วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 05:39  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 145 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2011, 20:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ต.ค. 2011, 12:37
โพสต์: 61


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณคะ คุณมะกอกมะนาว เรายังอยากรู้การใช้ชีวิตแบบนี้อยากปรับตัวอย่างไร ความคิดมันวนเวียนไปเรื่อยๆ มีไรมาสะกิด ก็เป็นอีก หลายอย่างอะค่ะที่เจอ ต้องขอคำแนะนำด้วยค่ะ


แก้ไขล่าสุดโดย wasabi เมื่อ 23 ธ.ค. 2011, 14:37, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2011, 00:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 พ.ค. 2010, 13:34
โพสต์: 1654

งานอดิเรก: ฟังเพลง และฟังธรรมตามกาลเวลา
สิ่งที่ชื่นชอบ: อภัยทาน
อายุ: 39
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

 ข้อมูลส่วนตัว




Lotus111.jpg
Lotus111.jpg [ 2.59 KiB | เปิดดู 6535 ครั้ง ]
:b44: กราบอนุโมทนาบุญกับผู้เจริญในธรรมและกัลยาณมิตรทุกท่านะเจ้าค่ะ ธรรมรักษา เทวดาคุ้มครองนะเจ้าค่ะ tongue tongue tongue Kiss

.....................................................
ธรรมอำนวยพร
ขอให้.....มีจิตที่รู้ ที่ตื่น ที่เบิกบาน (พุทธะ)
ขอให้.....ทำการงานด้วยความสุข (อิทธิบาทสี่)
ขอให้.....ขจัดทุกข์ได้ด้วยปัญญา (อริยสัจสี่)
ขอให้.....มีดวงตาที่เห็นความจริง (ไตรลักษณ์)
ขอให้.....เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยไตรสิกขา (ศีล, สมาธิ, ปัญญา)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2011, 13:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 พ.ย. 2011, 13:58
โพสต์: 5


 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องลูก ..จากเรื่องของเราเอง
แต่งงานได้ 4 ปี เค้าขอหย่าเพื่อไปมีครอบครัวใหม่กับคนที่เค้ารัก
ออกไปไม่ถึงเดือนก็กลับมาหาเรา บอกเราว่าถ้ามีลูกด้วยกันเค้าจะไม่เลิกกับเรา จะรักษาครอบครัวไว้
วันนี้อยู่กันมา 13 ปีแล้วค่ะ มีลูกสาวกับเค้า 1 คน 4 ขวบกว่า น่ารักมาก
ตอนนี้เค้าขออยู่กับเราแบบเพื่อน เค้าขออิสระ หาคนที่ใช่ มีคนอื่นอีก จะไปอยู่กับคนนั้นและจะกลับเมื่อไหร่ก็ได้
เราไม่ยอม บอกว่าถ้าอยากมีก็ขอให้ออกไป ไปแล้วก็ไม่ต้องกลับมาอีก
ตอนนี้เค้าก็มีคนอื่น แต่เราไม่รู้ว่าใคร เค้าปิด เราก็ไม่เปิด ไม่ถาม ไม่ตาม ไม่อยากรู้
เค้ายังไม่เลิกกับเรา แต่อยู่แบบหมางเมิน ยังไม่ออกจากชีวิตเรา
เพราะเค้าบอกว่ายังไม่พร้อมเรื่องที่อยู่ และเงิน และกลัวว่าถ้าออกไปอยู่กับคนใหม่
แล้วไปกันไม่รอด เค้ากลับมาไม่ได้แล้ว
สุดท้ายก็ห่วงความสบายของตัวเอง ไม่มีเหตุผลเพราะลูก หรือห่วงความรู้สึกลูกเลยสักคำ

คงขึ้นอยู่กับนิสัยผู้ชายแต่ละคนด้วยนะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2011, 22:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2011, 07:20
โพสต์: 25


 ข้อมูลส่วนตัว


ช่วงนี้เราก็ยังขึ้นๆลงๆค่ะ ดีบ้างไม่ดีบ้าง แวะมาให้กำลังใจคุณ wasabiนะคะ ดิฉันไม่ได้เจออะไรหรอกค่ะ แต่ที่แย่คือจากใจตัวเองล้วนๆ ไม่ยอมอภัยเขาอย่างแท้จริงสักที

บางวันที่ทำใจได้แรงใจดีก็จะคิดได้เขาเป็นเพื่อน จะไปไหนทำอะไรก็ไป แต่พอแวบๆก็อดคิดไม่ได้น่ะค่ะว่าตอนนี้เธอจะเริงร่ากับใครที่ไหน

อยากได้คำแนะนำว่าจะให้อภัยในเรื่องที่ผ่านมาแล้วอย่างไรดีคะ เหมือนเราถือมีดแล้วจิ้มใจตัวเองอยู่นั่น ไม่ยอมวางน่ะค่ะ

ขอบคุณค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2011, 07:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ธ.ค. 2011, 07:44
โพสต์: 142

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะ คุณwasabi วันนี้เป็นยังไงบ้างคะ สบายใจขึ้นบ้างหรือยังคะ

เป็นห่วงค่ะ เลยแวะเข้ามาทักทายกัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2011, 14:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ต.ค. 2011, 12:37
โพสต์: 61


 ข้อมูลส่วนตัว


ดีค่ะ

ไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย เจอข้อความดีๆ อีก

เรื่องเกิดขึ้นเมื่อเช้านี่เองค่ะ พอดีไปเปิดโทรศัพท์เค้า เห็น sme เข้ามือถือเค้า ว่าขอโทษที ทำแหวนพี่ให้หายหาไม่เจอ ขอโทษค่ะ อะไรประมาณนี้
ดิฉันก็เลยไปปลุกสามีมาถามว่า ยังติดต่อกันอยู่เหรอ เห็นมี sme เข้ามาบอกว่า ทำแหวนหาย เค้าขอโทษ ใหญ่เลย มีการให้แหวนกันด้วยเหรอ เค้าก้บอกว่า ผญ บ้า เพ้อเจ้อ เค้าไม่ได้คิดอะไร แล้วไม่มีอะไรแล้วจริงๆ เราก็ว่าไม่แค่นั้น สามีเรายังส่ง sme ไปหาเค้าเลย ว่ารักอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่เลิกกันเพราะไร เค้าก็บอกว่า เด็กนั่นมันกวนประสาท ก็เลยโต้ตอบกันไปอย่างนั้น จริงเหรอ เราคิดในใจ ฉันก็ไม่ได้โง่ขนาดไม่รู้อะไรเลยนะ (คนนี้เค้าคบกันมานาน เป็นปีแล้ว ปีที่แล้วยังเห็น ผญ ส่ง sme มาบอกรักเค้าอยู่เลย)

ก็เลยถามไปว่าอยากไปอยู่ด้วยกันไหม เลิกกันไปเลยก็ได้นะ เค้าบอกว่า เค้าแต่งงานกะเรา เค้าจะไปทำอย่างนั้นได้อย่างไร เค้าถามว่าให้เรียก ผญ มาเครียเลยไหม เราก็บอกว่าเราเชื่อใจเค้าที่สุด แต่ถ้าเจออย่างนี้ก็ไม่ไหวนะ ถ้าอยากทำอย่างนี้ก็เลิกกันไปเลย เราไม่อย่าเป็นคนโง่ในสายตาคนอื่น พูดออกไปอย่างนั้น

เค้าก็เฉยๆ นะ มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้มีอะไรจริง ๆ เค้าก็ทำตัวปกติ ตอนเข้า ยังทำกับข้าวให้กิน ทำตัวเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น

เราคิดว่าเมื่อก่อนคำว่าเลิก เป็นคำพูดที่พูดยากนะ แต่เดี๋ยวนี้ มัน ง่ายมาก จนไม่คิดว่าจะมีคำนี้หลุดจากปากของเรา ซึ่งโดยปกติแล้วเราเป็นคนที่เรียบๆ ง่าย ๆ ไม่ค่อยอะไรใครมากมายนะ แต่สุดๆ อะ เราเป็นบ้าอยู่คนเดียว เค้าไม่ได้รุ้สึกอะไรเลย กะสิ่งที่เค้าทำ เหนื่อยจัง

จะมีไรดีกว่าหนี้ไหมอะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2011, 00:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ธ.ค. 2011, 21:55
โพสต์: 12


 ข้อมูลส่วนตัว


จริงๆแล้วเรื่องของคุณมีคำตอบรออยู่แล้วครับ คือเมื่อก่อนผมก็เป็นผู้ชายที่ไม่ดีมากๆเหมือนคนที่คุณเคยเจอ เมื่อทำได้ครั้งที่หนึ่งก็มีอีกหลายๆครั้งต่อไป แล้ววันหนึ่งผมก็มีความมั่นใจผิดๆว่าผมเป็นคนมีเสน่ห์ มีดวงนารีอุปถัมป์ จนตั้งอยู่ในความประมาท สุดท้ายก็นอกใจภรรยาอีกแต่คราวนี้เป้นการหลงผู้หญิงคนหนึ่งแบบจริงจัง จนเลิกกับภรรยาบ้านที่ซื้อไว้ก็ไม่ได้อยู่ มาเช่าห้องกับคนที่เพิ่งคบกันได้ไม่กี่เดือนอยู่มาได้ประมาณ 2 ปีคราวนี้โดนผู้หญิงคนใหม่ไปนอนกับผู้ชายอื่นทั้งที่ได้รู้จักกันแค่สองครั้ง ความสูญเสียที่เกิดขึ้นไม่ต้องบอกว่ามากมายขนาดไหน มันคือเรื่องของเหตุผลครับ
1.การทำเป็นนิสัยทำให้เกิดความประมาท เป็นการหลงตัวเองที่ผิดๆในตัวผมเอง
2.ผู้หญิงที่คบเราไม่กี่เดือนแล้วเอามาอยู่ด้วยกัน เค้าก็ไปอยู่แล้วเนื่องจากเค้าเป็นแบบนั้น
3.ตามหลักศาสนาเรียกว่ากรรม เหมือนวงจรที่ต้องเกิดขึ้น ความเป็นคนแบบนั้นจะไม่เปลี่ยนไปได้นอกจากจะถูกการสูญเสียพรัดพรากบังคับให้ได้สติ
4.เมื่อผุ้ชายคนนั้นทำวงจรกรรมไปเรื่อยๆ จะสะสมให้ภรรยาของเค้าเองเริ่มทนได้ นั่นหมายถึงการชินชา แล้วการชินชาคือคำว่าไม่มีความรักแล้ว เมื่อถึงเวลาภรรยาก็จะทิ้งเค้าไปด้วยเหตุผลแบบเลือดเย็น เนื่องจากไม่มีหัวใจให้แล้ว กรรมคือเหตุและผลครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2011, 21:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ต.ค. 2011, 12:37
โพสต์: 61


 ข้อมูลส่วนตัว


ก็อยากให้เวรกรรมไล่ตามพวกผู้ชายให้ทัน แต่ไม่เคยเห็นใครได้รับเลย มี 1 -2 - 3 - 4 ไม่งั้นเค้าก็เลิกมีเล็กมีน้อยสิค่ะ เห็นมีไปเรื่อย ๆ ไม่ยอมหยุด

เดี๋ยวนี้เลิกศรัทธาในรักไปแล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ธ.ค. 2011, 22:12 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2011, 07:20
โพสต์: 25


 ข้อมูลส่วนตัว


ใจเย็นๆก่อนนะคะคุณ wasabi คิดบวกนะคะ เขายังอยากมีคุณนะคะ เขาถึงบอกว่าไม่มีอะไร เขาอาจต้องการเวลาในการเคลียร์ตัวเองนะคะ เข้าใจมากค่ะว่าเจ็บเวลาต้องรอ แต่บางทีอาจเป็นบททดสอบขันติของตัวเองนะคะ

แหมอยากเชียร์ให้ไปทำกิ๊ฟจริงๆเลย เผื่อความสนใจของทั้งคู่จะได้มาอยู่ที่การทำกิฟต์ สังเกตจากตัวเองตอนน้ำท่วมได้ร่วมแรงร่วมใจคิด แบกของ ป้องกันบ้าน เวลามันผ่านไปเร็วมากค่ะ เขาก็ง่วนคิดแต่เรื่องน้ำท่วม คิดทำอะไรด้วยกัน มันช่วยได้เนอะ

ตั้งหลักค่ะเราไม่มีอะไรจะเสียไปกว่านี้แล้ว เล่นละครบ้าง เสแสร้งใส่จริตบ้าง สู้กับเขาสักตั้งนึง กรรมก็เขาสองคนร่วมกันก่อ ทำไมเราต้องไปทุกข์แทนด้วยล่ะ เขาก็ทุกข์ไม่แพ้เราหรอกค่ะ

ส่งอ้อมกอดอุ่นๆมาให้ ในวันอากาศหนาวๆนะคะ :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ธ.ค. 2011, 22:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ต.ค. 2011, 12:37
โพสต์: 61


 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนนี้ก็ใจเย็นสุดละค่ะ เพราะคาดว่าหลังจากวันนั้นจะไม่คุยเรื่องนี้กะเค้าอีก เพราะเค้าก็ต้องตอบเหมือนเดิม อยากไปก็ไปค่ะ ไม่สนใจละ (ไม่รู้จะดีแต่ปากหรือเปล่า เห้อ)

เคยมีใครหาทางออกโดยการไปคบคนอื่น อีกคนหรือเปล่า (แต่อีกฝ่ายเค้าก็รู้ว่ามีอะไรเกิดกับเราบ้าง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ธ.ค. 2011, 08:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ต.ค. 2011, 12:30
โพสต์: 66


 ข้อมูลส่วนตัว


อย่าประชดโดยการไปคบคนอื่นเลยนะคะ อย่าสนใจเค้าปิดหู ปิดตา เกี่ยวกับเรื่องของเค้าไป เราจะได้ต้องเครียดค่ะ เมื่อก่อนเดือนก็เป็นแบบคุณค่ะ อยากรู้ทุกเรื่องแต่เมื่อรู้แล้วเราก็ทุกข์ค่ะโดยที่เค้าไม่ได้มาทุกข์กับเราด้วย และตอนนี้เดือนเลือกที่จะแยกทางกับอดีตสามีค่ะ และไม่ขอรับรู้เกี่ยวกับเรื่องของเค้าอีก ใจเราจะได้ไม่เป็นทุกข์อีกค่ะ แต่เดือนไม่ได้ต้องการทางคุรเลิกกันนะค่ะ ลองหาทางออกอื่นที่กว่าดูนะค่ะ เป็นกำลังใจค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2011, 10:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ต.ค. 2011, 12:37
โพสต์: 61


 ข้อมูลส่วนตัว


คนส่วนมากเลือกที่จะไม่รับรู้ บางคนก็ทนอยู่ได้ บางคนก็เลิก ช่วยมาแชร์ประสบการณ์
อยากได้เหตุผลของคนที่อยู่ด้วยกัน (เหตุผลเพราะลูก ใช่ไหมค่ะ แล้วสำหรับคนที่ไม่มีลูก และไม่มีอะไรมาผูกมัด เพราะอะไรค่ะ)
และ อยากได้เหตุผลของคนที่ต้องเลิกกัน (สำหรับคนที่ต้องเลิกกัน เพราะต้องเจออะไรร้ายๆ ใช่ไหมค่ะ ประมาณว่า ทนไม่ได้ ศักดิ์ศรี ??? )

มันเป็นปัญหาที่ทำไม่ส่วนใหญต้องเกิดกับ ผู้หญิง ด้วย ไม่เห็นจะมีปัญหาแบบนี้กับพวกผู้ชายเลย ช่างแตกต่างกันเสียนี่กระไร :b33:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ธ.ค. 2011, 11:18 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ก.ย. 2011, 15:03
โพสต์: 26


 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะ คุณวาซาบิ เอาใจช่วยนะคะ เข้าใจและรู้ว่าคุณทุกข์แค่ไหน เพราะดิฉันก็เจอกับปัญหานี้เหมือนคุณ และเป็นอีกคนหนึ่งที่ยังคงใช้ชีวิตร่วมกันกับสามี ทั้ง ๆ ที่ยังมีบุคคลที่ 3 และสามีเองไม่มีสัญญาอะไร ๆ ให้ด้วยซ้ำว่าจะเลิกกับผญ คนนั้น :b14:

เรามีลูกด้วยกัน 2 คนค่ะ ผช ทั้งคู่ 14 กัับ 6 ปี อย่างแรกเลยคือลูกไม่มีผลกับเขาเลยค่ะ ดังนั้น การมีหรือไม่มีลูกไม่ได้ช่วยให้เขามีหรือไม่มี ผญ อื่น ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความมักมากและสติปัญญาของเขาทั้ง 2 คนทั้งสิ้น แต่สำหรับดิฉัน แน่นอนลูกคือกำลังและแรงใจทั้งหมดที่ทำให้เราอดทน และเขาก็ยังคงดูแลเราและลูกดีอยู่(ตามอัตภาพ) ดิฉันจะเล่าถึงสิ่งที่กำลังประสบอยู่นะคะ เกริ่นก่อนว่าเขาทั้ง 2 คนเจอกันตอนที่สามีไปทำงานไกลบ้าน สมุทรปราการ ไปทำงานที่มหาชัย ปกติที่ผ่านมา สามีติดบ้านมาก ติดดิฉันและลูกตลอด ไปไหนไปกัน มีอะไรคุยกันทุกเรื่อง เราเป็นคู่ที่เข้ากันได้ทุกอย่าง (ไม่รู้คิดเองรึป่าว 55) แต่พอโอกาสมาถึง ดราม่าก็เริ่มเกิด เขาเล่าว่าเขาเริ่มเหงา จะกลับบ้านทุกวันก็เหนื่อย และสู้ค่าน้ำมันไม่ไหว อีกอย่างความรับผิดชอบงานที่แบกอยู่ทำให้กว่าจะเลิกงานก็มืดค่ำ จึงเริ่มที่จะนอนค้างที่โรงงาน จนทำให้วันหนึ่งไปเจอ ผญ ที่ผับ และเริ่มติดต่อกันจนถึงขั้น เช่าห้องอยู่ด้วยกัน เริ่มไม่ค่อยกลับบ้าน จนเหลือเวลากลับมาอยู่บ้านแค่ 1-2 วันต่อสัปดาห์ กลับมาบ้านก็แสดงว่ารักเราเหลือเกิน แต่คนเป็นเมียทุกคนค่ะ เหมือนมีสัญชาตญานมั้ง รู้จนได้ ในที่สุดเขายอมรับ แถมขอให้ดิฉันยอมรับด้วย :b23: ตอนนั้นสภาพดิฉันก็ อืม เหมือนศพเดินได้ ร้องไห้ๆๆๆๆๆๆตลอด และก็ตามแพทเทิร์นของ ผช ค่ะ รักเรากับลูกมาก ยังไงก็เลือกเรา เราต้องอยู่กันไปจนแก่เฒ่า บลา ๆ ๆ สารพัดจะงัดเอามาพูดปลอบใจเรา

จนที่สุดเขามีเหตุให้ออกจากงานที่นั่น ดิฉันก็ดีใจ อืมจะได้เลิก ๆ กันไปซะที แล้วเขาก็ได้งานใหม่ใกล้บ้าน ดีใจซ้ำสอง อย่างน้อยการที่ได้กลับมาอยู่บ้านทุกวัน น่าจะทำให้อะไร ๆ ดีขึ้น กลายเป็นว่า ผญ ลาออกจากงานที่นั่น มาเช่าห้องอยู่ปากซอยบ้านเรานี่เอง (ผญ เป็นแม่ม่าย ลูก 1 ลูกอยู่ ตจว) จากนั้น ดราม่าก็เข้มข้นมากกกก ดิฉันอึ้งมาก โลกจะแตก อะไรเนี่ย สามีเป็นไปได้ขนาดนี้ แถมพอเรารู้แล้ว กลายเป็นว่าเข้าทางเขา ไม่ต้องป่ง ต้องปิดอะไรเราแล้ว แกรนด์โอเพนนิ่งเฉยเลย จากนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นจนกระทั่งถึงทุกวันนี้คือ
1. จันทร์ - เสาร์ มื้อเย็นไม่เคยกลับมากินข้าวบ้าน ทิ้งดิฉันกับลูกกินกัน 3 คนโดยให้เหตุผลว่า ทางโน้นเหงา ส่วนเรามีกันตั้ง 3 คนแน่ะ :b28:
2. ระหว่างสัปดาห์ ค้างที่นู่น 3 คืน โดยคืนไหนที่ค้างก็ไม่กลับบ้านเลย
3. วันหยุด ถ้าทางนู้นมีธุระที่บ้าน (วังน้ำเขียว) ต้องไปส่่งตลอด ซึ่งเธอก็มีธุระได้เกือบทุกอาทิตย์
4. จากการเป็นนักสืบของเรา โทรหากัน ทุกเช้า เที่ยง เย็น SMS อีกนับไม่ถ้วน
5. อย่าไปว่าอะไรเธอ เช่น ทำไมไม่กลับไปเลี้ยงลูก ทำไมไม่หางานทำ ทำไมไม่หาผช เป็นของตัวเอง (อันนี้เข้าข่ายวีน) เขาจะหาเหตุผลมาแก้ตัวให้กัน แล้วคนที่ช้ำคือเรา
นี่คือสิ่งที่ดิฉันประสบอยู่ค่ะ แต่....

.....................................................
สัญญากับใจว่า..ฟ้าจะกลับมาใสสว่างอีกครั้ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ธ.ค. 2011, 11:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ก.ย. 2011, 15:03
โพสต์: 26


 ข้อมูลส่วนตัว


ต่อค่ะ....
ทำไมดิฉันถึงยังอยู่กับเขา .... หลังจากทบทวนเรื่องราว (ทั้งน้ำตา) อ่านหนังสือธรรมะ ปรึกษาผู้รู้ ผู้ผ่านประสบการณ์ โดยเฉพาะ ผู้ใหญ่ที่รักและหวังดีกับเราจริง ๆ แต่สำคัญที่สุดคือใจเราเองที่ต้องทบทวนและเลือกทุกอย่างด้วยตัวเอง ดิฉันก็ได้ข้อสรุปว่า
1. เราคบกันมาตั้งแต่เรียนมหาลัย รวมแต่งงานด้วยจนถึงวันนี้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 22 ผช คนนี้เป็นกำลังใจให้ดิฉันทุกอย่าง ช่วยเหลือและดูแลเราและครอบครัวของเรา เขาเป็นคนดีเสมอมา 1 ปีที่เขาหลงผิด ทำผิด ซึ่งไม่รู้ว่าจะอีกนานแค่ไหน ดิฉันจะถือซะว่าตอบแทนในสิ่งที่เขาเคยให้เรา เคยทำให้เรามีความสุข ถ้าคิดอีกทาง มันอาจจะเป็นวิบากกรรมที่ดิฉันเคยสร้างไว้กับเขา ก็คืนเขาซะ
2. เขายืนยันมั่นคงเสมอว่าครอบครัวเราสำคัญที่สุด และไม่มีวันทิ้งเรากับลูก (ก็เชื่อ ๆ ไปเหอะ)
3. ลูกไม่ได้ผิดอะไร ลูกของเขาก็ให้เขาเลี้ยงดู รับผิดชอบ เรื่องอะไรจะให้ไปเลี้ยงลูกคนอื่น และเขายังรักลูกมาก อันนี้เป็นแต้มต่อของดิฉัน 555
4. เขาให้ดิฉันจัดการเรื่องเงินทองทั้งหมด เงินเดือนของเขา ของเราให้เราจัดการทุกอย่าง ดิัฉันให้ คชจ เขาเป็นรายสัปดาห์ เอาแบบว่าให้เธอใช้แค่คนเดียวเท่านั้น ถ้ามากกว่านี้ ไปหาเอาเอง...ซึ่งเขาก็ยอม
5. ข้้อนี้สำคัญมาก หันมารักตัวเอง ตอนแรกยากมาก ๆ ค่ะ กว่าจะเลิกร้องไห้ อาจเป็นเพราะเราไปแก้อะไรไม่ได้เลย เขาจะไป เขาจะไม่กลับ เขาจะพาใครไปไหน เราห้ามอะไรไม่ได้เลย ได้แต่ฟุ้งซ่าน วัน ๆ คิดวนเวียนแต่เรื่องนี้ จนถึงวันที่สุด ๆ แล้วมั้ง หาความสุขให้ตัวเองมั่งดีกว่า เขายังไปมีความสุข เราจะทุกข์ทำไม และผู้ใหญ่หลายท่านให้ข้อคิดมากมาย ชีวิตเป็นของเรา เราต้องลิขิตเอง ใจเป็นของเรา เราต้องดูแลเอง ผ่านมา 1 ปีค่ะ 2 เดือนแล้วที่เริ่มจากยิ้มได้ (อย่างจริง ๆ) หัวเราะกับหนังตลกได้ อืมไปไหนกับลูก 3 คนแม่ลูก ก็มีความสุขแฮะ ถ้าอาทิตย์ไหนเขาไม่อยู่ วางแผนกันแล้ว แม่ลูก ไปดูหนัง ไม่พอซื้อซีดีกลับมาดูที่บ้านอีก เปิดแอร์เย็น ๆ ทำห้องมืด ๆ ขนมนมเนยเพียบ แป๊บเดียวก็ง่วงแล้วค่ะ กลายเป็นว่าหาเรื่องสนุกกันใหญ่ถ้าพ่อไม่อยู่ ด้วยดิฉันเองเป็นแม่ที่เฮฮาด้วย แซวลูกแกล้งลูก ก็เลยหาเรื่องสนุกกันได้ไม่ยาก

.....................................................
สัญญากับใจว่า..ฟ้าจะกลับมาใสสว่างอีกครั้ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ธ.ค. 2011, 12:09 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ก.ย. 2011, 15:03
โพสต์: 26


 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนนี้กลับมาดูแลตัวเองด้วยค่ะ ลดความอ้วน (ย๊าก ยาก) แต่งหน้า แต่งตัวสวย ๆ ทาเล็บ ติดโบว์ กรีดอายไลเนอร์ ทำทุกสิ่งอย่างที่เราไม่เคยใส่ใจทำ เพราะดูแลเขากับลูก ไม่เคยดูแลตัวเองเลย ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้วค่ะ รู้แล้วว่ามันไม่มีอะไรจีรังจริง ๆ เราจะไม่ยอมทุกข์กับเรื่องของคนอื่นอีกแล้ว ใจสบายขึ้นมาก

เขียนมาซะยาว กลายเป็นระบายเรื่องของตัวเองซะงั้น 555 แค่อยากให้คุณวาซาบิทราบว่า สถานการณ์ที่ดิฉันประสบอยู่ ถ้าไม่ปล่อยวางดิฉันก็ต้องแบกทุกข์ก้อนนี้ไม่สิ้นสุด มันหนักเกินไปสำหรับดิฉัน และที่สำคัญเราแก้ไขเองไม่ได้ เพราะเราไม่ได้ก่อ ปล่อยให้เวลาและกรรมกำหนดและจัดสรรเองดีกว่า

อีกอย่าง ฝากไว้ลองทำดู เผื่อจะเป็นกำำลังใจได้ ทุกวันนี้ดิฉันเลิกวีน เลิกเหวี่ยง พูดจาดีกับเขาทุกครั้งที่กลับบ้าน ไม่พูดถึงผู้หญิงคนนั้นอีกเลย เอาใจใส่ดูแลทุกอย่าง เขาอยากให้นวด ก็นวดให้ เขาอยากกินอะไร หาให้ได้จะรีบหาให้ ไม่ได้เสนอใ้ห้เขานะคะ ถ้าเขาขอเราถึงจะทำให้ แต่ทำด้วยความเต็มใจ ดูแลบ้าน ใส่บาตรตอนเช้ากับลูกชายถ้ามีโอกาส ทำตัวลั๊ลลา จ๊ะ ๆ จ๋าๆ ทำตัวเองให้มีความสุข เป็นอย่างนี้มา 2 เดือน ตั้งแต่คิดได้ ปล่อยวางได้ แต่ยังมีแอบเช็คโทรศัพท์ แต่เช็คแล้วต้องทิ้งไป ไม่เก็บเอามาคิดให้รกสมอง ท่องไว้เดี๋ยวหน้าแก่ เดี๋ยวกลายเป็นยักษ์ ไม่สวย ไม่สวย 55 ปรากฎว่าสัญญาณหลายอย่างเริ่มดีขึ้น เมื่อต้นเดือนลองชวนเขาไปเที่ยวปีใหม่ ปกติวันหยุดอย่างนี้เขาไม่ไปกับเราหรอกค่ะ ต้องไปโคราช ไปรับ ไปส่งอะไร ๆ ของเขา แต่คราวนี้เขาบอกเราไปเชียงใหม่กันเถอะแม่ ไปกันพ่อแม่ลูก 4คน ขับรถไปกันเรื่อย ๆ rolleyes กรี๊ดดดดด ไม่อยากเชื่อหูตัวเองค่ะ ดีจังได้ไปเที่ยว แต่เตือนตัวเองตลอดว่าจะไม่คาดหวังกับอะไรทั้งสิ้น ขอไปเที่ยว ๆๆๆๆๆ ให้สนุกเท่านั้น และ 1 เดือนที่ผ่านมา เขาก็ดีกับดิฉันกับลูกมาก อยู่บ้านก็ปิดเสียงโทร ไม่รับสาย ไม่โทรออก เหมือนจะเริ่มแคร์เรามากขึ้น น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีนะคะ

อย่างไรก็ตาม ขอให้คุณวาซาบิ คุณ Simplylife และอีกหลาย ๆ ท่าน ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ทุกข์นี้ไปให้ได้ ซึ่งต้องได้อยู่แล้ว และดิฉันเชื่อเสมอว่าใครทำอะไร ก็ได้อย่างนั้น เราทำความดี เราต้องได้ดีค่ะ รักตัวเองให้มาก ๆ อย่างมีสติ แล้วเราจะรอดค่ะ ..สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าทุกท่านนะคะ

.....................................................
สัญญากับใจว่า..ฟ้าจะกลับมาใสสว่างอีกครั้ง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 145 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 12 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร