วันเวลาปัจจุบัน 28 เม.ย. 2024, 09:07  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.ย. 2010, 14:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ย. 2010, 10:31
โพสต์: 1

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ย้อนไปเมื่อสัก 20 ปีก่อน ดิฉันได้รู้จักกับสามี เค้ามาจีบแต่เพื่อนดิฉันบอกว่าเค้ามีแฟนแล้ว (มารู้ภายหลังว่าจากที่แต่งงานแล้วว่าเค้าเคยมีอะไรกัน) ดิฉันจึงถอยห่างออกมาไม่อยากเป็นมือที่สาม ไม่คิดแย่งใคร แต่สามีบอกเค้าเลือกดิฉัน เค้าบอกเลิกกับทางนั้นแล้ว ดิฉันจึงวางใจและคบกับเค้า แล้วเราก็แต่งงานมีลูกด้วยกัน ต่อมาเมื่อสัก 5 ปีที่แล้วดิฉันได้แอบฟังเค้าคุยโทรศัพท์กับผู้หญิงคนหนึ่ง เนื้อความว่า"หนูกินเหล้าที่พี่ซื้อหมดหรือยัง ห้องที่หนูอยู่เงียบดีเนอะ ฯลฯ" คือ น้ำเสียงเหมือนกับพูดกับดิฉันเมื่อตอนเราเป็นแฟนกันเลย ดิฉันฟังแล้ว รับไม่ได้เลย เหมือนโดนรถชนจากที่เคยคิดว่าเค้ารักเราคนเดียวซื่อสัตย์กับเราแต่มันไม่ใช่อ่ะ ดิฉันกินไม่ได้นอนไม่หลับน้ำหนักลดลงไป 2 กิโล ใน 3 วัน เสียใจมากร้องไห้ตลอด ดิฉันก็ถามเค้า เค้าบอกคุยกับแฟนเก่า เค้าบอกไม่มีอะไรกัน เป็นแค่เพื่อนเท่านั้น เค้าสาบานเค้าไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิงคนนั้นจริง ๆ ตกลงดิฉันยอมเชื่อเค้า

ถัดมาเมื่อ ปลายเดือน เมษายนที่ผ่านมา ดิฉันได้แอบเอาเครื่องติดตามตัว GPS ติดตามเค้าไปและพบว่าเค้าได้ไปหาผู้หญิงคนนั้นเกือบทุกวัน ใช้เวลาอยู่ด้วยกันตั้งแต่ บ่ายโมง ถึง 2 ทุ่ม หลายครั้งต่ออาทิตย์ดิฉันตามไปพบเค้าอยู่ในห้องด้วยกันกับผู้หญิงคนหนึ่ง สามีแนะนำว่าเป็นแฟนเก่า (เมียเก่านั่นแหละ) สามีใส่กางเกงขาสั้น กินเบียร์กันอยู่ มีกล่อง pizza วางเอาไว้ สายสืบที่เป็นคนขับมอไซด์บอกว่าสามีซื้อหลอดไฟไปเปลี่ยนให้ด้วย ฉันถามเค้าทำไมทำกับฉันแบบนี้ สามีสาบานบอกว่าเค้าไม่มีอะไรกับผู้หญิงคนนั้นจริง ๆ แค่เพื่อนกัน แค่มาเสพยา... กันเท่านั้น ดิฉันขอหย่ากับสามี เค้าไม่ยอมหย่า เค้าบอกยังรักดิฉันและลูก เค้าอยากไปต่อ ไปด้วยกันกับเค้านะ (สามีชอบบอกว่าเค้ามีความสุขมากเวลามีอะไรกับดิฉัน เรื่องงานบ้านงานครัวดิฉันก็เก่ง การเงินบริษัทฯดิฉันดูแลได้ แต่เสียที่ไม่สามารถให้คำปรึกษาได้เลย เค้าบอกเค้าไม่รู้จะคุยกับใคร)

ดิฉันก็ให้อภัยเค้านะ แต่ภาพที่ดิฉันเห็นเค้าอยู่กับผู้หญิงคนนั้นมันยังติดตา ทนไม่ได้จริง ๆ

ดิฉันอยากพาเค้าไปวัดหลวงพ่อโสธรด้วยกันและให้เค้าสาบานต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าเค้าจะไม่ประพฤติผิดในกาม จะดีไหมค่ะ มันจะเป็นบาปติดตัวดิฉันไปไหม? ขอความกรุณาผู้รู้ช่วยตอบด้วยค่ะ
ตอนนี้เหมือนตกนรกทั้งเป็นอยู่แล้ว ดิฉันให้อภัยเค้านะ แต่ก็ไม่อยากเป็นเหมือนคนโง่โดนเค้าหลอกอีก ควรทำใจยังไงดีค่ะ?


แก้ไขล่าสุดโดย pt5912 เมื่อ 28 ก.ย. 2010, 14:35, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.ย. 2010, 15:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


เห็นใจครับ.... :b9: เรื่องนี้คงต้องถามตนเองก่อนว่า เมื่อไม่สามารถบังคับควบคุมเขาให้อยู่ในขอบเขตที่เราต้องการได้...จะมีทางเลือกใดในระหว่างทาง๒แพร่งนี้....

๑. อยู่แบบเดิม พยายามอดทนและอดกลั้นให้มาก แม้ทุกข์เพราะการกระทำของเขา ก็ดีกว่าทุกข์เพราะขาดเขา...(เหมือนเขาขาดฉะนั้น)..แล้วยุติการเสียเงินจ้างสายสืบหรือ update เครื่อง GPS เพื่อลดการรับรู้ข้อมูลที่ไม่น่าชอบใจทั้งปวง พร้อมฝึกการให้อภัยอย่างเดียวตลอดทุกลมหายใจ พยายามลืมว่าเคยเห็นอะไรๆมา คิดว่าฝันไปเท่านั้น..

๒. ทำใจเด็ดเดี่ยวว่า พฤติกรรมเยี่ยงนี้ ไม่เป็นที่ยอมรับ เมื่อเจรจาหาข้อตกลงยึดถือเอาเป็นเกณฑ์ที่จะใช้ร่วมกันว่าทั้งเขาและเราจะไม่คบชู้สู่หญิง/ชายอื่น ไม่ร่วมกิจกรรมที่ชวนให้เกิดข้อสงสัยในเชิงชู้อย่างแจ้งชัดนับแต่วันนี้ เวลา๑๗นาฬิกาเป็นต้นไป(กำหนดรายละเอียดเอาเองครับ).. หากฝ่ายใดล่วงข้อกำหนดนี้ จะขอแยกย้ายกันไปตามวิถีอันควรไม่ข้องเกี่ยวกันอีก..เพื่อความสวัสดีมีสุขแก่ทุกฝ่าย..

สำหรับการชวนกันไปสาบานอะไรๆที่ใหนๆนั้นจะเป็นเพียงความสิ้นเปลืองทั้งทรัพย์ เวลา อารมณ์ และไม่เป็นแก่นสารสาระอันใดที่จะพึงยึดถือได้ ..ทั้งยังจะนำความทุกข์เดือดร้อนมาสู่คนต้นคิดที่จะให้กระทำการเช่นนั้นอีกได้ในภายหลังอีกนาน เพราะกลายเป็นช่องทางให้เกิดบาปเดือดร้อนทางใจที่ไม่ควรมีหรือเป็นได้ นับว่าเป็นวิถีทางที่ไม่ฉลาดหรือแยบคายในการคิดและทำเลย..

สิ่งที่ท่านควรทำคือการเตรียมตัวที่จะอยู่ได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องพึ่งใครได้ทางด้านรายได้..เพราะการที่ยังต้องอาศัยพึ่งพาใครๆอยู่ย่อมหมายถึงการที่ต้องยอมในทุกๆสิ่งเพื่อการอยู่รอด แม้จะต้องทนฝืนจนปางตายก็อาจต้องยอม...

สิ่งต่อไปคือการเร่งศึกษาพระธรรมคำสอนที่ถูกต้องของพระพุทธเจ้า เมื่อยังมีโอกาสอยู่ ย่อมได้ปัจจัยให้เกิดปัญญาสามารถพึ่งพาตนเอง"ทางใจ"ได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถหาทางแก้ไขปัญหาชีวิตของตนได้อย่างมีสติและฉลาด แยบคาย ทั้งจะไม่คิดแก้ปัญหาด้วยวิธีการผิดๆมีการบวงสรวงสาปแช่งหรือสาบานอะไรๆ ที่เป็นทางสู่ความเสื่อมเลย ...เพราะพระธรรมของพระพุทธเจ้า มีอานุภาพอย่างยิ่งในการช่วยสัตว์ให้พ้นทุกข์ได้แท้จริงทั้งในปัจจุบัน และสัมปรายภพ..

ขอให้พิจารณาด้วยดี และพ้นทุกข์ทั้งมวลโดยไวครับ.. :b46: :b47:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


แก้ไขล่าสุดโดย -dd- เมื่อ 28 ก.ย. 2010, 16:20, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ย. 2010, 03:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ้างคำพูด:
ดิฉันก็ให้อภัยเค้านะ แต่ภาพที่ดิฉันเห็นเค้าอยู่กับผู้หญิงคนนั้นมันยังติดตา
ทนไม่ได้จริง ๆ


ถ้าอภัยได้จริงๆ แม้เขาจะทำผิดใหม่อีกกี่ครั้งกี่หน
ต้องมีใจเมตตาไม่ถือโทษเขา....แต่ถ้าอภัยแล้ว ยังนำเรื่องเก่ามาคิดและ
เป็นทุกข์อยู่...นั่นไม่ใช่การให้อภัยค่ะ
แต่เป็นการอดโทษ เพื่อแลกเปลี่ยนต่างหากค่ะ

มีสองทางคือ
เลิกกัน.... จะได้ไม่ต้องคิด
หรือเลิกคิด...จะได้ไม่ต้องเลิกกัน

ทางไหน?ทุกข์มากกว่ากันค่ะ :b10:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


แก้ไขล่าสุดโดย ทักทาย เมื่อ 30 ก.ย. 2010, 03:50, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ย. 2010, 10:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อเตือนแล้ว....ห้ามแล้ว...เขาไม่ฟัง..ไม่เชื่อ
เราก็ควรปล่อยเขา...พร้อมกับปล่อยวาง จิตใจของเราลงด้วย
ไม่เลิก เพราะยังรักและห่วงอาวรณ์ เขาอยู่
แต่ก็ควรจะหยุด ตาม..สงสัย..สืบ..อยากรู้เรื่องใดๆ ทุกขณะ
จดจ้อง ติดตาม...ฯลฯ ซึ่งก็ยิ่งนำมายิ่งความทุกข์ ต้องเลิกพฤติกรรมเหล่านี้ให้ได้
...ตอนนี้ ต้องดูแลจิตใจของเราดี กว่า..เพราะเมื่อสุขภาพจิตไม่ดี..สุขภาพร่างกายย่อมไม่ดีตามไปด้วย
ความเร่าร้อน..ความกระวนกระวาย เหล่านี้ เกิดมาจากสิ่งใด...มาจาก กิเลส โลภะ โทสะ โมหะ
ความยินดีพอใจใน รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ นี่คือเหตุแห่งทุกข์
ขอให้ตั้งสติ ระลึกรู้...มีสติอยู่..หาพระเข้าตัว อ่าน ฟัง ธรรมตามกาล เจริญภาวนา ตามกาล
เพื่อที่จะ ละ คลาย อุปาทาน ขันธ์ เหล่านี้ ลง
ขอใหฝึก ปล่อยวาง...ไม่กดดัน ไม่ข่ม ไม่เพ่ง ปล่อยวางมันไป
ขอให้กำลังใจ และแก้ปัญหาได้ ด้วยสติปัญญาครับ
เจริญในธรรม :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ย. 2010, 10:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 22:09
โพสต์: 2

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นกำลังใจให้นะค่ะ ทุกอย่างต้องใช้เวลาไม่มีใครทำใจได้เพียงชั่วข้ามคืน ต้องเข้มแข็งนะ ทุกอย่างจะดีขึ้นเองนะค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ย. 2010, 12:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2010, 08:37
โพสต์: 189

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มาเป็นกำลังใจให้อีกคนนะคะ

เราเองก็ทุกข์ใจที่สามีไปปันใจให้ ผญ อื่น
ถึงแม้ว่าวันนี้จะทุกข์ แต่ขอให้เข้าหาธรรมะนะคะ
ธรรมะจะช่วยทำให้จิตใจของเราดีขึ้น

ไม่มีใครทุกข์ไปตลอดชีวิต และไม่มีใครมีสุขไปตลอดชีวิต

ขอจงใช้สติและปัญญาในการตัดสินใจ
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอให้ตั้งมั่นในความดีค่ะ
:b4: :b4: นะคะ

.....................................................
.....................................................................................................................................

อัสฺสามิกตา ปรมา ลาภา
ความไม่มีสามีเป็นลาภอันประเสริฐ
สามิกตา ปรมา ทุกฺขา
การมีสามีเป็นทุกข์อย่างยิ่ง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 6 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 58 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร