แต่ผมก็ละทิ้งโอกาสนั้นไปเสีย ยังคงเลวเหมือนเดิม จวบจนเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2553 ที่ผ่านมานี้ ผมได้พบ Website นี้ และคิดทบทวนทำให้ผมคิดได้ ผมต้องการตั้งต้นชีวิตใหม่ แต่เชื่อใหม? กรรมมันติดจรวดจริง ๆ ภาพพฤติกรรม และคำโกหกที่ผมได้ทำนั้นม้นหลอกหลอน ผมตลอดเวลา จนผมทรมาน ทุรนทุรายใจ พยายามโทรฯ กลับไปหาภรรยา อยากบอกเธอว่าคิดได้แล้ว แต่ก็ไม่ได้พูดไม่ได้อธิบาย เพราะความขลาดเขลาของตัวเอง จน ณ วันนี้ ผมอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีเพื่อน สังคมที่เคยสร้างภาพหลอกลวงเขาไว้ก็ไม่ยอมรับ ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากเหตุคือ ผมผิดศีล 5 โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อ มุสาวาทาวาสฯ และ กาเมสุมิฉาฯ ความอยาก ความไม่รู้จักตนเอง ทั้งนั้น

ที่ผมเล่ามานี้เพราะผมคิดเอาเองว่าในสังคมลานธรรมจักรแห่งนี้จะเป็นที่พึ่งให้ผมได้ และก็ต้องการให้ชีวิตผมเป็นอุธาหรณ์ แก่บุคคลที่ได้รับหรือได้รู้เท่านั้น เพราะผมรู้ว่าผมจะต้องรับกรรมอีกนาน ถึงแม้จะทำบุญทำกุศลใด ก็ไม่สามารถทดแทนกันได้ บุญส่วนบุญ กรรมชั่วที่ได้ทำไปแล้วย่อมส่งผลชั่วให้กับตัวผมเอง (ติดจรวดเลยหละ)

มาถึงตรงนี้ถ้าท่านใดมีคำแนะนำใด ๆ ให้กับผม ผมขอขอบพระคุณมากครับ ทุกคำแนะนำผมยินดีครับ

Wylsmith

เจ้าของ:  Give give [ 04 เม.ย. 2010, 09:04 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อุธาหรณ์สำหรับคนโกหก

:b35: :b35: :b35: ถ้าคุณสำนึกผิดในสิ่งที่ทำไปแล้ว และจะไม่กลับไปทำอีก ถือศิล 5จะดีมากๆ
ภรรยาคงเข้าใจและให้อภัยคุณ กล้าที่จะพูดดีกว่าเราต้องเสียเธอไปจริงๆ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

เจ้าของ:  nuttida [ 04 เม.ย. 2010, 09:17 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อุธาหรณ์สำหรับคนโกหก

สวัสดีค่ะ

ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ ถ้าคุณตั้งใจทำความดีสักวันคุณจะต้องได้รับผลดีนั้น เมื่อก่อนตัวเองก็เป็นคนที่ผิดศีล ทุกวันนี้พยายามตั้งใจรักษาศีล เชื่อมั่นในพระรัตนตรัย คิดเสมอว่าถ้าเราทำวันนี้ให้ดีพรุ่งนี้จะต้องดี มีผู้ชายหลายคนที่เลือกใช้วิธีที่คุณเคยทำมา แฟนของตัวเองก็เป็นคนหนึ่งที่เลือกวิธีโกหกสารพัดเพื่อจะให้ได้มีผู้หญิงอีกคนและให้มีภาพลักษณ์ที่ดูดีในสังคม วันนี้คุณคิดได้ถือว่าคุณยังมีบุญเก่าอยู่มาก กรรมอาจจะไม่หมดไปแต่เราสามารถทำให้ผลกระทบมันเบาบางลงได้ด้วยการทำดี มั่นเข้าวัดทำบุญ สวดมนต์ รักษาศีล ถ้ามีเวลาว่างลองไปปฏิบัติธรรมดูนะคะ

ส่วนภรรยาคุณพยายามพูดอธิบายกับเธอ เธอเคยให้อภัยคุณมาตลอดถ้าเธอยังรักคุณอยู่เธอก็จะต้องให้อภัยคุณค่ะ แต่คุณก็ต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองด้วยว่าคุณคิดได้แล้ว คิดดี ทำดี พูดดี สิ่งดี ๆ จะเ้ข้ามาค่ะ
:b41: :b41:

เจ้าของ:  ทักทาย [ 04 เม.ย. 2010, 10:14 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อุธาหรณ์สำหรับคนโกหก

อยู่คนเดียวก็ดีแล้ว
จะได้มีเวลาถือศิล ปฏิบัติธรรม
มุ่งหน้าทำความดี ถ้าเหงา
ก็เข้ามาสนทนาธรรมกับ
กัลยณมิตรที่ลานนี้ นะค่ะ

เจริญในธรรมค่ะ :b8:

เจ้าของ:  Bwitch [ 04 เม.ย. 2010, 10:40 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อุธาหรณ์สำหรับคนโกหก

รูปภาพ
:b48: สาธุ อนุโมทามิ :b48:

เจ้าของ:  bestmom [ 05 เม.ย. 2010, 13:37 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อุธาหรณ์สำหรับคนโกหก

:b4: สู้ ๆ นะคะ
ได้ยินผู้ชายคิดได้อย่างนี้ ก็ดีใจด้วยคะ
เมื่อไหร่สามีของดิฉันจะคิดได้อย่างคุณคะเนี่ย
ยังไง ถ้าเราทำดีก็ต้องได้ดีนะคะ ทำชั่วก็คอยรับผลกรรมที่ทำไว้ละกันคะ
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัวนะคะ

เจ้าของ:  Bwitch [ 05 เม.ย. 2010, 15:11 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อุธาหรณ์สำหรับคนโกหก

รูปภาพ
:b4: :b4: :b4: :b4: :b4: :b4: :b4:

เจ้าของ:  -dd- [ 05 เม.ย. 2010, 15:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อุธาหรณ์สำหรับคนโกหก

Wylsmith:

อ้างคำพูด:
ที่ผมเล่ามานี้เพราะผมคิดเอาเองว่าในสังคมลานธรรมจักรแห่งนี้จะเป็นที่พึ่ง ให้ผมได้ และก็ต้องการให้ชีวิตผมเป็นอุธาหรณ์ แก่บุคคลที่ได้รับหรือได้รู้เท่านั้น เพราะผมรู้ว่าผมจะต้องรับกรรมอีกนาน ถึงแม้จะทำบุญทำกุศลใด ก็ไม่สามารถทดแทนกันได้ บุญส่วนบุญ กรรมชั่วที่ได้ทำไปแล้วย่อมส่งผลชั่วให้กับตัวผมเอง (ติดจรวดเลยหละ)


อนุโมทนาด้วยครับ...กับสิ่งที่นำมาเล่านี้ นี่คือการให้ธรรมทานที่มีอานิสงค์มหาศาลแล้วครับ หากมีท่านที่กำลังขยันสร้างทางไปอบายมาอ่านเข้า เกิดสำนึกผิดและ U-turn ได้ คุณ ย่อมได้เก็บเกี่ยวผลบุญอันยอดเยี่ยมนี้ไปตราบเท่าที่ยังมีชีวิตอยู่ทีเดียว..

ขึ้นชื่อว่าปุถุชนแล้ว ที่จะไม่มีใครทำผิดพลาดเลยย่อมไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้ แต่ในบรรดาคนที่ทำผิดแล้วนั้น ผู้ที่สำนึกผิดได้ เตือนตนเองเป็น และคิดแก้ไข..บัณฑิต ทั้งหลายย่อมสรรเสริญ ทั้งเขาจะไม่เข้าถึงความเสื่อมในคุณเครื่องของการเป็นคนดี และมีความสุข พ้นจากเวรภัยได้แน่แท้..

ขอแสดงความยินดีที่คุณ"มีบุญเก่า"อันตนสั่วสมมาดีแล้วจึงสามารถมาพบแสงสว่างในขณะที่กำลังท่องไปในที่มืดอยู่ เพราะสิ่งทั้งหลายที่คุณได้พบเห็นย่อมมิใช่เกิดเพราะฟลุคหรือโชคพามา แต่อาศัยเหตุเก่าที่ดีที่เคยทำมาแล้วนั้น ผลที่สมควรแก่เหตุนั้นย่อมปรากฏได้..สมดังคำสอนของพระพุทธองค์ที่ว่า"สิ่งทั้งปวงล้วนไหลมาแต่เหตุ"..อันเป็นสัจจะความจริงสากลที่ใครๆไม่อาจโต้แย้งบิดเบือนได้..

อันความผิดที่พลาดไปแล้ว พึงใช้เป็นบทเรียนเพื่อเตือนตนไม่ให้ทำอีก จึงนับว่าควร ..
แต่ไม่พึงนำความผิดนั้นมาคิดตอกย้ำปรักปรำตนอยู่แบบไม่รู้จบ รู้จักให้อภัยตน ไม่โทษตนแล้วๆเล่าๆ อันเป็นการปล่อยจิตให้ตกไปอยู่กับอกุศลคือความฟุ้งซ่าน เดือดร้อนใจ ซึ่งเป็นการทำบาปเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง..บาปเก่าจบไปแล้ว แต่เมื่อนำมาย้ำคิดอยู่ก็เท่ากับทำบาปใหม่ไปเรื่อยๆ เช่นนี้ ย่อมทำให้อกุศลอื่นๆมาส่งผลทับซ้อนทวีคูณจนหาความสงบสุขไม่ได้เลย นับว่าอันตรายมาก..

ขอให้ยุติความโศกเสียใจเสียก่อน ปรับใจเพื่อการเจริญกุศลให้มาก เป็นการสร้างเหตุใหม่ที่ดีเพื่อผลที่ดีต่อไป สิ่งใดล่วงแล้วก็ไม่นำมาคิดอีก ไม่มีใครเลยที่ได้แต่สุขหรือทุกข์อย่างเดียวตลอดไป..เพราะอย่าลืมว่าในสังสารวัฏอันยาวไกลนี้ เราทั้งนั้นทำทั้งดีและชั่วสลับปนกันตลอดเวลา...เมื่อต้องการความสุขก็พึงเจริญเหตุที่ควรคือกุศลทั้งหลายให้มากเถิด อย่ามัวเสียเวลาเสียใจกับอดีตที่ผ่านแล้วแก้ไม่ได้ เรามีปัจจุบันเพื่อเหตุใหม่ที่ดีครับ...

กุศลคือ ทาน ศีล ภาวนา เมื่อมีโอกาสแล้วไม่พึงละเลย...

การศึกษาพระธรรมย่อมยังปัญญามาสู่ตน ย่อมสามารถพาตนพ้นทุกข์ได้อย่างแท้จริง ย่อมมีตนเป็นที่พึ่งได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งใครๆให้มาช่วยแก้ทุกข์ การได้เกิดมาเป็นคนนั้นยากมากแล้ว แต่การได้พบคำสอนของพระพุทธเจ้า ยิ่งยากขึ้นไปอีก ดังนั้นพึงขวนขวายในสิ่งอันไม่ธารณะแก่สัตว์ทั้งปวงคือพระธรรมอันประเสริฐนี้เถิด เพราะจะนำเราให้ข้ามพ้นทุกข์แบบไม่มีส่วนเหลือได้จริง อื่นจากคำสอนนี้ ไม่ใช่ฐานะที่จะทำได้เลย...

ตั้งใจประพฤติศีลอย่างมั่นคง คุณจะได้ประจักษ์คุณแห่งศีลแม้ในอัตภาพนี้ทีเดียว ขอให้พิสูจน์ดูครับ..

เป็นกำลังใจอีก๑หน่วยให้ครับ.. :b46: :b47: :b48: :b41:

เจ้าของ:  นนนน [ 05 เม.ย. 2010, 16:04 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อุธาหรณ์สำหรับคนโกหก

อนุโมทนา กับกรณีศึกษาที่เป็นตัวอย่างที่ดี
สำหรับบุคคลอื่น ๆ ขอให้คุณตั้งมั่นรักษาศีล
เจริญภาวนา อุทิศให้กับผลกรรมต่าง ๆ ที่คุณทำไว้
จะทำให้ใจคุณสงบลงได้ค่ะ
ส่วนเรื่องโทรหาภรรยา ขอให้คำแนะนำว่า
ตั้งใจลองโทรคุยดูสักครั้ง ดิฉันเชื่อว่า
ภรรยาคุณให้อภัยคุณมาโดยตลอด
ถึงตอนนี้เธอเองก็น่าจะยังให้อภัยคุณ
อยู่เหมือนเช่นเคยค่ะ

เจ้าของ:  Wylsmith [ 06 เม.ย. 2010, 20:18 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อุธาหรณ์สำหรับคนโกหก

tongue ขอบพระคุณมาก ๆ ครับสำหรับกำลังใจและคำแนะนำที่มีค่ายิ่งที่ผมได้รับจากทุกท่าน จากกัลยาณมิตร ณ ลานสนทนาแห่งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำแนะนำและบทวิเคราะห์จากท่าน -DD- ทำให้ผมมีกำลังใจอย่างมากในการตั้งมั่นรักษาศีล 5 ซึ่งตอนนี้ผ่านมาได้ 3 วันแล้ว ที่ผมไม่แตะต้องสุราของมึนเมา ระมัดระวังคำพูด (ตลอด 1 ปีที่ผ่านมานี้ผมดื่มทุกวัน พูดจาโกหกทุกวัน) ขอขอบพระคุณอีกครั้งครับ ผมจะพยายามรักษาศีล 5 นี้ไว้ให้ได้ครับ

Wylsmith

เจ้าของ:  -dd- [ 06 เม.ย. 2010, 21:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อุธาหรณ์สำหรับคนโกหก

สาธุๆ ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปครับ คุณWylsmith.. :b8:

แม้เมื่อพบวิกฤตในชีวิต ก็นำมาพลิกให้เป็นโอกาสได้ครับ...


หากจะมีคน"มีศีล"เพิ่มอีกเพียง๑คนในโลก ก็เป็นความประเสริฐยิ่งแล้ว เพราะคน "มีศีล" ย่อมไม่เป็นภัยแก่ใคร ตรงข้ามเขาย่อมยังประโยชน์เป็นเอนกแก่โลก ..อย่างน้อยเมื่อใครทำทานแก่คน"มีศีล"..ย่อมยังอานิสงค์มหาศาลให้แก่ผู้ให้..เป็นต้น ..

:b44: :b49: :b50:

เจ้าของ:  nuttida [ 07 เม.ย. 2010, 09:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อุธาหรณ์สำหรับคนโกหก

Wylsmith เขียน:
ขอบพระคุณมาก ๆ ครับสำหรับกำลังใจและคำแนะนำที่มีค่ายิ่งที่ผมได้รับจากทุกท่าน จากกัลยาณมิตร ณ ลานสนทนาแห่งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำแนะนำและบทวิเคราะห์จากท่าน -DD- ทำให้ผมมีกำลังใจอย่างมากในการตั้งมั่นรักษาศีล 5 ซึ่งตอนนี้ผ่านมาได้ 3 วันแล้ว ที่ผมไม่แตะต้องสุราของมึนเมา ระมัดระวังคำพูด (ตลอด 1 ปีที่ผ่านมานี้ผมดื่มทุกวัน พูดจาโกหกทุกวัน) ขอขอบพระคุณอีกครั้งครับ ผมจะพยายามรักษาศีล 5 นี้ไว้ให้ได้ครับ


ขออนุโมทนา สาธุค่ะ คุณ Wylsmith ขอเป็นกำลังใจให้คุณตั้งมั่นในการรักษาศีล 5 นะคะ :b8:

เจ้าของ:  นนนน [ 07 เม.ย. 2010, 09:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อุธาหรณ์สำหรับคนโกหก

ขออนุโมทนาบุญ ด้วยนะค่ะ
บุญกุศลที่คุณทำ จะทำให้คุณได้พบ
กับสิ่งดี ดี ในชีวิตค่ะ

เจ้าของ:  Wylsmith [ 07 เม.ย. 2010, 19:39 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อุธาหรณ์สำหรับคนโกหก

tongue ขอกราบขอบพระคุณทุกท่านสำหรับคำแนะนำที่ผมได้รับ ณ ลานธรรมแห่งนี้ ขณะนี้กำลังใจที่ท่านได้มอบให้กับผมนั้น ได้ส่งผลและบันดาลสิ่งดี ๆ ให้กับผมดังนี้ครับ
1.ทำให้ผมได้นอนหลับโดยไม่ต้องใช้ยานอนหลับ และสุราฯ
2.ผมไม่มีความรู้สึกอยากดื่มสุรา ของมึนเมาเลย (ทั้ง ๆ ที่แต่ก่อนต้องดื่มก่อนนอน)
3.การที่ผมระวังและสำรวมคำพูด ทำให้ผมสุขุมขึ้นเวลาติดต่อประสานงานผมรู้สึกได้ถึงการได้รับความเคารพจากผู้ที่ต้องประสานงานด้วย (นี่ประเมินเพียงแค่ 3 วันนะ)
4.สำคัญที่สุดและดีใจที่สุดคือภรรยาผมยอมไปหาหมอ เพื่อตรวจสุขภาพครับ (ดีใจสุด ๆ มีความสุขใจมากที่เธอทำตามคำแนะนำผมเพราะครั้งสุดท้ายที่ผมพบเธอ เธอผอมและดูไม่มีแรง ผมได้ขอร้องเธอให้ไปพบหมอ แต่เบื้องต้นเธอปฎิเสธ เธอบอกว่าไม่เป็นอะไร ไม่ต้องห่วงเธอ)

แต่อย่างที่บอกแหละครับกรรมชั่ว (ขอใช้คำตรง ๆ ซึ่งดูไม่ค่อยสุภาพ แต่ชัดเจนดี) ที่ผมได้ทำมันยังหลอกหลอนผมอยู่ กล่าวคือ เดี๋ยวนี้ก่อนนอนผมจะสวดมนต์(แต่ก่อนไม่เคยสนใจหรือสวดเลย) ในขณะที่สวดนั้นจะมีวูบหนึ่ง หรือ หลาย ๆ ครั้งที่คิดถึงสิ่งไม่ดีที่ได้ทำไว้กับภรรยา ทำให้ผมไม่มีสมาธิสามารถสวดต่อไปได้ ผมใคร่ขอคำแนะนำจากกัลยาณมิตรครับว่าควรทำอย่างไร ผมขอน้อมรับคำแนะนำครับ

ขอบพระคุณทุกท่านอีกครั้งครับ
Wylsmith

เจ้าของ:  nuttida [ 08 เม.ย. 2010, 08:39 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อุธาหรณ์สำหรับคนโกหก

อดีตผ่านมาแล้วเรากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ต้องปล่อยวางมันไป อย่าเอามาคิด คิดถึงแต่สิ่งดี ๆ จิตใจจะผ่องใสแล้วสิ่งดีๆ ก็จะตามมา ตัวตนเราในอดีตกับปัจจุบันจริงๆ แล้วก็คือคนละคนกัน ถ้าจะให้เห็นชัด ๆ ดูตอนเมื่อ 20 ปี ที่แล้วกับปัจจุบัน ก็จะเห็นชัดว่าไม่เหมือนกันเลย อดีตที่ผิดพลาดอยากให้จำไว้เป็นบทเรียนค่ะ อย่าเก็บมาเป็นภาระ เพราะถ้าคนเราไม่ปล่อยวางอดีต ก็จะไม่รู้จักอนาคต

คราวหน้าถ้าภรรยาคุณไปพบคุณหมอลองไปเป็นเพื่อนเธอดูนะคะ ถ้าเรามีความรู้สึกดี ๆ ให้ คนข้าง ๆ จะรับรู้ได้ หลวงพ่อจรัญท่านเคยสอนไว้ว่า ใจเป็นใหญ่ใจเป็นประธาน ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ใจ สุขหรือทุกข์ก็เกิดจากใจเรา ขอให้เจริญในธรรมค่ะ
:b41: :b41:

หน้า 1 จากทั้งหมด 6 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/