วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 02:08  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ย. 2012, 16:34 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.ย. 2012, 11:56
โพสต์: 5


 ข้อมูลส่วนตัว


เจอเนื้อคู่แล้วค่ะ แต่ท่านเป็นพระสงฆ์ เป็นพระที่เคร่งมาก(พระป่า พระกรรมฐาน) มันมีเหตุ , เหตุการณ์ และปัจจัยหลายๆอย่างที่รู้ว่านี่คือเนื้อคู่ของเรา ถ้าเล่าแล้วเรื่องจะยาวมาก ท่านเป็นถึงพระเถระแล้ว บวชมานานแล้ว ท่านก็น่าจะรู้เช่นเดียวกันว่าหนูคือเนื้อคู่ของท่าน ท่านได้เคยให้ของที่ท่านมีอยู่แค่สิ่งเดียว(พระอาจารย์ชื่อดังให้ท่านมา)กับหนูด้วย แต่ท่านไม่ต้องการจะสึก ต้องการจะบวชตลอดชีวิต ซึ่งหนูก็ต้องการเช่นนั้นเหมือนกัน หนูต้องการให้ท่านบวชตลอดชีวิต หนูก็เลยไปพูดกับพระเพื่อนว่า ต่อไปนี้จะไม่มีแฟน จะไม่รักใคร และจะไม่แต่งงานไปตลอดชีวิต เพราะเนื้อคู่ของหนูคือคนที่ไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันได้ หนูขออยู่คนเดียวดีกว่า พระท่านก็ห้ามไม่ให้พูดแบบนั้น เพราะหนูอายุเพิ่ง 26 ปี ท่านกลัวว่าอนาคตข้างหน้าหนูจะไปเจอเนื้อคู่ในลำดับต่อไป แล้วจะเสียสัจจะ พระไม่อยากให้หนูเอาอนาคตมาจับให้มั่น คั่นให้ตาย หนูควรจะทำอย่างไรดี ควรจะคิดอย่างไรดี ตอนนี้ทรมานมาก รักก็รัก รู้อยู่แก่ใจกันทั้ง 2 ฝ่าย แต่ทำอะไรไม่ได้ หน้าท่านหนูยังไม่กล้ามองเลย กลัวบาป เวลาคุยธุระกัน ท่านรีบคุยแล้วก็รีบเดินหนีเลย ต่างฝ่ายต่างกลัวใจตัวเอง หนูควรจะอยู่เป็นโสดไปตลอดเลยดีไหมคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ย. 2012, 17:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 12:26
โพสต์: 53

งานอดิเรก: อ่านหนังสือธรรมะ
สิ่งที่ชื่นชอบ: ทางแห่งความดี อ.วศิน อินทสระ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


s006 s006 s006
แนวทางนี้น่าจะดีครับ http://women.kapook.com/view43052.html :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ย. 2012, 19:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


โกมลณิติ เขียน:
เจอเนื้อคู่แล้วค่ะ แต่ท่านเป็นพระสงฆ์ เป็นพระที่เคร่งมาก(พระป่า พระกรรมฐาน) มันมีเหตุ , เหตุการณ์ และปัจจัยหลายๆอย่างที่รู้ว่านี่คือเนื้อคู่ของเรา ถ้าเล่าแล้วเรื่องจะยาวมาก ท่านเป็นถึงพระเถระแล้ว บวชมานานแล้ว ท่านก็น่าจะรู้เช่นเดียวกันว่าหนูคือเนื้อคู่ของท่าน ท่านได้เคยให้ของที่ท่านมีอยู่แค่สิ่งเดียว(พระอาจารย์ชื่อดังให้ท่านมา)กับหนูด้วย แต่ท่านไม่ต้องการจะสึก ต้องการจะบวชตลอดชีวิต ซึ่งหนูก็ต้องการเช่นนั้นเหมือนกัน หนูต้องการให้ท่านบวชตลอดชีวิต หนูก็เลยไปพูดกับพระเพื่อนว่า ต่อไปนี้จะไม่มีแฟน จะไม่รักใคร และจะไม่แต่งงานไปตลอดชีวิต เพราะเนื้อคู่ของหนูคือคนที่ไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันได้ หนูขออยู่คนเดียวดีกว่า พระท่านก็ห้ามไม่ให้พูดแบบนั้น เพราะหนูอายุเพิ่ง 26 ปี ท่านกลัวว่าอนาคตข้างหน้าหนูจะไปเจอเนื้อคู่ในลำดับต่อไป แล้วจะเสียสัจจะ พระไม่อยากให้หนูเอาอนาคตมาจับให้มั่น คั่นให้ตาย หนูควรจะทำอย่างไรดี ควรจะคิดอย่างไรดี ตอนนี้ทรมานมาก รักก็รัก รู้อยู่แก่ใจกันทั้ง 2 ฝ่าย แต่ทำอะไรไม่ได้ หน้าท่านหนูยังไม่กล้ามองเลย กลัวบาป เวลาคุยธุระกัน ท่านรีบคุยแล้วก็รีบเดินหนีเลย ต่างฝ่ายต่างกลัวใจตัวเอง หนูควรจะอยู่เป็นโสดไปตลอดเลยดีไหมคะ

ทำใจเถิด แม่โกมล ดอกบัว
รู้ดีชั่ว กลัวบาป รักบุญหนา
คิดเรื่องตาย เอาไว้ เสียดีกว่า
ล้วนจากลา พลัดพา พรากกันเอย

จำคอยรู้ ดูคิด ที่คิดถึง
มันคอยดึง พึงตึง ตราพาเฉย
ถ้ามันดึง เราดัน มันยิ่งเคย
ก็จะเลย ดีชั่ว ตัวโศกา

จึงต้องทุกข์ เพราะคิด ปรุงแต่ง
อีกทั้งแรง จำได้ หมายสัญญา
สองตัวนี้ นี่แหละ ตัวเหว่ว้า
นำน้ำตา มาอาบ แทนน้ำมนต์

ตัดอาลัย ไกลกัน แต่ความรัก
ยังรู้จัก มักคุ้น อุ่นกมล
กราบสนิท ปิดใจ ไร้กังวล
เป็นแค่คน เป็นเพื่อน แก่เจ็บตาย

แล้วยกท่าน เป็นมิ่ง ยิ่งเศียรเกล้า
ไม่ยึดเท้า ท่านไว้ นิมิตหมาย
จะพลักไส ใจเราเอง สู่อบาย
จงแยบคาย ไตร่ตรอง ลองคิดดู



พุทธฏีกา
๒๑ ก.ย. ๕๕
ดอยสัพพัญญู


.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2012, 02:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ม.ค. 2010, 03:39
โพสต์: 55

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


This kind of story (fiction or not) is bad for BUDDHISM. My goodness, STOP please.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2012, 19:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2011, 10:18
โพสต์: 590

โฮมเพจ: www.bhuddhakhun.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


โกมลณิติ เขียน:
เจอเนื้อคู่แล้วค่ะ แต่ท่านเป็นพระสงฆ์ เป็นพระที่เคร่งมาก(พระป่า พระกรรมฐาน) มันมีเหตุ , เหตุการณ์ และปัจจัยหลายๆอย่างที่รู้ว่านี่คือเนื้อคู่ของเรา ถ้าเล่าแล้วเรื่องจะยาวมาก ท่านเป็นถึงพระเถระแล้ว บวชมานานแล้ว ท่านก็น่าจะรู้เช่นเดียวกันว่าหนูคือเนื้อคู่ของท่าน ท่านได้เคยให้ของที่ท่านมีอยู่แค่สิ่งเดียว(พระอาจารย์ชื่อดังให้ท่านมา)กับหนูด้วย แต่ท่านไม่ต้องการจะสึก ต้องการจะบวชตลอดชีวิต ซึ่งหนูก็ต้องการเช่นนั้นเหมือนกัน หนูต้องการให้ท่านบวชตลอดชีวิต หนูก็เลยไปพูดกับพระเพื่อนว่า ต่อไปนี้จะไม่มีแฟน จะไม่รักใคร และจะไม่แต่งงานไปตลอดชีวิต เพราะเนื้อคู่ของหนูคือคนที่ไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันได้ หนูขออยู่คนเดียวดีกว่า พระท่านก็ห้ามไม่ให้พูดแบบนั้น เพราะหนูอายุเพิ่ง 26 ปี ท่านกลัวว่าอนาคตข้างหน้าหนูจะไปเจอเนื้อคู่ในลำดับต่อไป แล้วจะเสียสัจจะ พระไม่อยากให้หนูเอาอนาคตมาจับให้มั่น คั่นให้ตาย หนูควรจะทำอย่างไรดี ควรจะคิดอย่างไรดี ตอนนี้ทรมานมาก รักก็รัก รู้อยู่แก่ใจกันทั้ง 2 ฝ่าย แต่ทำอะไรไม่ได้ หน้าท่านหนูยังไม่กล้ามองเลย กลัวบาป เวลาคุยธุระกัน ท่านรีบคุยแล้วก็รีบเดินหนีเลย ต่างฝ่ายต่างกลัวใจตัวเอง หนูควรจะอยู่เป็นโสดไปตลอดเลยดีไหมคะ


ทำตามที่พระท่านแนะนำน่ะถูกต้องแล้ว อย่าเอาอนาคตมาจับให้มั่น คั่นให้ตาย โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน
สักวันคุณอาจจะไปเจอใครที่ใช่และไม่ได้ดำรงสมณเพศซึ่งคุณสามารถฝากชีวิตไว้กับเขาได้ อาจจะใช่
มากกว่าสิ่งที่เป็นปัจจุบันนี้ก็ได้นะ ทำตามที่พระท่านบอกสมควรแล้วล่ะ สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือตัดใจให้ได้
อนาคตนั้นไม่แน่นอน เมื่ออนาคตยังมาไม่ถึงเราก็จงก้าวต่อไปเถิด อย่าหยุดอยู่กับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย

ความรักนั้นมีได้หลายแบบ ไม่จำเป็นต้องรักฉันท์ชู้สาวก็ได้ เราอาจเคารพ ศัทธาท่าน เพราะท่านปฏิบัติชอบในฐานโยมคนนึงก็ได้ ปล่อยให้ท่านอยู่แบบนั้นของท่าเถิด

เหตุนี้กระมังจึงมีสุภาษิตที่ว่า "สตรีคือศัตรู"

.....................................................
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ย. 2012, 11:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.ย. 2012, 11:56
โพสต์: 5


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นนะคะ หนูก็มีคำตอบในใจอยู่แล้ว ซึ่งก็ตรงกับที่ทุกท่านได้แสดงความคิดเห็นมา หนูยินดีในเพศสมณะของท่าน และคงต้องตัดใจ ส่วนเรื่องจะมีความรักใหม่มั้ย ตอนนี้ก็คงคิดว่ายังไม่ สำหรับผู้ที่คิดว่ากระทู้หัวข้อนี้ไม่เหมาะสม ก็ขออภัยอย่างยิ่งนะคะ ถ้าหาประโยชน์จากมันไม่ได้แล้ว ก็ลบทิ้งได้นะคะ แต่ถ้าจะมองเอาประโยชน์จากมัน หนูคิดว่าหนูคงไม่ใช่คนแรกในโลกที่เจอเคสนี้ บางเคสที่รุนแรงอาจจะมีทั้งเป็นข่าวและไม่เป็นข่าว แล้วก็มีพระหลายๆรูปที่สึกไปแล้วเพราะเหตุนี้ หรือมีสีกาบางคนที่แยกสิ่งที่ถูกใจกับถูกต้องไม่ได้ จนให้ต้องมีการสึกกันเกิดขึ้น อยากให้ทุกความคิดเห็นที่โพสต์ในนี้ช่วยเตือนสติผู้ที่ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ หรือรู้จักผู้ที่ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ อยากให้มองเอาประโยชน์จากกันมากกว่า อย่างน้อยหนูก็ไม่เคยทำอะไรที่เกินเลยหรือไม่ถูกต้อง ไม่เคยมีเบอร์โทรศัพท์กัน ไม่เคยคุยกันในที่ลับตา คุยธุระกันยังคุยไม่ถึงนาทีเลย เวลาเจอกันหนูก็จะไม่มองหน้าท่าน เพราะก็รู้อยู่ว่าอะไรควรไม่ควร ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ

ปล.กลอนของท่านพุทธฎีกา เพราะมากเลยค่ะ ได้ข้อคิดดีด้วย :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2013, 14:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มิ.ย. 2013, 11:00
โพสต์: 5

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถึง คุณโกมลณิติ

ดิฉันก็เจอปัญหาคล้ายๆกับคุณค่ะ ตอนนี้พยายามตัดใจอย่างมาก ตอนแรกๆก็ไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมเราถึงรู้สึกคุ้นเคยและมีอะไรก็อยากช่วยเหลือ หาเหตุผลให้ไม่ได้ รู้แต่ว่าปรารถนาดีและอยากทำให้ ต้องขอเล่าให้ฟังก่อนว่าดิฉันไม่ได้รู้จักท่านตอนเป็นฆราวาสค่ะ คือ ดิฉันไปปฏิบัติธรรมแล้วบังเอิญว่าท่านก็เป็นคนสอนสมาธิให้ น่าแปลกที่การปฏิบัติของดิฉันก้าวหน้าไปไกลมากๆ ดิฉันรู้สึกว่าท่านเป็นผู้มีพระคุณเหมือนชี้ทางสว่างให้กับดิฉัน ดังนั้น เมื่อท่านต้องการอะไรดิฉันจึงไม่นิ่งนอนใจที่จะช่วยเหลือ วัยของดิฉันและท่านใกล้กันเลยทำให้คุยกันง่าย ท่านมักจะโทรศัพท์มาถามข่าวคราวอยู่เสมอๆ เราสนทนาธรรมกันมาตลอดและก็ชวนกันทำบุญมาเรื่อยๆ แต่พอไปๆมาๆ มันก็มีเหตุการณ์ให้ได้ร่วมบุญกันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งระยะหลังๆเริ่มรู้สึกว่ามันน่าจะมีอะไรบางอย่างที่มากเกินไปแล้วละ เลยคิดว่าต้องตัดใจละค่ะ ส่วนตัวแล้วรู้สึกกลัวบาปมาก ดังนั้น ตอนนี้ได้แต่หนีอย่างเดียวเลยค่ะ ทางฝ่ายท่านเองก็เริ่มห่างไปเหมือนกัน จากที่เคยเป็นห่วง โทรมาถามข่าวคราวก็เริ่มห่างหายไป ตอนนี้ดิฉันเองก็ต้องเป็นฝ่ายทำใจอย่างมาก น่าแปลกนะคะ คนเราแค่เพียงรู้จักกันได้ไม่นานแต่เหมือนว่าคุ้นเคยรู้จักกันมาเป็นเวลานานนับแรมปี ตอนนี้ก็ต้องใช้สติอย่างมากในการข่มอารมณ์ของตัวเอง แต่ก็มีบางครั้งไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ท่านยังคงติดต่อหรือโทรมาอยู่ทำไมน่ะค่ะ ดิฉันทรมานหัวใจมาก แต่ก็ต้อง"ตัดใจ" อย่างเดียว ได้แต่บอกกับตัวเองไปว่า "เราไม่สมควรจะไปรู้สึกแบบนั้นเพราะมันจะเป็น บาป" แม้ท่านจะบวชแค่ไม่นานแต่ยังไง ดิฉันก็คิดว่าตัวเองควรจะหนีไปให้ไกลอยู่ดี เหตุที่ต้องหนีเพราะกลัวหัวใจของตัวเองน่ะค่ะ เมื่อใจยังไม่เข้มแข็งพอก็ขอยังไม่เจอดีกว่า เวลาไปปฏิบัติธรรมก็จะคิดว่าจะไปที่อื่นจะไม่ไปที่ที่ท่านพำนักอยู่ น่าจะเป็นการดีที่สุด เพื่อนๆกัลยาณธรรมมีความคิดเห็นกับเรื่องนี้อย่างไรบ้างคะ?

ขอถามเพื่อนๆกัลยาณธรรมทั้งหลายหน่อยว่า ถ้าท่านโทรมาอีก ดิฉันควรจะทำอย่างไรดีคะ?
สุดท้ายขอขอบคุณ คุณ พุทธฎีกา ที่แต่งบทกลอนเตือนสตินี้ไว้นะคะ ดิฉันจดใส่กระดาษแล้วเอามาอ่านเตือนสติตัวเองบ่อยมากเลยค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2013, 04:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


happylife เขียน:
ถึง คุณโกมลณิติ

ดิฉันก็เจอปัญหาคล้ายๆกับคุณค่ะ ตอนนี้พยายามตัดใจอย่างมาก ตอนแรกๆก็ไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมเราถึงรู้สึกคุ้นเคยและมีอะไรก็อยากช่วยเหลือ หาเหตุผลให้ไม่ได้ รู้แต่ว่าปรารถนาดีและอยากทำให้ ต้องขอเล่าให้ฟังก่อนว่าดิฉันไม่ได้รู้จักท่านตอนเป็นฆราวาสค่ะ คือ ดิฉันไปปฏิบัติธรรมแล้วบังเอิญว่าท่านก็เป็นคนสอนสมาธิให้ น่าแปลกที่การปฏิบัติของดิฉันก้าวหน้าไปไกลมากๆ ดิฉันรู้สึกว่าท่านเป็นผู้มีพระคุณเหมือนชี้ทางสว่างให้กับดิฉัน ดังนั้น เมื่อท่านต้องการอะไรดิฉันจึงไม่นิ่งนอนใจที่จะช่วยเหลือ วัยของดิฉันและท่านใกล้กันเลยทำให้คุยกันง่าย ท่านมักจะโทรศัพท์มาถามข่าวคราวอยู่เสมอๆ เราสนทนาธรรมกันมาตลอดและก็ชวนกันทำบุญมาเรื่อยๆ แต่พอไปๆมาๆ มันก็มีเหตุการณ์ให้ได้ร่วมบุญกันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งระยะหลังๆเริ่มรู้สึกว่ามันน่าจะมีอะไรบางอย่างที่มากเกินไปแล้วละ เลยคิดว่าต้องตัดใจละค่ะ ส่วนตัวแล้วรู้สึกกลัวบาปมาก ดังนั้น ตอนนี้ได้แต่หนีอย่างเดียวเลยค่ะ ทางฝ่ายท่านเองก็เริ่มห่างไปเหมือนกัน จากที่เคยเป็นห่วง โทรมาถามข่าวคราวก็เริ่มห่างหายไป ตอนนี้ดิฉันเองก็ต้องเป็นฝ่ายทำใจอย่างมาก น่าแปลกนะคะ คนเราแค่เพียงรู้จักกันได้ไม่นานแต่เหมือนว่าคุ้นเคยรู้จักกันมาเป็นเวลานานนับแรมปี ตอนนี้ก็ต้องใช้สติอย่างมากในการข่มอารมณ์ของตัวเอง แต่ก็มีบางครั้งไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ท่านยังคงติดต่อหรือโทรมาอยู่ทำไมน่ะค่ะ ดิฉันทรมานหัวใจมาก แต่ก็ต้อง"ตัดใจ" อย่างเดียว ได้แต่บอกกับตัวเองไปว่า "เราไม่สมควรจะไปรู้สึกแบบนั้นเพราะมันจะเป็น บาป" แม้ท่านจะบวชแค่ไม่นานแต่ยังไง ดิฉันก็คิดว่าตัวเองควรจะหนีไปให้ไกลอยู่ดี เหตุที่ต้องหนีเพราะกลัวหัวใจของตัวเองน่ะค่ะ เมื่อใจยังไม่เข้มแข็งพอก็ขอยังไม่เจอดีกว่า เวลาไปปฏิบัติธรรมก็จะคิดว่าจะไปที่อื่นจะไม่ไปที่ที่ท่านพำนักอยู่ น่าจะเป็นการดีที่สุด เพื่อนๆกัลยาณธรรมมีความคิดเห็นกับเรื่องนี้อย่างไรบ้างคะ?

ขอถามเพื่อนๆกัลยาณธรรมทั้งหลายหน่อยว่า ถ้าท่านโทรมาอีก ดิฉันควรจะทำอย่างไรดีคะ?
สุดท้ายขอขอบคุณ คุณ พุทธฎีกา ที่แต่งบทกลอนเตือนสตินี้ไว้นะคะ ดิฉันจดใส่กระดาษแล้วเอามาอ่านเตือนสติตัวเองบ่อยมากเลยค่ะ

อุกาสะ สาธุ อุกาสะ
การิยะ สิทธิ อธิษฐาน
นะโมหัก พุทธาล้าง ยะภัยพาล
พิชิตมาร ด่านรัก หักอาทร

พะนัดแนะ ธะคอย นะมะหวัง
ใจเอยหยั่ง ยากแท้ แลดูกร
อันความรัก ปักใจ ให้อาวร
รักแท้ทอน อิสระ คืนดวงใจ

จงคลายเทิด สมบัติสา ธาราณะ
เจ้าจำนะ ใช่แต่เรา เขาอาศัย
เขาเหมือนบ่อ น้ำดื่ม ปลื้มไปใย
เขาหาใช่ สมบัติ ของใครเลย

อันบุพเพ ลังเล เกิดเพราะใกล้
พ่วงห่วงใย ใจจึง คนึงเอ๋ย
รูปกลิ่นเสียง กระซิบหยอก เย้าเคย
ดุจชิ้นเนย เกยก้อนแตก แหลกกับเตา

หลอมละลาย หอมไหม้ หาใช่นาน
สิ้นความหวาน หอมหวน รัญจวนเศร้า
รักษาสัตย์ แลรักงาม ในใจเรา
คืนใจเขา เตือนใจเรา เอานิพพาน





พุทธฏีกา
๕ มิ.ย. ๕๖
ดอยสัพพัญญู

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2013, 06:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ม.ค. 2013, 21:59
โพสต์: 10


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2013, 17:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มิ.ย. 2013, 11:00
โพสต์: 5

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เรียน คุณ พุทธฏีกา

ดิฉันขอขอบพระคุณมากสำหรับบทกลอนที่ไพเราะ,ความหมายดี อีกทั้งยังช่วยเตือนสติให้กับตัวดิฉันเองอีกต่างหาก ดิฉันเข้าใจสิ่งที่คุณพุทธฎีกาต้องการนำเสนอแล้วค่ะ ตอนนี้ก็ต้องเจริญสติแล้วก็ต้องตัดให้ได้แม้มันจะยากและทรมานแค่ไหนก็ตาม นี่คงเป็นกิเลสตัวนึงที่เข้ามาทดสอบจิตใจของเราว่าเราจะเข้มแข็งพอไหมและผ่านมันไปได้หรือไม่ ดิฉันเชื่ออย่างนั้นค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2013, 20:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ต.ค. 2012, 19:33
โพสต์: 117


 ข้อมูลส่วนตัว


happylife เขียน:
ถึง คุณโกมลณิติ

ดิฉันก็เจอปัญหาคล้ายๆกับคุณค่ะ ตอนนี้พยายามตัดใจอย่างมาก ตอนแรกๆก็ไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมเราถึงรู้สึกคุ้นเคยและมีอะไรก็อยากช่วยเหลือ หาเหตุผลให้ไม่ได้ รู้แต่ว่าปรารถนาดีและอยากทำให้ ต้องขอเล่าให้ฟังก่อนว่าดิฉันไม่ได้รู้จักท่านตอนเป็นฆราวาสค่ะ คือ ดิฉันไปปฏิบัติธรรมแล้วบังเอิญว่าท่านก็เป็นคนสอนสมาธิให้ น่าแปลกที่การปฏิบัติของดิฉันก้าวหน้าไปไกลมากๆ ดิฉันรู้สึกว่าท่านเป็นผู้มีพระคุณเหมือนชี้ทางสว่างให้กับดิฉัน ดังนั้น เมื่อท่านต้องการอะไรดิฉันจึงไม่นิ่งนอนใจที่จะช่วยเหลือ วัยของดิฉันและท่านใกล้กันเลยทำให้คุยกันง่าย ท่านมักจะโทรศัพท์มาถามข่าวคราวอยู่เสมอๆ เราสนทนาธรรมกันมาตลอดและก็ชวนกันทำบุญมาเรื่อยๆ แต่พอไปๆมาๆ มันก็มีเหตุการณ์ให้ได้ร่วมบุญกันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งระยะหลังๆเริ่มรู้สึกว่ามันน่าจะมีอะไรบางอย่างที่มากเกินไปแล้วละ เลยคิดว่าต้องตัดใจละค่ะ ส่วนตัวแล้วรู้สึกกลัวบาปมาก ดังนั้น ตอนนี้ได้แต่หนีอย่างเดียวเลยค่ะ ทางฝ่ายท่านเองก็เริ่มห่างไปเหมือนกัน จากที่เคยเป็นห่วง โทรมาถามข่าวคราวก็เริ่มห่างหายไป ตอนนี้ดิฉันเองก็ต้องเป็นฝ่ายทำใจอย่างมาก น่าแปลกนะคะ คนเราแค่เพียงรู้จักกันได้ไม่นานแต่เหมือนว่าคุ้นเคยรู้จักกันมาเป็นเวลานานนับแรมปี ตอนนี้ก็ต้องใช้สติอย่างมากในการข่มอารมณ์ของตัวเอง แต่ก็มีบางครั้งไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ท่านยังคงติดต่อหรือโทรมาอยู่ทำไมน่ะค่ะ ดิฉันทรมานหัวใจมาก แต่ก็ต้อง"ตัดใจ" อย่างเดียว ได้แต่บอกกับตัวเองไปว่า "เราไม่สมควรจะไปรู้สึกแบบนั้นเพราะมันจะเป็น บาป" แม้ท่านจะบวชแค่ไม่นานแต่ยังไง ดิฉันก็คิดว่าตัวเองควรจะหนีไปให้ไกลอยู่ดี เหตุที่ต้องหนีเพราะกลัวหัวใจของตัวเองน่ะค่ะ เมื่อใจยังไม่เข้มแข็งพอก็ขอยังไม่เจอดีกว่า เวลาไปปฏิบัติธรรมก็จะคิดว่าจะไปที่อื่นจะไม่ไปที่ที่ท่านพำนักอยู่ น่าจะเป็นการดีที่สุด เพื่อนๆกัลยาณธรรมมีความคิดเห็นกับเรื่องนี้อย่างไรบ้างคะ?

ขอถามเพื่อนๆกัลยาณธรรมทั้งหลายหน่อยว่า ถ้าท่านโทรมาอีก ดิฉันควรจะทำอย่างไรดีคะ?
สุดท้ายขอขอบคุณ คุณ พุทธฎีกา ที่แต่งบทกลอนเตือนสตินี้ไว้นะคะ ดิฉันจดใส่กระดาษแล้วเอามาอ่านเตือนสติตัวเองบ่อยมากเลยค่ะ


ไม่รู้ว่าจะเหมือนกันหรือเปล่านะค่ะ ...ลองพิจารณาเพื่อหาคำตอบในใจดู
.เรื่องราวของดิฉันเกิดจากสัญญาเก่าในกาลก่อน....ย้อนกลับมาทวงคืน
ดิฉันเคยโพสต์ แรงอธิษฐาน..ก่อภพ..ก่อชาติ ในห้องนี้เมื่อปีก่อน

กว่าจะยกจิตกลับสู่สภาวะปกติได้ดิฉันใช้เวลาเป็นปี.....
การปฏิบัติ เจริญสติ ภาวนา จากที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ...
กลับนิ่งอยู่กับที่และถดถอยลงอย่างสิ้นเชิง.....

ถามตัวเองทุกคราว...นี่เราเป็นอะไรไปแล้ว..จากความศรัทธา..กลายเป็นเสน่หาหรืออย่างไร
สำนึกนั้นรู้อยู่เสมอ....แม้เป็นแต่เพียงความคิด...ก็กลัวบาป..กลัวท่านมัวหมอง

ช่วงที่ต่อสู้กับอารมณ์จิตของตัวเองนี้เอง...
สภาวะธรรมได้เกิดกับดิฉันหลายอย่าง ...โดยที่เราตามรู้ไม่ทัน...

คุณลองดูสิค่ะ...ไม่ต้องหนีใจตัวเอง...(เพราะมันหนีไม่พ้น)
ลองดูใจที่มันดิ้นรน....มันทุรนทุรายเมื่อคิดคำนึงถึงสิค่ะ...
ดูว่ามันขึ้นลงอย่างไร...ดูบ่อยๆ...เมื่อมันคิดก็ยกขึ้นมาพิจารณาบ่อยๆๆ...ซ้ำๆๆ
แล้วคุณจะเห็นอาการเกิด..ดับของจิตที่มันคิด

สำหรับดิฉันกว่าจะรู้เท่าทัน...ก็เสียเวลาอยู่นาน
นี่เป็นบททดสอบสำหรับนักปฏิบัติที่พึ่งเริ่มต้น...ต้องผ่านให้ได้นะค่ะ
ความวิเศษจากการเจริญสติ...ภาวนารอคอยคุณก้าวไปให้ถึง

เป็นกำลังใจนะค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2013, 23:31 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มิ.ย. 2013, 11:00
โพสต์: 5

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถึง คุณ poomipat  

ดิฉันขอขอบคุณมากนะคะที่เขียนมาให้กำลังใจและช่วยชี้แนะแนวทางในการดูจิต ดูอารมณ์ของตัวเอง

ดิฉันอยากให้คุณช่วยแนะนำในรายละเอียดเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลาที่จิตดิ่งแล้ว เราจะทำยังไง?
คือ ทุกวันนี้ ถ้าวันไหนสติมาก ก็จะตัดได้เร็ว ไม่ไปปรุงต่อ
แต่ถ้าวันไหนสติอ่อน ก็จะปรุงเยอะ ทั้งสัญญา สังขาร มาหมดเลยค่ะ
อะไรที่เราอยากได้ อยากมี เราก็ทรมาน เพลงอะไรที่อกหักๆ เศร้าๆ ไม่สมหวัง
ก็เปิดมาฟังตลอดเป็นอยู่นาน คร่ำครวญอยู่นานกว่าจะดึงจิตตัวเองออกมาได้

ทุกวันนี้สิ่งที่ทำได้ยากที่สุดก็คือ
วันไหนที่เราทำใจแข็งได้ จิตเป็นอิสระ ท่านก็จะโทรมา
คือ เรายังมีเรื่องที่ต้องติดต่อกัน แต่บางทีก็ไม่มีเรื่องอะไร แต่ท่านก็ยังโทรมา
แต่ความถี่นั้นน้อยลงมาก
แล้วพอวางสายไป สิ่งที่ดิฉันเฝ้าพยายามตัดมาทั้งหมด
มันแทบจะเท่ากับศูนย์เลยละค่ะ

ก่อนหน้านี้ที่ได้มารู้จักกับท่านก็เป็นเพราะท่านเป็นคนสอนสมาธิให้ดิฉัน
ก็ต้องยอมรับว่าการปฏิบัติของดิฉันก้าวหน้าไปเร็วกว่าเดิมมากส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะท่านคอยช่วยชี้แนะค่ะ
ดังนั้น ดิฉันจึงรู้สึกว่าท่านเป็นผู้มีบุญคุณของดิฉัน
ไม่ว่าท่านต้องการอะไร ถ้าดิฉันทำให้ได้ดิฉันก็จะเป็นธุระให้เสมอมา

แต่มาระยะหลังนี่ ดิฉันรู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้ว
ดังนั้น ดิฉันเลยคิดที่จะห่าง
ทุกวันนี้จิตใจก็ทรมานมาก
เหมือนเราเจอคนที่เรารู้สึกคุ้นเคนและผูกพันแต่เราไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิด

รบกวน คุณ poomipat หรือท่านผู้รู้ท่านอื่นช่วยชี้แนะด้วยค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มิ.ย. 2013, 11:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 00:22
โพสต์: 223

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เหมือนเราเจอคนที่เรารู้สึกคุ้นเคยและผูกพัน แต่เราไม่มีสิทธิแม้แต่จะคิด :b12:

อนุโมทนาครับ
โชคดีมากนะครับที่ท่านเป็นพระ อย่างน้อยก็มีเครื่องกั้นให้สติเราระลึกอยู่ที่จะยับยั้งกิเลสไว้หรือเพียรพยายามทำให้กิเลสเบาบางลง
ถ้าไปเจอกรณีสถานะไม่ต่างกันเกิดผูกพันกัน จะทำให้การจะยับยั้งกิเลสทำให้กิเลสเบาบางลงคงจะลำบากกว่านี้ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มิ.ย. 2013, 14:09 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


:b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มิ.ย. 2013, 14:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ค. 2013, 10:07
โพสต์: 406

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จริงๆ แล้วเวลาในแต่ละชาติของเรามีไม่มากนัก
พึงหลีกเลี่ยงการก่อบาปอกุศลกรรมให้มากที่สุดครับ

เนื้อคู่ของเราในวัฏฏสงสารอันยาวไกล ก็คงมีนับไม่ถ้วน
อย่าไปยึดติดกับคนใด ท่านใด มากเกินไปนะครับ
พระสงฆ์ท่านไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะมาครองคู่
หรือเป็นเนื้อคู่กับเราในชาตินี้ อย่าให้ท่านต้องลาสิกขาเลยครับ
อีกทั้งท่านอาจจะไม่ใช่เนื้อคู่ (ในอดีตชาติ)
ที่เคยได้อยู่ร่วมกันมากับเรามากที่สุดนับภพนับชาติไม่ถ้วน ก็ได้
รอเวลาที่จะเจอเนื้อคู่คนใหม่ที่เป็นผู้ชายทางโลกนะครับ rolleyes


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 22 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร