วันเวลาปัจจุบัน 23 เม.ย. 2024, 16:08  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 13 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2010, 12:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2010, 11:53
โพสต์: 2


 ข้อมูลส่วนตัว


แต่งงานมาแล้วประมาณ 2 ปีค่ะ ตอนนี้กำลังท้องอยู่ ปัญหาของหนูคือว่า หนูมักจะคิดตลอดเวลาว่า สามีลืมแฟนก่าไม่ได้ เราชอบไปสืบเสาะคอยหาข่าวของแฟนเก่าเค้าตลอด ทั้งๆๆที่จริงแล้วสามีเองเค้าก้ไม่ได้ติดต่อแฟนเก่ามานาน(เค้าจดทะเบียนกันแต่สุดท้ายก็หย่ากัน) ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองชอบคิด ชอบทำในแบบที่ไม่ควรทำ จริงๆๆก็ตระหนักว่าคนเราไม่มีทางจะลืมแฟนเก่าได้ แต่ด้วยความที่เราอยากให้เค้าลืมให้ได้ เป็นความอยากของเราเองเราเลยต้องทรมานเอง ไม่รู้ว่าจะจัดการความคิดแบบนี้ได้ยังไง รู้ว่าไม่ดีทั้งต่อตัวเองและครอบครัว ขอคำแนะนำด้วยนะคะ แม้จะเป็นปัญหาเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นคนที่มืดบอดก็ทรมานมากๆๆค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ย. 2010, 11:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อย่าไปคิดมากเกินเหตุเลยครับ...มันจะเเป็นเวรกรรมเปล่าๆ เป็นบาปในใจเราด้วย
ผู้หญิงเกือบทุกคนจะคิดระแวงเรื่องแบบนี้ ทั้งๆที่เรื่องยังไม่เกิด
จิต กลับปรุงแต่งเรื่องให้มันเกิดไปต่างๆนาๆ ทั้งๆที่ มันยังมาไม่ถึง มันไม่ได้เกิด
และไม่รู้ว่ามันจะเกิดดังที่เราคิดหรือเปล่า..?
ทำจิตใจให้สงบครับ...โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณกำลังมีน้องอยู่ด้วย
ควรทำจิตใจให้สบายๆ หา เรื่องธรรมะ มาฟังยามว่าง
ไม่ควรดูหนังดูละครมากไป..มันจะทำให้ฟุ้งซ่าน
สวดมนต์ ไหว้พระ เจริญภาวนา อยู่เป็นนิจ แล้วจะค่อยๆ สงบลงไปเอง
ขอเจริญในธรรม :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ย. 2010, 11:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
แต่งงานมาแล้วประมาณ 2 ปีค่ะ ตอนนี้กำลังท้องอยู่ ปัญหาของหนูคือว่า หนูมักจะคิดตลอดเวลาว่า สามีลืมแฟนก่าไม่ได้ เราชอบไปสืบเสาะคอยหาข่าวของแฟนเก่าเค้าตลอด ทั้งๆๆที่จริงแล้วสามีเองเค้าก้ไม่ได้ติดต่อแฟนเก่ามานาน(เค้าจดทะเบียนกันแต่สุดท้ายก็หย่ากัน) ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองชอบคิด ชอบทำในแบบที่ไม่ควรทำ จริงๆๆก็ตระหนักว่าคนเราไม่มีทางจะลืมแฟนเก่าได้ แต่ด้วยความที่เราอยากให้เค้าลืมให้ได้ เป็นความอยากของเราเองเราเลยต้องทรมานเอง ไม่รู้ว่าจะจัดการความคิดแบบนี้ได้ยังไง รู้ว่าไม่ดีทั้งต่อตัวเองและครอบครัว ขอคำแนะนำด้วยนะคะ แม้จะเป็นปัญหาเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นคนที่มืดบอดก็ทรมานมากๆๆค่ะ






คุณnuj ค่ะ อันตรายที่สุดของชีวิตคู่ คือความหวาดระแวงและความหึงหวงนี่หล่ะค่ะ
เราเจอมาแล้ว ต้องบอกเลยค่ะ ตัวเราแทบบ้า
แฟนเราเป็นคนขี้หึงมากๆ ชอบคิดเรื่องอะไรๆ เราคุยกับผู้ชายไม่ได้เลย
คุณคิดดูสิ เราใส่ชุดคลุมท้องตอนเราท้องแค่2เดือน

แต่ปัญหาไม่จบค่ะ จนตอนหลังๆไม่ไหว คือไม่ใช่เค้าบ้า
แต่เราจะต้องเป็นบ้าก่อน ก็เลยต้องตกลงกัน
ถ้าหวาดระแวงไม่ใว้ใจกัน มีทางเดียวคือต้องเลิกกัน

อย่าคิดมากเลยค่ะ ใจของคุณอยู่ที่ลูกในท้องดีกว่าค่ะ :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ย. 2010, 12:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


Nuj:

อ้างคำพูด:
ปัญหาของหนูคือว่า หนูมักจะคิดตลอดเวลาว่า สามีลืมแฟนก่าไม่ได้...เป็นความอยากของเราเองเราเลยต้องทรมานเอง ไม่รู้ว่าจะจัดการความคิดแบบนี้ได้ยังไง รู้ว่าไม่ดีทั้งต่อตัวเองและครอบครัว ขอคำแนะนำด้วยนะคะ แม้จะเป็นปัญหาเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นคนที่มืดบอดก็ทรมานมากๆๆค่ะ


เรื่องความคิดนั้น ห้ามกันไม่ได้หรอกครับ เพราะเขาเกิดด้วยเหตุปัจจัย ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ..หากใครๆสามารถละเลิกความคิดได้เพราะอยากเลิก โลกนี้คงไม่มีปัญหาใดๆเลย สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดความคิดของท่านผู้ถามคือความไม่รู้ บวกกับตัณหาที่ติดยึดในสามีอย่างมากมายเหนียวแน่น ทั้งมีมานะในการเปรียบเทียบตนกับแฟนเก่าของสามีจึงเข้าถึงการดิ้นรนขนขวายที่จะทราบความเป็นไปของเขา..ท่านผู้ถามย่อมหาความสงบใจมิได้แม้ขณะหนึ่ง หรือแม้จะได้ข้อมูลมากมายสักเพียงใด ท่านก็ย่อมไม่อาจพอใจได้เพราะใจนั้นคิดเสมอว่า"เขาคงดีกว่าเราเป็นแน่"..จึงต้องเข้าถึงความทุกข์ ดังที่ยอมรับมาว่า เราเลยต้องทรมานเอง..


ว่า กันที่จริงท่านเจ้าของกระทู้ย่อมทราบดีแก่ใจอยู่แล้วว่า สามีมีพฤติกรรมเช่นไรแก่ท่านเอง ทั้งยังทราบอีกว่าที่คิดฟุ้งไปก็ด้วยกิเลสตนพาไป..การที่จะสามารถลดละเลิกความคิดเช่นนี้ได้ ก็ด้วยอาศัย"ปัญญา"ที่เกิดจากการฟังพระธรรมของพระพุทธเจ้า อันจะเป็นปัจจัยแก่ท่านผู้ถามให้สามารถ ...

๑. ตั้งตนไว้โดยชอบ ไม่คิดร้าย เพ่งโทษคนอื่น เพราะทราบว่าการทำเช่นนั้นย่อมมีผลติดตามมา ทั้งในภพนี้และอัตภาพหน้าอีกมากในสังสารวัฏอันไม่มีที่สิ้นสุด..ท่านเจ้าของกระทู้คงไม่ชอบใจเช่นกันหากหญิงที่เป็นแฟนเก่าของสามีคิดถึงท่านด้วยความอยากรู้ในลักษณะเดียวกันกับที่ท่านเจ้าของกระทู้กำลังคิดและทำอยู่ในขณะนี้ คงเป็นภาวะที่ไม่น่ารื่นรมย์เลย จริงใหม?..อย่าลืมว่า สิ่งทั้งปวงย่ิอมมีมาจากเหตุ..ท่านเจ้าของกระทู้กำลังทำเหตุดีหรือเสีย เพื่อผลที่ตนจะได้รับในกาลต่อไปเล่า?

๒. พระธรรมย่อมแสดงให้ทราบว่าใจนั้นเป็นใหญ่ เป็นประธานของสิ่งทั้งปวง
ใจที่เสียหายย่อมยัง"รูป"ร่างกายให้ผิดปกติไปด้วย ดังที่เราทราบกันในทางการแพทย์ว่าคนเป็นโรคเครียดซึมเศร้า ตามมาด้วยสารพัดโรคที่เกิดจากจิต..มีกระเพาะ โรคประสาทเป็นต้น ควรหรือที่จะทำตนให้เสียหายด้วยเรื่องเช่นนี้ ? น่าเสียดายยิ่งนักที่ได้มีบุญเกิดมาเป็นคนในชาตินี้..ทั้งยังได้พบคำสอนของพระพุทธเจ้า นับว่าเป็นความพิเศษยิ่งยวดอันหาได้ยากในสัตว์ทั้งหลาย ..เราสามารถเลือกที่จะพัฒนาตนไปสู่ความพ้นทุกข์ได้ ...บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?

๓. ข้อที่ใจนั้นเป็นประธานในสิ่งทั้งปวง เพราะเขามีอานุภาพนำสิ่งต่างๆให้มาปรากฏได้ ทั้งทางดีและเสีย...การคิดซ้ำซากเเล้วๆเล่าๆเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จะเป็นที่มาของความเป็นไปได้ในเรื่องนั้นให้เกิดขึ้นได้..เพราะการกระทำทั้งหลายของเรา ย่อมเกิดได้เพราะ"คิด"ไว้ก่อน ..เ รื่องที่ท่านเจ้าของกระทู้คิดนั้น ต่อไปจะตามมาเป็น"คำพูด" อาจจะพูดเปรยแก่สามี.. เมื่อมีคำพูด ก็ตามมาด้วยกิริยา..ครานี้ความกลัวที่ท่านเจ้าของกระทู้มีอยู่ ก็ย่อมกลายเป็นความจริง เพราะเรื่องเช่นนี้เหมือนกับการทำแก้ว ให้ร้าว เมื่อมีรอยเสียแล้ว ความแตกหักย่อมตามมา..ถึงเวลานั้น ท่านจะโทษสิ่งไรดี?..

ขอให้พิจารณาทบทวนด้วยวิจารณญานแล้วเลือกทำในสิ่งที่มีประโยชน์เถิด ความสุขย่อมอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมเลย..

อีกประการหนึ่ง ขอเเนะนำให้เจริญกุศล มีการศึกษาพระธรรม ประพฤติศีลให้มั่นคง ย่อมได้ที่พึ่งอันประเสริฐ ยิ่งนัก ทั้งมีอานิสงค์คุ้ครองตนไปในกาลภายหน้าอีกด้วย :b46: :b47: :b48:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ย. 2010, 14:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


ห่วงน้อยน้อย คล้อยตาม ดูน่ารัก
กลายเป็นยักษ์ กินตับ ระแวงผัว(อยากใช่สามี แต่ไม่สัมผัสขออภัยโยมด้วย)
ระวังไว้ ก็ดี ให้เกรงกลัว
ใจอย่ามัว สุมไฟ เผาหลังคา


:b41: :b39:

คราหลับนอน จิตไม่เห็น ระแวงผัว
ตื่นมามัว จิบผิด อกุศล
บีบรัดใจ ทิ่มแทง แรงบี่ป่น
โอ้หนอคน หนอจิต เป็นพิษภัย


:b41: :b43:

ไม่มีใคร สุมไฟ เป่าเป่าเผา
มีแต่เรา มีจิต ไร้สดใส
เพราะขาดศีล สมาธิ ประดับใจ
คิดเมื่อไหร่ แอร์ดับ ตับแตกตาย


:b41: :b46:

ให้คอยจิก ยิกยิก ตามหน้าที่
แต่ใจนี้ อย่ายึดติด กลัวของหาย
ที่หึงหวง คือหนังหุ้ม เปลือกกาย
แล้วสุดท้าย ก็จบลง เชิงตะกอน


:b41: :b45:

เราเขาไม่ รู้ใคร จะวันไหน
เฝ้าผูกไว้ ขาดสติ เพียงบางตอน
อบรมใจ ช่างมัน ไม่แง่งอน
สติสอน มาถูกที่(รู้สึกตัว) ทุกข์ก็คลาย



:b50: :b48: :b47: :b45: :b47: :b48: :b50:



รูปภาพ



Credit image by:
http://webboard.yenta4.com/topic/233297

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ย. 2010, 16:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 มิ.ย. 2008, 17:20
โพสต์: 1855

แนวปฏิบัติ: อานาปานสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: THAILAND

 ข้อมูลส่วนตัว


nuj เขียน:
แต่งงานมาแล้วประมาณ 2 ปีค่ะ ตอนนี้กำลังท้องอยู่ ปัญหาของหนูคือว่า หนูมักจะคิดตลอดเวลาว่า สามีลืมแฟนก่าไม่ได้ เราชอบไปสืบเสาะคอยหาข่าวของแฟนเก่าเค้าตลอด ทั้งๆๆที่จริงแล้วสามีเองเค้าก้ไม่ได้ติดต่อแฟนเก่ามานาน(เค้าจดทะเบียนกันแต่สุดท้ายก็หย่ากัน) ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองชอบคิด ชอบทำในแบบที่ไม่ควรทำ จริงๆๆก็ตระหนักว่าคนเราไม่มีทางจะลืมแฟนเก่าได้ แต่ด้วยความที่เราอยากให้เค้าลืมให้ได้ เป็นความอยากของเราเองเราเลยต้องทรมานเอง ไม่รู้ว่าจะจัดการความคิดแบบนี้ได้ยังไง รู้ว่าไม่ดีทั้งต่อตัวเองและครอบครัว ขอคำแนะนำด้วยนะคะ แม้จะเป็นปัญหาเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นคนที่มืดบอดก็ทรมานมากๆๆค่ะ

ธรรมะสวัสดี คุณ nuj
:b9: บังเอิญจริงๆ ที่เข้ามาในกระทู้ของคุณ
ต้องขอโทษด้วย คนอายุมาก(เลี่ยงคำว่าแก่) เห็นคำว่า" แนะนำ "
คิดว่าแนะนำตัว ปรารถนาดีจะเข้ามาต้อนรับอย่างที่เคยทำ
แต่เข้ามาแล้วก็ขอร่วมแจมซะหน่อย
จริงๆ แล้ว ตัวคุณนั้นเป็นผู้รู้ผิดรู้ชอบ(รู้ถูก) อยู่แล้ว ด้วยตัวเอง
แต่คงอยากได้เพื่อนคุย เพื่อปรับทุกข์ร่วมแบ่งเบาความทุกข์ มากกว่า
ซึ่งต้องขอบคุณท่านกัลยาณมิตรทุกท่าน ที่เข้ามาแบ่งเบาความทุกข์ให้คุณ
ทั้งคำปลอบประโลมใจ - คำแนะนำ - วิธีคิด เท่าที่มิตรจะมีให้แก่กันได้

:b25: ส่วน "บัวไฉน" เป็นผู้ไม่มีประสบการณ์ในเรื่องเหล่านี้ จึงขอฝากเพียงว่า
มีผู้กล่าวว่า เมื่ออยู่ในครรภ์ มารดาและบุตรมีดวงจิตที่ส่งถึงกันได้
ผู้เป็นมารดารู้สึกอย่างไร-ทำอย่างไร ผู้เป็นบุตรก็จะรู้สึก-รับรู้ด้วย
ถ้ามารดาเข้าถึงธรรม บุตรก็จะถึงธรรมด้วย
:b18: เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ
เจริญในธรรม

.....................................................
[สวดมนต์วันละนิด-นั่งสมาธิวันละหน่อย]
[ปล่อยจิตให้ว่าง-ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ]


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ย. 2010, 19:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 มิ.ย. 2010, 13:15
โพสต์: 34

แนวปฏิบัติ: สมาถะ วิปัสสนาญาน ลมหายใจมิมีสิ้นสุด มิมีประมาณ
งานอดิเรก: ธรรมะเกิดที่ใจ ไปให้ถึงธรรม จึ่งมีธรรมประจำใจ บ้านเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ธรรมะ ทุกแนว "รอยเท้าสัตว์ย่อมรวมลงในเท้าช้าง"ฉันใด ก็ฉันนั้น
ชื่อเล่น: out
อายุ: 47
ที่อยู่: จังหวัดแพร่

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

"ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์"หากรักนั้นไม่บริสุทธิพอ
รักเพราะอยากได้ อยากใคร่ อยากมี อยากเป็น ความหมายคือ "ใคว่คว้าหารัก"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ย. 2010, 19:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ค. 2010, 19:01
โพสต์: 22

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: อย่าคิดมากเลยนะหนูจ๋า มันจะไม่เป็นผลดีต่อลูกในท้องซะเปล่าๆ อะไรที่มันไม่เกิดก็อย่าไปทำให้เกิดปัญหากับชีวิตของเรา คิดอะไรที่มันเพริดเพลินเจริญใจไว้จ้ะ เอาใจไว้กับปัจจุบัน คิดถึงลูกคิดถึงความสุขที่จะได้เลี้ยงเจ้าตัวน้อยดีกว่ารับรองได้หัวปั่นจนลืมคิดเรื่องอื่นเลยละหนู เข้มแข็งไว้จ้ะ :b29:

.....................................................
สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง มีเกิดขึ้นและดับไปเป็นธรรมดา
การดับสังขารเหล่านั้นเสียได้ เป็นสุข


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ย. 2010, 23:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 มิ.ย. 2010, 13:15
โพสต์: 34

แนวปฏิบัติ: สมาถะ วิปัสสนาญาน ลมหายใจมิมีสิ้นสุด มิมีประมาณ
งานอดิเรก: ธรรมะเกิดที่ใจ ไปให้ถึงธรรม จึ่งมีธรรมประจำใจ บ้านเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ธรรมะ ทุกแนว "รอยเท้าสัตว์ย่อมรวมลงในเท้าช้าง"ฉันใด ก็ฉันนั้น
ชื่อเล่น: out
อายุ: 47
ที่อยู่: จังหวัดแพร่

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:
เมื่อไคว่คว้าหารักจึงมักทุกข์(ใจ) อยากเป็นเจ้าของ ..ของของใครใครก็รัก..จึ่งหวง..จึ่งทุกข์(ใจ)เพราะหวังว่าวันหนึ่ง..จะสมหวัง ดั่งใจคิด เมื่อมิสมหวัง"หวังสิ่งใดมิได้สิ่งนั้น นั่นแหละความทุกข์"
ตามสัจจธรรมจักบังคับใจ กายมิได้ เพราะ ทุกสรรพสิ่งล้วน อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

can เปลี่ยนเป็นความรักบริสุทธิ "รักมีแต่ให้ "ให้ด้วยความเมตตา ให้ด้วยความจริงใจ ให้ด้วยมิหวังผลตอบแทน จักทำให้เราสุขใจ เช่น ความรักของแม่ ลูกจะเป็นเยี่ยงไรแม่ก็จะรัก..มิระแวง.. มิเคลือบแคลง ..สงสัย รักจึ่งบริสุทธิ

เมื่อรักแล้วรักจริงก็คือรัก จักประจักรักแท้แน่ให้เห็น
หากรักหลอกหลอกรักมักจักเป็น ไม่ว่างเว้นเห็นช่องว่าระหว่างกัน
เมื่อทนหลอกหลอกจิตคิดว่ารัก สุดจะหักร้างจิตคิดเหหัน
มีโซ่ทองคร้องห่วงบ่วงสัมพันธ์ จึ่งเสกสรรหันหน้าหากันเอย
อตีดผ่านไปไม่หวนกลับ ธารลาลับไหลไปใคร่เฉลย
มิไหลกลับหวนมาดั่งเช่นเคย จิตใจเอ๋ยตั้งมั่นหมั่นทบทวน
อันความหวังเป็นได้อนาคต ควรละลดยังไม่ถึงพึงอย่าหวน
ทำหน้าที่ทำดีที่สุดควร ที่สุดล้วนแต่ดีมีสุขเอย
ทำให้ดูอยู่ให้เห็นเย็นสัมผัสได้ ลูกน้อยไซ้พลอยได้ใคร่เปิดเผย
รสพระธรรมนำพาเมตตาเคย อย่าละเลยเมตตาธรรมค้ำจุนเรา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2010, 10:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 เม.ย. 2010, 11:37
โพสต์: 59

งานอดิเรก: reading
อายุ: 45

 ข้อมูลส่วนตัว


อย่างที่พระท่านว่า คนเราไม่ได้ทุกข์เพราะทุกข์จริงๆ ทุกข์เพราะความคิด ทุกข์เพราะปรุงแต่ง ถ้าตัดพวกนี้ออกไป เราก็จะเห็นเลยว่าสิ่งที่ทำให้เกิดทุกข์นะมันเล็กนิดเดียว โดยเฉพาะของคุณ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2010, 21:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ก.ย. 2010, 20:12
โพสต์: 10


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่คิดก็ไม่ทุกข์.. พูดง่ายค่ะ แต่ห้ามไม่ให้คิดนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะจิตมีหน้าที่คิด อยากให้ลองหัดเจริญสติดู ความคิดทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นมา สุดท้ายก็ต้องดับไป พอคุณเห็นแบบนี้บ่อยๆ คุณก็จะเริ่มเชื่อในกฏไตรลักษณ์ อีกทั้งวงจรที่คุณจะปรุงแต่งความคิดไปได้ฟุ้งซ่านมากมายก็จะสั้นลงๆ เมื่อคุณมีสติเห็นว่าตัวเองคิดบ่อยขึ้น

ไม่แน่ใจว่าเคยได้ยินเรื่องการเจริญสติหรือเคยปฏิบัติแล้วหรือยัง ยังไงลอง google หาโหลดฟังซีดีของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ดูนะคะ

แล้วก็.... อยากจะฝากไว้นิดนึงค่ะว่า แต่งงานกันแล้ว ก็แปลว่าต่างฝ่ายต่าง commit ในกันและกันระดับหนึ่งแล้ว การที่ใครจะคิดอะไร คุณไม่สามารถจะไปรู้หรือไปห้ามได้ ตัวคุณเองยังห้ามความคิดคุณไม่ได้เลย คุณถึงทุกข์เพราะคิดระแวงอยู่แบบนี้ ถ้าใจเค้าอยู่กับเรา ถึงตัวคุณจะอยู่ไกลกัน คุณก็จะยังอุ่นใจเพราะความไว้ใจและเชื่อใจในกันและกัน ในทางกลับกัน แม้จะอยู่ใกล้กันแค่นี้ เจอกันทุกวัน คุยกันทุกวัน หรือแม้แต่นอนเตียงเดียวกัน ใจคุณก็จะร้อนรุ่มกระวนกระวาย ไม่เป็นสุข ถ้าคุณยังไม่สามารถปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่นได้

จำไว้ว่าสัตว์โลกเป็นไปตามกรรมค่ะ คุณทำส่วนของคุณให้ดีที่สุด ถ้าสุดท้ายแล้วเค้าจะนอกใจ นั่นก็เป็นเรื่องของเค้า เป็นผลกรรมที่เค้าจะต้องรับจากการกระทำของเค้าเอง

ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงซักอย่าง นอกจากความหวาดระแวงและความคิดที่ทำให้คุณทุกข์ ปล่อยวางเถอะค่ะ ถ้าเค้าจะนอกใจ เค้าก็จะต้องหาวิธีนอกใจคุณจนได้ อาจจะไม่ใช่แค่ความคิดที่คิดถึงแฟนเก่าด้วยซ้ำ ในทางกลับกัน ถ้าเค้ารักคุณ เค้าก็จะไม่ทำแบบนั้น ความคิดระแวง คิดแย่ คิดอกุศลที่คุณมีต่อสามีคุณ จะทำให้เค้ารู้สึกร้อนไปด้วยนะคะ คนเราจะสามารถสัมผัสถึงกระแสร้อนเย็นจากคนอื่นได้ค่ะ ทำให้ตัวเองเย็น สงบ รักษาสุขภาพ ดูแลลูกในท้องให้ดี ให้บ้านเป็นที่ร่มเย็น พูดจากันดีๆ แค่เค้าคิดถึงคุณหรือนึกถึงบ้านเค้าก็จะรู้สึกเย็นแล้วค่ะ

.....................................................
Everything that has a beginning has an end.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2010, 22:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2010, 11:53
โพสต์: 2


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอขอบพระคุณทุกท่านที่สละเวลามาให้ทางสว่างและเตือนสตินะคะ จริงๆๆแล้วก็ใช่ว่าจะเป็นคนไร้ธรรมซะทีเดียว แต่ก็เป็นคนกิเลสหนาหลายครั้งพาลเอาปัญญาทึบอีกต่างหาก เพิ่งตระหนักชัดเจนว่า คนเราไม่ว่าปัญหาน้อยใหญ่ แต่ถ้าเอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางแล้ว คนเราก็จะทุกข์เพราะความคิด(ปรุงแต่ง) เสมอ ....เข้าใจตระหนัก และพยายามจะทำให้ได้นะคะ ขอบพระคุณทุกท่านอีกครั้งค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2010, 23:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ส.ค. 2010, 06:15
โพสต์: 136

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จิตคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด คุณลองไปหาความหมายดูนะครับผมว่าจิตคืออะไร แต่สิ่งที่ผมจะบอกคุณคือให้คุณนึกถึงสิ่งศักด์ที่คุณนับถือให้อยู่ในจิตคุณตลอด วันแรกเริ่ม 5 นาที วันที่สองเริ่ม 10 นาที หรือว่าพอคิดได้ก็กำหนดจิตนึกถึงท่าน พอคุณมีสมาธิคุณค่อยฝึกขั้นต่อไปคือจิตที่ว่างเปล่า coondoy@hotmail.com ปรึกษาได้ครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 13 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 23 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร