วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 22:44  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 162 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 11  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2010, 13:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2010, 08:48
โพสต์: 97

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


enong_ple เขียน:
ขอเป็นกำลังใจให้อีกคนค่ะ
ไม่ว่าจะจริงหรือไม่จริง (ในอนาคต) ก็ขอเป็นกำลังใจ ขอให้คุณทานยาไปเรื่อยๆ เพราะยาจะต้องไปล้างสารที่ตกตะกอนตรงท้ายทอยน่ะค่ะ ..เปิ้ลเคยเป็นทานยา 2 ปี หมอจึงสั่งหยุด หรือคุณจะออกกำลังกายให้เหงื่อออกมากๆ ก็จะช่วยให้สารจะละลายเร็วขึ้น ทานยาน้อยลง ...ระยะเวลาซึมเศร้าคุณน้อยอาจทานไม่ถึง1ปี แต่ของเปิ้ลระยะเวลาเกิน5 ปีสำหรับความทุกข์ทรมาน เมื่อรู้สึกตัวและตั้งสติได้จึงหยุดยา
เป็นเรื่องของกรรมที่ติดตามมา ถ้าคุณเชื่อเรื่องเวรกรรม คุณสามารถพบทางสว่างได้
ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายที่รู้จักกัน(ลูกน้องที่ทำงาน) หรือแม้แต่สามีของเปิ้ลเอง เขาจะคร่ำครวญ แต่ไม่เกิน2ปี เหมือนเดิมค่ะ
แต่สำหรับคุณคงจะทุกข์ทรมานมากถึงได้เป็นอย่างนี้ เข้าใจสำหรับความรู้สึกที่คุณเป็นค่ะ
เริ่มจาก ทาน ศีล ภาวนา แล้วคุณจะดีขึ้นค่ะ
******************************************************
ไม่ว่าจะเริ่มต้นใหม่ หรือต่อจากจุดเก่า เขาก็ไม่เปลี่ยน ยังคงผิดซ้ำซากเหมือนเดิม
------ :b26:

ผมทานๆหยุดๆมาหลายปีแล้วครับ
ครั้งสุดท้ายที่หยุดทานก็เป็นเรื่องเลย
เรื่องสามีของคุณเปิ้ลหมายความว่าไงครับ เขากลับไปเหมือนเดิมคือดีหรือไม่ดีครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2010, 13:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2010, 08:48
โพสต์: 97

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


starfish เขียน:
อนุโมทนาสาธุด้วยนะคะ
ดีใจที่มีผู้ชายที่ทำความผิดแล้วกลับใจได้
เราอยากให้สามีของเรา
คิดเหมือนคุณตอนนี้บ้างจัง

แต่....เขาคนนั้นยังหลงมัวเมาในกามสุข
จนลืมความสุขที่แท้จริงของชีวิตค่ะ

เราไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร
สามีของเราถึงจะคิดได้เช่นคุณ
หรือต้องรอจนกว่า.....ให้เขาเป็นอย่างคุณตอนนี้

:b4: :b4: นะคะ ความดีเท่านั้น
ที่จะชนะสิ่งใดๆทั้งปวง

ผมไม่รู้ว่าสามีของคุณ starfish อยู่ในช่วงไหนของปัญหานะครับ
แต่พอผมผ่านมาแล้วผมรู้เลยว่าช่วงหน้ามืดตามัวมันเป็นยังไงแม้ว่าของผมจะเป็นเพียงช่วงสั้น(หรือเปล่า) ประมาณ 3-4 เดือน
ตอนนั้นอะไรก็ฉุดไม่อยู่ ใครเตือนก็ไม่ฟังเหมือนกัน
บางทีวันนึงเขาอาจจะคิดได้เหมือนผมก็ได้ครับ
วันนี้ผมรู้แล้วว่าไม่มีอะไรมีค่าไปกว่าครอบครัวอีกแล้ว
ถ้าผมเอามันกลับมาได้ผมจะดูแลมันให้ดีที่สุดจริงๆครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2010, 13:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2010, 08:48
โพสต์: 97

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เจโตวิมุติ เขียน:
:b42: คนที่สติแตก เอาธรรมมะไปยัดเข้าไป มันยัดไม่เข้าหรอกครับ มันก็จับๆคลำๆ ไปงั้นเอง นิ่งๆรอสติมา เขาไม่หนีไปไหนหรอก ภรรยายังต้องการสามี ลูกยิ่งต้องการพ่อ ขอแต่เพียงตั้งใจจริง อย่าเพียงแต่พูด ไม่จำเป็นถึงขนาดเปลี่ยนจากสัตว์เลื้อยคลานจนกลายเป็นหงส์หรอก ขอให้ปรับตัว เป็นคนที่ดีขึ้น จนเขาพอรับและให้อภัยได้ก่อน พูดครั้งเดียว หรือพูดให้น้อย แสดงออกถึงความตั้งใจจริงให้มาก ตอนนี่ สองฝ่ายต่างก็ขาดบางอย่างอยู่ คุณพึ่งรู้สึกตัวว่าคุณสูญเสียสิ่งมี่ค่าสองสิ่งในชิวิตไป(แต่ความจริงผมมั่นใจว่าคุณยังไม่เสีย มันยังเป็นของคุณเพียงแต่เป็นช่วงเวลาที่คุณไม่มีสิทธิ์ไปจับไปลูบคลำมันได้เท่านั้นเอง) เขาเอง ก็ลูกสึกขาดสามี และขาดพ่อของลูกไป และถ้าถามว่ามันจำเป็นไหม สำหรับชิวิต ที่เรียกว่าครอบครัวที่เหลือเพียงแม่กับลูก ไม่ต้องถามผมถามทุกคน แม้กระทั่งจิตแพทย์และนักสังคมสงเคราะห์เขาก็ตอบเหมือนกัน ภรรยาคุณเขาคิดเป็น เพียงแต่ให้คุณเป็นคนจริง ผิดแล้วแก้ไข-เจ็บแล้วจำ
คนเรามันก็เป็นแบบนี้ ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ เพียงแต่เราเกิดเป็นผู้ชาย เราต้องใช้ประโยชน์ในความเป็นลูกผู้ชายให้มาก เช่นความรับผิดชอบ และความอดทนเสียสละ ยิ่งโดยเฉพาะกับครอบครัว ลูกเมีย ที่ผ่านมาถือว่าเราผิดพลาดใช้ความเป็นลูกผู้ชายไปด้านลบ ยังไม่สาย ตั้งใจ ตั้งสติ ถ้ากลับมาเหมือนเดิมเมื่อไร อย่าลืมชดเชยสิ่งดีให้เขาบ้าง ขอให่คุณและเธอพร้อมลูกจงโชคดีในเร็ววัน..../เจโตวิมุติ


ขอบคุณคุณเจโตวิมุติมากๆเลยครับ
ผมอ่านแล้วได้สติมาก หวังว่าผมจะมีวาสนาได้รับคำแนะนำจากคุณเจโตวิมุติต่อไปอีกนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2010, 13:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3836

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาทุกท่านทุกคน

ขอโอกาสย้ำคุณสำนึกแล้วอีกครั้งว่า

ให้ยอมรับสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้
ไม่ใช่ที่"เคยมี"
หรือ"อยากมี""อีก

ถ้าทำผิดไปจากนี้ มันจะทุกข์ทันที

เมื่อไหร่ใจมันดื้นรนอยากได้สิ่งที่หายไปคืนมา มันก็ทุกข์ทันที

สังเกตุไปอย่างนี้บ่อยๆนะครับ
ถ้าจะให้ธรรมะช่วย ต้องทำอย่างนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2010, 13:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2010, 08:48
โพสต์: 97

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
วันนี้รู้สึกดีกว่าเมื่อวานไหมค่ะ?
แวะมาเยี่ยมค่ะ..... :b1:

ขอบคุณคุณ Taktay มากครับ
ช่วงนี้อยู่ในช่วงปรับตัวของผมครับ
แม้ว่าทำยังไงก็ยังไม่ชินกับการที่ไม่ได้อยู่กับลูกกับเมีย
แต่ผมก็รู้ว่าผมจำเป็นต้องดีขึ้น ไม่งั้นทุกอย่างมันก็จะยิ่งแย่ลงไปอีก
แล้วสิ่งที่ผมหวังไว้อาจจะไม่มีทางเกิดขึ้นเลย
ยังไงก็สู้ครับ อย่างน้อยก็เพื่อตัวเอง เพื่อลูก และเพื่อ(อดีต)ภรรยา แม้ว่าตอนนี้เขาจะยังไม่ต้องการมันเลยก็ตาม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2010, 13:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มิ.ย. 2010, 12:05
โพสต์: 282

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ
อดีตเราย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว ปัจจุบันสำคัญกว่า
ถ้าตอนนี้เราทำเหตุดีๆ ผลในอนาคตก็จะดีไปด้วย

.....................................................
อย่ามัวเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมา อย่าปล่อยให้ชราแล้วตายไปเปล่า อย่ามัวแต่ตำหนิตนเองหรือผู้อื่นอยู่ คิดอยู่เสมอว่าจะพัฒนาจิตใจตน และทำประโยชน์ให้ผู้อื่นอย่างไร แล้วเร่งกระทำทันที อย่ามัวรีรอ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2010, 17:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มี.ค. 2010, 21:44
โพสต์: 942

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สำนึกแล้ว เขียน:
แสงอาทิตย์ เขียน:
สวัสดีคะคุณสำนึกแล้ว
อ่านเรื่องของคุณทำให้สะท้อนถึงเรื่องในครอบครัวเรา
ดีนะคะที่คุณยังคิดได้และรู้ตัวว่าต้องไปพบจิตแพทย์แต่สามี
เราไม่มีโอกาสได้บำบัดเลย รู้ก็มาสติแตกและหลุดโลกไปเสียก่อน
ขอให้คุณสำนึกแล้ว สำนึกได้จริงๆ และมั่นเข้าหาธรรมะโดยปราศจาก
สิ่งไม่ดีใดๆทั้งสิ้น ก่อนที่จะไม่มีโอกาสนั้นเหมือนสามีของเรานะคะ
เป็นกำลังใจให้เรื่องทุกอย่างกลับกลายเป็นเรื่องที่ดีนะคะ


สวัสดีคุณแสงอาทิตย์ครับ
ผมพออ่านเรื่องของคุณแสงอาทิตย์บ้างแต่มันยาวมากเลยยังจับต้นชนปลายไม่ได้ แต่ก็ขอให้คุณแสงอาทิตย์สมหวังทุกอย่างกลับไปดีเหมือนเดิมนะครับ
ที่จริงผมอยากรู้เหมือนกันว่า คนที่เป็นผู้หญิงแล้วต้องผ่านเรื่องแย่ๆอย่างนี้มาจะเป็นอย่างไรบ้าง ผมสงสารภรรยาผมมากที่ชีวิตเขาต้องมาเจอเรื่องแบบนี้เพราะความเขลาและเห็นแก่ตัวของผม
ทุกวันนี้เขาบอกทุกคนว่าเขาไม่ต้องการผมอีกแล้ว เขาตัดผมได้แล้ว ซึ่งผมไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นเลย ผมยังมีความหวังเลือนลานอยู่ตรงคำพูดที่ว่า คนที่คบกันมาอยู่ด้วยกันมาเกือบ 20 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน ยังไงมันก็ต้องเหลือเยื่อใยกันบ้าง
ผมยังหวังว่าเมื่อผมกลับเนื้อกลับตัว อยากจะเป็นคนดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนนึงจะทำได้แล้ว วันนั้นเขาอาจจะให้โอกาสผมอีกสักครั้ง
ยังไงเมื่อผมอ่านเรื่องของคุณแสงอาทิตย์จบแล้วผมจะขอรบกวนเขียนหาคุณแสงอาทิตย์อีกนะครับ


ยินดีคะ พร้อมส่งกำลัีงใจให้เต็มๆ เลยคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2010, 19:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ต.ค. 2010, 19:36
โพสต์: 59

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะ คุณสำนึกแล้ว

ดิฉันเป็นกำลังใจให้สำหรับการเริ่มต้น ที่ดีๆ ที่คุณพยายามอยู่

สามีดิฉันก็เคยพูดคำนี้เหมือนกัน "สำนึกแล้ว"

เวลา.. จะเป็นการพิสูจน์เองค่ะ.. อย่ากังวล..



:b48:

.....................................................
มากมาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2010, 20:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 มี.ค. 2010, 20:10
โพสต์: 70

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดีใจกับคุณสำนึกแล้วนะค่ะ หวังอยากให้ผู้ชายที่ทำผิดต่อภรรยาของเขาเข้ามาอ่านในลานแห่งนี้และก็สำนึกได้แบบคุณสำนึกแล้ว ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ ทำความดีเข้าไว้ค่ะ ภรรยาของคุณยังทนคุณมาได้ตั้ง20กว่าปี คุณลองพยายามอีกค่ะ :b4: :b4: :b4: พนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ต.ค. 2010, 12:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2010, 08:48
โพสต์: 97

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มากมาย เขียน:
สวัสดีค่ะ คุณสำนึกแล้ว

ดิฉันเป็นกำลังใจให้สำหรับการเริ่มต้น ที่ดีๆ ที่คุณพยายามอยู่

สามีดิฉันก็เคยพูดคำนี้เหมือนกัน "สำนึกแล้ว"

เวลา.. จะเป็นการพิสูจน์เองค่ะ.. อย่ากังวล..



:b48:

ขอบคุณคุณมากมายครับ
ผมรู้ว่าผมต้องพิสูจน์อะไรอีกมากและนานเลยละครับ
ตอนนี้ภรรยาผมแม้ว่าจะเจอหน้ากันทุกวัน(เราทำงานที่เดียวกันตั้งแต่เรียนจบมาด้วยกันเลยครับ)
แต่เธอไม่แม้แต่จะมองหน้า ไม่พูด ไม่คุย ทำเหมือนผมไม่มีตัวตนอยู่ในโลก
พ่อของเธอก็ไม่รับไหว้ผมแล้ว
ผมก็รู้ว่าเวลาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ความตั้งใจของผม ที่จะทำให้คนรอบข้างกลับมาเชื่อผมอีกครั้ง
ตอนนี้ผมมีลูกเป็นแรงกำลังใจ มีเพื่อนหลายๆคนที่ยื่นมือมาให้ตอนที่ผมสิ้นหวังที่สุด
ผมได้อ่านเรื่องของคุณมากมายมาบ้าง ถ้าไม่รังเกียจอยากให้ผมแชร์ประสบการณ์อะไรได้บ้างผมยินดีนะครับ อยากให้คุณมากมายโชคดีและเป็นกำลังใจให้เช่นกันครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ต.ค. 2010, 13:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ต.ค. 2010, 19:36
โพสต์: 59

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณคุณมากมายครับ
ผมรู้ว่าผมต้องพิสูจน์อะไรอีกมากและนานเลยละครับ
ตอนนี้ภรรยาผมแม้ว่าจะเจอหน้ากันทุกวัน(เราทำงานที่เดียวกันตั้งแต่เรียนจบมาด้วยกันเลยครับ)
แต่เธอไม่แม้แต่จะมองหน้า ไม่พูด ไม่คุย ทำเหมือนผมไม่มีตัวตนอยู่ในโลก
พ่อของเธอก็ไม่รับไหว้ผมแล้ว
ผมก็รู้ว่าเวลาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ความตั้งใจของผม ที่จะทำให้คนรอบข้างกลับมาเชื่อผมอีกครั้ง
ตอนนี้ผมมีลูกเป็นแรงกำลังใจ มีเพื่อนหลายๆคนที่ยื่นมือมาให้ตอนที่ผมสิ้นหวังที่สุด
ผมได้อ่านเรื่องของคุณมากมายมาบ้าง ถ้าไม่รังเกียจอยากให้ผมแชร์ประสบการณ์อะไรได้บ้างผมยินดีนะครับ อยากให้คุณมากมายโชคดีและเป็นกำลังใจให้เช่นกันครับ


สวัสดีค่ะ คุณสำนึกแล้ว

เป็นธรรมดานะคะ ที่ผู้ถูกกระทำ จะเป็นฝ่ายจดจำ

แต่เมื่อคุณตั้งใจแล้วว่าจะพิสูจน์ ต้องอาศัยเวลา... จะทำให้ทุกอย่าง เบาบางลง..

อาจรวมถึงความตั้งใจ ของคุณด้วย.. (ถ้าท้อเสียก่อน)

สิ่งต่างๆ เหล่านี้.. ดิฉันก็เคยทำ คนรอบข้างดิฉันเขาก็ทำแบบเดียวกันนี้

ดิฉันว่าขึ้นอยู่กับภรรยา ของคุณแล้วค่ะ

ลูกคือทุกอย่างของคุณและภรรยา เป็นสิ่งที่แยกไม่ได้ อย่ากังวลเลยค่ะ

สักวัน... ความตั้งใจที่แน่วแน่ มั่นคงที่จะแก้ไข จะส่งผลให้ความรู้สึกที่ดีๆ

กลับมา ถ้ายัง"รักกัน"


:b41:

.....................................................
มากมาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ต.ค. 2010, 13:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2010, 08:48
โพสต์: 97

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มากมาย เขียน:
ขอบคุณคุณมากมายครับ
ผมรู้ว่าผมต้องพิสูจน์อะไรอีกมากและนานเลยละครับ
ตอนนี้ภรรยาผมแม้ว่าจะเจอหน้ากันทุกวัน(เราทำงานที่เดียวกันตั้งแต่เรียนจบมาด้วยกันเลยครับ)
แต่เธอไม่แม้แต่จะมองหน้า ไม่พูด ไม่คุย ทำเหมือนผมไม่มีตัวตนอยู่ในโลก
พ่อของเธอก็ไม่รับไหว้ผมแล้ว
ผมก็รู้ว่าเวลาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ความตั้งใจของผม ที่จะทำให้คนรอบข้างกลับมาเชื่อผมอีกครั้ง
ตอนนี้ผมมีลูกเป็นแรงกำลังใจ มีเพื่อนหลายๆคนที่ยื่นมือมาให้ตอนที่ผมสิ้นหวังที่สุด
ผมได้อ่านเรื่องของคุณมากมายมาบ้าง ถ้าไม่รังเกียจอยากให้ผมแชร์ประสบการณ์อะไรได้บ้างผมยินดีนะครับ อยากให้คุณมากมายโชคดีและเป็นกำลังใจให้เช่นกันครับ


สวัสดีค่ะ คุณสำนึกแล้ว

เป็นธรรมดานะคะ ที่ผู้ถูกกระทำ จะเป็นฝ่ายจดจำ

แต่เมื่อคุณตั้งใจแล้วว่าจะพิสูจน์ ต้องอาศัยเวลา... จะทำให้ทุกอย่าง เบาบางลง..

อาจรวมถึงความตั้งใจ ของคุณด้วย.. (ถ้าท้อเสียก่อน)

สิ่งต่างๆ เหล่านี้.. ดิฉันก็เคยทำ คนรอบข้างดิฉันเขาก็ทำแบบเดียวกันนี้

ดิฉันว่าขึ้นอยู่กับภรรยา ของคุณแล้วค่ะ

ลูกคือทุกอย่างของคุณและภรรยา เป็นสิ่งที่แยกไม่ได้ อย่ากังวลเลยค่ะ

สักวัน... ความตั้งใจที่แน่วแน่ มั่นคงที่จะแก้ไข จะส่งผลให้ความรู้สึกที่ดีๆ

กลับมา ถ้ายัง"รักกัน"


:b41:

ที่ผมกลัวสุดชีวิตก็คือเรื่องนี้แหละครับ
กลัวว่าสิ่งที่ผมทำลงไปมันจะทำให้เขาหมดรักผมไปอย่างถาวรแล้ว
ที่เขาบอกกันว่าลูกจะเป็นสะพานเชื่อม เป็นโซ่คล้องใจ ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังงั้นได้หรือเปล่า
แต่ถ้าไม่มีวันนั้นแล้วก็ไม่เป็นไร
ยังไงผมก็รักผู้หญิง 2 คนนี้มากที่สุดในโลกไม่ว่าผมจะอยู่ในสถานะไหน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ต.ค. 2010, 14:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ค. 2010, 08:48
โพสต์: 97

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
ขออนุโมทนาทุกท่านทุกคน

ขอโอกาสย้ำคุณสำนึกแล้วอีกครั้งว่า

ให้ยอมรับสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้
ไม่ใช่ที่"เคยมี"
หรือ"อยากมี""อีก

ถ้าทำผิดไปจากนี้ มันจะทุกข์ทันที

เมื่อไหร่ใจมันดื้นรนอยากได้สิ่งที่หายไปคืนมา มันก็ทุกข์ทันที

สังเกตุไปอย่างนี้บ่อยๆนะครับ
ถ้าจะให้ธรรมะช่วย ต้องทำอย่างนี้

ขอบคุณคุณชาติสยามมากครับ
ผมอยากคิดให้ได้อย่างนั้นเหมือนกันครับแต่ผมคงยังมีกรรมอยู่ มันตัดไม่ได้
เหมือนคนเห็นแก่ตัวอยากได้ครอบครัวกลับคืนมา
แต่ผมจะพยายามคิดให้ได้อย่างนี้ครับ ผมจะพยายาม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ต.ค. 2010, 15:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มี.ค. 2010, 21:44
โพสต์: 942

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีคะคุณสำนึกแล้ว
ขอพูดตามตรงว่าเป็นห่วงคุณมากๆ ถ้าคุณยังย้ำคิดและย้ำทำ
กับเรื่องที่ผ่านมาแบบที่คุณเป็นอยู่นี้ กลัวว่าสักวันคุณจะหลุด
และไม่สามารถกลับมามีสติได้อีกนะึคะ อยากให้คุณตั้งสติ
และไม่ต้องกังวลและคิดมากกับเรื่องที่ผ่านไปแล้ว ให้คิดถึง
แต่วันข้างหน้า ถ้าคุณจะมีลูกเป็นแรงบังดาลใจก็ไม่แปลก
คิดซะว่าจะทำทุกอย่างเพื่อลูก ไม่ว่าจะเปลี่ยนตัวเอง
หรือเริ่มต้นทำสิ่งดีๆ สิ่งใหม่ๆ ละเว้นอารมณ์ซึมเศร้า
หม่นหมอง ปรับสภาพจิตใจใหม่ คิดแต่เรื่องดีๆ
ปล่อยทุกอย่างไปตามธรรมชาติ อะไรก็แล้วแต่
ถ้ามันผ่านไปแล้วก็ไม่ควรมานั่งคิด เสียใจ หรือตอกย้ำ
กับตัวเองให้เสียสุขภาพจิต คิดบวกไว้นะคะ
เพราะสภาพจิตใจโดยรวมของคุณถือว่าน่าเป็นห่วงมากๆ
ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น ทำเวลาในแต่ละวินาทีของชีวิต
ให้มีคุณค่ามากที่สุด ไม่ใช่เพื่อใครแต่เพื่อตัวคุณเองและ
ลูกสาวที่คุณรักนะคะ เป็นห่วงมากๆคะ ยินดีเป็นเพื่อน
คอยแชร์ความรู้สึกให้คุณเสมอนะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ต.ค. 2010, 15:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3836

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


สำนึกแล้ว เขียน:
ขอบคุณคุณชาติสยามมากครับ
ผมอยากคิดให้ได้อย่างนั้นเหมือนกันครับแต่ผมคงยังมีกรรมอยู่ มันตัดไม่ได้
เหมือนคนเห็นแก่ตัวอยากได้ครอบครัวกลับคืนมา
แต่ผมจะพยายามคิดให้ได้อย่างนี้ครับ ผมจะพยายาม


ดูดีๆน๊า ผมไม่ได้ให้ "คิด" นะครับ
ความคิดนั้น ถ้ามันแก้ความทุกข์ได้ ก็แสดงว่าคนไหนคิดเก่งๆ คงจะพ้นความทุกข์ได้
เพราะฉะนั้น ไอน์สไตนืคงจะพ้นทุกข์ก่อนเพื่อน
แต่ความจริงไม่ใช่

ต่อให้คิดเป็น คิดบวก แลาดคิดก้ตามที
เวลาของเก่ามันประทุประดังประเดขึ้นมา "ความคิดมันแพ้ความรู้สึก"

คิดถึงลูกขึ้นมาจับใจ ไม่มีใครในโลกจะพยามคิดว่าอย่าคิดถึงลูก
ธรรมชาติเรามันมีแต่ต้องคิดถึงลูกให้สุดใจ นี่คือธรรมดามนุษย์

แต่ผมแนะว่า ในขณะที่คุณคิดถึงลูก คุณจะมีความรู้สึกต่างๆประดังประเด ระคนกันไป
ช่วงเวลานั้นแหละ ลองสังเกตุดุสิว่าร่างกายอยู่ท่าไหน ใจมันรู้สึกอย่างไร
กายมันรู้สึกตื้นตันหนักแน่นอะไรยังไง สังเกตุไปทั่วๆ
แล้วบอกตัวเองว่า นี่แหละ ทุกครั้งที่คิด มันจะเสียใจแบบนี้
สังเกตุไปแล้ว อะไรเกิดขึ้นก้ดู อะไรดับลงไปก็ดูไป
เห็นอะไรก็ดูไป ไม่เห้นก็ไม่ต้องไปควานหา มีอะไรให้ดูก็ดูไป
แค่เผ้าดุกิจกรรมของจิตใจเราที่มันมีอะไรต่อมิอะไรเกิดดับ


คอยทำแบบนี้บ่อยๆ

ที่ผมแนะให้คุณทำนั้น มันเป้นการเจริญปัญญาชนิดหนึ่ง
ที่ชื่อว่าภาวนามัยปัญญา สิ่งที่ผมแนะคุณทำเขาเรียกว่าเจริญสติ

ถ้าจะพูดให้คุณเข้าใจง่ายๆ ยังไม่เน้นการอธิบายที่ถูกต้อง
ผมก็ขอพูดว่า ที่ผมแนะให้ทำนั้น มันเป็นอุบายในการนำร่องให้จิตใต้สำนึกของเรามันสังเกตุ
ว่าทุกครั้งที่เราคิดผิดทาง มันจะทุกข์ร้อนขึ้นมา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 162 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 11  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 11 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร