ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ช่วยฉันที ทุกข์นี้เกิดเมื่อคนรักอุปสมบท http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=27&t=39490 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | นิรวาเณสี [ 10 ก.ย. 2011, 17:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | ช่วยฉันที ทุกข์นี้เกิดเมื่อคนรักอุปสมบท |
มีคนรักเป็นชาวต่างชาติค่ะ ตอนนี้คนรักอุปสมบทเป็นพระภิกษุอยู่ที่ประเทศไทย ซึ่งหลังสิกขาบทเขาจะเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ ระหว่างที่ยังเป็นพระภิกษุ ทุกวันเขาจะโทรมาหรือไม่ก็จะให้เราโทรไป ถ้าไม่โทรหาเราแล้วเราไม่โทรไปเขาก็จะตัดพ้อน้อยใจ ซึ่งก่อนหน้านั้นเราก็ไม่คิดอะไรจึงคุยกับเขาทุกวัน แต่ตอนนี้เรารู้สึกไม่ดีมากถึงมากที่สุด เนื่องจากกรรมอันนี้ส่งผลให้จิตใจเราเศร้าหมอง ![]() พอเราเริ่มมีสติกับการกระทำนี้ เราก็พยายามที่จะควบคุมบทสนทนาให้เป็นแต่เรื่องกุศล แต่เหมือนตบมือข้างเดียวไม่ดังเพราะเขายังพาเราวกกลับมาเรื่องที่ทำให้จิตเป็นอกุศล เคยบอกเขาไป แปลเป็นไทยได้ประมาณว่า.. "หลวงพี่ ดิฉันเกิดเป็นหญิงยังอยากบวชเป็นภิกษุณีศึกษาธรรมะ แต่ปัจจุบันประเทศไทยไม่ให้บวชแล้ว ไหนๆ หลวงพี่ก็ได้บวชเป็นภิกษุแล้วก็ควรที่จะประพฤติตนให้ถูกให้ควร" เขาก็ไม่เข้าใจ เขาหาว่าเราไม่รักเขาแล้ว พอเราบอกว่า รักในความหมายของเรากับรักในความหมายของเรามันอาจจะไม่เหมือนกัน รักในความหมายของเราคือเมตตาปรารถนาให้เขาพ้นทุกข์ เขาก็ไม่เข้าใจอีก พอบอกเขาไปว่า ถ้าจิตใจยังไม่น้อมนำไปในทางธรรมมากมายก็ยังไม่ต้องอุปสมบทไหม แทนที่จะได้บุญจะได้บาปเป็นสองเท่า เขาก็บอกว่าเขาอยากศึกษาธรรมะ และถ้าเขาสิกขาบทตอนนี้เขาอยู่ที่ไทยต่อไม่ได้ และเขาก็กลับประเทศเขาก็ไม่ได้เพราะเหตุผลทางการเมือง อธิบายจนไม่รู้จะอธิบายอย่างไรแล้ว เราควรทำอย่างไรให้เขาเห็นควรกับการเป็นสุปฏิปัณโณ เพื่อจะเป็นกุศลแก่ตัวเขาเองและไม่เป็นบาปกับตัวเรา? เราอยากจะเลิกติดต่อกับเขาจนกว่าเขาจะกลับมาเป็นฆราวาส พอเราพูดแบบนี้เขาก็ร้องไห้ หาว่าเราหมดรักเขาแล้ว แล้วจะอธิบายให้เขาเข้าใจอย่างไร? พูดอย่างนี้เหมือนเรียนผูกแล้วแต่เรียนแก้ไม่เป็น แต่ทุกวันนี้จิตใจเศร้าหมองเพราะเรื่องนี้มาก บางครั้งเราก็ร้องไห้ เพราะรู้สึกว่าเราก็เป็นคนปฏิบัติธรรม ทำไมต้องมาก่อกรรมให้จิตใจเศร้าหมองอย่างนี้ ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่องอย่างนี้ แล้วเราตัดสินใจไม่โทรหาเขาอีก ไม่รับโทรศัพท์เขาอีก แล้วการกระทำนี้ทำให้เขาร้องไห้เสียใจ จะบาปมากไหม? เพราะจริงๆ แล้วจิตใจเราปรารถนาดีต่อเขา เราควรจะปล่อยวางอย่างไร? แล้วควรจะทำอย่างไร? ทุกข์นี้ไม่ใช่ทุกข์ที่เกิดจากการที่คนรักอุปสมบทเป็นพระภิกษุ แต่เป็นทุกข์ที่เราไม่อาจสนับสนุนเขาให้สามารถเป็นพระสุปฏิปัณโณได้ แล้วสุดท้ายก็จะตกเป็นบาปกรรมกับเราทั้งคู่... รู้ว่าอะไรควรไม่ควร แต่ไม่รู้ว่าควรจะทำให้เขาเข้าใจอย่างไร แล้วอย่างนี้ควรจะทำอย่างไร กัลยาณมิตรทุกท่านช่วยที.. ![]() |
เจ้าของ: | tonnk [ 11 ก.ย. 2011, 17:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ช่วยฉันที ทุกข์นี้เกิดเมื่อคนรักอุปสมบท |
ในความเห็นของผม ผมก็จะทำแบบคุณนั่นแหละ เดี๋ยวนี้ไม่รู้เป็นอะไรมีแต่คนบวชเล่นๆบวชตามประเพณีหรือบวชเพราะว่ามีเหตุผลต่างๆ โดยจุดประสงค์ที่แท้จริงแล้วเราบวชเพื่อสละทุกอย่างเพื่อทำให้แจ้งซึ่งนิพพาน ก็บอกเขาไปว่าภิกษุนั้นควรปฏิบัติตัวอย่างไร ให้เขาศึกษาพระไตรปิฏกให้ดี ถ้าจะศึกษาธรรมจริงๆแล้วเป็นฆารวาสก็ศึกษาได้ ไม่จำเป็นต้องบวชก็ได้เพราะว่ามันเสี่ยงต่อการตกนรกได้ง่ายมากๆ ผมว่าคุณเสียอีกที่น่าจะบวช ไม่ว่าจะมีเหตุผลอย่างไรก็แล้วแต่ภิกษุก็คือภิกษุ เราไม่สามารถโทรจีบกันในขณะที่เป็นพระอยู่ได้เพราะมันไม่สมควรอย่างยิ่ง คนไม่รู้แต่กฎแห่งกรรมรู้ ถ้าจะจีบกันก็ต้องให้เขาสึก แม้ว่าเขาสึกแล้วจะต้องไปอยู่ต่างประเทศเพราะเหตุผลทางการเมืองหรือไม่ก็แล้วแต่ ถ้าคนมันรักกันจริงมันก็รักกันอยู่วันยังค่ำ เพราะถ้าภิกษุพูดเกี้ยวพาไปในทางชู้สาวมันไม่ได้ ถ้าเราไม่อยากตกนรกกับเขาเราก็หยุดไว้ก่อนจนกว่าเขาจะลาสิกขา นี่เป็นความหวังดีที่ยิ่งใหญ่ของเราเลยนะ ที่ไม่เป็นเหตุพาให้เขาตกนรก ถ้าเขาศึกมาแล้วเราค่อยอธิบายกับเขา ถ้าเขาฟังแล้วไม่เข้าใจก็ถือว่าเราเคยทำบุญมาด้วยกันเท่านี้ วาสนาของเรามีเท่านี้ ปล่อยเขาไปตามกฎแห่งกรรมเสีย เพราะเรามีเครื่องยึดเหนี่ยวที่วิเศษสุดอยู่แล้ว แล้วไม่ต้องนึกใจดีไปสงสารเขาอีกนะ เดี๋ยวมันจะเป็นเรื่องอีก ถือว่าสัตว์โลกมีกรรมเป็นของๆตน ให้มีตนเป็นที่พึ่งมีธรรมเป็นที่พึ่งเถิดอย่าพึ่งสิ่งใดเลย เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นทุกข์ อย่าไปยุ่งกับมันเลย |
เจ้าของ: | ปฤษฎี [ 11 ก.ย. 2011, 18:57 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ช่วยฉันที ทุกข์นี้เกิดเมื่อคนรักอุปสมบท |
ถ้าเมตตาต่อกันก็ควรหยุด หยุดสร้างบาป สร้างอกุศล ดีที่สุดแล้วครับ |
เจ้าของ: | นิรวาเณสี [ 12 ก.ย. 2011, 03:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ช่วยฉันที ทุกข์นี้เกิดเมื่อคนรักอุปสมบท |
เอามาฝากให้เป็นอุทาหรณ์เผื่อจะมีประโยชน์สำหรับบางคนนะคะ วันนี้ฉันได้อธิบายทุกอย่าง จนเขายอมที่จะเข้าใจแล้วค่ะ ตอนแรกฉันบอกว่าจะไม่คุยกับเขาอีกเลยจนกว่าเขาจะลาสิกขา เขาก็เอาแต่ฟูมฟายหาว่าฉันไม่เข้าใจเขา และไม่ยอมฟังอะไรเลย เขาจะให้เราเปลี่ยนใจให้ได้ คุยกันนานไม่รู้เรื่องสักที เขาเลยบอกว่า "งั้นเราเลิกกันเถอะ" ในใจฉันคิดเลยว่า ถึงฉันจะรักผู้ชายคนนี้มาก เพราะที่ผ่านมาเขาทำดีกับฉันมาตลอดและจริงจังกับฉันมาก แต่ถ้าฉันจะต้องทำอกุศลกรรมให้ตกนรกไปมากกว่านี้เพราะเขา ฉันก็คงไม่ทำอีกแล้ว ที่ผ่านมาก็เป็นบาปในใจพอแล้ว ในขณะที่น้ำตาฉันไหลออกมาเอง ฉันก็บอกเขาไปว่า ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะไม่คุยกับเขาอีกจนกว่าเขาจะลาสิกขา ถ้าเขาคิดว่าฉันไม่รักเขาแล้วก็ไม่เป็นไร ถ้าไม่เข้าใจกันอย่างนี้แล้วเขาอยากเลิกกับฉันก็ได้ เมื่อเขาเห็นฉันเอาจริงแม้จะยังคงร้องไห้ แปลว่าไม่ว่าจะยังไงฉันก็ไม่ยอมเปลี่ยนความตั้งใจ เขาจึงยอมฟังและยอมเข้าใจในที่สุด ว่าที่เราทำไม่ใช่เพราะเราไม่รักเขา แต่ที่เราทำเพราะเรารักและปรารถนาดีต่อเขาอย่างที่สุดต่างหาก เขาจึงยอมทำตามที่ฉันขอคือจะไม่โทรคุยกันอีก เขาขอแค่บางครั้งที่เขาจะโทรมาเพื่อถามไถ่สารทุกข์สุกดิบบ้างโดยไม่มีเรื่องความรักเข้ามาเกี่ยวข้องอีกจนกว่าเขาจะลาสิกขา ซึ่งฉันก็คิดว่านี่คงดีที่สุดแล้วที่เขาสามารถทำได้ ก็เลยยอม อย่างน้อยตอนนี้ฉันก็รู้สึกผิดน้อยลง เพราะฉันกล้าแม้กระทั่งยอมสูญเสียเขาที่คบกันมานาน (ทั้งๆ ที่เราสองคนยังคงรักกันมากจนถึงขนาดวางแผนที่จะแต่งงานกัน) แต่ไม่ยอมสูญเสียความตั้งใจที่จะหยุดสร้างอกุศลอีก... ขอกุศลนี้ ส่งผลให้ฉันพบพานแต่สิ่งดีๆ ในชีวิตด้วยเถอะนะคะ ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |