ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ทำอย่างไรใจจะว่างเปล่า
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=27&t=34190
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ดั่งกัน [ 30 ส.ค. 2010, 21:13 ]
หัวข้อกระทู้:  ทำอย่างไรใจจะว่างเปล่า

ไม่อยากยึดติดกับอะไร ทำอย่างไรใจจะว่างเปล่า

เจ้าของ:  จันทร์ ณ ฟ้า [ 31 ส.ค. 2010, 11:40 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทำอย่างไรใจจะว่างเปล่า

การไม่อยากยึด ก็คือการยึดความไม่อยาก
ยิ่งอยากออกจากอะไร ก็จะออกจากสิ่งนั้นไม่ได้
อยู่กับสิ่งนั้นจนจิตใจเห็นความจริงของกฎไตรลักษณ์
มันก็จะคลายของมันเอง

เจ้าของ:  นายฏีกาน้อย [ 31 ส.ค. 2010, 12:16 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทำอย่างไรใจจะว่างเปล่า

ทำเพราะไม่รู้ รู้ไม่ทำ


ยากเพราะอยาก ให้มันตาม ใจอยาก
นั่นยิ่งยาก มากน้อย เรื่องทุกข์เข็ญ
ไม่สามารถ กรีดน้ำเิกิด ริ้วรอยเย็น
มีแต่เว้น ไม่แกว่งน้ำ ให้ยิ่งกวน


:b41: :b39:

ไม่อาจหยุด ชุดดึงเมฆ เลื่อนลอย
ไม่อาจสอย คอยใคร มาชักชวน
ทุกสิ่งมา จากเหตุ ใจแปรปรวน
ใจล้วนล้วน กำหนดสุข ทุกข์ให้คุณ


:b41: :b43:

ได้ใครมา เก็บใส่ใน ลิ้นชัก
จะประจักษ์ จริงปรากฏ เปลี่ยนหมุน
เกิดแก่เจ็บ ล้มตาย ไม่ต้องลุ้น
มีเพียงทุน คือทานศีล ภาวนา


:b41: :b45:

เปิดลิ้นชัก ประจักษ์ เนื้อหนังหนอน
มัวอาวรณ์ สอนใจ ตัวเองหนา
ตามหาสิ่ง เกิดตาย ล้วนมายา
ตัวเราหนา ก็คือ สิ่งเกิดตาย


:b41: :b46:

ให้ใจคลาย มลาย จากราคะ
อสุภะ ยาอบรม ก่อนสาย
ก่อนฟุ้งจม อมเศร้า เคล้าเบื่อหน่าย
ก่อนเกิดตาย พบทุกข์ ที่สุดธรรม


:b50: :b48: :b47: :b45: :b47: :b48: :b50:



พุทธฏีกา
(คุตฺตวํโส ภิกฺขุ)
ดอยสัพพัญญู
๓๑ สิงหาคม ๕๓

รูปภาพ




Credit image by :
http://gotoknow.org/blog/2552memo/308074

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 31 ส.ค. 2010, 12:31 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทำอย่างไรใจจะว่างเปล่า



...มีหัวใจเหมือนห้องว่างเปล่า ไม่โกรธไม่แค้น ไม่เกลียดใครให้ใจหมองเศร้า ใครว่าอย่างไรช่างเขา ตัวของเรารู้ตัวเราดี
:b1:

เจ้าของ:  ศรีสมบัติ [ 31 ส.ค. 2010, 14:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทำอย่างไรใจจะว่างเปล่า

ไม่ยึด...หลุดออกจาก ตัณหา อุปาทาน ขันธ์ ที่มันยึดเรา ว่ามีตัวมีตน ยึดมั่นถือมั่นในตัวตน
ปล่อยวาง วางของหนักออกจากอก...ปล่อยใจให้ว่าง
ไม่ไปคิด ไปนึก ตามสัญญาอดีต ที่ผ่านมาแล้ว
อนาคต..ก็ไม่สาวมา เพราะมันยังมาไม่ถึง
ปัจจุบัน ก็ไม่คิด ไม่ปรุงแต่ง เรื่องวุ่นวายต่างๆ ออกไป
หัดเป็นคนเฉยๆ รู้ อยู่ แต่ก็วางเฉย(จิต) เห็นอยู่ ก็เพียงสักแต่ว่าเห็น
รู้อยู่ ดูอยู่ เห็นอยู่ เห็นจิต เห็นใจตัวเอง ว่านึกคิดอะไร
มีสติ ระลึกอยู่ ในอาการปัจจุบัน รู้เท่าทัน จิตใจตัวเองนี่แหละ
แล้วก็ปล่อยวางมันไป..ปล่อยไป เพราะมันไม่ใช่ของเรา...
มันเกิดขึ้น-ตั้งอยู่-แล้วก็ดับไป...มันไม่เที่ยงดอก
เจริญในธรรม :b8:

เจ้าของ:  panejon [ 31 ส.ค. 2010, 15:28 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทำอย่างไรใจจะว่างเปล่า

เพียงแค่ปล่อยไปตามปัจจุบัน ไม่มีเราเป็นผู้ผูก
ไม่มีเราเป็นผู้มัด ไม่มีเราเป็นผู้ยึด
ไม่มีเราเป็นผุู้ติด
ไม่มีเราเป็นผู้ปล่อย ไม่เราเป็นผู้วาง
ไม่มีเราเป็นผู้ว่าง
เพียงแค่ไม่มีเราเท่านั้นทุกอย่างก็ไม่มี
นี้แหล่ะถึงเรียกว่า "ว่าง"
ทุก(ทุกข์)อย่างที่เกิดล้วนแล้วมีเราเกี่ยว มีเราข้อง
มีเราคา อยู่ทุกสถาน
เมื่อไม่มีเราทุกอย่างจบ

เจ้าของ:  tongpon [ 31 ส.ค. 2010, 20:50 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทำอย่างไรใจจะว่างเปล่า

ใจจะว่างอยู่ที่วางใจลง ปล่อยใจปลงทางหลงใจรู้เห็น
รู้ใจติดเท่าทันนั่นประเด็น ตัวตนเป็นเช่นไรใจรู้ดี
เมื่อรู้ดูเย็นเห็นเป็นสงบ จึงพาพบแสงสว่างทางหลีกหนี
เหล่าพวกมารผลาญพล่าพาฤดี ไหลหลีกลี้ห่างทางจึ่งว่างลง

เราภาวนากำหนดลมหายใจเข้า-ออก ว่า พุท หายใจเข้า โธ หายใจออก มันก็ได้แค่สมถะ คือทำให้จิตสงบแค่นั้นเอง แต่ถ้าหากว่าพุท-โธ นั้นเป็นวิปัสสนา ต้องเห็นอริยสัจสี่ คือเห็นทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ ดับทุกข์ หนทางให้ดับทุกข์ พุท-โธ เกิดที่ตรงนั้น ฉะนั้นคำว่าพุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอเอาพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง พระพุทธเจ้าเป็นผู้รู้ พระธรรม คือความว่างที่สงบเย็น

" ความว่างไม่ใช่ว่าว่างไม่มีอะไร ทุกอย่างมีอยู่ทั้งนั้น แต่ว่ามันว่างจากตัวตน ความว่างก็หมายถึงว่างจากตัวตน เช่นร่างกายของเรานี้ มันก็ไหลเรื่อย ต้องให้เห็นอนิจจัง อย่าเป็นแต่นิจจัง ที่เราเห็นกันทุกวันนี่เห็นนิจจัง เห็นว่าเที่ยง ร่างกายนี้เป็นของเที่ยง จิตนี้ก็เป็นของเที่ยง สรรพสิ่งเป็นของเที่ยง ทุกๆคนที่เข้าไปยึดมั่นถือมั่น เพราะไม่เห็นว่า
ทุกอย่างมันไหลเรื่อยๆต้องเห็นว่าทุกอย่างมันไหลเรื่อย ไม่มีอะไรมันหยุดอยู่กับที่ เห็นมันไหลเรื่อยอยู่อย่างนั้น ก็เรียกว่าอนิจจัง สิ่งที่เราปรารถนาคือตามใจ ตามใจตา ตามใจหู ตามใจจมูก ตามใจลิ้น ตามใจกาย ตามใจใจ นี่คือจิตที่ไม่ได้ฝึก จิตตัง ทันตัง สุขา วะหัง จิตที่ฝึกแล้วนำความสุขมาให้ จิตที่ไม่ได้ฝึกนำความทุกข์มาให้ มันก็เลยไม่ว่าง
ฉะนั้น ว่างหมายถึงว่างจากตัวตน ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ว่างจากสรรพสิ่งทุกอย่าง แม้แต่ขี้ฝุ่นสักเมล็ดหนึ่ง จักรวาลนี้ว่างทั้งนั้น อยู่ใต้อำนาจของอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เมื่อสมัยครั้งพุทธกาล พระพุทธเจ้าทรงแสดง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ขันธ์ ๕ ก็คือเรื่องของความไม่เที่ยงทั้งนั้น แต่เราไปยึดถือเป็นของเที่ยง เพราะมันเป็นสมบัติประจำตัว ของปุถุชน "

พระครูวินัยธรทรงศักดิ์ วิโนทโก (หลวงพ่อเอี้ยน)
เรื่อง “ความว่าง ๓ ระดับ”
วันอาทิตย์ที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๓
ณ ห้องปฏิบัติธรรม ชั้น ๔ ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยฯ

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/