วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 09:25  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2010, 22:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2010, 21:38
โพสต์: 3

สิ่งที่ชื่นชอบ: หนังสือของท่าน ว.วชิรเมธี
อายุ: 26
ที่อยู่: กทม

 ข้อมูลส่วนตัว


ก่อนอื่นขอ สวัสดีปีใหม่ไทยทุกๆคนนะคะ มีความสุขกันมากๆนะคะ

ติดตามอ่านมาซักพักแล้ว วันนี้ได้สมัครสมาชิกซักที เลยได้โอกาสขอคำปรึกษากับเพื่อนๆพี่ในนี้

หนูคบกับแฟนมา 10 ปี ตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมปลาย ในชีวิตนี้ ไม่เคยคิดเลยว่าต้องห่างกัน เพราะคุยกันตลอด ทุกๆเรื่อง และ ผู้ใหญ่ของหนูและแฟนก็รู้จักสนิทสนมกันดี แต่มาถึงจุดเปลี่ยนคือ แฟนต้องไปเรียนต่อเมืองนอก ซึ่งเค้าเลือกเองว่าจะไป แต่หนูติดตรงที่ว่าต้องดูแลครอบครัวและงานของที่บ้านเลยไม่ได้ไปด้วย ก่อนไปก็ได้สัญญากันว่า จะรอ และแฟนก็ให้สัญญาว่า จะปรับปรุงตัวให้เป็นคนดี และ จะกลับมาแต่งงานกัน ตอนที่เค้าไปอยู่เมืองนอก เราก็คุยกันทุกวัน ทางโทรศัพท์และ e-mail ก็ส่งหากันทุกวัน และก่อนกลับหนูก็ได้ไปเที่ยวและกลับมาพร้อมเค้า พอกลับมาได้ 1-2วัน รู้สึกว่าเค้าเปลี่ยนไป ติดต่อไม่ได้บ้าง ไม่ได้เจอหน้ากันเลย เราก็คิดว่าให้เค้าอยู่กับครอบครัวบ้างเพราะเค้าก็ห่างกับครอบครัวนาน พอเห็นว่าอะไรๆมันเริ่มแปลกไป เลยตัดสินใจถาม เค้ายอมรับว่า ความรู้สึกที่มีให้กันนั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว และยืนยันว่าไม่มีคนใหม่แน่นอน และขอเวลา1เดือนเพื่อห่างกัน เพื่อถามตัวเองว่ายังรู้สึกเหมือนเดิมอีกมั้ย ตอนนั้นหนูยอมรับเลยว่า อาการหัวใจสลายเป็นอย่างไร แต่ คุณแม่ทั้งของเค้าและของหนูก็ได้ให้กำลังใจและบอกให้รอดูก่อน 1 เดือนผ่านไป เค้าก็ยังให้คำตอบไม่ได้ แต่ในตอนนั้น หนูได้เริ่มอ่านหนังสือ ธรรมมะและสวดมนต์แล้ว ทำให้ใจสงบและเริ่มเห็นสัจธรรมของชีวิตแล้ว แต่ เหมือนว่า ร่างกายดีขึ้น แต่ใจที่คิดว่าดีก็ยังคิดถึงและเป็นห่วง เป็นกังวลต่างๆนาๆ เพราะไม่รู้สาเหตุของการถูกบอกเลิก คุณแม่เค้าก็ได้บอกว่า ให้ตัดใจซะเถิดเพราะเค้าเห็นว่าลูกเค้าเปลี่ยนไปมาก จนคุณแม่เค้าก็เรื่มไม่มั่นใจในตัวลูกตัวเองว่า ตกลงแล้วเพราะอะไร ตลอด1เดือน เค้าโทรมาตลอด มาถามว่ากินข้าวรึยัง กินเยอะมั้ย นอนหลับมั้ย ซึ่งเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ที่โทรมาคือ นานๆจะโทรมาที 3วัน 5 วัน บางที อาทิตย์นึง จนเรารู้สึกว่า ไม่คุยกันจะดีกว่า เลยตัดสินใจไม่รับโทรศํพท์เค้าอีกต่อไป เป็นเวลา 1 เดือนที่ไม่ได้คุยกัน (แต่เค้ามีส่ง sms มาบ้าง) แต่กับแม่เค้าคุยกันตลอด เพราะแม่เค้าบอกว่าเห็นเราเหมือนลูกสาวไม่ได้เห็นเหมือนเป็นแฟนของลูกชายเค้า ซึ่งเราผูกพันกันมา เป็น 10 ปี จนเมื่อ อาทิตย์ที่แล้วเค้าโทรมาหลายรอบมากๆเป็น 10ๆรอบเลยตัดสินใจรับโทรศัพท์และคุยกัน เค้าก็ยังยืนยันว่า ตอนนี้อยากคบแบบเพื่อน แต่ในอนาคตถ้าเป็นคู่กันจริงก็คงไม่แคล้วกัน
สรุปคือ เหมือนเค้ายังให้ความหวังเราอยู่แต่เรารู้อยู่เต็มอกว่าไม่มีทางที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้แล้ว ซึ่งเพื่อนๆที่สนิท(ก็คบกันมาเป็นสิบปี)ก็บอกว่าอย่ารอเลย เพราะตั้งแต่คบกันมา มีแต่เราที่เป็นฝ่ายยอมมาตลอด ซึ่งเค้ามีอิสนระในการดำเนินชีวิตทุกอย่าง เที่ยวกับเพื่อนกลางคืน ดื่มเหล้า เล่นพนัน ซึ่งทุกอย่างที่เค้าทำเราเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดาหมด ส่วนเราก็อยู่บ้านไม่ได้ไปด้วย อยู่กับครอบครัว หมาๆทั้งหลาย ซึ่งเราไม่ชอบไปเที่ยวพวกนั้นอยู่แล้ว เหมือนกับเรามองข้ามสิ่งพวกนี้ไป ตอนนี้กลับมาคิดดูว่า เฮ้ย มันอบายมุขทั้งนั้นเลย ซึ่งกลุ่มเพื่อนเค้าจะเป็นแบบนี้ทั้งหมด และตอนนี้ก็รู้สึกว่าเค้าก็จะวงเวียนอยู่ในวงจรพวกนี้ซึ่งแม่เค้าก็บอกว่า ตัดใจเถอะ เค้าไม่อยากให้คนที่เค้ารักมาทุกข์ทนและไม่มีความสุข
วันนี้เราได้ส่ง sms ไปหาเค้าว่า สวัสดีปีใหม่ไทย และ จะขออยู่เคียงข้างแบบเพื่อนตลอดไป เค้าก็ตอบกลับมาว่า ยังงัยก็เห็นเราเป็นคนสำคัญที่สุด
เพื่อนๆพี่ๆว่า หนูจะรอเค้าดีมั้ย หรือ คู่กันแล้วจะไม่แคล้วกันจริงๆ ?

ขอบคุณทุกๆท่านล่วงหน้านะคะ p.s. อาจจะยาวและวกวนไปมาก ยังไงขออภัยด้วยคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2010, 23:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 13:22
โพสต์: 146

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


noonnaka เขียน:
สรุปคือ เหมือนเค้ายังให้ความหวังเราอยู่แต่เรารู้อยู่เต็มอกว่าไม่มีทางที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้แล้ว
:b47: :b47: :b47: :b47: :b47:
:b51: เขาอาจจะอยากลองคบคนอื่นดูบ้าง
:b51: แต่ก็กลัวว่าอาจจะไม่ดีเท่าคุณ
:b51: ก็เลยอยากกั๊กคุณไว้
:b51: คุณจะยอมเป็นตัวเลือกของเขาเหรอค่ะ
:b51: ตัดใจได้ก็เจอคนใหม่ได้ค่ะ



วันก่อนเมื่อคุณยังไม่อกหัก ก็มีใครบางคนอกหักมาก่อน
วันนี้คุณกำลังอกหัก ก็มีใครบางคนหายเศร้า ทำใจได้ไปล่วงหน้าแล้ว
พรุ่งนี้ถ้าคุณสดใสได้เหมือนมีชีวิตใหม่อีกครั้ง
ลืมความเศร้าจากอาการฟูมฟายเพราะเสียของน่ารักน่าใคร่
ก็จะมีใครบางคนมารับช่วงแทน
โศกเศร้า อาลัยอาวรณ์ ราวกับไม่อาจผ่านทางลำบากได้สำเร็จ

โลกเป็นอย่างนี้มานานเต็มที
แต่ก็ไม่มีใครรู้สึกว่าเป็นของน่าเบื่อหน่าย

http://larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/001415.htm#2

.....................................................
ทำไมต้องปล่อยว่าง
เพราะทุกอย่างมี ความว่าง มาแต่เดิม


แก้ไขล่าสุดโดย คิดดี ทำดี พูดดี เมื่อ 13 เม.ย. 2010, 23:48, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2010, 23:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 13:22
โพสต์: 146

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


noonnaka เขียน:
แต่ในตอนนั้น หนูได้เริ่มอ่านหนังสือ ธรรมมะและสวดมนต์แล้ว ทำให้ใจสงบและเริ่มเห็นสัจธรรมของชีวิตแล้ว แต่ เหมือนว่า ร่างกายดีขึ้น แต่ใจที่คิดว่าดีก็ยังคิดถึงและเป็นห่วง เป็นกังวลต่างๆนาๆ เพราะไม่รู้สาเหตุของการถูกบอกเลิก คุณแม่เค้าก็ได้บอกว่า ให้ตัดใจซะเถิดเพราะเค้าเห็นว่าลูกเค้าเปลี่ยนไปมาก จนคุณแม่เค้าก็เรื่มไม่มั่นใจในตัวลูกตัวเองว่า ตกลงแล้วเพราะอะไร


อนุโมทนาค่ะ :b8:

noonnaka เขียน:
เพราะตั้งแต่คบกันมา มีแต่เราที่เป็นฝ่ายยอมมาตลอด ซึ่งเค้ามีอิสนระในการดำเนินชีวิตทุกอย่าง เที่ยวกับเพื่อนกลางคืน ดื่มเหล้า เล่นพนัน ซึ่งทุกอย่างที่เค้าทำเราเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดาหมด ส่วนเราก็อยู่บ้านไม่ได้ไปด้วย อยู่กับครอบครัว หมาๆทั้งหลาย ซึ่งเราไม่ชอบไปเที่ยวพวกนั้นอยู่แล้ว เหมือนกับเรามองข้ามสิ่งพวกนี้ไป ตอนนี้กลับมาคิดดูว่า เฮ้ย มันอบายมุขทั้งนั้นเลย ซึ่งกลุ่มเพื่อนเค้าจะเป็นแบบนี้ทั้งหมด และตอนนี้ก็รู้สึกว่าเค้าก็จะวงเวียนอยู่ในวงจรพวกนี้ซึ่งแม่เค้าก็บอกว่า ตัดใจเถอะ เค้าไม่อยากให้คนที่เค้ารักมาทุกข์ทนและไม่มีความสุข


ในธรรมบทมีอยู่บทหนึ่งท่านกล่าวไว้ว่าสิริกับกาลีมาอยู่ด้วยกัน ความวิบัติก็เกิดขึ้นเอง อันนี้เป็นเรื่องจริง ถ้าคิด พูด ทำต่างกันมากๆ คนหนึ่งไปทางบุญ อีกคนไปทางบาป อยู่กันก็รังแต่จะมีเรื่องร้อนๆตลอด และกรรมจะเป็นผู้แยกทางให้ ไม่ว่าจะจากเป็นหรือจากตาย ฝ่ายดีจะยิ่งได้ไปดีขึ้น ส่วนฝ่ายร้ายก็จะยิ่งได้ไปเสวยทุกขเวทนาแสนสาหัส โดยเอาเวลาที่อยู่ร่วมกันนั่นเองเป็นเครื่องสร้างอนาคต กล่าวคือฝ่ายดีจะได้บำเพ็ญทั้งขันติ ทั้งอภัยทาน และอีกสารพัด ส่วนฝ่ายร้ายก็จะได้ก่อเวร ทั้งความเบียดเบียน ทั้งนิสัยถืออำนาจบาตรใหญ่

รายละเอียดเรื่องการครองคู่นั้นพิสดารลึกซึ้งนัก แต่พอสรุปได้คร่าวๆคืออยู่ดี อยู่ร้าย และอยู่ครึ่งดีครึ่งร้าย โดยมากจะเป็นแบบที่สาม คือครึ่งดีครึ่งร้าย เพราะฉะนั้นโดยมากเช่นกัน ที่คนเราจะเจอรัก "ครึ่งแท้ครึ่งปลอม" กัน

นอกจากรักแท้แพ้ใกล้ชิดแล้ว ต้องบอกด้วยว่ารักแท้แพ้กรรมเก่า คนเราถ้าเคยร่วมกันบาปมากกว่าร่วมบุญกันมา อยู่ด้วยกันป๊อบแป๊บ วันหนึ่งก็ต้องมีเหตุให้แยกจากกัน แล้วไปเสี่ยงบุญเสี่ยงกรรม หาคนใหม่ที่เคยร่วมดีร้ายมาหนักเบากว่ากันอีก


http://larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/006918.htm#2

.....................................................
ทำไมต้องปล่อยว่าง
เพราะทุกอย่างมี ความว่าง มาแต่เดิม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2010, 09:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


คนเราหากจะครองคู่อยู่กินกันอย่างเป็นสุข
และยืนยาวได้ สิ่งหนึ่งที่ควรมีคือ"ศิล" เท่ากัน คุณเริ่มเข้าหาธรรมะ
แต่เขามัวเมาอยูที่อบายมุขทั้งหลาย เหมือนขั้วแม่เหล็กที่มันผลักออก
จากกัน ถ้าขืนแต่งงานกันไป ความแตกต่างก็จะยิ่งชัดเจน คนหนึ่งไป
ซ้าย อีกคนหนึ่งไปขวา แล้วจะคุยกันรู้เรื่องได้อย่างไรค่ะ?

ไม่ต้องรอ แต่ก็ยังไม่ต้องเลิก พิจารณาไปเรื่อยๆ เราก็อยู่ของเราไป
แบบไม่พัวพัน โทรมารับบ้าง ไม่รับบ้าง พูดบ้าง ไม่พูดบ้าง ให้วันเวลา
เป็นเครื่องตัดสิน ถ้ายังมีกรรมร่วมกันอยู่ อย่างไรก็ต้องชดใช้ แต่ถ้าไม่มี
ก็ต้องมีอันคลาดแคล้วกันไปเองแหละค่ะ หมั่นสวดมนต์ เจริญภาวนา
สร้างกุศลผลบุญไว้ดีกว่า จะได้แคล้วคลาดจากสิ่งเศร้าหมองทั้งปวง :b12:


สุขสันต์วันสงกรานต์นะค่ะ

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2010, 12:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


noonnaka:

อ้างคำพูด:
แต่มาถึงจุดเปลี่ยนคือ แฟนต้องไปเรียนต่อเมืองนอก ซึ่งเค้าเลือกเองว่าจะไป แต่หนูติดตรงที่ว่าต้องดูแลครอบครัวและงานของที่บ้านเลยไม่ได้ไปด้วย ก่อนไปก็ได้สัญญากันว่า จะรอ และแฟนก็ให้สัญญาว่า จะปรับปรุงตัวให้เป็นคนดี และ จะกลับมาแต่งงานกัน


เมื่อมี"สัญญา"...ก็เป็นที่มาของความมั่นหมายยึดถือของคนที่มั่นคงในสัญญา และเป็นจุดเริ่มต้นของการหันเหเพื่อบิดพลิ้วผิดสัญญาของคนที่มีความโลเลไม่มั่นคง..หรือคนที่ไม่มี"สัจจะ"

อ้างคำพูด:
พอเห็นว่าอะไรๆมันเริ่มแปลกไป เลยตัดสินใจถาม เค้ายอมรับว่า ความรู้สึกที่มีให้กันนั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว และยืนยันว่าไม่มีคนใหม่แน่นอน และขอเวลา1เดือนเพื่อห่างกัน เพื่อถามตัวเองว่ายังรู้สึกเหมือนเดิมอีกมั้ย ตอนนั้นหนูยอมรับเลยว่า อาการหัวใจสลายเป็นอย่างไร


ใจนั้นมีอำนาจพิเศษบางอย่างคือสามารถรับ"รู้ความจริงได้"..การที่เขาประกาศตรงๆเช่นนี้นับว่าดีมาก ดีกว่าการที่เขาจะนิ่งหรือทำความอึมครึมให้เราไ่ม่รู้ตัวเฝ้าฝันเรื่อยไป จนในที่สุดก็พบว่ามันคือฝันร้ายที่ยืดเยื้อยาวนานจนเกินเวลาที่ควรกำหนด ... กว่าจะลุกออกมาจากฝันได้ก็สายเกินไปแล้ว..

คนที่คบกันมาถึง๑๐ปี จู่ๆมาบอกว่าเปลี่ยนใจและ แต่ยังไม่มีคนใหม่ เราเชื่อได้หรือ..?

ก็เมื่อเขาเปลี่ยนแล้ว จู่ๆจะเปลี่ยนกลับมาเป็น"เหมือนเดิม"ได้นี่น่าจะเป็นสิ่งที่ไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว...คนที่เปลี่ยนใจไปมาได้ราวลมพัดลมเพนั้น น่าจะเป็นผู้ที่เราจะพึงไว้ใจอะไรได้หรือ ??!!..
ถ้าวันนี้เขามาบอกว่าฉันยังรักเธออยู่นะ แล้วอีก๗วันต่อมาใครจะการันตีได้ว่าเขาจะไม่มาบอกว่า วันนี้ฉันเปลี่ยนใจ ??!...ตรงนี้ยังไม่เสียหายมากเท่ากับว่า อีก๗ปีต่อมา เมื่อเรามีลูก๗คนแล้ว เป็นยายแก่เเร้งทึ้งนี่สิ เสียหายยับเยินทีเดียว.. :b1: :b1:

อ้างคำพูด:
เพื่อนๆพี่ๆว่า หนูจะรอเค้าดีมั้ย หรือ คู่กันแล้วจะไม่แคล้วกันจริงๆ ?


นี่เป็นคำหรูๆที่ปรากฏเฉพาะในนิยายน้ำเสีย ในความจริงคือ คู่กันแล้วก็ต้องแคล้วกันไป เพราะไม่เสมอกันด้วยศีล ศรัทธา ปัญญาครับ..

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


แก้ไขล่าสุดโดย -dd- เมื่อ 14 เม.ย. 2010, 13:03, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2010, 13:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2010, 21:38
โพสต์: 3

สิ่งที่ชื่นชอบ: หนังสือของท่าน ว.วชิรเมธี
อายุ: 26
ที่อยู่: กทม

 ข้อมูลส่วนตัว


:b17: ต้องขอขอบคุณทุกๆคำแนะนำเลยนะคะ ได้มุมมองใหม่ๆเยอะเลย ตอนนี้ก็คิดแล้วว่า ให้อภัยเค้าและจะเลิกเห็นแก่ตัวคือ ถ้าเค้ามีความสุขเราก็พร้อมจะมีความสุขด้วย ไม่คิดว่าเค้าต้องรักเรานะถึงจะมีความสุขไปกับเค้า ตอนนี้ก็ต้องขอบคุณเค้าจริงๆที่ทำให้เรา รีบเร่งสร้างบุญกุศล อ่านหนังสือธรรมมะ สวดมนต์ ยังมีที่ไม่ได้ทำคือ นั่งวิปัสสนา ตอนนี้ก็กำลังหาสถานที่อยู่ แต่เท่าที่ดูมาแต่ละที่ เวลาในการปฏิบัติธรรมาจะเป็น 7 วัน 9 วันทั้งนั้นเลย ซึ่งเราทำงานเลยไม่มีเวลาเหมาะเจาะที่จะไปนั่ง แต่ก็ได้ฝึกนั่งเอาที่บ้านบ้างแล้ว แต่จิตก็ยังไม่สงบเท่าที่ควร เพื่อนๆพี่ๆมีที่ไหนแนะนำมั้ยค่ะที่ระยะเวลาประมาณซัก 3 วัน ที่เป็นศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ :b39:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2010, 21:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 เม.ย. 2010, 21:53
โพสต์: 4

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


1. วัดพิชยญาติการาม แถวคลองสานค่ะ
(วัดแม่ชีทศพรค่ะ)
ถือศีล 8 คำบริกรรมแบบ ยุบหนอ พองหนอนะคะ
ใช้เวลาแค่เสาร์-อาทิตย์ ก็ได้ค่ะ
ลงทะเบียนก่อน 7 โมงเช้า และลาสิกขา วันอาทิตย์ค่ะ
2. วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี
ถือศีล 8 แนวเดียวกันค่ะ
บวชแบบ 3 วัน ต้องไปถึงวัดก่อน 4 โมงเย็นของวันศุกร์นะคะ
แล้วลาสิกขา วันอาทิตย์ค่ะ
มีรถตู้จากอนุสาวรีย์ไปถึงหน้าวัดเลย ค่ารถ 160 บาท
แล้วนั่งมอเตอร์ไซด์รับจ้างไปถึงหน้าวัด อีก 10 บาทค่ะ


ขออวยพร ให้ข้ามพ้นความทุกข์ โดยใช้ธรรมะ เยียวยานะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2010, 22:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปล่อยให้เป็นไปตามกระแสกรรมค่ะไม่มีใครเลี่ยงได้ ถ้าน้องจะลงเอยกับแฟนกรรมจะทำให้เป็นเช่นนั้น ตอนนี้น้องทำใจให้สงบทำบุญแผ่ส่วนกุศลให้เขา ถอยหลังออกมาซักก้าวสองก้าวอาจทำให้น้องเห็นกว้างขึ้น

อย่ายึดติดที่ความรัก รักได้ก็เลิกได้มันไม่เที่ยงน่ะค่ะ กรรมมีบทบาทที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ กรณีของน้องพี่คิดว่าเป็นที่ความเบื่อหน่ายของผู้ชาย น้องคบกันมานานทำกิจกรรมหลายอย่างซ้ำๆ ผู้ชายยังไงก็อยากได้ความท้าทายและชอบลองของค่ะ น้องต้องเข้าใจเขาถ้ารักจะคบกับเขาต่อไปแต่สุดท้ายอยู่ที่กรรม

ถือศีงทำสมาธิสิคะ ทำให้บุญของน้องมีมากกว่าเขาแล้วน้องจะสมหวัง ถ้าบุญเขามากกว่าน้องน้องก็ผิดหวังค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2010, 23:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มี.ค. 2010, 23:16
โพสต์: 47

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คิดดี คิดดี คิดดี
พูดดี พูดดี พูดดี
ทำดี ทำดี ทำดี
ไปเรื่อย ๆ

บุญจัดสรรเอง ๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 เม.ย. 2010, 05:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b48: :b8: :b48:

manju เขียน:
ขออวยพร ให้ข้ามพ้นความทุกข์ โดยใช้ธรรมะ เยียวยานะคะ


สาธุครับ

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 เม.ย. 2010, 13:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2010, 14:41
โพสต์: 154

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
คนเราหากจะครองคู่อยู่กินกันอย่างเป็นสุข
และยืนยาวได้ สิ่งหนึ่งที่ควรมีคือ"ศิล" เท่ากัน คุณเริ่มเข้าหาธรรมะ
แต่เขามัวเมาอยูที่อบายมุขทั้งหลาย เหมือนขั้วแม่เหล็กที่มันผลักออก
จากกัน ถ้าขืนแต่งงานกันไป ความแตกต่างก็จะยิ่งชัดเจน คนหนึ่งไป
ซ้าย อีกคนหนึ่งไปขวา แล้วจะคุยกันรู้เรื่องได้อย่างไรค่ะ?

ไม่ต้องรอ แต่ก็ยังไม่ต้องเลิก พิจารณาไปเรื่อยๆ เราก็อยู่ของเราไป
แบบไม่พัวพัน โทรมารับบ้าง ไม่รับบ้าง พูดบ้าง ไม่พูดบ้าง ให้วันเวลา
เป็นเครื่องตัดสิน ถ้ายังมีกรรมร่วมกันอยู่ อย่างไรก็ต้องชดใช้ แต่ถ้าไม่มี
ก็ต้องมีอันคลาดแคล้วกันไปเองแหละค่ะ หมั่นสวดมนต์ เจริญภาวนา
สร้างกุศลผลบุญไว้ดีกว่า จะได้แคล้วคลาดจากสิ่งเศร้าหมองทั้งปวง :b12:


สุขสันต์วันสงกรานต์นะค่ะ



เห็นด้วยกับพี่ทักทายคะ
อย่าคิดมากเลยนะคะ จขกท.
คิดว่าเหตุการณ์ของน้องดีกว่าคะอื่นตั้งมากมาย
ปฏิบัติธรรมด้วยความตั้งใจนะคะ
พี่อนุโมธนาด้วยคะ ขอให้น้องซาบซึ้งในธรรมะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2010, 19:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2010, 21:38
โพสต์: 3

สิ่งที่ชื่นชอบ: หนังสือของท่าน ว.วชิรเมธี
อายุ: 26
ที่อยู่: กทม

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: ขอขอบคุณพี่ๆและเพื่อนๆทุกท่านเลยนะคะ สำหรับ คำแนะนำดีๆ ตอนนี้ได้สติกลับมาแล้วค่ะ และเลือกที่จะโยนความทุกข์นั้นทิ้งไป และจะตั้งใจทำงาน ดูแลครอบครัวตัวเอง ดูแลตัวเองให้ดีที่สุด และคิดว่า ทำดีต้องได้ดีแน่นอน ขอบคุณ ธรรมมะที่เป็นแสงสว่างให้ชีวิตจริงๆ

:b18:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2010, 20:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 เม.ย. 2010, 13:13
โพสต์: 12

อายุ: 25

 ข้อมูลส่วนตัว


เอาใจช่วยนะครับ คุณ noonnaka คงตั้งหลัก หาเป้าหมายให้กับชีวิตในระยะสั้น และ ระยะยาว ได้แล้วระดับหนึ่ง เอาใจช่วยนะครับ


:b8: :b8: :b8: :b8: :b8: :b8: :b8: :b8:

.....................................................
"ทำดี สบายใจ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 เม.ย. 2010, 14:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มี.ค. 2010, 13:22
โพสต์: 176

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ,ฟังธรรมะ
อายุ: 0
ที่อยู่: อยู่กับปัจจุบัน

 ข้อมูลส่วนตัว


[quote="-dd
อ้างคำพูด:
เพื่อนๆพี่ๆว่า หนูจะรอเค้าดีมั้ย หรือ คู่กันแล้วจะไม่แคล้วกันจริงๆ ?


นี่เป็นคำหรูๆที่ปรากฏเฉพาะในนิยายน้ำเสีย ในความจริงคือ คู่กันแล้วก็ต้องแคล้วกันไป เพราะไม่เสมอกันด้วยศีล ศรัทธา ปัญญาครับ..[/quote]

ถูกต้องนะค๊า
ไม่ควรไปยึดติดว่าจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้เสมอไป
ชาติก่อนเคยเป็นเนื้อคู่กันแต่ก็จะใช่ว่าชาตินี้จะต้องเกิดมาเป็นคู่กันอีก ไม่มีหลักหรือกฏเกณฑ์ตายตัวคะ

.....................................................
เรามีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นไปได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 เม.ย. 2010, 14:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มี.ค. 2010, 13:22
โพสต์: 176

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ,ฟังธรรมะ
อายุ: 0
ที่อยู่: อยู่กับปัจจุบัน

 ข้อมูลส่วนตัว


noonnaka เขียน:
:b8: ขอขอบคุณพี่ๆและเพื่อนๆทุกท่านเลยนะคะ สำหรับ คำแนะนำดีๆ ตอนนี้ได้สติกลับมาแล้วค่ะ และเลือกที่จะโยนความทุกข์นั้นทิ้งไป และจะตั้งใจทำงาน ดูแลครอบครัวตัวเอง ดูแลตัวเองให้ดีที่สุด และคิดว่า ทำดีต้องได้ดีแน่นอน ขอบคุณ ธรรมมะที่เป็นแสงสว่างให้ชีวิตจริงๆ

:b18:


อนุโมทนาคะ
:b16:

.....................................................
เรามีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นไปได้


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 7 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร