ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

มีความสุขหรือมีความทุกข์
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=27&t=36406
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  อรไท [ 24 ม.ค. 2011, 15:38 ]
หัวข้อกระทู้:  มีความสุขหรือมีความทุกข์

การที่เราอยากอยู่กับคนนั้น..อยากใช้ชีวิตกับคนนั้น มันใช่ความรักหรือเปล่า...แต่ในเมื่อเขาไม่เคยรักเราเลยแล้วเราจะทนอยู่กับเขาไปเพื่ออะไร..ดิฉันเคยคบกับเขาก่อนที่ดิฉันจะแต่งงานแต่เขามีนิสัยเจ้าชู้มาก..จนทำให้ดิฉันหนีไปแต่งงานกับคนอื่น แต่ชีวิตคู่ของดิฉันอยู่ด้วยกันได้ไม่นานก่อนที่เลิกกันดิฉันได้สอบบรรจุได้ในต่างจังหวัดที่พี่เขาได้ย้ายมาอยู่ที่นี่..ดวงชะตาทำให้เราได้มาเจอกันฉันและเขาได้กลับมาใช้เวลาด้วยกันอีกครั้งหนึ่งแต่ตอนนี้ชีวิตของพี่เขามันไม่เหมือนเดิมเสียแล้ว..เขามีแฟนแล้วเป็นพยาบาลแสนสวยแต่อยู่ห่างไกลกันเลยไม่ค่อยได้เจอกัน...แต่หนูรู้ทั้งรู้ว่าพี่เขาไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตอยู่กับหนูได้แล้วและไม่รักหนูเหมือนเดิมอีกแล้วแต่หนูก็ไม่รู้ว่าทนอยู่ไปเพื่ออะไร...หนูทำเพื่อพี่เขาทุกอย่างทำดีทุกอย่างแต่เขาก็ไม่เคยเห็นความดีของหนูเลย..แต่พี่เขาก็บอกหนูตลอดว่าเค้ามีแฟนอยู่แล้วไม่สามารถรักกับหนูได้และไม่สามารถแต่งงานกับหนูได้..แต่เราใช้ชีวิตอยู่แบบสามีภรรยากันแล้วแต่เขาก็ยังไม่ยอมรับเวลาแฟนเขามาหรือโทรมาหรือเวลาเขาส่งข้อความห่วงหาอาทรกันหนูรู้สึกปวดร้าวเหลือเกินค่ะ...และเขายังไม่แต่งงานก็จะมีผู้หญิงมากหน้าหลายตาเข้ามาค่ะ...เขามีอาชีเป็นนายตำรวจค่ะอายุยังน้อยอยู่แต่เขาเก่งเลยเติบโตเร็วมากค่ะ..หนูจะทำอย่างไรดีให้พ้นจากความทุกข์นี้ค่ะ..ทุกข์เหลือเกินกับรักข้างเดียว

เจ้าของ:  อรไท [ 24 ม.ค. 2011, 15:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มีความสุขหรือมีความทุกข์

ยอมรับว่ารักใครรักมากค่ะจนบางครั้งลืมรักตัวเองเหนื่อยเพื่อเขา...แต่ใจเขาไม่เคยเห็นค่าเลย

เจ้าของ:  อรไท [ 24 ม.ค. 2011, 15:54 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มีความสุขหรือมีความทุกข์

อธิบายความหมายให้เด็กน้อยคนนี้ได้ฟังได้ไหมค่ะ

เจ้าของ:  ฟาแลน [ 25 ม.ค. 2011, 10:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มีความสุขหรือมีความทุกข์

สวัสดีนะคะ คุณอรไท
ชีวิตคุณ กับ ฟาแลน คล้ายกันมากๆเลย
รักกคนที่เราเคยรัก
ตอนนี้ก็ยังรักแม้เขาจะมีเจ้าของ อยากได้เขามาครอบครอง
อยากเป็นเจ้าของ ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้
ก็ยังอยู่ด้วยความหวังลมๆแล้ง ไปวันๆ
อยู่กับน้ำตา อยู่กับความเศร้า อยู่กับสิ่งที่ไม่มีทางเป็นจริงได้
เข้ามาโพสต์เรื่องไว้ ลองไปอ่านดูนะคะ
ก็ได้อ่านคำแนะนำแรงๆจากคุณตะเกียงแก้วนี่แหละ
ที่ทำให้เริ่มหันกลับมามองตัวเอง กลับมารักตัวเอง
เคยคิดว่าไม่มีใครเข้าใจหัวอกเราหรอก ใครไม่มาเป็นอย่างฉัน
ไม่มีทางรู้แน่ ไม่คิดว่าจะผ่านมาได้ คิดว่าลืมเขาไม่ได้
คิดว่ารักเขาเหลือเกิน เลิกไม่ได้ ต้องการเขามาก
แต่ ได้มาอ่านแล้วคิด คิดให้มากๆ บวกลบคูณหาร เรื่องที่เกิดขึ้น
ผนวกกับเวลา เวลาจะช่วยให้เราดีขึ้นได้จริงๆ ไม่ตายหรอกคะ
ฟาแลนผ่านช่วงทุกข์ทรมานกับการลืมเขามาได้แล้ว แม้ยังเจ็บปวดอยู่
แต่ก็น้อยลงแล้วคะ คุณอรไทเองก็จะผ่านมันไปได้เช่นกัน เจ็บปวดทรมานก็ต้องทนให้ได้แล้วคุณจะกลับมามีความสุขอีกครั้ง จะมองเห็นท้องฟ้าสวยงามอีกครั้ง เอาใจช่วยนะคะ
เรื่องของคุณคล้ายกับฟาแลนมาก แต่รับรองว่าเรื่องของฟาแลนเลวร้ายกว่าคุณเยอะ
ลองฟังเพลง ว่างเปล่า ของคุณพิทักษ์ แล้วคิดตามดีๆ จะช่วยได้มากคะ

ว่างเปล่า พิทักษ์
สายลมผ่าน พัดพาหัวใจเหน็บหนาว วันที่เศร้า เหงาเพราะไม่มีเธอ
ผ่านมานาน ก็อยู่อย่างนี้เสมอ ไม่เคยได้เจอ สิ่งที่หวังค้างคาในใจ
ร้องเพลงรอ เรื่อยไปไม่มีจุดหมาย ในหัวใจ เธอไม่เคยมีฉัน
โง่จริงหนอ ที่รอความหวังอย่างนั้น ทั้งคืนและวัน ได้เจอแค่ความว่างเปล่า
*ทนไม่ไหวหัวใจช้ำเกินเยี่ยวยา ต้องรักษา ให้หายคลายความอับเฉา
บอกตัวเอง เข็มแข็งเอาไว้ตัวเรา หยุดความเศร้า แล้วเดินจากไปซะที
**ฉันไม่อยาก เหงาไปจนตายอย่างนี้ พอซะที พอ แล้วความงมงาย
ต่อไปนี้ ฉันจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ แม้ยังเสียดาย คนใจร้าย ขอไปดีกว่า
เมื่อไม่มีใจ ก็ไปซะเลยดีกว่า คิดมากทำไม ก็ไปซะเลยดีกว่า

คิดตามนะคะ จะช่วยเราได้ ลองไปหาเป็นเพลงฟังด้วย

เจ้าของ:  tonnk [ 25 ม.ค. 2011, 19:28 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มีความสุขหรือมีความทุกข์

ถาม การที่เราอยากอยู่กับคนนั้น..อยากใช้ชีวิตกับคนนั้น มันใช่ความรักหรือเปล่า
ตอบ ใช่ นี่แหละที่เรียกว่าราคะ มันนี่แหละที่ทำให้จิตใจของคนทั้งโลกเศร้าหมอง ถ้าขึ้นชื่อว่ากิเลสแล้ว ไม่มีใครที่มีความสุขหรอก

ถาม แต่ในเมื่อเขาไม่เคยรักเราเลยแล้วเราจะทนอยู่กับเขาไปเพื่ออะไร
ตอบ ก็นั่นน่ะซิ มันเป็นอำนาจของความยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นของเรา เราจึงเกิดความหวงแหน แล้วก็เป็นทุกข์

ความจริงคนรักคุณเยอะนะ มีทั้งพ่อ แม่ ญาติพี่น้องที่เลี้ยงเรามาตั้งแต่เด็กๆ และเพื่อนที่คอยช่วยเหลือ คุณก็ให้ความรักกับคนที่รักคุณซิ อันนี้พูดกันในทางโลก แต่อีกทางหนึ่งผมว่าคุณควรปฏิบัติธรรม เพื่อดับกิเลส ดับความเศร้าหมองในจิตใจของคุณอย่างสิ้นเชิง

เจ้าของ:  อรไท [ 10 ก.พ. 2011, 12:40 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มีความสุขหรือมีความทุกข์

หายไปนานเลยค่ะ...งานเยอะค่ะออกพื้นที่ตลอดได้งานนี้แหละค่ะช่วยขอบคุณกำลังจากทุกด้านค่ะมีกำลังใจขึ้นมากเลยยังไม่ได้อ่านเรื่องของคุณฟาแลนเลยค่ะ ตอนนี้ยอมรับว่าทำใจยังไม่ได้เลยค่ะ..แต่กำลังพยายามอยู่ค่ะดีกว่าจะไม่พยายามเลย..

เจ้าของ:  neemagirl [ 10 ก.พ. 2011, 19:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มีความสุขหรือมีความทุกข์

ทุกสิ่งทุกอย่างต้องใช้เวลาค่ะ คนเราจิตใจเข้มแข็งไม่เท่ากัน ถ้าคุณพยายามไปเรื่อยๆ เราเชื่อว่าคุณผ่านไปได้แน่นอนค่ะ อย่ายอมแพ้และจำนนต่อความทุกข์นะคะ เราเอาใจช่วยค่ะ :b4: :b4:

เจ้าของ:  แสงอาทิตย์ [ 10 ก.พ. 2011, 19:59 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มีความสุขหรือมีความทุกข์

อรไท เขียน:
..แต่พี่เขาก็บอกหนูตลอดว่าเค้ามีแฟนอยู่แล้วไม่สามารถรักกับหนูได้และไม่สามารถแต่งงานกับหนูได้

ถ้าเรายอมตามแรงดึงดูดของกาม จิตวิญญาณเราจะตกต่ำลงเรื่อยๆ เพราะกามเป็นสิ่งที่แรงดึงดูดให้เราลงต่ำ ทำนองเดียวกับแรงดึงดูดโลก ที่ถ้าเราไม่มีพื้นยืนมั่นคงพอ ก็คงตกร่วงลงไปเรื่อยๆ

งานแต่งเป็นพิธียกระดับจิตใจให้มองการได้เสียกันเป็นเรื่องสูงกว่าความต้องการทางเพศธรรมดา เมื่อเริ่มต้นด้วยการให้เกียรติ เห็นเหมือนสมบัติที่ได้มายาก การมองชีวิตคู่จะเป็นไปแบบผู้ใหญ่เต็มตัว ต่างจากเด็กที่ชิงสุกก่อนห่ามเป็นคนละเื่รื่อง...

พี่เขาก็บอกอยู่แล้วว่าไม่สามารถแต่งงานกับหนูได้ แล้วใยหนูยังไม่หวนคิด....คนอื่นช่วยได้ก็แต่บอกกล่าว สำคัญคือตัวของหนูเองที่จะคิดได้หรือไม่ จะอยู่กับความทุกข์ หรืออยากสุขกายสุขใจก็เลือกเอาคะ อยากบอกว่ากรรมจะห่อหุ้มจิตวิญญาณหนาทึบขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้แม้ด้วยตาเปล่า คือสีหน้าผู้ชุ่มด้วยบาปจะคล้ำหมองหาสง่าราศีไม่ได้เลย..

เจ้าของ:  ฟ้าใสใส [ 18 พ.ค. 2011, 19:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มีความสุขหรือมีความทุกข์

ทุกข์ในรัก.. เพราะรักจึงทุกข์ จริงหรือ

ที่ผมศรัทธาในพระพุทธเจ้า .. เพราะท่านเป็นศาสดาที่รอบรู้ และปราดเปรื่องอย่างมหัศจรรย์

ไม่ใช่เพราะท่านเหาะเหิน เดินอากาศได้ มีฤทธิ์ มีเดช

ท่านไม่เคยอวดตัวเอง ว่าท่านเป็นผู้สร้างโลก เป็นญาติข้างไหนของผู้ทรงอำนาจแห่งจักวาล
ไม่เคยอวดว่าท่านเป็นเทพฝ่ายใดมาเกิดหรือใดๆทั้งสิ้น
ไม่เคยเรียกร้องให้ใครมากราบไหว้ มาศรัทธาอะไรในตัวท่าน

ท่านเพียงแต่บอกว่า.. สิ่งที่ท่านบอกกล่าว สอนไว้ เป็นสิ่งวิเศษ ที่รู้ได้เฉพาะตน ให้พวกเราจงมาพิสูจน์กันเอาเองเถิด

ท่านบอกว่า ท่านเป็นผู้พบธรรมะอันแสนวิเศษ ไม่ได้สร้างขึ้นจากเสียงกระซิบที่ไหน
ท่านบอกว่า.. ธรรมะ มันมีอยู่ในธรรมชาติตลอดเวลา
เพียงแต่พวกเราไม่เคยมองเห็น

เหมือนคนที่อยู่ ใน the Matrix ก็ไม่เคยรู้เลยว่า..
เราเป็นแค่สิ่งมีชีวิตที่เวียนว่าย ตายเกิดอยู่ในโลกที่เป็นภาพเสมือนจริง

แต่ไม่มีอะไรจริง สักอย่าง ทุกอย่างถูกปรุง ถูกสร้างขึ้นด้วยความยึดมั่นถือมั่น
ด้วยความไม่รู้ ด้วยความคาดหวัง และ.. ด้วยความอยาก

อยากให้เขารักเรา .. ตลอดไป
อยากให้เขาดีกับเรา.. ตลอดไป
อยากให้เราสวย.. ตลอดไป
อยากให้ชื่อเสียง เงินทอง เป็นสิ่งคงที่ ถาวร .. ตลอดไป
และอีกร้อยพันหมื่นแสนความอยาก..

เรื่องหนึ่ง ที่พระพุทธองค์ ตรัสสอนไว้.. และผมเห็นจริงตามนั้น
ไม่ใช่เพราะผมคิดตาม.. แต่เพราะผมรู้ และสัมผัสมันได้ด้วยตัวเอง

คือเรื่องที่ว่า.. ที่ใดมีรัก.. ที่นั่นมีทุกข์

สมัยเด็กๆ.. วัยรุ่น แม้กระทั่งโตแล้ว ทำงานแล้ว
ผมไม่ค่อยเชื่อคำพูดนั้นเท่าไหร่ ผมนึกค้านในใจด้วยซ้ำ ว่า
มันแล้วแต่คนนะ.. ถ้าเราเป็นคนดี เจอคู่ที่ดี เราก็คงมีแต่ความสุขได้

เวลาผ่านไป.. ความรัก ผ่านมาแล้วก็ไปหลายรอบ
ในวัน และวัยที่กำลังสติ ปัญญาพอจะมีอยู่บ้างนิดๆหน่อยๆ

ผมมองเห็นว่า.. พระพุทธเจ้า ไม่ได้พูดผิดจากความจริงเลยแม้แต่นิดเดียว

คนเรา.. มีธรรมชาติวิ่งหาสุข วิ่งหนีทุกข์
อะไรที่เราเห็นว่า จะนำความสุขมาให้ เราจะพยายามดิ้นรนเพื่อให้ได้มา
จะต้องนั่งเครื่องบินไปแสนไกล ขับรถสิบชั่วโมง หรือเสียเงินเกือบหมื่นเพื่อดูอะไรสักอย่าง เพื่อเวลาอยู่กับใครสักคนแค่สองสามชั่วโมง เราก็ทำได้

แต่อะไรที่เป็นทุกข์ แม้แค่ความเมื่อย ความล้า ที่นั่งอ่านอยู่นี้
พอเกิดขึ้นแว้บเดียว เราก็เปลี่ยนท่า ขยับตัว ให้หายเมื่อย

นี่คือธรรมชาติครับ .. ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ

แต่สำหรับทุกข์ที่เกิดเพราะความรัก..
บ่อยครั้งที่เรามักจะมองมันไม่เห็น และปล่อยให้ความสุขเข้ามาบดบัง
สุขที่ใครสักคน ทำให้หัวใจเราเต้นแรง
สุขเวลาที่เขายิ้มดีใจ ที่ได้เห็นเรา
สุขที่รู้สึกว่า เขารักเรา จังเลย เรามีค่าสำหรับคนที่เรารัก

ณ เวลานั้น เราเห็นแต่สุข แต่ไม่ทันได้มองเห็นว่า ทุกข์กำลังก่อตัวพร้อมๆกับสุขนั่นเอง

ถ้าจะบอกว่า.. รัก ไม่ได้ทำให้ทุกข์
แต่ความคาดหวัง และยึดมั่นในรักต่างหาก.. ที่เป็นตัวทุกข์ ก็คงไม่ผิด

เพราะรักมันดี สีสวย หวานละมุนละไม
เราถึงอยากได้มากๆ อยากได้เยอะๆ อยากได้บ่อยๆ ตลอดเวลา
ยิ่งได้เยอะก็ยิ่งพอใจจะได้อีกเรื่อยๆ คาดหวังว่ามันจะดี สีมันจะสวย และมันจะหวานละมุนละไม อย่างนี้ตลอดไป

ทุกข์ มันเริ่มตั้งแต่.. อยาก แล้วครับ

พระพุทธเจ้ายังเตือนพวกเราอีกว่า.. ของทุกอย่าง คนทุกคน เรื่องทุกเรือ่งในโลกนี้
ล้วนแล้วแต่ตั้งอยู่ในกฏ 3 ข้อ ..

คือ.. เกิดขึ้น .. ตั้งอยู่.. แล้วก็ดับไป

จะดี จะสวย จะรวย จะยิ่งใหญ่ อลังการอย่างอาณาจักร บาบิโลน อียิปต์ โรมัน ทรอย มาเซโดเนีย หรืออยุธยา
ก็หนีไม่พ้นกฏข้อนี้

จะสวยขนาดน้องหยาดทิพย์ บวกคลีโอพัตรา ผสมนางงามจักรวาลทุกคนรวมกัน
ก็หนีไม่พ้นกฏข้อนี้

จะยิ่งใหญ่ เก่งกาจ ปราดเปรื่อง ขนาดอเล็กซานเดอร์ มหาราช นโปเลียน ไอน์สไตน์ หรือแม้แต่ตัวสังขารของพระพุทธองค์เอง
ก็หนีไม่พ้นกฏข้อนี้ ..

แล้วนับประสาอะไร กับความรัก
นับประสาอะไรกับคนเดินดิน กินข้างแกงมั่ง ซูชิมั่งอย่างเรา
...........................
ไม่ได้บอกว่า อย่ามีรักเลยนะครับ

รักก็เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่ง .. เวลาจะเกิด ก็บังคับไม่ได้ เวลาจะไป ก็บังคับไม่ได้

มันเกิด และหมดไปตามเหตุและปัจจัย เช่นบุญกรรมเก่า หรือความผูกพัน การกระทำในปัจจุบัน

เพียงแค่.. ถ้าจะต้องรัก ก็จงรักอย่างมีสติ อย่างมีความเข้าใจและรู้ทันธรรมชาติของมัน

รู้ว่ามันก็เหมือนของทุกอย่างในโลกนี้ ที่มีช่วงเวลาของมัน
มันไม่ได้มาเพื่อจะเป็นอะไรที่ยึดมั่นถือมั่นได้ ว่าจะมั่นคงถาวร

ถ้ามันยังมี ยังดีอยู่ ก็จะได้สุขอย่างไม่ยึดมั่น และคาดหวัง
ถ้ามันจะหมด จะมอดไหม้ไป ก็จะได้ไม่ทุกข์ จนหนักหนาสาหัส

เพราะตราบใดที่ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดเป็นมนุษย์ อยู่ใน the Matrix แบบนี้
เราก็ยังหนีทุกข์ ไม่พ้น

ขอให้ทุกท่านทุกข์น้อยๆ น้อยลงๆ จนสิ้นทุกข์ ในที่สุดนะครับ

สุขสันต์วันพฤหัสครับ


โดย aston27
ที่มา http://www.bloggang.com/viewblog.php?id ... &gblog=112

:b53: ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ ที่ใดมีทุกข์ ที่นั่นมีธรรม :b53:

:b50: กราบอนุโมทนาบุญกับผู้เจริญในธรรมและกัลยาณมิตรทุกท่านนะค่ะ tongue tongue tongue

ไฟล์แนป:
Rsoe92.jpg
Rsoe92.jpg [ 10.85 KiB | เปิดดู 7029 ครั้ง ]

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/