วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 05:11  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มิ.ย. 2013, 17:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ต.ค. 2012, 19:33
โพสต์: 117


 ข้อมูลส่วนตัว


ลองนึกภาพ สายน้ำที่ไหลเชี่ยว...ยิ่งมีแรงลมมากระทบ..ก็ยิ่งเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น
บางครั้งสายน้ำนั้นก็ไหลเรื่อย...ดูสงบนิ่ง...เหมือนกับว่ามันไม่เคยเชี่ยวมาก่อน
อันที่จริง...สายน้ำนั้นมันก็ ขึ้น-ลง ของมันอยู่อย่างนั้น


ณ. เวลานี้จิตใจของคุณประดุจดังสายน้ำเชี่ยว...มันห้ามไม่ได้
จงทำใจให้ประดุจดังสายน้ำเถิดค่ะ....
เมื่อมีแรงมากระทบ ...น้ำก็กระเพื่อม...เมื่อหมดแรงกระทบก็สงบดังเดิม
แต่สายน้ำไม่สนใจแรงกระทบนั้นจะคงอยู่หรือไม่....จะมาหรือจะไป..
ฉันก็ไหลไปเรื่อย....ไม่เคยไหลกลับ

ใจอยากคิด..ก็คิดเถอะค่ะ..ใจอยากร้องไห้...ก็ให้ร้องไป
สำคัญที่สุดต้องไม่ปรุงแต่ง....ตามอารมณ์ความคิดนั้น
เมื่อสติมันดิ่งลงไป...ก็ต้องพยายามค่ะ...อย่าไหลตาม(ไม่ปรุงเพิ่ม)
ยกขึ้นมาพิจารณาให้ได้...ยกขึ้นมาวิปัสนาเลย...ทำบ่อยๆค่ะ
ใหม่ๆอาจทำให้แย่แต่มันได้ผลค่ะ......


สำนึกในความถูกต้อง...ความยึดมั่นในความดี มีอยู่ในมโนทวารเต็มเปี่ยมแล้ว
พึงเอาชนะใจตนเองให้ได้เถอะค่ะ...ชัยชนะจากการชนะใจตนเองนั้นงดงามแท้เชียว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มิ.ย. 2013, 11:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


"ตัณหา" เปรียบเสมือน "บ่วง" ที่ร้อยรัดมัดใจสัตว์
ให้หมุนวนอยู่ในวัฏฏะทุกข์รอบแล้วรอบเล่า..จนหาเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้..
..ความดำริ ว่าเป็น "เนื้อคู่" เกิดจากความไม่รู้
ไม่รู้ในทุกข์...ไม่รู้เหตุของทุกข์..ไม่รู้ข้อปฏิบัติต่อทุกข์..ไม่รู้ภาวะที่พ้นไปจากทุกข์... :b41:

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มิ.ย. 2013, 23:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มิ.ย. 2013, 11:00
โพสต์: 5

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณความคิดเห็นของทุกคนมากนะคะ ตอนนี้จิตใจของดิฉันก็ค่อยๆดีขึ้นทีละน้อยๆ ความยึดมั่นถือมั่นนั่นก็ค่อยๆคลายลงไปค่ะ ไม่ได้ทุรนทุรายหรือเฝ้าแต่คิดถึงให้จิตใจต้องฟุ้งซ่านเหมือนแต่ก่อน แต่มันก็ยังไม่ได้หายไปเสียทีเดียวหรอกนะคะ แค่ทุเลาเบาบางลงเท่านั้น เพราะสติมันมีมากขึ้นทำให้ดิฉันพิจารณาความจริงตามความเป็นจริงมากขึ้นน่ะค่ะ
บางทีสิ่งที่ดีที่สุดก็คือ การทำจิตใจของตนเองให้ผ่องใสอยู่เสมอไม่ให้กิเลส เช่น กามตัณหา มันเข้ามายึดอยากอยู่ได้ ดิฉันคิดว่าอย่างนั้นนะคะ
ตอนนี้ก็เหลือโจทย์สำคัญคือ ถ้าท่านโทรมาอีกหรือถ้าจะต้องเจอกันดิฉันจะรับมือกับสิ่งเหล่านี้อย่างไรนั่นเอง

.......

ตอนนี้ดิฉันพยายามทำใจว่า ให้เราเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน วางตัว วางสถานะให้เหมาะสม แค่นั้น ก็น่าจะเพียงพอแล้ว

อ่อ...ดิฉันลืมบอกไปอย่างนึงค่ะว่า จริงๆ ดิฉันมีแฟนอยู่แล้ว แต่เราคบกันเหมือนเพื่อนมากกว่าที่จะเป็นคนรักกันจนดิฉันไม่ได้รู้สึกว่าเขาเป็นคนรักอีกต่อไปแล้ว คือ คบกันมานานหลายปี แต่ก็ทะเลาะกันบ่อยเรื่องเดียวที่ทะเลาะกันคือ เรื่องที่ดิฉันเข้าวัดปฏิบัติธรรม เขาไม่ค่อยเห็นด้วยและรู้สึกไม่ชอบ จนจะเลิกกันหลายครั้ง ล่าสุด เขาขอโอกาสปรับปรุงตัวดีขึ้น แต่ก็ยังไม่วายทุกครั้งที่ดิฉันจะไปวัดเพื่อปฏิบัติธรรมต้องทะเลาะกันทุกที เคยถามเขาคำนึงว่า ถ้าต้องอยู่ด้วยกันจริงๆแล้วเราตื่นเช้าขึ้นมา ทำวัตรเช้า ใส่บาตร ทำวัตรเย็น ทำสมาธิก่อนนอน ไปวัดถือศีลตามเทศกาลบ้าง เขาจะรับได้ไหม? เขาไม่ตอบค่ะ เขากลับถามต่อว่า ถ้ารับไม่ได้จะทำยังไง? ดิฉันเลยตอบกลับไปว่า ถ้าเขารับไม่ได้เราก็คงไปด้วยกันลำบากและมันก็จะเป็นสาเหตุที่ทำให้เราทะเลาะกันมากขึ้น
สุดท้าย... ไม่มีคำตอบออกมา ดิฉันคิดว่า มันอาจจะเป็นวิบากกรรมของดิฉันก็ได้ค่ะที่ต้องมาผูกพันกับคนที่เขาไม่ได้มีศรัทธาไปในทางเดียวกัน แต่อีกใจก็คิดว่า เรายังไม่ได้แต่งงาน คงจะยังไม่สายเพราะเรายังไม่ได้ตัดสินใจอะไรลงไป... ดิฉันก็ได้แต่หวังว่าคงจะมีทางออกที่เหมาะสมรออยู่ข้างหน้าค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2013, 08:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มิ.ย. 2013, 11:00
โพสต์: 5

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ศิษย์หลวงปู่ทา เขียน:
จริงๆ แล้วเวลาในแต่ละชาติของเรามีไม่มากนัก
พึงหลีกเลี่ยงการก่อบาปอกุศลกรรมให้มากที่สุดครับ

เนื้อคู่ของเราในวัฏฏสงสารอันยาวไกล ก็คงมีนับไม่ถ้วน
อย่าไปยึดติดกับคนใด ท่านใด มากเกินไปนะครับ
พระสงฆ์ท่านไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะมาครองคู่
หรือเป็นเนื้อคู่กับเราในชาตินี้ อย่าให้ท่านต้องลาสิกขาเลยครับ
อีกทั้งท่านอาจจะไม่ใช่เนื้อคู่ (ในอดีตชาติ)
ที่เคยได้อยู่ร่วมกันมากับเรามากที่สุดนับภพนับชาติไม่ถ้วน ก็ได้
รอเวลาที่จะเจอเนื้อคู่คนใหม่ที่เป็นผู้ชายทางโลกนะครับ rolleyes


ขอบคุณมากค่ะ ดิฉันก็ได้แต่หวังว่าจะเจอคนที่มี 1.ศรัทธาเสมอกัน2.ศีลเสมอกัน3.จาคะเสมอกันและ4.ปััญญาเสมอกัน เข้าในสักวันหนึ่ง ดิฉันจะพยายามตัดใจให้ได้ค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ย. 2013, 15:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.ย. 2012, 11:56
โพสต์: 5


 ข้อมูลส่วนตัว


:b55: สวัสดีค่ะทุกๆคน นี่ก็ 1 ปีแล้วนะคะที่บัวได้โพสต์หัวข้อนี้ไป ต้องขอโทษคุณ happy life ด้วยนะคะที่บัวเพิ่งเข้ามา วิธีที่บัวใช้มาตลอด 1 ปีเลยคือกรรมฐานค่ะ เปลี่ยนความรักให้เป็นความรักแบบเมตตาค่ะ ปรารถนาให้ท่านบวชตลอดไป ไม่เติมเชื้อค่ะ หลีกเลี่ยงการพบหน้า กรรมฐานยกบุญให้ท่านด้วยค่ะ ขอให้ท่านได้มีบุญอยู่ในผ้าเหลืองตลอดไป พากันไปนิพพานดีกว่าค่ะ ถ้าถามถึงความรู้สึกจริงๆก็เก็บไว้ในใจลึกๆค่ะ ถ้ารักจริงก็ต้องรักแบบถูกต้องที่สุด ไม่อยากครอบครองค่ะ ความรักแบบชู้สาวเป็นทุกข์ค่ะ ส่วนคำถามที่คุณ happylife ถามเรืี่องโทรศัพท์ ถ้าเป็นบัวจะเลิกรับโทรศัพท์ท่านเลย เพราะรู้เจตนาเหมือนไปเพิ่มเชื้อน่ะค่ะ ให้ท่านห่างแล้วตัดใจดีกว่า ส่วนเรืี่องแฟนของคุณ happylife พระอาจารย์ของบัวเคยแนะนำว่าถ้าปฏิบัติกรรมฐานจะรู้คำตอบได้เอง จะแก้ไขปัญหาได้เอง ทุกเรืี่องไม่เฉพาะเรื่องนี้ ปฏิบัติต่อไปนะคะ เดี๋ยวรู้เองว่าต้องตัดสินใจยังไงต่อไป เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ย. 2013, 18:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: สาธุค่ะ อ่านแล้วจิตใจคุณงดงามมากค่ะ
มีหิริ โอตตัปปะ นี่คือคุณ 2 ข้อของเทวดาด้วยค่ะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2013, 09:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.ย. 2012, 11:56
โพสต์: 5


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณค่ะ :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 40 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร