ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

เมื่อต้องเลือกระหว่างความรักและครอบครัว
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=27&t=40167
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  indy [ 19 พ.ย. 2011, 22:38 ]
หัวข้อกระทู้:  เมื่อต้องเลือกระหว่างความรักและครอบครัว

          การที่ได้เจอความทุกข์ครั้งนี้ทำให้ต้องหาวิธีและทางออกเพื่อทำให้ตนเองพ้นทุกข์ และก็ได้ค้นคว้าหาคำตอบจาก Internet เยอะพอสมควร สุดท้ายก็มาเจอเว็บลานธรรมจักรนี้ ขอถ่ายทอดเป็นเรื่องเล่านะคะและหากมีใครอยากแนะนำอะไรก็ยินดีรับฟังค่ะ อาจจะยาวไปสักหน่อยนะคะ

          เป็นเรื่องระหว่างหญิงรักหญิงค่ะ เริ่มต้นเรื่องคือขอสารภาพบาปก่อน เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ฉันได้ทำร้ายคนๆ หนึ่งด้วยการขอเลิกกับเธอคนนั้นที่คบมาได้สามปี เธอไม่ได้มีความผิดอะไรแต่อาจจะเพราะรักเธอไม่มากพอ และได้เจอใครอีกคนที่ใช่กว่า แต่ฉันไม่ได้ต้องการคบใครสองคนในเวลาเดียวกัน และที่สำคัญกับเธอคนใหม่ยังไม่ได้ตกลงว่าจะยังไงต่อไป รู้แค่ว่าไม่อยากมีรักซ้อนแค่ผิดที่นอกใจก็มากเกินพอ จึงขอเลิกกับเธอคนเก่าหลังจากที่เริ่มแน่ใจตัวเอง ขอบอกตามตรงค่ะ ว่าสำนึกเสมอว่าตัวเองเป็นคนผิดและรู้สึกไม่ดีเลยที่ทำแบบนั้นลงไป แต่ไม่เคยเสียใจกับการเลือกรักครั้งใหม่และคิดเสมอว่าจะทำดีและดูแลเธอคนนี้ด้วยหัวใจจริงๆ และหลังจากนั้นไม่นานเราก็ได้ตัดสินใจคบกันจริงจัง โดยที่เธอนั้นมีแฟน (ผู้ชาย) อยู่ก่อนแล้ว แต่เธอบอกกับเพื่อนสนิทของเธอและฉันว่าเธอได้เริ่มห่างจากใครคนนั้นแล้ว แต่นั่นคือคำพูดจากปากของเธอฉันไม่รู้ว่าความจริงมันเป็นยังไง แต่ฉันเชื่อเธอ
          ความรักเริ่มต้นดูจะสวยงามเพราะอะไรหลายๆ อย่างสำหรับเรามันค่อยเป็นค่อยไป และเธอก็เปิดใจให้ฉันได้โดยที่เธอไม่เคยรู้สึกพิเศษกับผู้หญิงคนไหน ด้วยความอ่อนโยนและความห่วงใยจากเธอฉันประทับใจมาก จนวันหนึ่งได้เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของเธอ แต่แค่ในฐานะเพื่อนสนิท ทุกคนที่อ่านพอจะดูออกว่าความรักแบบนี้มีน้อยครอบครัวที่จะยอมรับได้จริง ซึ่งบอกตามตรงว่า ครอบครัวของฉันเองก็ยอมรับยากเช่นกัน โดยพื้นฐานครอบครัวของเราทั้งคู่มีพ่อแม่รับราชการ ครอบครัวอบอุ่นดี ฐานะพอใช้ การเลี้ยงดูค่อนข้างคล้ายกัน ที่สำคัญคือพื้นฐานทางด้านจิตใจของเราทั้งคู่แทบจะเหมือนกัน ด้วยความใจบุญ รักสัตว์ ไม่เอาเปรียบใคร ใส่ใจคนรอบข้างมากกว่าตัวเอง และเธอก็ทำให้ฉันอยากเป็นคนดีแบบเธอ เพราะฉันเห็นเวลาเธออยู่กับครอบครัวแล้วรู้สึกอบอุ่นและเห็นการปฏิบัติต่อพ่อแม่เธอทำให้ฉันนึกถึงพ่อแม่ตัวเอง และยิ่งนานวันฉันก็เปลี่ยนนิสัยไปในทางที่ดีขึ้น จนที่บ้านเริ่มแปลกใจ
          ฉันคิดว่ารักเธอคนนี้มากไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เวลาผ่านไปสามถึงสี่ปี ฉันไม่เคยเบื่อเธอคนนี้เลยกลับยิ่งรักมากขึ้นด้วยซ้ำ แต่การทะเลาะกันของเราสองคนก็เริ่มมีมากขึ้น ด้วยเหตุผลของการที่ฉันไม่เชื่อใจเธอ การโกหกเป็นสิ่งที่ฉันไม่ชอบมากที่สุด แค่ครั้งสองครั้งยังพอทนได้ แต่มันยังมีครั้งอื่นๆ ตามมา แม้จะไม่ได้บ่อยมากแต่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเดิมๆ นั่นคือเธอยังไปเจอแฟนคนเก่าของเธออยู่ แต่ทุกครั้งที่ฉันรู้เธอจะบอกว่าเป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งถ้าจำเป็นจริงๆ เธอก็ควรบอกฉันก่อน แต่ฉันจะรู้เองก่อนเกือบทุกครั้ง แม้เธอจะไม่ได้ไปสองต่อสองก็เถอะแต่เธอก็ควรพูดความจริง เมื่อฉันรู้ทุกครั้งฉันเสียใจแต่ก็ให้อภัยเธอมาตลอด เหตุผลที่เธอไม่บอกฉันเพราะเธอกลัวฉันไม่สบายใจ และจะบอกแบบนี้เกือบทุกครั้ง และจุดที่ทำให้ทะเลาะกันมากขึ้นคือเธอไม่เคยบอกแฟนเก่าว่าเธอมีใครคนใหม่แล้ว เหมือนกลัวว่าเค้าจะรู้เรื่อง ยิ่งไปกว่านั้นครอบครัวเธอก็คงจะเริ่มสงสัยว่าทำไมแฟนเก่าเธอถึงหายไปและมีฉันเข้ามาในครอบครัวเธอแทน สุดท้ายฉันทำได้แค่ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะรู้ว่าเธอรักฉันจริง และสัญญาว่าจะไม่โกหกกันอีก ฉันเชื่อเธออีกครั้ง
          แม้จะไม่ค่อยทะเลาะเรื่องของแฟนเก่าแล้ว แต่มันก็มีเหตุผลที่ทำให้เราทะเลาะกันได้อีก เช่น เวลาของเราดูมันจะน้อยลงไป เพราะเธอจะออกจากบ้านได้ไม่บ่อย กลับเย็นมากก็ไม่ได้ มีปัญหากับที่บ้านตลอด ยิ่งหลังๆ ฉันเริ่มไปบ้านเธอน้อยลง เพื่อรักษาระยะห่าง เพราะพ่อของเธอดูไม่ประทับใจฉันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ฉันยังให้ความเคารพคนในบ้านเธอเสมออะไรที่ฉันช่วยได้ฉันก็ทำตั้งแต่คนถึงสัตว์เลี้ยง ฉันดูแลทุกอย่าง ญาติของเธอก็เอ็นดูฉันดี แต่ก็อาจจะรู้แค่ว่าเราอยู่ในฐานะเพื่อนสนิท นี่เป็นอีกเหตุผลใหญ่คือ เราจะปิดบังเรื่องระหว่างเราอีกนานแค่ไหน หรือคงต้องอยู่ในฐานะเพื่อนแบบนี้ตลอดไป แต่สำหรับฉันรู้แค่ว่าเรารักกันและมั่นคงต่อกันให้อยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ ฉันคิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไร แต่พ่อของเธอคงเริ่มไม่พอใจ และคิดเสมอว่าฉันคือต้นเหตุทำให้แฟนเก่าของเธอหายไป
          ผ่านไปห้าปีฉันเพิ่งได้รู้ความจริงว่า เธอกลับไปคุยกับแฟนเก่าเธออีกครั้ง แต่ฉันไม่ได้ถามว่าไปคุยอะไร รู้แค่ว่าฉันเสียใจที่เธอสัญญากับฉันไว้ว่าถ้ามีอะไรจะบอกฉันก่อน ครั้งนี้เธอมาบอกฉันว่า เธอเคลียร์เรื่องของเธอที่ฉันเคยขอไว้ให้แล้วนะ ฉันก็ควรจะดีใจแต่ฉันงงว่ามาเคลียร์อะไรป่านนี้ เพราะที่ผ่านมาฉันไม่ได้ต้องการให้เธอไปเคลียร์มานานมากแล้ว ฉันเริ่มเดาเหตุผลที่เธอกลับไปคุยได้ไม่นานนี้ว่า ระยะหลังดูเธอเปลี่ยนไปเยอะมากเหมือนต้องคิดอะไรมากขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างเราก็เปลี่ยนไป เธอดูอารมณ์ร้ายมากขึ้น ทั้งที่เมื่อก่อนเธอจะคอยง้อ หยอกล้อเวลาที่ฉันคร่ำเครียดจากงาน คงเป็นเพราะความสัมพันธ์ของเราสองคนที่พ่อเธออาจจะเริ่มสงสัย และไม่ต้องการให้ลูกตัวเองถูกสังคมรังเกียจ และที่สำคัญคือท่านรับไม่ได้ เพราะไม่อยากอับอายคนอื่น เธอจึงต้องกลับไปถามความรู้สึกของแฟนเก่ามั้ง แต่ผลสุดท้ายคือ เค้าก็มีแฟนใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว เธอถึงกับเสียใจไม่เป็นท่าเลย เวลานั้นฉันสงสารเธอนะแต่ก็สงสารตัวเองด้วย ไม่รู้ว่าทำไมต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ ตอนนั้นฉันทิ้งเธอไม่ได้จริงๆ ด้วยความรัก และอยากให้เธอรู้ว่าเธอก็เลือกที่จะรักใครใหม่แล้วเช่นกัน ซึ่งฉันก็ให้ทั้งความรักและดูแลเธอมาตลอด จนใครหลายคนก็ต่างอิจฉา หลังจากนั้นฉันก็ดูแลและใส่ใจเธอทุกอย่าง เพราะคิดว่าเธอกลับไปคุยกับแฟนเก่าตอนนั้นเป็นเพราะฉันทำนิสัยไม่ดี เพราะฉันชอบเอาแต่ใจและขี้งอน แต่สุดท้ายฉันก็ปรับเปลี่ยนนิสัยได้ภายในเวลาไม่กี่เดือน และก็เห็นเธอสดใสขึ้นกว่าเดิม เพียงแต่ทุกอย่างยังไม่เหมือนเดิม
          เธอมีกำแพงและช่องว่างสำหรับเรามากขึ้น เกือบเจ็ดปีที่เราคบกันฉันคิดมาตลอดว่าจะทนุถนอมเธอให้ดีที่สุด แม้ว่าจะต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ในบางช่วงเวลา แต่เพราะอะไรหลายๆ อย่างดูมันไม่ค่อยเอื้ออำนวยเหมือนเก่า ฉันก็เริ่มเหนื่อยที่จะดันทุรัง อายุเราทั้งคู่ก็ 30 ต้นๆ กันแล้ว ที่สำคัญ ฉันอยากเห็นเธอยิ้มและหัวเราะ แต่นี่ฉันทำอะไรไม่ได้เลย คงเพราะความกดดันจากที่บ้านหลายๆ อย่าง เธอไม่ค่อยพูดความจริงทั้งหมด แต่ฉันก็พอจะเดาอะไรได้บ้าง สุดท้าย ฉันขอเลิกเธอเองเพราะคิดว่าถ้าเธอไม่รักกันแล้วจะทนคบกันไปทำไม แม้ว่าใจฉันยังรักเธอสุดหัวใจ อย่างหนึ่งเลยที่ฉันเคยคิดคือ คิดว่าเธอมีคนใหม่อีกคนที่เข้ามา เพราะฉันเคยได้ยินจากญาติของเธอ แต่เธอบอกฉันว่าที่เธอเป็นแบบนี้ไม่ใช่เพราะเธอมีคนอื่นจริงๆ เมื่อผ่านไปอีกห้าวันหลังจากเลิกกันไป เธอบอกความจริงที่ฉันไม่เคยรู้ว่า พ่อเธอคิดว่าฉันทำให้แฟนเก่าออกจากชีวิตเธอไปและเธอก็บอกว่าเธอรู้ว่าฉันรักเธอจริง แต่เธอไม่มีอนาคตให้ฉันไม่รู้ว่าวันไหนจะได้อยู่ด้วยกัน เพราะเธอไม่อยากทำให้พ่อเสียใจและผิดหวัง เธอยังคงต้องพึ่งพาที่บ้านค่อนข้างเยอะ ไหนจะค่าเรียนปริญญาโท ค่ารถที่พ่อซื้อให้ และยังเรียนปริญญาโทไม่จบ เหมือนยังดูแลตัวเองได้ไม่ดี จึงไม่สามารถที่จะทำให้ท่านเข้าใจในเรื่องความรักแบบนี้ เพราะกลัวท่านจะรับไม่ได้ สิ่งหนึ่งที่เธออยากบอกฉันเธอกลับไปทบทวนว่า เธอไม่ได้หมดรักฉัน ยังรักเหมือนเดิมแต่เพราะมีความจำเป็นอย่างที่บอกไป ความรักของเราจึงต้องหยุดพักไว้เท่านี้
          ตลอดเวลาฉันเข้าใจกับสิ่งที่เธอเลือก และคิดว่าทำใจไม่นานจะกลับไปเป็นที่พึ่งให้เธอได้อีกครั้ง แต่เหมือนเวรกรรมทำให้ฉันต้องได้เจอ ผ่านไปเกือบสองเดือนฉันไปเจอเธอกับผู้ชายคนหนึ่งที่ดูสนิทสนมกันมากด้วยการเดินจับมือ ฉันหลบเกือบไม่ทัน และฉันก็ดูให้แน่ใจว่าใช่เธอจริงๆ หรือไม่ ฉันจำเธอได้ทุกๆ ท่าทาง ตอนนั้นฉันจุกมากแต่ทำอะไรไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือจะโทรไปถามให้แน่ใจว่าที่เห็นเธอจะตอบอย่างไร คืนนั้นเราได้คุยกันอีกครั้งว่าทำไมเราเพิ่งเลิกกันและบอกว่าเลิกกันเพราะที่บ้าน แต่ที่เห็นฉันไม่เข้าใจว่าเธอหลอกฉันเพื่ออะไร คำอธิบายของเธอคือ คนๆ นี้คือคนที่แอบชอบเธอเมื่อปีที่แล้ว บ้านเค้าน้ำท่วมเธอเลยต้องให้กำลังใจ และเธอเพิ่งตกลงคบเค้าเมื่อเลิกกับฉันไปได้ไม่ถึงเดือน เธอบอกฉันว่าคนๆ นี้ดีได้ไม่เท่าครึ่งฉันเลย ลองคบดูเพราะน้องๆ ที่ทำงานเชียร์ว่าเค้านิสัยโอเค และเผื่อว่าจะมีใครทำให้พ่อเธอยอมรับได้บ้าง ฉันกำลังทำใจได้แล้วเชียว เจอแบบนี้เข้าไปเหมือนต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่เลย ที่สำคัญฉันไม่รู้ว่าสิ่งไหนที่เธอพูดมันจริงสำหรับฉันบ้าง ฉันไม่เคยรักเธอน้อยลงแม้รู้อย่างนี้ก็เถอะ แต่แค่อยากให้เธอพูดความจริงกับฉันบ้าง ในเมื่อเธอยื่นความเป็นเพื่อนให้ฉัน อยากดูแลฉันในฐานะเพื่อน แค่นี้เธอก็ยังไม่จริงใจกับฉันเลย
          ตอนนี้พยายามหาธรรมะค่ะ เพราะอยากพ้นทุกข์ ไม่ได้คิดตัดเค้าออกจากชีวิต แค่คิดว่าตอนนี้ต้องทำใจให้ได้ เพราะเราไม่รู้วันข้างหน้า มีหมอดูอยู่ท่านหนึ่งเคยดูดวงให้ว่า ในชาติก่อนเคยเจ้าชู้มากและได้ทำร้ายคู่ของตน (คือแฟนคนนี้) โดยการนอกใจ อาจเป็นกรรมที่ทำให้ชาตินี้ต้องมาชดใช้ และอีกอย่างคือแฟนคนก่อนที่บอกเลิกไปเค้าก็ไม่ได้ผิดอะไร อาจจะเป็นกรรมของตัวเองที่ทำไม่ดีไว้จึงต้องชดใช้ให้หมด

ขอบคุณลานธรรมแห่งนี้นะคะที่ให้ระบายความทุกข์ และยังได้แนวทางการปฏิบัติอีกหลายอย่างกลับไป ขอบคุณจริงๆ ค่ะ

เจ้าของ:  นายฏีกาน้อย [ 20 พ.ย. 2011, 00:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เมื่อต้องเลือกระหว่างความรักและครอบครัว

เหมือนมีหนี้ คงค้าง ต้องชำระ
หากต้องผะ พลัดวัน ประกันพรุ่ง
ยิ่งคิดดอก ทบต้นไป อีรุงตุง
อย่าพยุง หนี้ไป รีบใช้เอย

สัญญาณบอก จ่ายดอก ความชอกช้ำ
เจ็บระกำ ช้ำใจ แสนสุโค่ย
ไม่ต้องไป สอบสวน ศาลไหนเลย
รักนั่นเอย ยุติธรรม กรรมตามมา

ทุกคำลวง กลวงหลอก จ่ายทุกเม็ด
เสียให้เข็ด เช็ดให้จำ ความรักหนา
เจ้าชู้ยักษ์ ลักลอบ ผิดเวลา
จึงเกิดมา ให้รักแล้ว ต้องแคล้วกัน

กรรมกำเนิด เกิดกาย แต่งเป็นหญิง
อันความจริง รักไม่อิง แม้เพศผัน
เพราะความหลง คือรัก คือผูกพัน
คือคืนวัน ที่ทั้งสอง ปรองจุดยืน

ยังเหลือทุน หนุนใจ ในพ่อแม่
นั่นรักแท้ แม้เลือกเกิด ไม่อาจฝืน
มีศักดิ์ศรี หวานเป็นลม ขมทนกลืน
เมื่อจุดยืน ลื่นลด คดให้ยอม

จะฝืนตรง คงเหยียบ เพียงหนึ่งขา
ต้องไร้ค่า หาใคร ประนีนอม
รอคนเดียว อนุมัติ ออมชอม
ก็ตมตรอม ต่อไป เถอะแม่คุณ

ทั้งที่มี คนอีก เป็นล้านคน
มัวแต่สน คนที่ไม่ ควรไปลุ้น
ยังพ่อแม่ ที่พร้อม ยอมลงทุน
รักตัวคุณ ยิ่งกว่าใคร ในล้านคน

อีกทั้งเพื่อน ที่เห็นคุณ มีคุณค่า
ให้หันมา มองตัวเอง เลิกสับสน
เซ็นรับรอง ตัวเอง แสนสุขล้น
ดีกว่าทน รอคน เปลี่ยนจุดยืน

กรรมมันลื่น ฝืนมัน ก็หนักหนา
จะชายกว่า หญิงจริง ไม่อาจฝืน
คือที่สุด ต้องพลัดพราก จากคืน
ชีพไม่ยืน รักยิ่งไม่ เที่ยงแท้เอย

ให้อภัย เป็นใบผ่าน ปลดหนี้
แล้วจะมี แต่ความสุข สุดสุโค่ย
เห็นเธอสุข ห่างห่าง เราก็เลย
สุขเหมือนเคย ครั้งหนึ่ง ครองรักกัน

แล้วก็แล้ว กันไป จงเข้มแข็ง
เจ็บยังแรง กว่านี้ มียืนยัน
นี้เป็นเศษ หลงเหลือ ตามมาทัน
ให้คุณหัน มาเห็นทุกข์ เห็นธรรมจริง


ผู้ประพันธ์ : พุทธฏีกา
๒๐ พฤศจิกายน ๕๔
ดอยสัพพัญญู

เจ้าของ:  indy [ 20 พ.ย. 2011, 13:41 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เมื่อต้องเลือกระหว่างความรักและครอบครัว

พุทธฏีกา เขียน:
เหมือนมีหนี้ คงค้าง ต้องชำระ
หากต้องผะ พลัดวัน ประกันพรุ่ง
ยิ่งคิดดอก ทบต้นไป อีรุงตุง
อย่าพยุง หนี้ไป รีบใช้เอย

สัญญาณบอก จ่ายดอก ความชอกช้ำ
เจ็บระกำ ช้ำใจ แสนสุโค่ย
ไม่ต้องไป สอบสวน ศาลไหนเลย
รักนั่นเอย ยุติธรรม กรรมตามมา

ทุกคำลวง กลวงหลอก จ่ายทุกเม็ด
เสียให้เข็ด เช็ดให้จำ ความรักหนา
เจ้าชู้ยักษ์ ลักลอบ ผิดเวลา
จึงเกิดมา ให้รักแล้ว ต้องแคล้วกัน

กรรมกำเนิด เกิดกาย แต่งเป็นหญิง
อันความจริง รักไม่อิง แม้เพศผัน
เพราะความหลง คือรัก คือผูกพัน
คือคืนวัน ที่ทั้งสอง ปรองจุดยืน

ยังเหลือทุน หนุนใจ ในพ่อแม่
นั่นรักแท้ แม้เลือกเกิด ไม่อาจฝืน
มีศักดิ์ศรี หวานเป็นลม ขมทนกลืน
เมื่อจุดยืน ลื่นลด คดให้ยอม

จะฝืนตรง คงเหยียบ เพียงหนึ่งขา
ต้องไร้ค่า หาใคร ประนีนอม
รอคนเดียว อนุมัติ ออมชอม
ก็ตมตรอม ต่อไป เถอะแม่คุณ

ทั้งที่มี คนอีก เป็นล้านคน
มัวแต่สน คนที่ไม่ ควรไปลุ้น
ยังพ่อแม่ ที่พร้อม ยอมลงทุน
รักตัวคุณ ยิ่งกว่าใคร ในล้านคน

อีกทั้งเพื่อน ที่เห็นคุณ มีคุณค่า
ให้หันมา มองตัวเอง เลิกสับสน
เซ็นรับรอง ตัวเอง แสนสุขล้น
ดีกว่าทน รอคน เปลี่ยนจุดยืน

กรรมมันลื่น ฝืนมัน ก็หนักหนา
จะชายกว่า หญิงจริง ไม่อาจฝืน
คือที่สุด ต้องพลัดพราก จากคืน
ชีพไม่ยืน รักยิ่งไม่ เที่ยงแท้เอย

ให้อภัย เป็นใบผ่าน ปลดหนี้
แล้วจะมี แต่ความสุข สุดสุโค่ย
เห็นเธอสุข ห่างห่าง เราก็เลย
สุขเหมือนเคย ครั้งหนึ่ง ครองรักกัน

แล้วก็แล้ว กันไป จงเข้มแข็ง
เจ็บยังแรง กว่านี้ มียืนยัน
นี้เป็นเศษ หลงเหลือ ตามมาทัน
ให้คุณหัน มาเห็นทุกข์ เห็นธรรมจริง


ผู้ประพันธ์ : พุทธฏีกา
๒๐ พฤศจิกายน ๕๔
ดอยสัพพัญญู


ขอบคุณมากนะคะสำหรับคำแนะนำดีๆ

เจ้าของ:  ทักทาย [ 20 พ.ย. 2011, 22:29 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เมื่อต้องเลือกระหว่างความรักและครอบครัว


จะสงสัย จะกลุ้มใจไปทำไม?....ไม่ห่างกันวันนี้ ก็ต้องห่างกันในวันข้างหน้าอยู่ดี
เขาจะมีใคร หรือไม่มี หนทางที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน..อย่างไรก็ไม่ราบรื่น
ถ้ารักจริง....ควรยินดีกับความสุขของคนที่เรารักมากกว่านะ

ฟังดูแล้ว เค้าน่าจะเป็นผู้หญิงเต็มร้อย ที่ต้องมาพัวพันกับความรักแบบนี้
คงเป็นแค่ความรู้สึก ที่ต้องการเติมเต็ม สิ่งที่ขาดหายไปบางอย่าง
มากกว่าจะเป็นความรักความผูกพันธ์อย่างจริงจัง

ความรักถ้าเจือปนด้วยตัณหา ราคะ มักเป็นพิษ มีแต่โทษ
ผิดกับความรักที่เจือปนด้วยเมตตา กรุณา จะมีแต่ความชุ่มชื่น และให้คุณ

ชีวิตคนเรามิได้ยืนยาวนัก...ใช้เวลาที่เหลือให้คุ้มค่า
หาทางออกให้กับชีวิตที่น่าสับสนนี้ โดยการปล่อยวาง
ความรัก ความลุ่มหลง ที่เป็นพิษ หันมาใช้ชิวิตที่สงบ ราบเรียบ
ในทางธรรมดีกว่า....คือรักอย่างเมตตา

รักษาศิล ห้าข้ออย่างเคร่งครัดในเบี้องต้น...แล้วศิลจะจัดระเบียบชีวิต
ของเราให้เข้ารูปเข้ารอยได้เอง

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ :b1:

เจ้าของ:  ฟ้าชมพู [ 21 พ.ย. 2011, 00:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เมื่อต้องเลือกระหว่างความรักและครอบครัว

คงแนะนำอะไรไม่ได้จิงๆคะ

ตัวเองก็แย่แล้ว


สู้ๆนะคะ

เจ้าของ:  indy [ 21 พ.ย. 2011, 06:27 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เมื่อต้องเลือกระหว่างความรักและครอบครัว

ทักทาย เขียน:

จะสงสัย จะกลุ้มใจไปทำไม?....ไม่ห่างกันวันนี้ ก็ต้องห่างกันในวันข้างหน้าอยู่ดี
เขาจะมีใคร หรือไม่มี หนทางที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน..อย่างไรก็ไม่ราบรื่น
ถ้ารักจริง....ควรยินดีกับความสุขของคนที่เรารักมากกว่านะ

ฟังดูแล้ว เค้าน่าจะเป็นผู้หญิงเต็มร้อย ที่ต้องมาพัวพันกับความรักแบบนี้
คงเป็นแค่ความรู้สึก ที่ต้องการเติมเต็ม สิ่งที่ขาดหายไปบางอย่าง
มากกว่าจะเป็นความรักความผูกพันธ์อย่างจริงจัง

ความรักถ้าเจือปนด้วยตัณหา ราคะ มักเป็นพิษ มีแต่โทษ
ผิดกับความรักที่เจือปนด้วยเมตตา กรุณา จะมีแต่ความชุ่มชื่น และให้คุณ

ชีวิตคนเรามิได้ยืนยาวนัก...ใช้เวลาที่เหลือให้คุ้มค่า
หาทางออกให้กับชีวิตที่น่าสับสนนี้ โดยการปล่อยวาง
ความรัก ความลุ่มหลง ที่เป็นพิษ หันมาใช้ชิวิตที่สงบ ราบเรียบ
ในทางธรรมดีกว่า....คือรักอย่างเมตตา

รักษาศิล ห้าข้ออย่างเคร่งครัดในเบี้องต้น...แล้วศิลจะจัดระเบียบชีวิต
ของเราให้เข้ารูปเข้ารอยได้เอง

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ :b1:


ขอบคุณมากค่ะคุณทักทาย สิ่งที่คุณแนะนำจะพยายามทำให้ได้ค่ะ ที่แน่ๆ ศีลห้าต้องรักษาให้ได้แน่นอน ก่อนหน้านี้แทบแย่ค่ะ เธอยังคงเข้ามาวนเวียนเหมือนอยากมีเราอยู่ในชีวิตทุกวัน แต่เค้าก็บอกเสมอว่าทำได้ในฐานะเพื่อน ไม่ใช่ว่าจะไม่ยอมรับนะคะ แต่มันยังทำไม่ได้จริงๆ ยิ่งเห็นว่ามีคนอื่นด้วยแล้วยิ่งไม่อยากติดต่อเพราะกลัวจะบาป เลยขอเค้าว่าถ้าอยากให้เป็นเพื่อนคงต้องรอให้เราทำใจได้เอง ไม่ใช่มาบังคับด้วยการโทรหากันทุกวันเหมือนเคย นี่คือสิ่งที่พยายามทำทุกวันค่ะ หวังว่ามันจะผ่านไปได้ด้วยดี (ถ้าเธอยังไม่เข้ามาวนเวียนอีกครั้ง)

เจ้าของ:  indy [ 21 พ.ย. 2011, 06:28 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เมื่อต้องเลือกระหว่างความรักและครอบครัว

ฟ้าชมพู เขียน:
คงแนะนำอะไรไม่ได้จิงๆคะ

ตัวเองก็แย่แล้ว


สู้ๆนะคะ


ไม่เป็นไรค่ะ ให้กำลังใจละกันนะคะ ขอให้ผ่านไปได้ค่ะ

เจ้าของ:  baifearn02 [ 21 พ.ย. 2011, 09:26 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เมื่อต้องเลือกระหว่างความรักและครอบครัว

สู้ๆนะค่ะ..เป็นกำลังใจให้ค่ะ เวลาจะรักษาตัวเราเองคร่าา

เจ้าของ:  indy [ 21 พ.ย. 2011, 10:43 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เมื่อต้องเลือกระหว่างความรักและครอบครัว

baifearn02 เขียน:
สู้ๆนะค่ะ..เป็นกำลังใจให้ค่ะ เวลาจะรักษาตัวเราเองคร่าา


ขอบคุณมากๆ ค่ะ

เจ้าของ:  ทักทาย [ 24 พ.ย. 2011, 09:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เมื่อต้องเลือกระหว่างความรักและครอบครัว

เขาโทรหาทุกวัน ก็ยิ่งดี
จะได้ทดสอบจิตใจตัวเอง...หากทนต่อความยั่วยวนได้
เราก็จะผ่านไปได้เร็ว เหมือนนักมวยที่มีคู่ซ้อม
ย่อมแกร่งกว่าซ้อมกับกระสอบทราย....
ผ่านไปให้ได้นะค่ะ :b4: :b4:

เจ้าของ:  indy [ 24 พ.ย. 2011, 23:31 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เมื่อต้องเลือกระหว่างความรักและครอบครัว

ทักทาย เขียน:
เขาโทรหาทุกวัน ก็ยิ่งดี
จะได้ทดสอบจิตใจตัวเอง...หากทนต่อความยั่วยวนได้
เราก็จะผ่านไปได้เร็ว เหมือนนักมวยที่มีคู่ซ้อม
ย่อมแกร่งกว่าซ้อมกับกระสอบทราย....
ผ่านไปให้ได้นะค่ะ :b4: :b4:


ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

เจ้าของ:  baifearn02 [ 25 พ.ย. 2011, 11:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เมื่อต้องเลือกระหว่างความรักและครอบครัว

ตอนนี้อาการเป็นยังไงบ้างค่ะ...ดีขึ้นรึยังค่ะคุณindy

เจ้าของ:  indy [ 25 พ.ย. 2011, 18:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เมื่อต้องเลือกระหว่างความรักและครอบครัว

baifearn02 เขียน:
ตอนนี้อาการเป็นยังไงบ้างค่ะ...ดีขึ้นรึยังค่ะคุณindy


ดีขึ้นเยอะเลยค่ะ อาจเป็นเพราะการเปลี่ยนงานใหม่และมันต้องมีอะไรให้เรียนรู้เยอะค่ะ เลยฟุ้งซ่านน้อยลง แต่ก็ยังไม่หายดีนะ ยังทำใจให้คุยไม่ได้ค่ะ เพราะเรายังไม่บริสุทธิ์ใจ ไม่อยากเจ็บแล้วกลับมานับหนึ่งอีก แล้วคุณ baifern ล่ะค่ะหายดีแล้วรึยัง ยังไงก็เป็นกำลังใจให้เช่นกันค่ะ

เจ้าของ:  baifearn02 [ 27 พ.ย. 2011, 16:17 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เมื่อต้องเลือกระหว่างความรักและครอบครัว

indy เขียน:
แล้วคุณ baifern ล่ะค่ะหายดีแล้วรึยัง ยังไงก็เป็นกำลังใจให้เช่นกันค่ะ


ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ..เรียกเฟิร์นก็ได้คร่า
ตอนนี้อาการทรงตัวแล้วคร่า..แต่บางครั้งก็มีนิดหน่อย แหะๆ

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/