วันเวลาปัจจุบัน 23 เม.ย. 2024, 18:22  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2010, 12:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2010, 07:17
โพสต์: 161

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มีคนเคยบอกว่า “จงปล่อยคนที่เรารักไป เพราะถ้าเขากลับมาเขาจะเป็นของเราตลอดไป แต่ถ้าเขาไม่กลับมา คือเขาไม่ได้เป็นของเราตั้งแต่แรกแล้ว”
มันเป็นความจริงที่ทำใจให้คิดตามยากจัง เพราะทุกคนที่เคยโดนปลอบอย่างนี้ คิดว่าคงรู้สึกเหมือนกัน ว่าถ้าเราปล่อยให้เค้าไปแล้วเค้าไม่กลับมาล่ะ ทุกอย่างที่เคยสร้างร่วมกัน ความทรงจำดีๆที่เคยมี ความผูกพันที่เคยร่วมถักทอสายใย ใจที่เคยทุ่มเท ปาฏิหาริย์เท่านั้นที่จะทำให้เค้ากลับมา ซึ่งว่ากันตามจริง ในโลกนี้มีกี่เปอร์เซ็นที่จะเกิดปาฏิหาริย์ 1ในล้านเลยก็ว่าได้ หลายๆคนกลัวกับคำว่าความเปลี่ยนแปลง แต่จะมีใครรู้ไหมว่าทุกสิ่งไม่มีการหยุดนิ่ง รวมถึงใจคน แต่ถึงต่อให้รู้ แล้วแน่ใจเหรอว่าอยากรับรู้ อย่างที่ ขงจื๊อเคยพูดว่า “ทุกๆคำถาม มีคำตอบอยู่แล้วอยู่ในใจ แต่ที่เราไม่กล้าตัดสินใจ เพราะเรากลัวในคำตอบนั้นเท่านั้นเอง” คำว่าตัดใจถึงถูกยกมาเรื่อยเลย เวลาที่เราไม่ได้ในสิ่งที่เราต้องการ แต่ถามจริงๆเถอะ ตัดใจได้จริงเหรอ ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เราคิดว่าจะตัดใจ นั่นหมายถึงว่าสิ่งนั้นจะยังคงหยั่งรากลึกอยู่ในใจเราตราบนานเท่านาน แปลกไหมทำไมคนเรามักเรียกร้องในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว สิ่งที่มีความสุข ว่าอยากให้มันหวนคืน แล้วมีใครสงสัยไหมคะว่าทำไมสิ่งที่เราเรียกร้องให้มันกลับมานั้นเรามักจะไม่ ได้มันมา แม้เวลาจะผ่านเลยไปแต่มันกลับฝังตัวอยู่นานแสนนานในใจเรา เป็นสิ่งที่จะคอยย้ำเตือนเราตลอดเวลาในการที่จะเปิดใจรับใครเข้ามาอยู่ในใจ ของเราอีกครั้ง มีใครเคยเหนื่อยบ้างไหมคะกับการอยู่ในสังคมและโลกที่บางทีเหมือนโรงละครขนาด ใหญ่ ซึ่งพระเจ้าเท่านั้นที่จะรู้บทบาทที่แท้จริงของตัวละครแต่ละตัว แต่ตัวละครเหล่านั้นไม่ได้รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของกันและกันเลย เราอาจต่างจากตัวละครในโรงละครก็ตรงที่เรามีสมองและหัวใจ แต่ด้วยความสามารถเฉพาะตัวของตัวละครแต่ละตัวที่เลือกที่จะใช้สมอง มันก็สามารถบันดาลให้ตัวละครอื่นๆเห็นความงดงาม สิ่งที่แสดงถึงความจริงใจ แต่จะมีใครรู้ไหมคะว่าการแสดงก็เป็นการแสดงอยู่วันยังค่ำ แต่ส่วนใหญ่ตัวละครมักจะใช้สมองเพื่อคำนวณถึงสิ่งที่จะได้รับมากว่าที่จะ เลือกใช้หัวใจ เพราะหัวใจมีแต่ให้ และไม่หวังที่จะได้รับผลตอบแทน ไม่ได้อะไรเลยใช่ไหมล่ะคะ และไม่มีใครมาเข้าใจด้วยในเมื่อตัวละครทุกตัวในโรงละครใหญ่ล้วนแต่เลือกที่ จะใช้สมอง นั่นอาจเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้ใจคนเกิดการเปลี่ยนแปลง จะมีใครบ้างไหมคะที่จะไม่สนใจในผลประโยชน์ที่วางกองอยู่ตรงหน้าแล้วหันมา เลือกสิ่งที่กินไม่ได้ที่เรียกว่า “รัก”
มันจะมีประโยชน์อะไร ถ้าเรายื้อเค้าไว้แต่ใจเค้าไม่ต้องการอยู่
มีคนเคยบอกว่า “จงปล่อยคนที่เรารักไป เพราะถ้าเขากลับมาเขาจะเป็นของเราตลอดไป แต่ถ้าเขาไม่กลับมา คือเขาไม่ได้เป็นของเราตั้งแต่แรกแล้ว”
แต่เชื่อไหมคะในความเป็นจริง เวลาที่เราปล่อยเค้าไป เวลาที่เราห่างจากเค้า ช่วงระยะเวลานั้น เค้าสามารถที่จะไปเจอและรู้จักกับคนอื่นได้อีกมากมาย คนเราถ้าได้ใกล้ชิด เชื่อเหรอคะว่าเค้าจะกลับมาหาอีกคนที่ห่างจากเค้าไป คนคนนั้นที่เชื่อและหวังอย่างยิ่งว่าเค้าจะกลับมา

เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้สู้ :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2010, 12:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 พ.ค. 2010, 20:05
โพสต์: 109

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นคำพูดที่สะเทือนใจครับ

อาจจะเป็นเพราะเราไม่พร้อมยอมรับความจริง เราก็เลยยังคิดวนเวียนว่าจะอย่างไรดี
การปล่อยคนคนนึงไป ในช่วงเวลาข้ามคืน ทั้งที่ผูกพันธ์กันมาแรมปี มันคงจะยากแต่...สุดท้ายความจริงก็คือความจริงที่ว่า ' เขาไม่อยู่กับเราแล้ว เขาไปแล้ว '


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 36 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร