วันเวลาปัจจุบัน 24 เม.ย. 2024, 03:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 44 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.พ. 2013, 08:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ธ.ค. 2011, 07:44
โพสต์: 142

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดูเหมือนเป็นวัฎจักรไปแล้วนะคะ ตราบใดที่น้องสาวเขากลับมาเมื่อไร เป็นได้หาเรื่องพี่วันนี้ทุกครั้ง

ลองคิดดู ก็เหมือนลำพังตัวแม่เขากับหญิงชู้ทำอะไรพี่กับสามีไม่ได้แล้ว เลยต้องรอให้น้องสาวกลับมา เพื่อประสานสามแรง แต่คงทำได้แค่นี้แล้วล่ะค่ะ อย่างที่นู๋บอก มุขเดิมๆกับมารยาเดิมๆ สำคัญที่ว่าพอรู้ว่าเขาเล่นกับเราด้วยเล่ห์กลแบบนี้ พี่ทำถูกแล้วที่พยายามแสดงหลักฐานที่ถูกใส่ร้ายให้ดู เขาจะดูหรือไม่ดูก็ช่าง อย่างน้อยเราก็ได้แสดงให้เขารู้ถึงความบริสุทธิ์ของเราค่ะ

คงไม่มีอะไรเหลือบ่ากว่าแรงของพี่อีกแล้ว เพราะเราเห็นไส้เห็นพุงเขาหมดแล้ว แค่เอาธรรมะเข้าข่มจิตใจตัวเอง อย่าให้หมองหม่นเพราะชั่วๆของคนพวกนี้ ขอให้พี่วันนี้เข้มแข็งตลอดไป เป็นกำลังใจให้นะคะ

:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.พ. 2013, 10:31 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ธ.ค. 2010, 17:35
โพสต์: 163

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว



ใช่ค่ะเป็นวัฎจักรของคนชนิดนี้จริงๆ

ญาติเขาพูดจาล่วงเกินลามปามไปถึงลูกและพ่อแม่ดิฉัน
ดิฉันคิดจะโต้ตอบตามนิสัยเดิมตัวเอง
แต่เห็นๆแล้วว่าการโต้ตอบด้วยอารมณ์โกรธแบบเธอ
มีแต่จะเผยตัวเองและกลายเป็นช่องว่างให้ถูกเล่นงานภายหลัง
หนำซ้ำเรื่องยิ่งจะยืดเยื้อไม่มีที่สิ้นสุด

สามีเงียบและไม่พูดอะไรทั้งสิ้น ใจดิฉันเองอยากถามแค่ไหนก็ต้องเงียบ
เพราะคิดว่าการปล่อยให้เขาคิดพิจารณาเอง
อาจทำให้เขาเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น
เพื่อจะได้ใช้ฝึกให้ตนหัดคิดและแก้ไขปัญหาภายหน้าได้

ดิฉันคิดว่าทางนั้นคงเห็นแล้วว่า ดิฉันกับสามีไม่โต้ตอบใดใด
เมื่อดิฉันรู้ทันเกมแล้ว ดิฉันก็วางได้ทันที แต่ก็ไม่ประมาทนะคะ
ได้บอกสามีนอกรอบว่า ดิฉันจะนิ่งและไม่โต้ตอบใดๆ

แต่ถ้าหากเขายังมีเรื่องปิดบังหรือซ่อนเร้นดิฉันกับลูก
ในเรื่องที่จะทำความเดือดร้อนมาสู่ครอบครัวภายหลัง
ดิฉันจะย้อนเกล็ดกลับไปจากหลักฐานทั้งหมด
ที่ปูทางมาไม่หยุดหย่อน ชนิดที่จะไม่สามารถ
กลับมาเดินได้อย่างสง่าผ่าเผย
หรือถ้าดิฉันรู้ว่าเขายังแอบติดต่อกับชู้นั่น
ดิฉันก็จะทำสิ่งในสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงกว่านี้ให้ดู


บางทีเราอ่อนและยอมมากๆก็ทำให้ผู้ชายได้ใจเหมือนกัน
การพูดเรียบๆแบบเข้มๆแต่จริงใจในน้ำเสียงไปบ้างเป็นบางครั้ง
ก็อาจทำให้รากฐานครอบครัวมั่นคงยิ่งขึ้นก็ได้ค่ะ


แก้ไขล่าสุดโดย วันนี้ เมื่อ 15 ม.ค. 2015, 04:33, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2013, 10:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2012, 15:53
โพสต์: 410


 ข้อมูลส่วนตัว


เคยได้ยินสำนวนอันหนึ่งไหมที่บอกว่า
สิ่งที่ดูน่ากลัว มักจะไม่อันตราย
สิ่งที่อันตราย มักจะดูไม่น่ากลัว

ว่ากันว่า.. ส่วนที่น่ากลัวที่สุดของคนมีความรัก
คือการที่รักกันมาแนบแน่น สวยหรู
โดยไม่เคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งเลย
เพราะความสวยงามราบรื่น มันทำให้เรา "วางใจ"
จนอาจลืมไปว่า.. ยังไงๆ เขาก็เป็น "คนอื่น"
ยังไงๆ เขาก็มีหัวใจคนละดวงกับของเรา
สมองคนละก้อน ตัดสินใจได้เอง รู้สึกได้เอง
ว่าจะรัก จะเลิก จะอยู่หรือจะไป

ในเวลาอกหัก ใครจะมาบอกมาพูดอะไรสามวันสามคืน
ก็ไม่ช่วยอะไรได้มาก เท่ากับการมีปัญญาขึ้นในใจเราเอง

ถ้าเราเข้าใจได้ว่า คนเราเกิดมาเพื่อพบกัน
เพื่อมีวันเวลาที่ดีด้วยกัน
และเพื่อพรากจากกันในที่สุด ไม่ช้าก็เร็ว
เราก็จะทำใจ และปล่อยวางได้
โดยไม่ต้องการคำอธิบาย หรือตรรกะเหตุผลอะไรมากมาย

เวลาเจอเรื่องแบบนี้
อย่าเสียเวลาถามว่า "ทำไม" ให้มากความนะครับ
คิดเสียว่าเขาตายจากชีวิตเราไปแล้ว
คนที่เคยเป็นคนรักแสนดีของเรา เขาไม่อยู่ในโลกของเราแล้ว

ถ้าเรารักเขามากจริงๆ อย่างที่บอกเขาเสมอ
นี่ไง.. สิ่งสุดท้ายที่เราจะให้เขาได้ "ให้อภัย" ไงครับ

คิดเสียว่า เขาจะมีความสุขมากกว่าที่ได้อยู่กับเรา
อวยพรให้เขาโชคดี ในโลกใหม่ของเขา

ไม่ต้องรอเขาหรอกนะครับ
อย่าไปหวังลมๆแล้งๆ ว่าคนตายแล้วจะฟื้นกลับมา
เพราะมันมีแต่ในหนังแฟรงเก้นสไตน์

และถึงเขาจะกลับมา เชื่อเถอะครับว่า
ความรู้สึกดีๆ มันจะไม่เหมือนเดิมแล้ว

เขาเลือกทางเดินชีวิตของเขาแล้ว
เขาเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเขาแล้ว
เราก็เลือกได้เหมือนกัน
ว่าจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ หรือจมปลักในทุกข์นี้ต่อไป

อยากร้องไห้ก็ร้องแต่พองาม พอให้รู้สึกว่าเรามีเลือดเนื้อ
แต่อย่าร้องจนเสียจริต เหมือนคนคิดสั้น
เพราะถึงเราจะร้องจนน้ำท่วมทุ่งกุลาร้องไห้
ก็ไม่ทำให้อะไร อะไร กลับมา เหมือนเดิม

เราอาจรู้สึกเหมือนโลกดับ วับหาย
แต่เปล่าหรอก.. ชีวิตเพิ่งจะเริ่มเรียนรู้ความจริง

การเรียนรู้ความรู้สึกของการสูญเสียครั้งใหญ่
เป็นบทเรียนสำคัญของมนุษย์
ที่จะได้สอนตัวเองว่า .. อย่ายึดมั่นถือมั่น
ทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป

ทั้งเรา ทั้งเขา ทั้งใครๆ
ทั้งสิ่งนั้น สิ่งนี้ สิ่งไหน
ทั้งโลกนี้ จักรวาล และกาลเวลา

ขอบคุณกระทู้ดีๆๆ จากธรรมะใกล้ตัว ค่ะ rolleyes


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2013, 15:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ต.ค. 2012, 19:33
โพสต์: 117


 ข้อมูลส่วนตัว


นับเวลาที่ได้รับทราบเรื่องราวของคุณผ่านไปพอสมควรแล้ว
คุณเก่งมากนะค่ะ...ใช้สติในการจัดการปัญหา..

อย่าท้อ..อย่ายอมแพ้..ต่อความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับใจเรานะค่ะ


....ความรัก....ความหลง...ความสงสาร
คือความยึดมั่น....ถือมั่น ...ที่วางไม่ได้ ...คือเหตุแห่งทุกข์ทั้งปวง .....

เอาใจช่วยคุณนะค่ะ ...แนวทางของคุณถูกต้องแล้วค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มี.ค. 2013, 07:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ธ.ค. 2011, 07:44
โพสต์: 142

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พี่วันนี้เป็นยังไงบ้างคะ คิดถึงจังเลยค่ะ

:b27: :b27:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 เม.ย. 2013, 14:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ธ.ค. 2010, 17:35
โพสต์: 163

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ห่างหายไปนาน พยายามติดตามกระทู้ทุกท่าน
อ่านบ้างแต่กลับไม่มีสมาธิเขียนเรื่องตัวเอง
เพราะความวุ่นวายในจิต ที่เจอความปลิ้นปล้อนของญาติสามี
แล้วดิฉันตั้งสติรับไม่ค่อยดี เลยทำให้ขุ่นใจจนไม่เปิดคอมไปหลายอาทิตย์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 เม.ย. 2013, 15:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ธ.ค. 2010, 17:35
โพสต์: 163

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว



เพื่อนดิฉันบอกแค่ว่า ไม่เคยเจอคนบ้าน้ำลายขนาดนี้
บ่นว่าญาติสามีของดิฉันทำบุญกุศลแบบไหน
ถึงได้จิตอกุศล อาฆาตมาดร้ายได้เพียงนี้
ตอนแรกกะจะสั่งสอนให้รู้สำนึก พอคุยไปมา
ถึงรู้ว่าเธอเป็นคนไร้สำนึกรับผิดชอบชั่วดีสิ้นเชิง




แก้ไขล่าสุดโดย วันนี้ เมื่อ 15 ม.ค. 2015, 04:34, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2013, 15:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ธ.ค. 2010, 17:35
โพสต์: 163

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดิฉันได้กลับบ้านไปรับแม่ของดิฉันมาบ้านที่อยู่ปัจจุบัน
พอเอากระเป๋าท่านขึ้นรถ ถึงรู้ว่าท่านเอาเสื้อผ้ามาน้อยมาก
ประกอบกับน้องสาวดิฉันโทรมาบอกว่า แม่จะมาอยู่กับดิฉันแค่วันเดียว
ค้างหนึ่งคืนแล้วจะให้คนมารับไปค้างบ้านน้องสาวอีกจังหวัดหนึ่ง
ดิฉันจึงแอบไปเอาเสื้อผ้าท่านบนห้องมาเพิ่มอีกแอบใส่กระเป๋าดิฉันมาด้วย
ก็อยากจะดูแลท่านบ้าง และตั้งใจจะปรนนิบัติท่านให้ดีที่สุด
เผื่อท่านอาจเปลี่ยนใจอยู่กับดิฉันนานขึ้น

ดิฉันรู้ว่าแม่ดิฉันคงลำบากใจที่จะอยู่ร่วมกับครอบครัวดิฉัน
ด้วยกลัวจะรู้ถึงแม่สามีนั่นเอง เป็นสิ่งที่ดิฉันเองก็หนักใจ
ด้วยเกรงใจสามีจะน้อยใจว่าเราเอาแต่แม่เรา แต่ไม่เข้าหาแม่เขา

กลับกลายเป็นว่า สามีดิฉันก็ช่วยดิฉันดูแลแม่ดิฉันด้วย
แม่ดิฉันก็ทำตัวง่ายๆ ไม่เคยเรียกหาเรียกใช้สามีหรือลูก
ออกไปไหนที ดิฉันก็เป็นคนใส่รองเท้าให้ท่าน
ลูกก็กางร่มให้ท่านยามแดดร้อนๆ
จากที่ว่าท่านจะอยู่กับเราแค่วันครึ่ง ก็ยืดเป็นสองอาทิตย์
ดิฉันมีความสุขมากที่ได้ปรนนิบัติท่านตามที่ตั้งใจ


แก้ไขล่าสุดโดย วันนี้ เมื่อ 15 ม.ค. 2015, 04:35, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2013, 16:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ธ.ค. 2010, 17:35
โพสต์: 163

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ระหว่างที่สามีไปทำงาน ดิฉันจะบ่นเรื่องความเจ็บข้ำให้แม่ดิฉันฟังทีไร
แม่ก็บอกไม่ให้ดิฉันพูดถึงคนอื่น เตือนดิฉันเสมอว่า
พวกที่ชอบว่าคนอื่นมากมาย เดี๋ยวเขาก็ได้อย่างนั้น
ใครพูดอะไรไว้มักเข้าตัวทั้งนั้น ห้ามให้ดิฉันพูดอะไรทั้งสิ้น
แล้วก็บอกให้ดิฉันไปแผ่เมตตาเยอะๆ เอาหนังสือสวดมนต์
ให้ไปสวดย่อตอนกลางคืนซะอีก

ตอนแรกก็หงุดหงิด ว่าทำไมแม่ไม่ยอมรับฟังและเข้าใจ
พอวันต่อๆมา เมื่อไม่พูดถึง ก็ทำให้คิดหมกมุ่นกับความขุ่นใจน้อยลง
เหมือนลืมๆแหละค่ะ มานั่งนึกว่า แม่ก็ไม่ได้เรียนสูงเท่าเรา
แต่กลับฉลาดแยบยลทำให้เรารู้จักคิดสงบเองได้
เราต่างหากที่โง่ หลงวนเวียนอยู่กับความขุ่นใจได้ทุกวัน


แก้ไขล่าสุดโดย วันนี้ เมื่อ 15 ม.ค. 2015, 04:36, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 เม.ย. 2013, 13:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2012, 15:53
โพสต์: 410


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณวันนี้สู้ๆๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ rolleyes


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2015, 03:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ธ.ค. 2010, 17:35
โพสต์: 163

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อยากบอกสมาชิก ว่า คิดถึงเพื่อนๆในลานธรรมแห่งนี้ค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2015, 15:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


โอ้โห๋ ! คุณวันนี้ค่ะ คุณสามารถมีสติ สู้ได้เกือบ 3 ปีแล้วนะคะ
แสดงว่าคุณคุมสติ ได้ดีมากค่ะ ถ้าเป็นเราสู้กับปัญหานานๆ แบบนี้
เราถอยค่ะ แล้วสามีคุณวันนี้ล่ะคะ กลับคืนรังหรือยังคะ :b55: :b47: :b41:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ย. 2015, 06:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ธ.ค. 2010, 17:35
โพสต์: 163

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณ คุณ bbby นะคะ ที่ยังคิดถึงกันอยู่และได้รู้ว่าดิฉันสู้ได้เกือบ 3 ปีแล้ว
ยิ่งนานวัน ถ้าเราคุมสติได้ เราก็ยิ่งรับกับปัญหาได้อย่างแยบยลจริงๆค่ะ
ตอนแรกๆก็แทบปางตาย เพราะจากมาเองก็ไม่ไหว
เลยต้องทำทุกวิถีทางทำให้เขาเป็นฝ่ายไปเอง


สุดท้ายก็ได้เรียนรู้ว่า การที่ผู้ชายจะอยู่หรือไป
ไม่ใช่ที่ผู้หญิงดีหรือไม่ดี แต่เป็นที่ผู้ชายเลวหรือไม่เลวโดยเนื้อแท้
ถ้าเขาไม่ดี เขาจะจากไปให้เราหมดกรรมในวันหน้า
ถ้าเขาใช่คนทีึ่เราเลืิอกและมั่นใจว่าเขาไม่ได้เป็นคนเลวพื้นฐาน
เขาจะต้องกลับมาหาเรา และยอมรับสภาพของเราทุกอย่าง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2015, 08:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2014, 03:08
โพสต์: 54

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ได้อ่านเรื่องราวของคุณวันนี้.....สุดยอดจริงๆ 3 ปีผ่านไปแล้ว เป็นกำลังใจให้ค่ะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 44 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 23 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron