| ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
| อุเบกขานี่ต้องรู้สึกประมาณไหนคะ วางเฉยกับพ่ออย่างไรดี http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=27&t=36794 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
| เจ้าของ: | Hanako [ 15 ก.พ. 2011, 17:50 ] |
| หัวข้อกระทู้: | อุเบกขานี่ต้องรู้สึกประมาณไหนคะ วางเฉยกับพ่ออย่างไรดี |
ไม่ว่าพ่อจะมาไม้ไหน สิ่งที่เราทำ คือ ๑. เราดูแลพ่ออย่างดีค่ะ (แม้จะไม่ไปออเซาะพ่อเท่าที่เราออเซาะแม่ ก็เนอะ ทำไงได้) แต่เรื่องความเป็นอยู่ เราก็ทำเท่าที่เราจะดูแลได้ ๒. เราไม่ว่าพ่อ (มีบางครั้งหลุดปากบ่นๆไปในใจ) สำหรับหน้าที่ลูก เราก็ว่าเราไม่อกตัญญูแล้วล่ะค่ะ แต่ปัญหาทางจิตใจของเราก็คือ บางครั้งเรานึกสงสารพ่อขึ้นมาว่า ทำไมหนอ...คนเราอายุขนาดนี้แล้ว ครอบครัวพอมีพอกิน ไม่ต้องลำบากจนเกินไปแล้ว ลูกๆก็ไม่มีใครนอกลู่นอกทาง ภรรยา(แม่เรา)ก็ดีแสนดี ทำงาน ไม่มีปากเสียง ทำไมหนอ...ถึงไม่ค่อยเห็นคุณค่าสิ่งที่ตัวเองมีบ้าง ทำไมบางทีก็ยังทำร้ายกันด้วยคำพูดให้เราเสียใจ ที่ผ่านมา..ครอบครัวทุ่มเทให้เท่าไรไม่เคยมองเห็น ทำไมถึงเห็นวัตถุข้าวของไร้สาระพรรค์นั้นสำคัญยิ่งกว่าชีวิตตัวเอง สนุกโดยไม่คิดถึงอันตรายอะไรเลย(ชอบพวกรถยนต์บ้าๆ ไอ้เศษเหล็กซังกะบ๊วย --ขออภัยค่ะ เรื่องรถยนต์นี้พ่อทำให้เราเกลียดรถยนต์จริงๆ ) นี่เป็นครั้งแรกที่เราโพสเรือ่งนี้ในที่สาธารณะเลยนะคะ คงไม่ถือว่าเป็นการว่าพ่อใช่ไหม คือ เราอยากจะอุเบกขา แต่อุเบกขากับการเพิกเฉยมันต่างกันนิดเดียวใช่ไหมคะ มันควรรู้สึกแค่ไหนที่จะพอดี ที่เราพยายามอุเบกขา เพราะเราเปลี่ยนแปลงอะไรพ่อไม่ได้อีกแล้ว ในเมื่อพ่อชอบจะเป็นของเขาอย่างนี้ไปจนตาย เราเองต้องเป็นฝ่ายทำใจน่ะค่ะ แต่เรื่องการดูแลเราไม่บกพร่องนะคะ ไม่เคยมีปากเสียงอะไร ไม่ทำร้ายจิตใจพ่อเลย ปัญหาคือ เราจะจัดการจิตใจตัวเองอย่างไรดีคะ เฮ้อ...มืดมน เศร้าหมองเหลือเกิน ขอบพระคุณกัลยาณมิตรทุกท่านที่กรุณามาตอบค่ะ
|
|
| เจ้าของ: | nuttida [ 15 ก.พ. 2011, 18:56 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อุเบกขานี่ต้องรู้สึกประมาณไหนคะ วางเฉยกับพ่ออย่างไรดี |
เป็นลูกคนหนึ่งเหมือนกันค่ะที่ไม่ค่อยถูกกับพ่อเลย ตอนเด็กๆ มักจะเถียงกับท่านเป็นประจำไม่เคยยอม แต่พอโตขึ้นมาหน่อยก็พยายามดูแลท่านแต่จะพยายามไม่คุยด้วยเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะคารมกับท่านแต่บางครั้งก็อดไม่ได้ คุณพ่อจะเป็นเอาแต่ใจตัวเอง พูดไม่ค่อยคิดถึงคนอื่น ท่านก็จะเป็นคนรักรถของท่านมากประมาณว่าใครอย่ามายุ่ง แต่ท่านเป็นคนพูดแล้วพูดเลยไม่ได้เก็บเอามาคิดอะไร แต่เรากลับเก็บเอามาคิดเอง แต่พอมาถึงวันหนึ่งวันที่ท่านป่วยไม่ค่อยพูดจาเอาแต่นอน เรากลับรู้สึกว่าบ้านขาดอะไรไปบางอย่าง จนถึงวันนี้เสียท่านไปแล้วกลับรู้สึกว่า อยากให้พ่อกลับมาอีกมาว่ามาด่าหรือมาบ่นอะไรเราก็ได้ เราจะไม่เถียงท่านสักคำ สำหรับคุณยังมีคุณพ่ออยู่รักท่านให้มากๆ นะคะ อย่างน้อยที่เรามีวันนี้ได้ก็เพราะท่าน (ขอแอบไปร้องไห้ก่อน) แงๆๆพ่อจ้า
|
|
| เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 15 ก.พ. 2011, 20:52 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อุเบกขานี่ต้องรู้สึกประมาณไหนคะ วางเฉยกับพ่ออย่างไรดี |
หากเราปฏิบัติธรรมสม่ำเสมอ..มีสมถะ..มีวิปัสนา..เฉพาะตนดีระดับหนึ่งแล้ว ความเป็นไปของใคร ๆก็ตาม...จะมีผลกระทบต่อใจเราน้อยลง..ไปเอง ไม่ต้องไปหาธรรมเป็นการเฉพาะเรื่องนี้แต่อย่างใด... อริยะสัจ 4 มรรคมีองค์ 8 นี้แหละ...ทำให้ได้ทำให้ดี...จะมีอุเบกขาเป็นธรรมชาติไปเอง... การที่เรายังข้องจิตข้องใจ..พฤติกรรมของใครอันเป็นสิ่งภายนอกใจตน..เพราะเรายังเข้าใจธรรมชาติที่มีกิเลสเป็นพลังขับเคลื่อน..ไม่ดีพอ...เพราะเรากำลังคิดผืนสิ่งที่ไม่ควรผืน..ก็เลยมีคำถามว่าทำไมไม่เป็นอย่างนั้นทำไม่เป็นอย่างนี้...ทำไม..ทำไม..ทำไม..ไปเรื่อยไม่สิ้นสุด คิดดูซิ..พ่อเรามาจากไหน..แม่เรามาจากไหน..เรามาจากไหน...ใคร ๆ มาจากไหน??? มาจากจิตอวิชชา..ความไม่รู้..ทั้งนั้น...จึงมีกรรมที่หลากหลายรวมมาเป็นความชอบไม่ชอบในปัจจุบัน คิดดูซิ..พ่อบ้ารถ...แล้วแม่ละบ้าอะไร..เราละบ้าอะไร???...หากยังมีกิเลสอยู่ละก็..ก็ยังมีความบ้าด้วยกันทุกคน..แล้วแต่จะบ้าอะไร ใครจะบ้าอะไร...ก็ชั่งเขา..มาดูบ้าของตัวเราเองดีกว่า...มาแก้บ้าของตัวเองดีกว่า บ้าโกรธ..บ้าลาภ..บ้ายศ..บ้าสรรเสริญ..บ้าราคะ หากเรามาสาละวนกับการแก้บ้าของตัวเอง...มันก็ไม่มีเวลาไปดูความบ้าของใคร ๆ..ไม่มีแก่ใจจะไปรำคาญความบ้าของใครๆ ด้วย...ก็เลยอุเบกขาไปเอง หากเราเป็นห่วงท่าน...ปรารถณาดีกับท่าน...เราก็ค่อย ๆ นำท่านมาทางบุญซิครับ...เริ่มที่ตัวเรานี้แหละ...ทำให้ได้..ทำให้ดี...แล้วให้ความดีของเราจะดึงดูดใจท่านมาสนใจบุญกุศล... เนื้อนาบุญ...จะหอมหวลรันจวนใจ..กับผู้ใกล้ชิดเสมอ..ครับ
|
|
| เจ้าของ: | ทักทาย [ 15 ก.พ. 2011, 22:39 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อุเบกขานี่ต้องรู้สึกประมาณไหนคะ วางเฉยกับพ่ออย่างไรดี |
อนุโมทนาค่ะท่านกบฯ สำหรับตัวเอง...... ไม่ทุกข์ ทุรนทุราย หากไม่สามารถจะช่วยได้ ไม่ยินดีหากเขาประสบเคราะห์กรรม ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นมิตรหรือศัตรู นี่เป็นการวางเฉย...ฉบับส่วนตัวนะค่ะ |
|
| เจ้าของ: | eragon_joe [ 15 ก.พ. 2011, 23:10 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อุเบกขานี่ต้องรู้สึกประมาณไหนคะ วางเฉยกับพ่ออย่างไรดี |
กบนอกกะลา เขียน: หากเราปฏิบัติธรรมสม่ำเสมอ..มีสมถะ..มีวิปัสนา..เฉพาะตนดีระดับหนึ่งแล้ว ความเป็นไปของใคร ๆก็ตาม...จะมีผลกระทบต่อใจเราน้อยลง..ไปเอง ไม่ต้องไปหาธรรมเป็นการเฉพาะเรื่องนี้แต่อย่างใด... อริยะสัจ 4 มรรคมีองค์ 8 นี้แหละ...ทำให้ได้ทำให้ดี...จะมีอุเบกขาเป็นธรรมชาติไปเอง... การที่เรายังข้องจิตข้องใจ..พฤติกรรมของใครอันเป็นสิ่งภายนอกใจตน..เพราะเรายังเข้าใจธรรมชาติที่มีกิเลสเป็นพลังขับเคลื่อน..ไม่ดีพอ...เพราะเรากำลังคิดผืนสิ่งที่ไม่ควรผืน..ก็เลยมีคำถามว่าทำไมไม่เป็นอย่างนั้นทำไม่เป็นอย่างนี้...ทำไม..ทำไม..ทำไม..ไปเรื่อยไม่สิ้นสุด คิดดูซิ..พ่อเรามาจากไหน..แม่เรามาจากไหน..เรามาจากไหน...ใคร ๆ มาจากไหน??? มาจากจิตอวิชชา..ความไม่รู้..ทั้งนั้น...จึงมีกรรมที่หลากหลายรวมมาเป็นความชอบไม่ชอบในปัจจุบัน คิดดูซิ..พ่อบ้ารถ...แล้วแม่ละบ้าอะไร..เราละบ้าอะไร???...หากยังมีกิเลสอยู่ละก็..ก็ยังมีความบ้าด้วยกันทุกคน..แล้วแต่จะบ้าอะไร ใครจะบ้าอะไร...ก็ชั่งเขา..มาดูบ้าของตัวเราเองดีกว่า...มาแก้บ้าของตัวเองดีกว่า ขอซื้อนุ่นสิบกิโลคร๊าบบบบ จะเอาไปทำหมอนแจกงานบุญ คร๊าบบบบป๋ม ปักอักษร อ๊บซ์ อ๊บซ์ ใครได้หนุน ขอให้หลับฝันดี |
|
| เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 15 ก.พ. 2011, 23:47 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อุเบกขานี่ต้องรู้สึกประมาณไหนคะ วางเฉยกับพ่ออย่างไรดี |
นุ่นเก่าหรือนุ่นใหม่.. นุ่นเก่า..กิโลละ..15....นุ่นใหม่..กิโลละ..20 นุ่นเก่าทำหมอนก็ฝันได้....นุ่นใหม่ทำหมอนยิ่งฝันดี
|
|
| เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 16 ก.พ. 2011, 00:01 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อุเบกขานี่ต้องรู้สึกประมาณไหนคะ วางเฉยกับพ่ออย่างไรดี |
คำถามที่ยังไม่ได้ตอบ... อ้างคำพูด: นี่เป็นครั้งแรกที่เราโพสเรือ่งนี้ในที่สาธารณะเลยนะคะ คงไม่ถือว่าเป็นการว่าพ่อใช่ไหม กระผมว่า...ไม่ถือว่าเป็นการว่าพ่อ..หรอกครับ ว่าแต่..คุณHanako ..ถือหรือเปล่าละ.. ถือ..ก็หนัก ไม่ถือ..ก็ไม่หนัก อยู่ที่..ใจ ..นะครับ
|
|
| เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 16 ก.พ. 2011, 00:20 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อุเบกขานี่ต้องรู้สึกประมาณไหนคะ วางเฉยกับพ่ออย่างไรดี |
อ้างคำพูด: แต่อุเบกขากับการเพิกเฉยมันต่างกันนิดเดียวใช่ไหมคะ มันควรรู้สึกแค่ไหนที่จะพอดี อุเบกขา...กับ..การเพิกเฉย...กระผมว่า...ต่างกันราวฟ้า..กับ..ดิน อุเบกขา..จะมีได้..ต้องผ่านมาจาก..ความปรารถณาดี..หวังดี..ยินดี..เป็นอารมณ์ของการให้ การเพิกเฉย...จะมีได้..เพราะรู้อะไรคือประโยชน์ตน..อะไรคือตนจะเสียประโยชน์...เมื่อกลัวจะเสียประโยชน์ตน...จึงเพิกเฉย...เป็นอารมณ์ของการเอาเข้าตน ถามว่า..พอดีที่ตรงไหน?? ก็ต้องกลับไปถามใจของตัวเองละครับว่า... เฉย...หลังจากหวังดีแล้วแต่เขาไม่รับ หรือ.. เฉย..เพราะกลัวว่าเราเองจะเสีย...เสียเงินเสียทอง...เสียอารมณ์..เสียศีล..เสียธรรมในตน |
|
| เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 16 ก.พ. 2011, 00:33 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อุเบกขานี่ต้องรู้สึกประมาณไหนคะ วางเฉยกับพ่ออย่างไรดี |
อ้างคำพูด: ปัญหาคือ เราจะจัดการจิตใจตัวเองอย่างไรดีคะ เฮ้อ...มืดมน เศร้าหมองเหลือเกิน มืดมน..เศร้าหมอง..ชัดเจนเลยว่า..เพราะอุเบกขาไม่จริง ก็..อุเบกขา..ของเรา..มันเป็นการพยายามอุเบกขา...ไม่ใช่ผลผลิตของธรรม..มันจึงไม่ได้ผล ผลมะม่วง...หากอยากได้..ทันทีเดียวนี้..เอารูปมาก็ได้แล้ว..ผลมะม่วง..แต่ก็กินไม่ได้ ผลมะม่วง..ที่กินได้..มาจาก..รากมะม่วง..ต้นมะม่วง..กิ่งมะม่วง..ใบมะม่วง..ดอกมะม่วง.. |
|
| เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 16 ก.พ. 2011, 00:36 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อุเบกขานี่ต้องรู้สึกประมาณไหนคะ วางเฉยกับพ่ออย่างไรดี |
อ้างคำพูด: ...รักษาใจ... เราคือใจที่บริสุทธิ์ |
|
| เจ้าของ: | ningnong [ 16 ก.พ. 2011, 01:52 ] | ||
| หัวข้อกระทู้: | Re: อุเบกขานี่ต้องรู้สึกประมาณไหนคะ วางเฉยกับพ่ออย่างไรดี | ||
สวัสดีครับ คุณ HANAKO คำว่า “อุเบกขา” มีความหมายหลายความหมาย ที่กล่าวคงหมายถึง “อุเบกขา”ในพรหมวิหารธรรม อันประกอบด้วย เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา การจะจัดการกับจิตใจตัวเองเพื่อให้เข้าถึงอุเบกขา ในข้อนี้คือ การไม่ดีใจ ไม่เสียใจ เมื่อสุดวิสัยที่จะช่วยได้ เมตตาแล้ว กรุณาแล้ว ทำดีที่สุดแล้ว เมื่อช่วยอะไรไม่ได้แล้วก็วางใจเฉยเสีย ด้วยพิจารณาว่าสัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของ ๆ ตน ผู้ทำดีไว้จักได้ดี ผู้ทำชั่วไว้จักได้ชั่ว แต่คุณ HANAKO แน่ใจแล้วหรือว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคุณพ่อ การรักชอบ ในวัตถุ สิ่งของ ก็ไม่ได้ผิดอะไร คนเราล้วนแล้วแต่นานาจิตตัง ชอบชังไม่เหมือนกัน เคยลองพูด ลองจา ให้ท่านเห็นว่า เราไม่ว่าอะไร ที่ท่านชอบของท่านอย่างนี้ แต่ ถ้าท่านนำรถยนต์ไปแข่ง ไปซิ่ง ไปสนุก อันอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อท่านเองหรือผู้อื่น เราไม่เห็นด้วย ชี้ให้ท่านเห็นคุณ เห็นโทษ ไม่ได้เพิกเฉย คือทำดีที่สุดเท่าที่เราทำได้แล้ว หากท่านยังเป็นเหมือนเดิม ก็คิดซะว่าท่านก็ชอบของท่านอย่างนี้ ก็ต้องทำใจอย่างที่ทำมาก็แล้วกัน ปล่อยวาง ทำใจให้สบาย ๆ อิ อิ.. อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด.. อุเบกขา ครับ อุเบกขา เจริญในธรรมครับ
|
|||
| เจ้าของ: | Hanako [ 16 ก.พ. 2011, 02:18 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อุเบกขานี่ต้องรู้สึกประมาณไหนคะ วางเฉยกับพ่ออย่างไรดี |
เข้ามาอ่านอีกครั้ง ขอบคุณทุกท่านมากเลยค่ะ จะว่าไป เราไม่บกพร่องในส่วนของเราก็ดีแล้วใช่ไหมคะ |
|
| เจ้าของ: | ทักทาย [ 17 ก.พ. 2011, 00:53 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อุเบกขานี่ต้องรู้สึกประมาณไหนคะ วางเฉยกับพ่ออย่างไรดี |
อ้างคำพูด: อุเบกขา..จะมีได้..ต้องผ่านมาจาก..ความปรารถณาดี..หวังดี..ยินดี..เป็นอารมณ์ของการให้ การเพิกเฉย...จะมีได้..เพราะรู้อะไรคือประโยชน์ตน..อะไรคือตนจะเสียประโยชน์...เมื่อกลัวจะเสียประโยชน์ตน...จึงเพิกเฉย...เป็นอารมณ์ของการเอาเข้าตน ชัดดี...อนุโทนาค่ะท่านฯ
|
|
| เจ้าของ: | หัสพล พวงแก้ว [ 17 ก.พ. 2011, 01:29 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อุเบกขานี่ต้องรู้สึกประมาณไหนคะ วางเฉยกับพ่ออย่างไรดี |
อนุโมทนากับคำตอบของทุกๆท่านครับ ตอบกันได้ลึกถึงธรรมเลยครับจนไม่มีอะไรจะพูดเสริมแล้ว สาธุ สาธุ สาธุ
|
|
| หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
| Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |
|