วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 04:06  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 42 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.พ. 2013, 11:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
ขอแสดงความยินดีที่ได้สมาชิกใหม่เป็นลูกสาว และปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกค่ะ
ธรรมชาติของจิตมันเป็นอย่างนี้ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตามเหตุปัจจัย มีอารมณ์ที่น่าพอใจก็เข้าไปยึดไว้
ตรงกันข้ามถ้าเป็นอารมณ์ที่ไม่น่าพอใจมันก็ต่อต้านผลักไส...ยามที่ไม่มีเหตุปัจจัยเข้ากระทบมันก็เฉยๆ
บางทีดูเหมือนจะทำใจได้ยอมรับได้แต่พอเหตุปัจจัยเปลี่ยน..อารมณ์ก็เปลี่ยนอีก....
พยายามระลึก มีความรู้สึกตัวเข้าไว้ แล้วสังเกตุดูว่าจิตมันเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเพราะอะไร...เมื่อเรารู้เท่าทันในธรรมชาติของเขา...เราก็จะปฏิบัติกับเขาได้ถูกตรง...ความทุกข์เท่าภูเขาก็จะลดลงทันที..ลองสังเกตุดูนะคะเวลาที่สติมาระลึกที่กายใจในปัจจุบันขณะ.. ความทุกข์จะหายไปทันที...

เรื่องความเป็นไปในครอบครัว...คงไม่มีใครจะตัดสินใจให้คุณได้ว่าจะต้องทำอย่างไร
...แต่ธรรมชาติของปุถุชน รักสุข...เกลียดทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น...ลองมองดูใจตัวเองว่าในปัจจุบันชีวิตของคุณกับสภาพครอบครัวแบบนี้...สุขมากกว่าทุกข์ หรือทุกข์มากกว่าสุข...เชื่อว่าคำตอบคุณทราบอยู่แล้ว...แต่เกิดความลังเล...เสียดาย ไม่อยากสูญเสีย..ยังมีอาลัยฯลฯ..สิ่งเหล่านี้ทำให้คุณไม่เกล้าตัดสินใจที่จะแก้ไขปัญหา...

เท่าที่สัมผัสปัญหาครอบครัวมา...ฝ่ายหญิงมักจะมีความอ่อนแอในเรื่องของการตัดสินใจ แยกแยะไม่ได้ระหว่างความจริงที่ปรากฏกับความรู้สึกที่อยากให้เป็น ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิง เช่น ผู้ชายต้องการมีผู้หญิง 2คน โดยให้เหตุผลว่า
รักทั้ง 2 คนเท่า ๆ กัน (แนวละครน้ำเน่า) ไม่สามารถเลือกได้....ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็ยังเชื่ออีกว่า เขายังรักเราอยู่ ยังดีกับเราเหมือนเดิม....เพียงแค่ผู้ชายพูดพร่ำๆ ซ้ำ ๆ ซากๆเหมือนนกแก้วนกขุนทองว่า “ผมยังรักคุณ” เท่านี้ผู้หญิงก็ยอม ...แล้วก็เอาสิ่งเหล่านี้มาหล่อเลี้ยงหัวใจ ปลอบใจตัวเองไปวันๆ ...ความจริงปรากฏอยู่ตรงหน้าจากพฤติกรรมของผู้ชายมีให้เห็นทุกเวลานาที แต่ไม่ยอมมอง หรือทำเป็นมองไม่เห็น..ก็เลยไม่เห็นความจริงเสียที....เลือกมองแต่สิ่งที่ตัวเองอยากจะเห็นอยากจะให้เป็น...
ผู้หญิงส่วนใหญ่จึงต้องแบกรับความทุกข์ไว้มากกว่าผู้ชายด้วยความอคติ หรือเรียกว่าความลำเอียงเพราะรัก ลำเอียงเพราะชัง ลำเอียงเพราะกลัว ลำเอียงเพราะหลง นั่นเอง....


จะขอให้ข้อคิดในเรื่องของลูกไว้สักนิดนะคะ
ปัญหาครอบครัวส่วนใหญ่คาราคาซังกันก็เพราะมีลูกด้วยกัน ...จึงยังต้องใช้ชีวิตร่วมกันแบบลุ่มๆดอนๆครึ่งๆกลางๆกันไป
เรียกว่า สุกๆ ดิบๆ สุดท้ายแล้วผลลัพธ์ที่ได้ เป็นสุข หรือเป็นทุกข์ อย่างไหนมากกว่ากัน และคนที่จะได้รับประโยชน์เป็นลูกของเราจริงหรือเปล่า...หรือผู้ใหญ่ที่เรียกว่าพ่อแม่ใช้เขาเป็นแค่เครื่องมือ สนองตัณหาเท่านั้น......
ถ้าคิดจะรักษาสถานภาพของครอบครัวไว้เพื่อลูกคุณจะต้องไม่เอาความสุขของตัวเองเป็นที่ตั้ง....แต่เอาความสุขของลูกคุณเป็นที่ตั้ง และก็ไปวัดผลที่ลูกของคุณ..ดูว่าเขามีความสุขจริงไหม...แต่ส่วนใหญ่ผู้หญิงทำไม่ได้เอาความรู้สึกของตัวเองเป็นที่ตั้ง
แทบทั้งนั้น.....
บางครั้งเราไปยึดติดถือมั่นในรูปแบบมากเกินไป(บุคคล วัตถุ สิ่งของ) จนหาใจตัวเองไม่เจอ ถ้าหาใจตัวเองไม่เจอ ก็อย่าหวังว่าจะไปเข้าใจคนอื่นได้....ความสุขในชีวิตครอบครัวจะเกิดขึ้นได้ไม่ใช่มีเพียงพ่อและแม่หรือญาติพี่น้องมากมาย เท่านั้น ถ้าคนในครอบครัวไม่มีความพร้อมที่จะสร้างความสุขให้มีให้เกิดขึ้นในครอบครัว....ความสุขและสมบูรณ์ในครอบครัวก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้...ในทางตรงกันข้ามถึงแม้จะมีแค่พ่อหรือแม่ แต่เขามีความพร้อมที่จะสร้างความสุขให้กับลูกของเขา...ความสุขและความสมบูรณ์ก็สามารถเกิดขึ้นได้.....

ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ..ค่อยๆใช้สติปัญญาในการแก้ปัญหา (คิดในยามที่ใจสงบรำงับจากความฟุ้งซ่านวิตกกังวล)
คุณจะไปถามทำไมว่าสามีคุณจะรักหรือต้องการคุณหรือไม่ ...ไม่ว่าเขาจะตอบความจริง หรือความเท็จ มันก็ไม่สามารถหนีจากความจริงไปได้...อย่าเอาแค่คำปลอบประโลม ไปหล่อเลี้ยงหัวใจ...ไปสร้างความบิดเบือนให้ใจเห็นผิดไปจากความจริงอีก..จะทำให้คุณออกจากปัญหาไม่ได้ .....ถึงแม้สามีคุณจะไม่ได้รักคุณอีกแล้วเขาก็ไม่ผิดอะไร...จิตใจของคนเรามันเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาไม่ใช่ว่าเมื่อรักเราแล้วจะต้องรักเราไปจนวันตาย..มันไม่ใช่อย่างนั้น ...แม้แต่จิตใจของเราเองยังเปลี่ยนแปลงไปมาอยู่ตลอดเวลา เดี๋ยวสุขเดี๋ยวทุกข์ ...เมื่อถึงคราวที่ต้องเปลี่ยนแปลงก็ต้องทำใจยอมรับความจริงให้ได้....
สิ่งที่สำคัญกว่า..คือคนที่อยู่ตรงหน้าคุณในขณะนี้เขาต้องการคุณมากกว่าใคร.... คุณสำคัญที่สุดสำหรับเขา.....เลี้ยงดูเขาให้ดีแล้วเขาจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง..... :b41:

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.พ. 2013, 21:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ม.ค. 2013, 12:21
โพสต์: 13


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณคำแนะนำและกำลังใจจากคุณปลีกวิเวกมากนะคะ จากคำแนะนำทำให้เราคิดได้ว่าคงไม่ต้องไปถามหาคำตอบอะไรจากเค้าอีก การกระทำน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด เราคงต้องทำใจยอมรับว่าเค้าไม่ได้รักเราเหมือนที่ผ่านมาแล้ว ส่วนเรื่องลูกเรายังคงต้องคิดอีกเยอะค่ะ เพราะเวลาที่ลูกอยู่กับเค้า เราเห็นเค้าทั้งคู่ดูมีความสุขดี ลูกดูต้องการเค้าค่ะ บางทีเค้าไม่มาหาลูกก็เรียกหา ประกอบกับถ้าเราเลิกกับเค้าเลย เราไม่รู้ว่าจะมีกำลังทรัพย์พอที่จะเลี้ยงลูกทั้งสองคนไหวมั้ยค่ะ เราไม่รู้ว่าเราคิดถูกมั้ยนะ ถ้าเรายอมทุกข์คนเดียว คิดตัดใจเสมือนเลิกกับเค้าไปแล้ว แต่ไม่ต้องแยกกันอยู่ให้ลูกได้อยู่ที่เดิม เราจะทำได้มั้ยนะ ณ ตอนนี้มีทางเลือกอะไรบ้างคะ ทำยังงัยให้มีสติอยู่กับตัวมากที่สุด อยากคิดได้ ทำใจสงบได้เร็วๆค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.พ. 2013, 12:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ม.ค. 2013, 21:59
โพสต์: 10


 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะ

ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ต่อสู้ไปนะค่ะ เพื่อลูกๆ ที่น่ารักค่ะ.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.พ. 2013, 16:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2013, 21:43
โพสต์: 14


 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะคุณน้อง momamo
เชื่อไหมคะ สิ่งที่คุณปลีกวิเวกเขียนไว้ข้างบน ชัดเจน จริงแท้ ที่สุดค่ะ
เราผู้เป็นเมีย ครั้งหนึ่งเคยชินกับความรักผูกพัน จนเลือกคิดหวังแต่อดีตเดิมๆ
ปัจจับันกาล ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้วค่ะ จงพยายามฮึดนะคะ เราเก่ง เราทะนง เรามีความภ่คภูมิในตัวเองค่ะ
อย่าปล่อยอารมณ์ยึดตึดกับสิ่งที่ไม่มีอีกต่อไป อย่าไปถาม เพราะคำตอบที่ได้มาก มันผ่านก่รกลั่นกรองจากเขาแล้ว แต่เป็นเพียงคำตอบที่ไม่ใช่ความจริงนะคะ เราเองแหละย่อมเป็นผู้รู้สึกได้ถึงคว่มจริงนั้นเองอยู่แล้ว แต่พยายามเอาความคาดหวังมาหลอกตัวเองอยู่
ไม่เป็นไรค่ะ ค่อยๆลุก นึกถึงแต่ลูกน้อยไว้นะคะ เทียบคุณค่าแล้ว คุณจะรู้ทันทีว่า ควรจะหันหน้าหาทางใด

พี่เอง ทนถึงขนาด สามีผู้มีหลายใจ บอกว่า ผมต้องการให้คุณรับรู้อย่างชัดเจนว่า
ผมไม่มีทางเหมือนเดิม
อย่าตั้งความหวังเรื่องผมจะกลับมา
อย่ารักผม ขอให้เลิกรักผมอย่างที่คุณเป็นทุกข์แบบนี้ได้แล้ว
ผมต้องการอิสระ
ผมรักอีกคนอยู่ และไม่ต้องการเลิก ผมยัง enjoy อยู่มาก อย่าพยายามเลย

สามีคุณน้อง คงไม่ต่างกัน แค่เขาอาจไม่กล้าพูดนะคะ
น้องต้องเริ่มเชิดแล้วค่ะ เรามีค่านะคะ
พี่เองก็เชิดขึ้น เชิดลงอยู่ค่ะเอาบอร์ดนี้ระบายบ้าง รับทุกข์คนอื่นบ้าง เรามีเพื่อนเยอะค่ะ
ให้กำลังใจนะคะน้อง ยิ้มทุกวันให้ลูกนะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.พ. 2013, 19:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ม.ค. 2013, 12:21
โพสต์: 13


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณสำหรับกำลังใจของคุณฟ้าสาง และคุณโชคดีที่มีสตินะคะ

อ่านคำแนะนำของพี่โชคดีที่มีสติไปก็น้ำตาไหลไปค่ะ... ตอนนี้บอกตรงๆว่าไม่มีความสุขเลย มันเหงา เหงาแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ก็ต้องยอมรับความจริงค่ะ ไม่เคยคิดเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้กับเราได้ รู้สึกเสียใจและอยากจะร้องไห้ทุกครั้งที่ลูกเรียกหาพ่อ แต่ก็อดกลั้นไม่ร้อง เพราะกลัวคนรอบข้างที่รักเรา เช่น พ่อแม่จะเป็นห่วง ร้องไห้ทุกครั้งเวลาอยู่คนเดียว รอเวลาให้ใจได้กลับมาปกติเหมือนเดิม ตอนนี้ก็ตัดสินใจแล้วค่ะว่าจะอยู่แบบนี้ไปแต่ตัว ส่วนใจจะพยายามรับความจริงให้ได้ค่ะ ไม่รู้หรอกค่ะว่าผลจะเป็นยังงัยจะทำได้จริงมั้ย จะเอาใจไปไว้กับลูกให้มากที่สุดค่ะ แต่ยังงัยก็ขอเป็นกำลังใจให้พี่โชคดีที่มีสติเหมือนกันนะคะ ขอให้เรื่องราว เหตุการณ์ร้ายๆผ่านไปได้ด้วยดี ขอให้ความสุขกลับมาสู่ครอบครัวพี่โดยเร็วค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.พ. 2013, 11:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2013, 11:46
โพสต์: 137


 ข้อมูลส่วนตัว


เล่ามายาวเหยียด แต่วิธีก็มีค่ะ ง่ายๆและพื้นฐานที่สุดเลยคือ ยอมรับความจริงค่ะ ยอมรับสิ่งที่เปลี่ยนไป
มีจิตใจที่มั่นคง การที่บอกว่าเลิกแล้วจะอยู่บ้านเดียวกัน แล้วถ้าเกิดว่าคุณปลงตก มีสามีใหม่มาอยู่ใน
บ้าน จะไม่มีปัญหาเหรอคะ สามีใหม่ของคุณเขาจะทำใจยอมรับได้เหรอ แล้วคุณจะไม่ลำบากใจเหรอ
คิดดูดีๆนะคะ

เคยฟังเพลงพี่เบิร์ดมั้ยคะ "ก็เลิกกันแล้วให้มันจบๆไป ก็เลิกกันแล้วเรื่องเดิมไม่ต้องแคร์ ไม่เคยจะเหงา
เพราะฉันมีตัวฉันเองดูแล"

ทุกสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลงเสมอ ทางเดียวที่จะยอมรับคือ ทำใจค่ะ ยอมรับความเปลี่ยนไปให้ได้

.....................................................
อันความกรุณาปราณี จักมีใครบังคับก็หาไม่ หลั่งมาเองดั่งน้ำทิพย์ชโลมใจ จากฟากฟ้าสุลาลัยสู่แดนดิน
มอง...ข้างหน้า ให้เป็นความหวัง มอง...ข้างหลัง ให้เป็นบทเรียน มอง...สิ่งที่มัน หมุนเวียน เพื่อยอมรับ...การเปลี่ยนไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.พ. 2013, 11:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2013, 11:46
โพสต์: 137


 ข้อมูลส่วนตัว


momamo เขียน:
ขอบคุณสำหรับกำลังใจของคุณฟ้าสาง และคุณโชคดีที่มีสตินะคะ

อ่านคำแนะนำของพี่โชคดีที่มีสติไปก็น้ำตาไหลไปค่ะ... ตอนนี้บอกตรงๆว่าไม่มีความสุขเลย มันเหงา เหงาแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ก็ต้องยอมรับความจริงค่ะ ไม่เคยคิดเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้กับเราได้ รู้สึกเสียใจและอยากจะร้องไห้ทุกครั้งที่ลูกเรียกหาพ่อ แต่ก็อดกลั้นไม่ร้อง เพราะกลัวคนรอบข้างที่รักเรา เช่น พ่อแม่จะเป็นห่วง ร้องไห้ทุกครั้งเวลาอยู่คนเดียว รอเวลาให้ใจได้กลับมาปกติเหมือนเดิม ตอนนี้ก็ตัดสินใจแล้วค่ะว่าจะอยู่แบบนี้ไปแต่ตัว ส่วนใจจะพยายามรับความจริงให้ได้ค่ะ ไม่รู้หรอกค่ะว่าผลจะเป็นยังงัยจะทำได้จริงมั้ย จะเอาใจไปไว้กับลูกให้มากที่สุดค่ะ แต่ยังงัยก็ขอเป็นกำลังใจให้พี่โชคดีที่มีสติเหมือนกันนะคะ ขอให้เรื่องราว เหตุการณ์ร้ายๆผ่านไปได้ด้วยดี ขอให้ความสุขกลับมาสู่ครอบครัวพี่โดยเร็วค่ะ


เพราะไม่เคยคิด จึงไม่ได้เตรียมทำใจ ตอนนี้มีประสพการณ์แล้วก็จำไว้เป็นบทเรียนนะคะ
ทุกสิ่งในโลกนี้ไม่แน่นอน พยายามมองเรื่องราวต่างๆที่เข้ามาอย่างมีสติมากขึ้นนะคะ ให้
รู้เท่าทันเหตุแล้วทำใจยอมรับการเปลี่ยนแปลงให้ได้ ขอเพียงเราเข้าใจเราก็จะไม่ต้อง
ทุกข์มากนะคะ

.....................................................
อันความกรุณาปราณี จักมีใครบังคับก็หาไม่ หลั่งมาเองดั่งน้ำทิพย์ชโลมใจ จากฟากฟ้าสุลาลัยสู่แดนดิน
มอง...ข้างหน้า ให้เป็นความหวัง มอง...ข้างหลัง ให้เป็นบทเรียน มอง...สิ่งที่มัน หมุนเวียน เพื่อยอมรับ...การเปลี่ยนไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.พ. 2013, 14:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2013, 21:43
โพสต์: 14


 ข้อมูลส่วนตัว


น้อง momamo คะ

ลองฟังเพลง live and learn นะคะ

http://www.youtube.com/watch?v=OMVYOsoq ... ata_player

อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน
ตามความคิด สติเราให้ทัน
อยู่กับสิ่งที่มี ไม่ใช่สิ่งที่ฝัน
และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

พี่เองก็เอาไว้เตือนตน ยามจิตตกค่ะ
เราเป็นกำลังใจให้กัน มองโลกอีกด้านนึงให้ได้นะคะ นึกแต่ทุกข์ ใจก็ทุกข์ ค่อยๆ ย้ายอารมณ์นะคะ
ยิ้มให้ลูกบ่อยๆ กอดเขาให้มากที่สุด พลังจะถ่ายเทให้กันและกันค่ะ
และจงเชื่อมั่นในความตั้งใจดีของตน
มีความสุขด้วยตนเองให้ได้ อย่า มีความสุขด้วยการรอพึ่งพาคนอื่น เช่น รอความสุขจากอดีตสามี ที่มันมีแต่ทำให้เราเหงา เพราะเราไม่ได้ยืนด้วยตัวเราเอง
ใช้ความเข้าใจมากๆ ค่ะ อย่าใช้แต่ความพยายามอดทน

พี่ปลอบได้ แลพี่เริ่มทำได้ในบางคราว แสดงว่า เราต้องผ่านมันได้นะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2013, 15:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


momamo เขียน:
ขอบคุณคำแนะนำและกำลังใจจากคุณปลีกวิเวกมากนะคะ จากคำแนะนำทำให้เราคิดได้ว่าคงไม่ต้องไปถามหาคำตอบอะไรจากเค้าอีก การกระทำน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด เราคงต้องทำใจยอมรับว่าเค้าไม่ได้รักเราเหมือนที่ผ่านมาแล้ว ส่วนเรื่องลูกเรายังคงต้องคิดอีกเยอะค่ะ เพราะเวลาที่ลูกอยู่กับเค้า เราเห็นเค้าทั้งคู่ดูมีความสุขดี ลูกดูต้องการเค้าค่ะ บางทีเค้าไม่มาหาลูกก็เรียกหา ประกอบกับถ้าเราเลิกกับเค้าเลย เราไม่รู้ว่าจะมีกำลังทรัพย์พอที่จะเลี้ยงลูกทั้งสองคนไหวมั้ยค่ะ เราไม่รู้ว่าเราคิดถูกมั้ยนะ
ถ้าเรายอมทุกข์คนเดียว คิดตัดใจเสมือนเลิกกับเค้าไปแล้ว แต่ไม่ต้องแยกกันอยู่ให้ลูกได้อยู่ที่เดิม เราจะทำได้มั้ยนะ


ตอบ: จะทำได้หรือไม่ได้ก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง “บุคคลจะล่วงทุกข์ได้ด้วยความเพียร”
...ถ้าคุณทำใจยอมรับความจริงของการเปลี่ยนแปลงได้...อยู่กับสภาพครอบครัวแบบนี้ได้...คุณก็สามารถรักษาสถานะภาพความเป็นครอบครัวเอาไว้ได้คือลูกๆจะมีทั้งพ่อและแม่ครบเหมือนครอบครัวอื่นๆ...แต่จะมีความสุขได้จริงไหมหรือความสุขนี้จะมีได้ถึงเมื่อไรไม่มีใครตอบได้...คุณต้องทำความเข้าใจก่อนว่าความสุขหรือความทุกข์เราไม่ได้เป็นผู้กำหนดขึ้นมาได้...สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยทั้งสิ้น...ดังนั้นเราไม่ควรคาดหวังว่าสิ่งทั้งหมดทั้งปวงที่เราทำลงไปเพื่อให้ลูกมีความสุข...โดยคิดว่าเรายอมเป็นผู้รับความทุกข์นั้นเสียเอง...เมื่อผลมันไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวังล่ะ!...วันนี้ลูกคุณอาจจะมีความสุข...แต่วันข้างหน้าเขาอาจจะเป็นทุกข์ก็ได้...เพราะเหตุปัจจัยของความสุขมันก็เปลี่ยนแปลงไปอีก (อาจเกิดจากลูกคุณเอง..สามีคุณหรือตัวคุณเอง) ถึงวันนั้นคุณก็จะยิ่งทุกข์ใจ....ด้วยไม่เข้าใจธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลง
ดังนั้นการจะตัดสินใจเลือกทางใดประเด็นสำคัญคือคุณต้องเข้าใจว่า...ความเปลี่ยนแปลงมีการเกิดขึ้นและหมดไปอยู่ตลอดเวลา ความสุขหรือความทุกข์ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาเยี่ยมเยียนตลอดเวลาและเขาก็เป็นไปตามเหตุปัจจัย เราหรือใครก็ไม่สามารถเข้าไปกำหนดกฏเกณฑ์ให้เขาเป็นไปอย่างใจที่ต้องการได้ ...ถ้าคุณเข้าใจอย่างนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคตคุณก็จะไม่เป็น
ทุกข์ใจไปกับสิ่งที่มีความปรวนแปรและเปลี่ยนแปลงไปตามกฏของธรรมชาติ...

แต่ถ้ายังทำไม่ได้ก็ให้เจริญเมตตาไปก่อน....คือความมีจิตใจที่อยากให้คนอื่นมีความสุขเสมอด้วย
เรา...หมายถึงเราอยากเป็นสุขอย่างไรบุคคลอื่นก็อยากมีสุขเสมือนด้วยเราเช่นกัน...ก็ให้ปฏิบัติกับ
เขาอย่างนั้นเสมอเหมือนด้วยตัวเรา...แรกๆ อาจจะยากสักหน่อยแต่ถ้าปฏิบัติไปเรื่อยๆ คุณสมบัติ
ของเมตตาจะเจริญขึ้นจนกลายเป็นคุณสมบัติประจำใจ...เมื่อนั้นโทสะ ความไม่พอใจหรือขัดเคืองใจ
จะหมดไป...
เมตตามักใช้คู่กับกรุณา...เป็นเมตตากรุณาเมื่อมีเมตตาแล้วความกรุณาคิดที่จะช่วยเหลือเขา
ให้พ้นไปจากความทุกข์ความเดือดร้อนก็จะเจริญตามมาเอง...

momamo เขียน:
ณ ตอนนี้มีทางเลือกอะไรบ้างคะ ทำยังงัยให้มีสติอยู่กับตัวมากที่สุด อยากคิดได้ ทำใจสงบได้เร็วๆค่ะ

ตอบ: ความอยากพ้นไปจากความทุกข์...ความไม่ได้ดั่งใจ ความไม่สมปรารถนาทั้งหลายทั้งปวง
นั้นคือกิเลส ยิ่งมีมากก็ยิ่งทุกข์มาก....อย่าผลักไสความทุกข์...มองดูความทุกข์ให้เกิดปัญญา
พิจารณาให้เห็นว่าสิ่งทั้งหลายทั้งปวงมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ย่อมดับไปเป็นธรรมดา ไม่มีบุคคล
ใดที่ไม่ประสบกับความทุกข์ และไม่มีบุคคลใดที่ไม่ประสบกับความสุข ปุถุชนย่อมประสบทั้งความ
ทุกข์และความสุขเสมอเหมือนกัน...และเราก็เป็นหนึ่งในนั้น มีความเป็นธรรมดาอย่างนั้น...วางใจให้
เป็นกลางๆ สุขก็ไม่หลงมัวเมาในสุข...ทุกข์ก็ไม่หลงจมปลักในทุกข์...ประคองสติ รักษาใจให้เป็น
กลางวางเฉยในสุขในทุกข์ให้ได้บ้าง....ถ้าทำอย่างนี้ได้ความทุกข์ก็จะบรรเทาเบาบางลง...
การฝึกเจริญจิตภาวนา(การนั่งสมาธิให้ใจสงบ) ก็สามารถช่วยได้...จิตใจที่สงบตั้งมั่น...สามารถ
ระงับความยินดีติดใจในกามคุณ ความพยาบาท ความโกรธ ความหดหู่ท้อถอย ความฟุ้งซ่านรำคาญ
ใจ ความลังเลสงสัย...เมื่อฝึกเจริญให้มากจะกลายเป็นคุณสมบัติประจำใจ...สติจะมี
กำลังควรแก่การงานเกื้อหนุนให้เกิดปัญญา....ปัญญาก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้เอง ต้องศึกษาหาความรู้
จากตำรา จากครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ทั้งทางโลกและทางธรรม... :b41:

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี


แก้ไขล่าสุดโดย ปลีกวิเวก เมื่อ 20 ก.พ. 2013, 08:09, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2013, 15:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ธ.ค. 2011, 07:44
โพสต์: 142

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


..ความเปลี่ยนแปลงมีการเกิดขึ้นและหมดไปอยู่ตลอดเวลา ความสุขหรือความทุกข์ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาเยี่ยมเยียนตลอดเวลาและเขาก็เป็นไปตามเหตุปัจจัย เราหรือใครก็ไม่สามารถเข้าไปกำหนดกฏเกณฑ์ให้เขาเป็นไปอย่างใจที่ต้องการได้ ...ถ้าคุณเข้าใจอย่างนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคตคุณก็จะไม่เป็น
ทุกข์ใจไปกับสิ่งที่มีความปรวนแปรและเปลี่ยนแปลงไปตามกฏของธรรมชาติ...

ความอยากพ้นไปจากความทุกข์...ความไม่ได้ดั่งใจ ความไม่สมปรารถนาทั้งหลายทั้งปวง
นั้นคือกิเลส ยิ่งมีมากก็ยิ่งทุกข์มาก....อย่าผลักไสความทุกข์...มองดูความทุกข์ให้เกิดปัญญา
พิจารณาให้เห็นว่าสิ่งทั้งหลายทั้งปวงมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ย่อมดับไปเป็นธรรมดา ไม่มีบุคคล
ใดที่ไม่ประสบกับความทุกข์ และไม่มีบุคคลใดที่ไม่ประสบกับความสุข ปุถุชนย่อมประสบทั้งความ
ทุกข์และความสุขเสมอเหมือนกัน...และเราก็เป็นหนึ่งในนั้น มีความเป็นธรรมดาอย่างนั้น...วางใจให้
เป็นกลางๆ สุขก็ไม่หลงมัวเมาในสุข...ทุกข์ก็ไม่หลงจมปลักในทุกข์...ประคองสติ รักษาใจให้เป็น
กลางวางเฉยในสุขในทุกข์ให้ได้บ้าง....ถ้าทำอย่างนี้ได้ความทุกข์ก็จะบรรเทาเบาบางลง...


ขออนุญาตคัดลอกข้อความบางตอนของคุณปลีกวิเวกนะคะ

คำพูดของคุณปลีกวิเวกฟังง่ายและเข้าใจง่ายมากๆค่ะ อย่างน้อยคนที่ยังเข้าไม่ค่อยถึงหลักธรรมะขั้นสูงอย่างดิฉัน ได้รับฟังแล้วก็พิจารณาได้ว่าจริง อันตัวมนุษย์เรานี่แหละหนา มีทั้งสุขและทุกข์อยู่ตลอดเวลา สุขก็ให้รู้ว่าสุข แต่อย่าหลงระเริงกับมัน ทุกข์ก็ให้รู้ว่าทุกข์ แล้วรีบขจัดมันออกไปซะ ถ้าเรามีสติ รู้ตัวเองดีแล้ว อันความสุขและทุกข์นั้นไม่จีรังยั่งยืน ล้วนขึ้นอยู่ด้วยเหตุและปัจจัย และย่อมเปลี่ยนผันไปตามกาลเวลา ขอเพียงเรามีจิตใจที่ยึดมั่นในหลักคุณธรรม จริยธรรม ดำเนินชีวิตไปได้อย่างถูกทิศทาง ไม่นำเอาซึ่งหายนะ ความวิบัติเสื่อมเสียมาสู่ตน ก็ย่อมได้อานิสงส์คือความสุขทางจิตใจแล้วแน่นอน แต่หากผู้ใดกระทำซึ่งก่อกรรมทำชั่วกับผู้อื่น เขาเหล่านั้นแน่นอนย่อมได้รับผลแห่งกรรมชั่ว ไม่วันใดก็วันหนึ่ง

ดิฉันยังเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาๆ ที่ยังมีรัก โลภ โกรธ หลงอยู่เช่นกัน อยากฝากความปรารถนาดีมายังเจ้าของกระทู้ เข้าใจถึงหัวอกลูกผู้หญิงด้วยกัน เชื่อเถิดนะคะ คุณ momamo เปลี่ยนแปลงนิสัยของสามีไม่ได้หรอกค่ะ เราสิที่ต้องเปลี่ยนแปลงความคิดของตัวเอง ปรับตัวเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ เพราะถ้าเราไม่ปรับตัวเรา เราก็จะเป็นทุกข์อยู่เช่นนั้นตลอดไปนะคะ

อย่าคิดว่าคนคู่นั้นจะมีความสุขนะคะ พวกเขากำลังทุกข์เพราะกามราคะ มันแผดเผาใจคนที่กระทำความชั่วให้ร้อนรุ่มเหมือนตกนรกทั้งเป็นค่ะ ที่ทราบเพราะหญิงชู้ของสามีดิฉัน เขียนเมล์พร่ำพรรณาถึงแต่เรื่องที่ตัวเองเป็นชู้กับชายที่มีภรรยาแล้ว ร่ำร้องขอแต่ความสงสารและเห็นใจจากผู้ชาย บอกรู้ทั้งรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ แต่ทำเหมือนกับว่่าหยุดไม่ได้ แต่พอวันเวลาผ่านไป สามีดิฉันก็ทิ้งเธอได้ลงคอ ทั้งๆที่เขียนหากันแบบหวานสุดๆ (ประมาณว่าหญิงชู้บอกห้ามเหลียวมองหญิงอื่น ส่วนสามีดิฉันก็เยินยอหยอดแต่คำหวาน) แล้วนิสัยเจ้าชู้ ก็ออกลายต่อกับเหยื่อรายใหม่ เมื่อแรกดิฉันก็ไม่ต่างจากคุณ momamo หรอกค่ะ แต่วันนี้ตอนนี้ พอรู้พอเห็นและเข้าใจอะไรๆบ้างแล้ว เราก็สงบขึ้นค่ะ แถมยังขำแกมสมเพชได้อีกว่า เออหนอ..สามีเรายังไม่ซื่อสัตย์กับภรรยาอย่างเราเลย แล้วนับประสาอะไรกับหญิงชู้ของฟรี เขาเชยชมเธอสมใจแล้ว เขาก็ไปหาของใหม่ที่อื่นต่อไป ถ้าเขามีความซื่อสัตย์จริง และเธอมีความรักนวลสงวนตัว ไม่ผิดศีลสาม ทั้งเขาและเธอก็คงไม่ร่วมมือกันประกอบกรรมชั่วเช่นนี่้หรอกค่ะ จริงไหม

เขาจะหยุดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเหตุและปัจจัย+เวลาจริงๆค่ะ อย่าคิดมากจนเครียดใส่ลูกนะคะ แล้วมันก็จะผ่านพ้นไปค่ะ จะดีหรือชั่ว อยู่ที่การกระทำ ขอเพียงเราทำดี เท่านี้เราก็สุขใจแล้วค่ะ


แก้ไขล่าสุดโดย มะกอกมะนาว เมื่อ 26 ก.พ. 2013, 07:06, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.พ. 2013, 15:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ม.ค. 2013, 12:21
โพสต์: 13


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณคุณปลีกวิเวก คุณงามตา คุณมะกอกมะนาวมากค่ะ
ตอนนี้เราเริ่มรู้สึกดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะเลยค่ะ คงเป็นเพราะเราพยายามทำตามคำแนะนำที่ดีของทุกท่าน ทำใจให้สงบ คิดดี ทำดี ทำหน้าที่ตนเองให้ดีที่สุด พยายามมองเหตุการณ์ต่างๆที่เข้ามาอย่างเข้าใจและก็ปล่อยวาง ตอนนี้อยู่กับลูกก็มีความสุขดีค่ะ เมื่อเวลาที่ต้องเจอสามีก็ทำหน้าที่ภรรยาไป ไม่คิดเรื่องอื่น ยอมรับว่ามีบ้างนะคะที่มีความรู้สึกเหงาบ้างบางเวลา แต่เมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะเกิดความเศร้าก็พยายามดึงตัวเองกลับมาค่ะ คิดว่าน่าจะเป็นสัญญานที่ดีนะคะ ยังงัยต้องขอบคุณทุกท่านที่ช่วยเป็นกำลังใจให้มาตลอด และมีคำแนะนำดีๆไว้คอยเตือนสติ เป็นบุญของเราที่ได้เข้ามาปรับทุกข์ในลานธรรมแห่งนี้ค่ะ
... วันนี้วันมาฆบูชา ขอให้ธรรมมะคุ้มครองทุกท่านนะคะ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มี.ค. 2013, 10:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.ค. 2012, 07:09
โพสต์: 142


 ข้อมูลส่วนตัว


olleyes rolleyes คุณ momamo คุณโชคดีที่มีสติ ดิชั้นเป็นอีกกำลังใจนึงให้คุณทั้ง 2 ผ่านพ้นเรื่องต่างๆไปได้ด้วยดีนะคะ ดิชั้นผ่านมาแล้ว และเชื่อมั่นว่าคุณก็ผ่านได้เช่นกัน เราทุกคนในลานล้วนแต่ผ่านเรื่องแย่ๆมาแล้วทั้งสิ้นแต่เราก็ยังอยู่ได้ ต่างคนต่างเป็นกำลังใจให้กันนะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2013, 10:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ม.ค. 2013, 21:59
โพสต์: 10


 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นอย่างไรบ้างค่ะตอนนี้สบายดีหรือเปล่าค่ะ มาส่งกำลังใจค่ะ.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มี.ค. 2013, 16:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ม.ค. 2013, 12:21
โพสต์: 13


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณคุณแม่ผู้อดทน และคุณฟ้าสางมากค่ะสำหรับกำลังใจที่มีให้ ตอนนี้ตัวเค้าก็เหมือนเดิมค่ะ ก็ยังคบกับผู้หญิงคนนั้นอยู่ เจอกันพูดคุยกันทุกวันเหมือนเดิม แต่สำหรับตัวเราก็ทำใจได้มากแล้วค่ะ ใช้เวลาอยู่ดูแลลูกเป็นส่วนใหญ่และก็หาอะไรทำไปเรื่อยๆพยายามไม่คิดเรื่องเค้า สวดมนต์ แผ่เมตตาให้เค้าทุกวัน ตอนนี้มีเรื่องใหม่ๆมาทดสอบจิตใจบ่อยค่ะ บางทีผู้หญิงที่เค้าคบก็มารับหน้าบ้าน บางทีก็อาสามาเอาเสื้อผ้าหรือแม้กระทั่งชั้นในของสามีไปซักให้ เราก็อึ้งๆไปในตอนแรกนะคะ แต่ก็พยายามมีสติคิดว่าเค้าอยากทำอะไรก็ปล่อยเค้าทำตามสบายใจจะดีกว่า เพราะถ้าเค้าสบายใจที่จะทำอย่างนั้น เราก็ควรจะยินดีไม่อยากคิดมากแล้วค่ะ ชีวิตมีอะไรให้ทำอีกเยอะ ตอนนี้คิดทำใจยรับเผื่อไปแล้วว่าวันนึงเราเดินเข้าบ้านมาอาจจะเจอสามีเรากับผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่ในบ้านก็ได้ ถ้าวันนึงเกิดเหตุการณ์นี้จริงจะได้ไม่ต้องทุกข์มาก ไม่รู้คิดถูกมั้ยแต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องนั่งจมความทุกข์เหมือนเมื่อก่อนค่ะ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มี.ค. 2013, 08:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ต.ค. 2008, 19:58
โพสต์: 293

โฮมเพจ: https://www.facebook.com/McDoorEdgeRubber
แนวปฏิบัติ: ตามหาพุทโธ
งานอดิเรก: ถ่ายภาพ สะสมพระเครื่องพระบูชา เลี้ยงปลา เลี้ยงแมว
ชื่อเล่น: Mc
อายุ: 0
ที่อยู่: สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

 ข้อมูลส่วนตัว www


momamo เขียน:
ขอบคุณคุณแม่ผู้อดทน และคุณฟ้าสางมากค่ะสำหรับกำลังใจที่มีให้ ตอนนี้ตัวเค้าก็เหมือนเดิมค่ะ ก็ยังคบกับผู้หญิงคนนั้นอยู่ เจอกันพูดคุยกันทุกวันเหมือนเดิม แต่สำหรับตัวเราก็ทำใจได้มากแล้วค่ะ ใช้เวลาอยู่ดูแลลูกเป็นส่วนใหญ่และก็หาอะไรทำไปเรื่อยๆพยายามไม่คิดเรื่องเค้า สวดมนต์ แผ่เมตตาให้เค้าทุกวัน ตอนนี้มีเรื่องใหม่ๆมาทดสอบจิตใจบ่อยค่ะ บางทีผู้หญิงที่เค้าคบก็มารับหน้าบ้าน บางทีก็อาสามาเอาเสื้อผ้าหรือแม้กระทั่งชั้นในของสามีไปซักให้ เราก็อึ้งๆไปในตอนแรกนะคะ แต่ก็พยายามมีสติคิดว่าเค้าอยากทำอะไรก็ปล่อยเค้าทำตามสบายใจจะดีกว่า เพราะถ้าเค้าสบายใจที่จะทำอย่างนั้น เราก็ควรจะยินดีไม่อยากคิดมากแล้วค่ะ ชีวิตมีอะไรให้ทำอีกเยอะ ตอนนี้คิดทำใจยรับเผื่อไปแล้วว่าวันนึงเราเดินเข้าบ้านมาอาจจะเจอสามีเรากับผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่ในบ้านก็ได้ ถ้าวันนึงเกิดเหตุการณ์นี้จริงจะได้ไม่ต้องทุกข์มาก ไม่รู้คิดถูกมั้ยแต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องนั่งจมความทุกข์เหมือนเมื่อก่อนค่ะ...



ดีมากเลยครับที่คิดแบบนี้ได้ คิดในด้านที่ดีไว้
เรื่องบางเรื่องเก็บมายึดมาถือไว้ก็มีแต่จะสร้างความทุกข์ใจให้เพิ่มขึ้นครับ
ปล่อยวางได้ก็ไม่ต้องมายึดมั่นถือมั่น ทุกสิ่งล้วนคือสมมติ
กำจัดสมมติได้ด้วยวิมุติญาณทัศน์ ลองดูนะครับ :b8:
ขอให้ก้าวผ่านพ้นปัญหาไปได้โดยดีครับ tongue

.....................................................
ถ้าจะตาย จะเสียดายทำไมเล่าชีวี
ต้องรู้เท่าทันธาตุขันธ์นี้ ล้วนแต่มีอนิจจังทั้งหมด


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 42 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 46 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร