ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ช่วยให้คำแนะนำคนตาบอดคนนี้ด้วยเถิด .. http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=27&t=35406 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | Buddy [ 01 พ.ย. 2010, 14:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | ช่วยให้คำแนะนำคนตาบอดคนนี้ด้วยเถิด .. |
สวัสดีค่ะ .. ตัวเองมีแฟนเป็นผู้หญิงค่ะ เด็กกว่าหลายปีอยู่ ตอนแรกไม่คิดว่าจะมีรักครั้งนี้ได้เลย ไม่อยากให้เกิด เพราะ คิดว่าคงไม่จีรังยั่งยืน แต่ห้ามอารมณ์ตัวเองไม่ได้ค่ะ คบกันช่วงแรกๆ คงเป็นเพราะความหลงค่ะ อีกคนก็เอาใจเราเก่ง รู้ใจเราทุกเรื่อง รู้ว่าควรทำยังไงให้เราพอใจหรือมีความสุข ยิ่งทำให้เราหลงใหญ่เลย คบกันเร็วมากค่ะ ไม่กี่อาทิตย์ก็สนิทกันมาก ยอมให้เงินเป็นจำนวนมากอยู่(สำหรับเรา) เพราะเขาขัดสน ต่อมาก็ซื้อของให้เขามากมาย ราคาก็เป็นหมื่นขึ้น จริงๆตัวเองก็ไม่ได้รวยนะคะ แต่ก็ไม่รู้อะไรมาบังตา ยอมซื้อให้ทุกอย่าง เพื่อทำให้เขาพอใจและรักเรา 3-4 เดือนแรกก็ดูเหมือนจะดี พอหลังจากนั้น ก็เริ่มมีทะเลาะกันบ้าง จนเกือบจะเลิกกันไป แต่ก็กลับมาดีกันอีก เป็นอย่างนี้ กลับไปกลับมาอยู่หลายครั้งค่ะ พอเขาเดือดร้อนเราก็ช่วยเหลือเขา เขาก็จะมาดีกับเราชั่วคราวแล้วก็กลับไม่ดีกับเราใหม่ เราตกลงว่าจะซื้อคอนโดด้วยกันเพราะลำพังเขาคงซื้อไม่ไหว (แต่เราไม่ได้อยู่ด้วยนะคะ) ก็คือช่วยเขาผ่อน ต่อมาเขาขัดสนเราเลยผ่อนเองหมด ทั้งๆที่เราลำบากอยู่เหมือนกัน เพราะต้องผ่อนด้วยเงินจำนวนมาก แต่ก็รักเขา ก็เลยยอมทุกอย่าง เงินเดือนเกือบทั้งเดือนน่ะคะ 2-3 เดือนที่แล้วเขาเริ่มเปลี่ยนไปมาก จากที่ดีๆกับเรา ก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา หมางเมิน เงียบ จากที่เคยมีเวลาให้กัน ก็ถอยห่างเป็นวันเว้นวันบ้าง 1-2 วันต่อสัปดาห์ค่อยเจอกันบ้าง เคยไปเที่ยวด้วยกัน ดูหนังด้วยกัน ก็ค่อยๆห่างไปเรื่อยๆ มันเจ็บค่ะ เสียใจด้วย เราดูแลเขาทุกอย่าง อันไหนที่เขาไม่ชอบ ก็ปรับตัว พยายามทุกอย่าง ช่วยงานเขา ซื้อของให้ เพราะเราหลอกตัวเองว่าเขาคงรักเราอยู่ แต่เขาไม่เห็นคุณค่าเราตรงจุดนั้นเลย เพื่อนๆพูดก็ไม่เชื่อเพื่อน บอกเพื่อนว่าเขาเป็นคนดี เขาลำบาก เลยช่วยเขา เพราะเรารักเขามาก อยากจะเลิกหลายครั้งแต่พอคิดจะเลิก เขามาทำดีด้วย ก็เลยไม่ได้เลิก สุดท้ายทนไม่ได้ค่ะ แทบจะไม่คุยกันอยู่แล้ว ก็เลยบอกเลิกเองทั้งๆที่รักมาก .. พอบอกเลิกไป เขาก็มาทำดีกับเรา ให้เรารู้สึกดีๆด้วย จนเราสับสน แต่ก็เหมือนมีอะไรมาดลใจค่ะ ว่าเขามีคนอื่น .. เราเลยอยากพิสูจน์ด้วยตัวเอง ให้เห็นกับตา จะได้ไม่เป็นคนตาบอดอีก เพราะถึงเลิกกันไป ก็ยังช่วยเขาผ่อนคอนโดอยู่ ยังเป็นห่วงเขาอยู่ ตัดไม่ได้ค่ะ ปรากฏว่าเห็นเขาอยู่กับผู้ชายในห้องเลยค่ะ ตอนนั้นช็อคค่ะ เคยดูแต่ละครไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเอง ทำอะไรไม่ถูก สงบสติอารมณ์ นึกถึงธรรมะ แล้วบอกเขาว่าอโหสิกรรมค่ะ คุยกับเขาดีๆ และตกลงว่าจะเป็นเพื่อนกัน เขาบอกแค่คำว่าขอโทษ รู้สึกผิดอยู่ บอกเขาว่าจริงๆบอกเราดีดีก็ได้ ถ้าจะมีแฟนเป็นผู้ชายเรายินดีอยู่แล้ว .. เขาบอกว่าไม่กล้าบอกเราเพราะกลัวเราจะเสียใจ เป็นห่วงความรู้สึกเรา .. หลงอยู่กับคำพูดเขาค่ะ หลังจากนั้นก็คุยกันเรื่องคอนโด เขาบอกว่าเดือนนี้ก็ขัดสนเรื่องเงินอีก เราก็เลยบอกว่าเดือนนี้จะผ่อนให้หมดเลย แต่พอเรากลับบ้านไป .. ร้อนค่ะ ใจมันร้อนมากมาย ยิ่งได้เห็นรูปเขายังดูยิ้มแย้มหลังจากเกิดเหตุการณ์นะคะ (ตอนแรกพยายามจะใช้ concept รักแท้ค่ะ เห็นเขาสุข เราสุขด้วย) แต่ตอนนั้นเราสุขไม่ลงค่ะ เพราะเรารู้สึกว่าเขาไม่รู้สึกผิดอะไรเลย ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นคอนโดของเรา เอาอีกคนมาอยู่ด้วย วันแรกก็ไม่ว่านะคะเพราะเมา แต่วันที่สองก็ยังอยู่ต่อค่ะ .. ตอนนั้นคิดว่า เราทำงานเหนื่อย เราจ่ายเงินให้เขา แต่เขาเอาคนอื่นมาอยู่ห้องของเรา แต่ตัวเราเองกลับไม่ได้ใช้ห้องนั้นเอง จะไปก็ไม่กล้าไป .. มาคิดได้ทีหลังว่าจริงๆ เขาคงเอามาอยู่ด้วยช่วงวันเสาร์อาทิตย์หลายครั้งแล้ว ที่แย่ยิ่งกว่านั้นคือ ก็ยังขอยืมเงินเราอยู่เลย ทั้งๆที่นอกใจเรา .. จนเงินเราเกือบหมด นอนไม่หลับเลยค่ะ เลยไปหาเขาที่คอนโดอีกค่ะ กะว่าถ้าเห็นอีก คราวนี้ตัดได้แน่ๆค่ะ ก็เห็นจะจะครั้งที่สองอีก คราวนี้สติหลุดค่ะ โมโห กว่าครั้งแรก เพราะเราคิดว่าเขารู้สึกผิดตามคำพูดค่ะ บอกว่าเห็นใจเรา เราคงรู้สึกไม่ดีที่มีคนอื่นมาอยู่ แต่การกระทำไม่ได้เหมือนคำพูดค่ะ ก็ยังทำ คิดเองไม่ได้ค่ะว่าอะไรควรอะไรไม่ควร .. เราถามเขาว่ารู้สึกผิดบ้างไหม ทำแล้วก็ยังทำอีก แล้วก็ถามว่าที่ผ่านมานี่หลอกเราหรือเปล่า .. ทะเลาะกันเลยค่ะ เขาโกรธที่เราทำแบบนี้ ไล่เราออกจากห้องเราเอง (งงไหมคะ) ตัดขาดกันเด็ดขาด บอกว่าจะใช้หนี้ที่ติดเราไว้ให้หมด ให้จดมา (แต่ก็รู้ว่าเขาคงไม่มีเงินจ่ายเราหรอกค่ะ ก็กะว่าจะยกหนี้ให้ เพราะยังสงสารค่ะ) คราวนี้ไม่เป็นเพื่อนแล้วค่ะ คงมองหน้ากันไม่ติด ตอนนั้นคิดว่าก็ดีเหมือนกัน จะได้จบๆ จะขายคอนโดซะ แล้วจะได้ไม่ต้องติดต่อกันอีก .. พอความโกรธหาย .. ความซึมเศร้ามาค่ะ ไม่รู้ว่าเศร้าอะไรบอกไม่ถูก เศร้าเพราะเหตุการณ์เมื่อเช้า หรือ เศร้าเพราะเสียคนรักและเพื่อนไปคนนึง เพื่อนๆเราบอกว่าจะเสียดายอะไร คนที่เป็นเพื่อนที่ดีหรือแฟนกันเขาไม่ทำให้เพื่อนหรือแฟนต้องทุกข์ใจแบบนี้หรอก .. ตอนนี้ทำงานไม่ได้ค่ะ รู้สึกแย่มาก ตอนแรกคิดว่าตัวเองใช้ธรรมะเข้าช่วยแล้ว รู้สึกดี แต่จริงๆแล้ว หลอกตัวเองทุกอย่างค่ะ แค่กดความรู้สึกแย่ๆไว้ ไว้ระเบิดออกมาตอนเช้านี้ค่ะ .. รู้ว่าเป็นเรื่องที่ใครหลายคนคงเคยได้ยินแล้ว แต่พอเจอกับตัวเอง ยังหาทางออกให้ตัวเองไม่เจอเลยค่ะ จะใช้ธรรมะข้อไหนดี แล้วเราควรจะทำยังไงต่อไป ขอบคุณนะคะ ที่ช่วยคนตาบอดคนหนึ่ง .. |
เจ้าของ: | กจมณี [ 01 พ.ย. 2010, 14:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ช่วยให้คำแนะนำคนตาบอดคนนี้ด้วยเถิด .. |
มันเป็นเวรกรรมคะ แต่เราสามารถหลุดจากความหลงได้ด้วยสติ คนเราหากไม่มีรักแล้ว ความพลัดพลากจากความรักย่อมไม่มี ความทุกข์จากความรักย่อมไม่มี จริงๆคุณไม่ได้รักเค้าหรอกคะ หากถ้าคุณรักเค้าจริงคงไม่ทุกข์ขนาดนี้ ต้องยอมรับความจริงก่อนว่า ที่คุณเป็นคืออะไร การหลงราคะ หรือความดีๆที่เค้าทำให้ถูกใจคุณ ความถูกใจคือกิเลส คะ พอไม่ได้ดังใจก็มาทุกข์ อยากให้คุณถอยออกมาคะ และพิจารณาความเป็นจริง เราเกิดตายกันมาหลายชาติ หมอไม่อยากให้คุณต้องติดกับดักของเกมกรรรมซ้ำซาก ไม่อยากให้คุณทำผิดอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อนอื่นๆและตั้งสติก่อนนึกถึงความเป็นจริงตรงหน้า คุณเกิดมาชาตินี้เพื่ออะไรกันแน่... อยากเสียเวลากับสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์อยู่เลย ออกมา...จากความทุกข์ได้แล้ว |
เจ้าของ: | Buddy [ 01 พ.ย. 2010, 15:00 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ช่วยให้คำแนะนำคนตาบอดคนนี้ด้วยเถิด .. |
ขอบคุณค่ะ .. คิดเหมือนคุณกจมณีเหมือนกันค่ะ ไม่อยากให้เป็นเวรกรรมต่อกันอีก .. อยากให้จบแค่ชาตินี้ เพราะไม่นั้นก็จะต้องมาแก้ไขกันอีกในชาติหน้า ตอนแรกก็อโหสิกรรมจริงๆ คิดว่าตัวเองสบายใจแล้ว แต่ผีโกรธ ผีโมโห เข้าสิงใหม่ค่ะ ตอนนี้ผีตัวนั้นออกแล้ว ตอนนี้ก็ถอยออกมาแล้วค่ะ รู้สึกเสียใจที่เช้านี้ไปหาเขา แล้วไปต่อว่าเขาอีก ทำให้จากกันไม่ดี .. แต่ทำไงได้คะ มันผ่านมาแล้ว คงย้อนเวลากลับไปอีกไม่ได้ ชีวิตก็คงก้าวเดินกันต่อไปค่ะ .. พยายามจะสลัดเจ้าความทุกข์ทิ้งอยู่เหมือนกันค่ะ คงต้องใช้เวลาอีกนิด |
เจ้าของ: | เจโตวิมุติ [ 01 พ.ย. 2010, 16:48 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ช่วยให้คำแนะนำคนตาบอดคนนี้ด้วยเถิด .. |
![]() .....ที่พูดนี่ไม่ได้ซ้ำเติม เรื่องความรักที่ผิดหวังนี้ ไม่พ้น3เรื่องปกติของคนทั่วไป คือเสียใจ เสียเงินและก็เสียตัว อันนี้เป็นปกติไม่ถือว่าโชคร้ายเลย ที่โชคร้ายกว่านั้นยังมี คือเสียชื่อเสียง หน้าที่การงาน ท้อง มีลูกติดหรือบางคนต้องแอบไปทำแท้งนี่น่าเห็นใจกว่า ......ร้องไห้ฟูมฟายทั้งนั้น เราก็เคย หลายคนก็เหมือนกันไม่ว่า เขาทรยศ ผู้ใหญ่กีดกัน หรือแม้แต่ที่เรียกโชคชะตากลั่นแกล้ง(ต้องเลิกล้างจากกันทั้งที่ยังต่างรักกัน) มันก็มีรูปแบบเดียวกัน นี่เรายังไม่ได้สูญเสียอะไรเลยเท่าที่ฟัง นอกจากเงิน และสติ(บางส่วน) เงินที่ให้ขาดไปแล้วก็แล้วกันไป แต่ที่อยู่ในสิทธฺของเราเช่นคอนโด เอาคืนมาแล้วขายไปไม่ต้องให้อะไรอีก พอ ธรรมมะคำนี้สำหรับเธอคนนั้น ....ที่ไม่พุดเรื่องธรรมมะเลย เพราะตอนนี้เราเป็นกะลารั่ว กะลาคว่ำอยู่ เอาน้ำ(ธรรมมะ)ไปเติมมันเก็บน้ำไว้ไม่ได้หรอก ก็แค่ปลอบกันไป คนที่จะเข้ามาหาธรรมมะ มันต้องเริ่มที่ศรัทธา ไม่ใช่ไม่รู้จะไปทางไหนแล้วธรรมมะคือทางสุดท้าย อันนี้อาจขัดใจอาจารย์ท่านอื่นๆ ต้องขออภัย ไม่ใช่เราพูดเอง กับคำพูดที่ว่าจะบวช เพราะอกหักรัดคุด บวชเพราะเป็นโรคร้าย บวชเพราะไม่มีงานทำ หรือแม้บวชตามประเพณี มันคว้าประโยชน์จากธรรมมะไม่ได้เลย การเข้ามาเสียเวลาที่นี่มันก็จะเป็นโมฆะเสียเปล่าๆ .....เอาจริงๆต้องตั้งสติก่อน ปลูกศรัทธาให้ตั้งขึ้น อย่าวิ่งเข้ามาแบบผมเป็นกระเซิงอย่างนี้ มีศรัทธาแล้วค่อยเข้ามา กัลยาณมิตรยื่นมือคอยรับอยู่แล้วนับร้อยนับพัน.......ฟังความเห็นอื่นๆก่อน ช่วยกันปลอบหน่อยเราปลอบไม่เป็น....เจโตวิมุติ |
เจ้าของ: | นายฏีกาน้อย [ 01 พ.ย. 2010, 19:43 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ช่วยให้คำแนะนำคนตาบอดคนนี้ด้วยเถิด .. |
Chinese opera : about simple story โจทย์ชีวิต ลิขิต บททดสอบ แก้คำตอบ ตามกรอบ ไตรสิกขา อาวุธคือ ศีลสมาธิ ปัญญา แก้ปัญหา น้ำตา ที่ตกใน ![]() ![]() ปัญญาคือ รอบรู้ ความยึดถือ ที่ดึงดื้อ ยื้อยึด มีเงื่อนไข รักตัวเอง ใจใหญ่เอง โทษใคร รักอภัย รู้ขำขำ ธรรมดา ![]() ![]() สมาธิ ห้ามปราม ยามเล่นงิ้ว บทโกรธกริ้ว งิ้วเหงา เจ้าปัญหา ทุกบทคือ กิเลส นิวรณ์ห้า รู้รักษา รวมจิต เป็นหนึ่งเดียว ![]() ![]() ศีลเป็นกรอบ ล้อมคอก ความถูกผิด กิเลสชิด ชื่นชม เรื่องเสื่อมเสียว ศีลขาดกิน ข้าวไม่มี ไข่เจียว เหมือนวัวเคี้ยว หญ้าแ้ห้งกอบ อร่อยจัง ![]() ![]() แต่งคาถา ให้คน มาทดสอบ แก้คำตอบ ผิดกรอบ เจอทุกขัง หากแก้ถูก ยิ้มชิวชิว เอวัง จงสุขขัง พลัง บริบูรณ์ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() Credit image by : http://weeklydrop.com/kidrobot-dunny/du ... -kidrobot/ ป.ล. กายกรรม วจีกรรม ใช้ศีลรักษาตัว หากล่วงไปแล้วก็คือผลของวิปากที่ต้องยอมรับความจริงไม่ติดอยู่กับอดีต เพราะแ้ก้ไขกายกรรม วจีกรรมที่ทำไปแล้วไม่ได้ ผ่านไปแล้ว ต้องต่อสู้สลับกับมโนกรรมภายใน มโนกรรม อย่างกลาง ที่สุมใจในขณะนี้ ปัจจุบัีนนี้คือ นิวรณ์ที่สลับกันเข้ามาทดสอบปรุงแต่งจิตให้ กระทำ ให้บอบช้ำวนรอบ ใช้สมาธิรักษาจิต มโนกรรม อย่างละเอียด คือความไม่รู้ืที่สร้างตัณหา และอุปทานความยึดถือสำคัญเป็นตัวเราของเราขึ้นมาให้ทั้งที่ความจริงมัน เป็อนััตตาไม่ใช่ตัวตน ไม่รู้หลงยึดถือสิ่งที่ทำและได้รับว่าเป็นความสุขทั้งทีมัีนเป็นความทุกข์ ไม่รู้หลงยึดถือความไม่เที่ยงแท้แน่นอนในทุกสิ่ง ว่ามันจะแน่นอนทั้งที่มันเป็นความไม่แน่นอน สุดท้ายหลงยึดถือในรูปลักษณะต่าง ๆ ว่างาม ทั้งที่ความจริงปกปิดความน่าเกลียดความไม่งามไว้ เป็นความไม่สวยไม่งามมโนกรรมอย่างละเอียดใช้ปัญญารักษาจิต สรุป อย่างต่ำใช้ศีล อย่างกลาง ๆ ใช้สมาธิอบรมสมถภาวนา อย่างสูงใช้ปัญญาละความเห็นผิดวิปลาสในประการต่าง ๆ ด้วยการอบรมวิปัสสนาภาวนาเจริญพร |
เจ้าของ: | ดั่งกัน [ 06 พ.ย. 2010, 13:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ช่วยให้คำแนะนำคนตาบอดคนนี้ด้วยเถิด .. |
ค่อยๆ คิด พิจารณาจิตใจของตัวเองนะค่ะ อย่าฟูมฟาย มากมาย นัก ตัวเองที่ทุกข์เอง คิดถึงคนที่รักเราให้มากๆ ค่ะ ยังมีอีกหลายคน พิจารณาให้ดีค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ |
เจ้าของ: | Panumart Mohaupt [ 06 พ.ย. 2010, 15:52 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ช่วยให้คำแนะนำคนตาบอดคนนี้ด้วยเถิด .. |
ขออนุญาตขัดลอกนะค่ะ ......ร้องไห้ฟูมฟายทั้งนั้น เราก็เคย หลายคนก็เหมือนกันไม่ว่า เขาทรยศ ผู้ใหญ่กีดกัน หรือแม้แต่ที่เรียกโชคชะตากลั่นแกล้ง(ต้องเลิกล้างจากกันทั้งที่ยังต่างรักกัน) มันก็มีรูปแบบเดียวกัน นี่เรายังไม่ได้สูญเสียอะไรเลยเท่าที่ฟัง นอกจากเงิน และสติ(บางส่วน) เงินที่ให้ขาดไปแล้วก็แล้วกันไป แต่ที่อยู่ในสิทธฺของเราเช่นคอนโด เอาคืนมาแล้วขายไปไม่ต้องให้อะไรอีก พอ ธรรมมะคำนี้สำหรับเธอคนนั้น ถ้ายังขายไม่ได้ประกาศให้เช่า เอาเงินไปผ่อนชำระโอกาสดีตั้งสติได้แล้วก็กลับมาอยู่เป็นของตัวเองสบายไปเลย ท่านสอนได้ดีจริงเลย เอาใจช่วยต้องเข็มแข็งเท่านั้นที่จะชนะตัวเองและคนอื่น (ใจ) โลเล ก็จนวันยังค่ำ ไม่ต้องรวยมากแค่พอเพียง |
เจ้าของ: | tonnk [ 07 พ.ย. 2010, 15:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ช่วยให้คำแนะนำคนตาบอดคนนี้ด้วยเถิด .. |
เอาอย่างนี้คุณ ผมจะพูดอย่างง่ายๆ ถึงการปฏิบัติเลยนะ ไม่อ้อมค้อม ความทุกข์ของคุณเกิดจากกิเลส กิเลสมันรุมคุณอยู่ ให้คุณพิจารณาแยกร่างกายออกเป็นส่วนๆ แล้วพิจารณาให้เป็นธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ หรือเผาส่วนนั้นทิ้งก็ได้แล้วถามว่าอันไหนมันเป็นตัวเป็นตน ให้คุณลองทำดู มันอาจจะเป็นคำพูดที่บ้าสักหน่อยแต่ก็แก้ที่ต้นเหตุ ไม่อ้อมค้อม ลองทำดูแล้วจะรู้ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |