วันเวลาปัจจุบัน 24 เม.ย. 2024, 06:42  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.พ. 2013, 12:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2013, 11:46
โพสต์: 137


 ข้อมูลส่วนตัว


ก่อนอื่นดิฉันขอออกตัวก่อนนะคะว่ามิได้มีเจตนาลามกอนาจาร แต่แครู้สึกเป็นห่วงเพื่อน ดิฉันเองไม่รู้จะให้คำปรึกษาที่ดีแก่เพื่อนได้อย่างไร จึงอยากมาปรึกษา เพื่อนๆพี่ๆน้องๆในลานธรรมจักรดูค่ะ หวังว่าคงไม่รังเกียจที่จะให้คำแนะนำนะคะ พอดีเพื่อนมาเล่าให้ดิฉันฟัง เราเป็นเพื่อนมานาน เราสองคนเปิดใจทุกอย่างค่ะ ไม่เคยผิดบังกัน แม้แต่เรื่องอย่างว่า

คือดิฉันมีเพื่อนเป็นกระเทยคนหนึ่ง ต้องเรียกว่ากระเทยน่ะถูกต้องแล้วนะคะ เพราะไม่ได้แปลงเพศและไม่นิยมแต่งตัวเป็นหญิง จะแต่งก็ต่อเมื่อไปเที่ยวหรือมีงานแฟนซีเป็นบางตรั้งครานะคะ

คือเพื่อนดิฉันยึดติด เรียกว่าหมกมุ่นคงไม่ผิดค่ะ เพื่อนดิฉันมีรสนิยมชอบเพศเดียวกัน ชอบมีอะไรกันกับ ทั้งเกย์ ทั้งชายแท้ หรือกระเทยด้วยกันก็ได้ ชอบคิดอกุศลต่อเพศเดียวกัน ชอบมองเป้าผู้ชาย ทั้งชายแท้และไม่แท้แล้วก็จินตนาการว่าได้จับได้เสพย์สังวาสกับเขาคนนั้น ซึ่งที่จริงดิฉันคิดว่ามันก็คงเหมือนกับผู้ชายและผู้หญิงที่หมกมุ่นโดยทั่วไปที่เมื่อเห็นเพศตรงข้ามที่ถูกใจแล้วก็คิดจินตนาการไปทั่ว อย่าว่าแต่คนที่หมกมุ่นเลยค่ะ คนปกติก็มีบ้างเป็นบางครั้งจริงมั๊ยคะ เป็นธรรมดาของมนุษย์ แต่สำหรับเพื่อนดิฉันนี่มันถี่เกินไปน่ะค่ะ คือขอให้เห็นคนหล่อหรือเป้าสวยเป็นคิดจินตนาการทุกที แอบช่วยตัวเองเกือบทุกครั้งหลังจากที่เห็นคนหล่อๆ ดิฉันถึงได้บอกว่าหมกมุ่นก็ไม่ผิดหรอกค่ะ ดิฉันกลัวว่าเพื่อนจะหมกมุ่นจนกู่ไม่กลับ กลายเป็นคนโรคจิตเข้าซักวัน

ดิฉันควรจะให้คำแนะนำและช่วยเหลือเพื่อนอย่างไรดีคะ ใครมีคำแนะนำดีๆกรุณาแนะนำเพื่อนดิฉันด้วยนะคะ

.....................................................
อันความกรุณาปราณี จักมีใครบังคับก็หาไม่ หลั่งมาเองดั่งน้ำทิพย์ชโลมใจ จากฟากฟ้าสุลาลัยสู่แดนดิน
มอง...ข้างหน้า ให้เป็นความหวัง มอง...ข้างหลัง ให้เป็นบทเรียน มอง...สิ่งที่มัน หมุนเวียน เพื่อยอมรับ...การเปลี่ยนไป


แก้ไขล่าสุดโดย งามตา เมื่อ 07 ก.พ. 2013, 14:28, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.พ. 2013, 12:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ว่างๆ ชวนกันไปวัดพระบาทน้ำพุ ดูสุสานคนเป็นอันเกิดจากการติดเชื้อ H I V แบบๆว่าปั่มปั๊มมั่ว ไม่มีการป้องกัน :b16: เมื่อเขาเห็นสุสานคนเป็นแล้ว แลเห็นความทุกข์ทรมานจากคนที่ตกอยู่สภาพนั้นแล้วเนี่ย ความกลัวเกิดขึ้น จิตใจจะค่อยๆหดเข้ามาจุดที่พอดี และมีความคิดมากขึ้น เรียกว่าใช้พลังความกลัวช่วยกระตุ้นเตือนจิตสำนึก

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.พ. 2013, 01:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ม.ค. 2010, 03:39
โพสต์: 55

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


I could not agree more with the 2nd post. Good practical advice.

If he is not in for the third precept, he should be scared of AIDS. It is the HELL on Earth.

Remind him that no AIDS vaccine is available yet, even STDS are bad enough. Even HIV drugs might slow your death, but your brain will be on fire from drug toxicity. And you need those expensive drugs for the rest of your life, not to mention the public perception about you.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.พ. 2013, 06:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ธ.ค. 2011, 07:44
โพสต์: 142

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลำพังถ้าแค่ใช้จินตนาการ แต่ยังไม่ได้ลงมือกระทำ มันก็เหมือนพวกโรคจิตอย่างหนึ่งที่หมกมุ่นแต่เรื่องเพศ จิตใจตกต่ำ วันๆเอาแต่คิดเรื่องแบบนี้ ทำอะไรก็ไม่ค่อยเจริญหรอกค่ะ เพราะแทนที่จะเอาสมองไปคิดเรื่องดีๆที่สร้างสรรค์ กลับใช้ไปในทางที่เสื่อมทราม คุณเตือนสติเพื่อนได้ แต่ถ้าเพื่อนไม่รับฟัง ไม่สนใจ คุณก็ทำอะไรเขาไม่ได้ค่ะ ก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามยถากรรมค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.พ. 2013, 14:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2013, 11:46
โพสต์: 137


 ข้อมูลส่วนตัว


มะกอกมะนาว เขียน:
ลำพังถ้าแค่ใช้จินตนาการ แต่ยังไม่ได้ลงมือกระทำ มันก็เหมือนพวกโรคจิตอย่างหนึ่งที่หมกมุ่นแต่เรื่องเพศ จิตใจตกต่ำ วันๆเอาแต่คิดเรื่องแบบนี้ ทำอะไรก็ไม่ค่อยเจริญหรอกค่ะ เพราะแทนที่จะเอาสมองไปคิดเรื่องดีๆที่สร้างสรรค์ กลับใช้ไปในทางที่เสื่อมทราม คุณเตือนสติเพื่อนได้ แต่ถ้าเพื่อนไม่รับฟัง ไม่สนใจ คุณก็ทำอะไรเขาไม่ได้ค่ะ ก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามยถากรรมค่ะ


เป็นแบบนั้นแหละค่ะ ดิฉันก็ไม่รู้จะให้คำแนะนำเพื่อนยังไง จึงได้เข้ามาขอคำแนะนำที่นี่ คือเราสนิทกัน
เรียกว่าเพื่อนซี้เลยล่ะค่ะ ก็ได้แต่เป็นห่วง

.....................................................
อันความกรุณาปราณี จักมีใครบังคับก็หาไม่ หลั่งมาเองดั่งน้ำทิพย์ชโลมใจ จากฟากฟ้าสุลาลัยสู่แดนดิน
มอง...ข้างหน้า ให้เป็นความหวัง มอง...ข้างหลัง ให้เป็นบทเรียน มอง...สิ่งที่มัน หมุนเวียน เพื่อยอมรับ...การเปลี่ยนไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.พ. 2013, 20:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2013, 11:46
โพสต์: 137


 ข้อมูลส่วนตัว


ความอร่อยกลางกองทุกข์
(ความลวงของกาม)


มาคัณฑิยะ ! บุรุษโรคเรื้อน มีตัวเป็นแผล สุกปลั่ง ถูกตัวเชื้อโรค
แทะกัดอยู่ ใช้เล็บเกาปากแผลอยู่ รมตัวอยู่ที่หลุมถ่านไฟ. มาคัณฑิยะ ! เขา
ทำเช่นนั้นอยู่เพียงใด, ปากแผลของเขา ก็ยิ่งไม่สะอาด ยิ่งมีกลิ่นเหม็น และ

เปื่อยเน่ามากยิ่งขึ้น อยู่เพียงนั้น, จะมีความรู้สึกสักว่า ความพอใจ และความ
สบายเนื้ออยู่บ้าง ก็ตรงที่แผลได้รับการเกาหรือการอบอุ่น เพราะไฟนั้นเป็นเหตุ
ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ;
มาคัณฑิยะ ! อุปไมยก็ฉันนั้น คือ สัตว์ทั้งหลาย ยังเป็นผู้ไม่ไป
ปราศจากความกำหนัดในกามทั้งหลาย ถูกกามตัณหาแทะกัดอยู่ ถูกความเร่าร้อน
เพราะกามแผดเผาอยู่ ก็ยังขืนเสพกามทั้งหลายอยู่นั่นเอง. มาคัณฑิยะ ! เขายัง
ทำเช่นนั้น อยู่เพียงใด, กามตัณหาของสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น ย่อมเจริญขึ้น
ด้วย เขาถูกความเร่าร้อนเพราะกามแผดเผาอยู่ด้วย และสัตว์เหล่านั้น จะมีความ
รู้สึกสักว่าความพอใจ และความสบายเนื้ออยู่บ้าง ก็ตรงที่รสอันอาศัยกามคุณ ๕
เป็นเหตุอยู่เพียงนั้น เท่านั้นแล.
- ม. ม. ๑๓/๒๗๔/๒๘๕.

.....................................................
อันความกรุณาปราณี จักมีใครบังคับก็หาไม่ หลั่งมาเองดั่งน้ำทิพย์ชโลมใจ จากฟากฟ้าสุลาลัยสู่แดนดิน
มอง...ข้างหน้า ให้เป็นความหวัง มอง...ข้างหลัง ให้เป็นบทเรียน มอง...สิ่งที่มัน หมุนเวียน เพื่อยอมรับ...การเปลี่ยนไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.พ. 2013, 16:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


มันก็พูดลำบากสำหรับคนที่ยังชอบเรื่องนี้มาก เข้าขั้นหมกมุ่น
ก็อยากเสนอว่า

พูดสิ่งที่ควรพูด ตามความเหมาะสมของโอกาส
คือ มีการชวนกันทำบุญกุศลเพื่อให้เป็นต้นทุนของจิตใจเขานะคะ
เราเองต้องทำความเข้าใจด้วยว่า คนทุกคนไมไ่ด้เห็นสัจธรรมเหมือนกันหมด
สิ่งที่เราทำได้ คือ เอื้อเฟื้อให้เขามีทุนติดตัว ก็ทำการกุศลไว้นะเอง

โดยอย่าลืมสอดแทรกโทษของการหมกมุ่นในกามไปด้วยตามความเหมาะสม
อาจเป็นการบอกว่า ไม่ควรไปมีใจอะไรกับแฟนคนอื่นมากนัก ผู้ชายมีเจ้าของ
ร่างกายสวยที่ไหน เนื้อ หนัง เอ็น กระดูก ทั้งนั้น, ควรจะเก็บอาการบ้าง ฯลฯ
ก็ตามสถานการณ์แล้วกันค่ะ

กรณีแบบนี้ คห.ส่วนตัว คิดว่า เราควรพูดโดยอิงหลักธรรม ได้แก่

-ไม่พูดส่งเสริมเรื่องกาม เช่น เอออวยว่า ดี หรือ สัพยอก ป้อยอกันเรื่องนี้
-พูดในเรื่องสัจธรรมกันบ้างตามวาระ เขารับได้แค่ไหนก็แค่นั้น แนะนำกันเรื่องศีล ๕ บ้าง
หรือบอกกันบ้าง ว่า เออ เพื่อนเอ้ย อย่าหมกมุ่นนักเลย มันไม่จีรังนะร่างกายน่ะ ฯลฯ

ไม่รู้จะช่วยอะไรได้หรือเปล่านะคะ
แต่ว่า เราก็ช่วยเหลือเอื้อเฟื้อในสิ่งที่เราทำได้ไม่เกินขอบเขตก็ดีมากแล้วค่ะ

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.พ. 2013, 13:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2013, 11:46
โพสต์: 137


 ข้อมูลส่วนตัว


Hanako เขียน:
มันก็พูดลำบากสำหรับคนที่ยังชอบเรื่องนี้มาก เข้าขั้นหมกมุ่น
ก็อยากเสนอว่า

พูดสิ่งที่ควรพูด ตามความเหมาะสมของโอกาส
คือ มีการชวนกันทำบุญกุศลเพื่อให้เป็นต้นทุนของจิตใจเขานะคะ
เราเองต้องทำความเข้าใจด้วยว่า คนทุกคนไมไ่ด้เห็นสัจธรรมเหมือนกันหมด
สิ่งที่เราทำได้ คือ เอื้อเฟื้อให้เขามีทุนติดตัว ก็ทำการกุศลไว้นะเอง

โดยอย่าลืมสอดแทรกโทษของการหมกมุ่นในกามไปด้วยตามความเหมาะสม
อาจเป็นการบอกว่า ไม่ควรไปมีใจอะไรกับแฟนคนอื่นมากนัก ผู้ชายมีเจ้าของ
ร่างกายสวยที่ไหน เนื้อ หนัง เอ็น กระดูก ทั้งนั้น, ควรจะเก็บอาการบ้าง ฯลฯ
ก็ตามสถานการณ์แล้วกันค่ะ

กรณีแบบนี้ คห.ส่วนตัว คิดว่า เราควรพูดโดยอิงหลักธรรม ได้แก่

-ไม่พูดส่งเสริมเรื่องกาม เช่น เอออวยว่า ดี หรือ สัพยอก ป้อยอกันเรื่องนี้
-พูดในเรื่องสัจธรรมกันบ้างตามวาระ เขารับได้แค่ไหนก็แค่นั้น แนะนำกันเรื่องศีล ๕ บ้าง
หรือบอกกันบ้าง ว่า เออ เพื่อนเอ้ย อย่าหมกมุ่นนักเลย มันไม่จีรังนะร่างกายน่ะ ฯลฯ

ไม่รู้จะช่วยอะไรได้หรือเปล่านะคะ
แต่ว่า เราก็ช่วยเหลือเอื้อเฟื้อในสิ่งที่เราทำได้ไม่เกินขอบเขตก็ดีมากแล้วค่ะ


ขอบคุณนะคะคุณ ฮันน่า ติดอยู่ตรงที่เพื่อนดิฉันไม่ชอบไปวัดนี่สิ่คะ เขาเคยบอกดิฉันว่าการไปวัดมันน่าเบื่อ ไม่มีอะไรทำ(คือไม่มีแสงสี สิ่งรื่นเริงใจ ประมาณนั้น) เรื่องแฟนคนอื่นนั่นไม่ใช่ประเด็รหรอกค่ะ ประเด็นคือ เพื่อนดิฉันชอบผู้ชายทุกคนที่เห็นนั่นแหละค่ะ จะแฟนใครหรือไม่ใช่แฟนใครเธอก็จะเก็บมาจินตนาการ ส่วนเรื่องการไปมีอะไรก็นานๆครั้งค่ะ แต่ถึงจะจินตนาการดิฉันก็กลัวว่าเพื่อนจะอยู่ในภวังค์จนลืมโลกแห่งความจริง หากเป็นแบบนั้นมันก็จะกลับมายากนะคะ แต่หากดิฉันทำสุดความสามารถแล้ว บางทีก็ต้องปล่อยไปตามเวรกรรมนะคะ ดิฉันอาจรู้สึกผิดบ้างที่ช่วยเพื่อนไม่ได้ แต่ก็คงต้องยอมรับกฏแห่งกรรม เราฝืนลิขิตไม่ได้ แต่ก็ได้แต่หวังว่าจะดึงเพื่อนกลับมาสู่โลกความจริงได้ จะพยายามนะคะ

.....................................................
อันความกรุณาปราณี จักมีใครบังคับก็หาไม่ หลั่งมาเองดั่งน้ำทิพย์ชโลมใจ จากฟากฟ้าสุลาลัยสู่แดนดิน
มอง...ข้างหน้า ให้เป็นความหวัง มอง...ข้างหลัง ให้เป็นบทเรียน มอง...สิ่งที่มัน หมุนเวียน เพื่อยอมรับ...การเปลี่ยนไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.พ. 2013, 13:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2013, 11:46
โพสต์: 137


 ข้อมูลส่วนตัว


fatcat เขียน:
I could not agree more with the 2nd post. Good practical advice.

If he is not in for the third precept, he should be scared of AIDS. It is the HELL on Earth.

Remind him that no AIDS vaccine is available yet, even STDS are bad enough. Even HIV drugs might slow your death, but your brain will be on fire from drug toxicity. And you need those expensive drugs for the rest of your life, not to mention the public perception about you.


Yes, but I have been tried. The problem is he didnt like to go to temple:awful and nothing to do. He likes whatever which will entertain his life. I dont really
know what else I can do more. He know what was the AIDs, he told me
that he had safe * by used condom in each times. Well, I can't really say
nothing more.

.....................................................
อันความกรุณาปราณี จักมีใครบังคับก็หาไม่ หลั่งมาเองดั่งน้ำทิพย์ชโลมใจ จากฟากฟ้าสุลาลัยสู่แดนดิน
มอง...ข้างหน้า ให้เป็นความหวัง มอง...ข้างหลัง ให้เป็นบทเรียน มอง...สิ่งที่มัน หมุนเวียน เพื่อยอมรับ...การเปลี่ยนไป


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 32 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร