รักมากทุกข์มาก รักน้อยทุกข์น้อย ท่านคิดว่า ฝึกอย่างไร
ทำอย่างไรจึงจะไม่ทุกข์ ไม่เดือดร้อนมาก ..
| ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
| ความรัก กับ ความทุกข์ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=27&t=46119 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
| เจ้าของ: | วิริยะ [ 15 ส.ค. 2013, 08:25 ] |
| หัวข้อกระทู้: | ความรัก กับ ความทุกข์ |
รักมากทุกข์มาก รักน้อยทุกข์น้อย ท่านคิดว่า ฝึกอย่างไร ทำอย่างไรจึงจะไม่ทุกข์ ไม่เดือดร้อนมาก ..
|
|
| เจ้าของ: | McArowana [ 15 ส.ค. 2013, 08:45 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ความรัก กับ ความทุกข์ |
ด้วยความเคารพนะครับ ผมว่าท่านก็เขียนตรงดีแล้วครับ ว่ารักมากก็ทุกข์มาก รักน้อยก็ทุกข์น้อย แปลจากที่ท่านเขียน ความรักทั้งแท่งนั่นแหละครับคือสมุทัยทั้งแท่งเลย แต่เราจะเลือกอยู่กับความรักแบบไหนดีกว่าครับ รู้ว่าไฟแล้วทำไมไปจับเล่น มันไม่เย็นเลยหนาน่าบัดสี ครั้นถูกไฟไหม้เผาเศร้าโศกี น่าจะตีเสียให้ช้ำระกำทรวง ฉะนั้นถ้าคิดจะเล่นกับไฟ ก็ต้องมีความรู้ความสามารถจริงไหมครับ หาเครื่องป้องกัน หรือหาอะไรก็ตามแต่เพื่อป้องกันความร้อนของเพลิงไฟครับ แค่นี้เองท่านก็จะเล่นกับไฟได้โดยไม่ร้อน แต่ต้องอย่าประมาทนะครับ เพราะไฟสามารถกลับมาแผดเผาตัวเราได้เสมอครับ เหมือนหมองูที่ส่วนมากจะตายเพราะงูครับ แต่หมองูที่อยู่กับงูตลอดทั้งชีวิตโดยไม่เป็นอะไนก็เยอะแยะครับ ด้วยความเคารพ ไม่รู้ว่าตอบตรงประเด็นหรือเปล่านะครับ 
|
|
| เจ้าของ: | Hanako [ 15 ส.ค. 2013, 20:26 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ความรัก กับ ความทุกข์ |
เรื่องนี้เกรงว่าจะต้องจ่ายยาหลายขนานเลยคุณวิริยะ  เรื่องมันยากจัง รักแต่ไม่ให้เดือดร้อน คิดว่า อย่างง่ายที่สุดก็คือ อย่าทำผิดเพราะอำนาจความรัก ถ้าไม่ทำผิด (เช่น ศีล ๕) ทุกข์ที่จะเกิดเพราะรักมันก็เบาลงมาเยอะแล้วอะ หลักการประจำใจของฮานาโกะจัง คือ ในเมื่อเรายังมีรักมีชังอยู่ ก็แม้จะรักหรือชังอย่างไีร ก็อย่าให้มันเหนือศีล ๕ กุศลกรรมบถ ๑๐ เรื่องรักหรือชังเป็นสิ่งที่เราต้องพิจารณาละ พิจารณาโทษของมันเอาเองในจิตใจเรา แต่กายกรรม วจีกรรม ต้องไม่นอกเหนือศีลธรรม ไม่ปล่อยให้อำนาจความรัก อำนาจความชัง มาสั่งให้เราทำผิด ทำกรรมชั่ว แม้จะต้องตัดใจ ต้องน้ำตานองหน้า ก็ต้องอดทนได้  ในเมื่อเราเชื่อการเวียนว่ายตายเกิด เราก็ไม่ควรยึดมั่นให้มันมากเข้าไป ควรจะพยายามถ่ายถอนมันออกจากใจเราดีกว่า ต่อให้ร้องไห้แค่ไหนก็ร้องได้แค่ตาย ตายแล้วก็หยุดร้องไห้แน่ๆ แต่ถ้าทำผิดบาปไป ตายไปแล้วยังไม่จบเนี่ยสิ น่ากลัวอะ  โดยส่วนตัว ธรรมะที่เตือนใจไว้เมื่อต้องเผชิญกับเรื่องรักๆชังๆ คือ อคติ ๔ ใช้ได้กับทุกๆเรื่องเลย จะที่ทำงาน จะในครอบครัว เพื่อนฝูง แบบว่า...แม้จะชอบก็ชอบไว้ในใจ แม้จะชังก็ชังไว้ในใจ กายวาจาต้องออกมาไม่เกินขอบเขตของศีลและธรรมตามสติปัญญาที่มีเสมอๆ ความตั้งใจมั่นว่าจะดำรงตนในกุศลกรรมบถ เป็นกำแพงที่แข็งแรง กั้นความโกรธก็พอเอาอยู่ โกรธแต่อดกลั้นไว้ได้ด้วยความตั้งใจมั่น ความรักก็มีค่าเท่ากับความชังความโกรธในแง่ที่ทำให้เราเสื่อมจากความไม่ลำเอียงได้เท่าๆกัน เรือลำน้อยจะแล่นไปได้อย่างไรถ้าโคลงเคลงตลอดเวลา โคลงเคลงไปมามันก็รอเวลาล่มลงเท่านั้นเองอะค่ะ ฮานาโกะคิดอย่างนี้นะ เพราะยังไม่ถึงขั้นที่เมตตาถ้วนหน้าเสมอกันไปหมด ชอบเป็นพิเศษไม่ค่อยมี แต่ชังนิดๆหน่อยๆนี่มีเรื่อยเหมือนกัน  คนสุบบุหรี่มายืนใกล้ๆก็หน้าเบะแล้ว มีใจเสียไปบ้าง 
|
|
| เจ้าของ: | วิริยะ [ 16 ส.ค. 2013, 07:34 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ความรัก กับ ความทุกข์ |
McArowana เขียน: ด้วยความเคารพนะครับ ผมว่าท่านก็เขียนตรงดีแล้วครับ ว่ารักมากก็ทุกข์มาก รักน้อยก็ทุกข์น้อย แปลจากที่ท่านเขียน ความรักทั้งแท่งนั่นแหละครับคือสมุทัยทั้งแท่งเลย แต่เราจะเลือกอยู่กับความรักแบบไหนดีกว่าครับ  Hanako เขียน: เรือลำน้อยจะแล่นไปได้อย่างไรถ้าโคลงเคลงตลอดเวลา โคลงเคลงไปมามันก็รอเวลาล่มลงเท่านั้นเองอะค่ะ เพราะไม่ซื่อสัตย์ ไม่ซื่อตรง ทำร้ายน้ำใจกัน เรือเลยโคลงเคลงไปมาเน้ออ .. สาธุโมทนาทั้งสองท่านครับ .. 
|
|
| เจ้าของ: | วิริยะ [ 17 ส.ค. 2013, 07:43 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ความรัก กับ ความทุกข์ |
สามีภรรยา แบ่งได้ ๔ ประเภท คือ ๑. เทวดาอยู่กับเทวดา ๒. เทวดาอยู่กับผี ๓. ผีอยู่กับเทวดา ๔. ผีอยู่กับผี - แบบที่หนึ่ง อยู่กันจนแก่เฒ่าถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร - แบบที่สอง-สามนี่ สะบักสะบอม รอดมั้งไม่รอดมั้ง เอาแต่ใจตัวเองเป็นที่ตั้ง ไม่มีอะลุ่มอะล่วย ไม่เอาใจเขามาใส่ใจเรา ชอบยื่นคำขาด ตั้งแง่ทุกเรื่อง ยอมกันไม่เป็น ชอบเอาชนะ เป็นคนเจ้าชู้ หาเศษหาเลย ฯลฯ - แบบที่สี่ ต้องตายกันไปข้างแน่ ไปไม่รอด สำรวจตัวเราหน่อยว่า เรานี่เป็นเทวดาหรือเป็นผีกันหนอ .. |
|
| เจ้าของ: | วิริยะ [ 18 ส.ค. 2013, 07:41 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ความรัก กับ ความทุกข์ |
สิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนี้ย่อมมีเหตุมีผล เหตุดี ผลย่อมดี เหตุไม่ดี ผลย่อมไม่ดี สิ่งที่เกิดกับเราทั้งดีและไม่ดีย่อมมีเหตุมาก่อน การยอมรับเหตุผลนี้ ปัญหาทุกอย่างย่อมแก้ง่าย ถ้าปฏิเสธหลักของเหตุและผลนี้ การแก้ปัญหาก็ยาก คือมองไม่เห็นเหตุ จึงแก้ปัญหาไม่ถูก ชีวิตย่อมมีแต่ทุกข์ร่ำไป .. |
|
| เจ้าของ: | ฟ้าใสใส [ 18 ส.ค. 2013, 16:33 ] | ||
| หัวข้อกระทู้: | Re: ความรัก กับ ความทุกข์ | ||
| ที่ใดมีรัก..ที่นั่นมีทุกข์ ที่ มีรักประจักษ์ใจใครก็เห็น ใด ล้วนเป็นเช่นนั้นรักกันแล้ว มี สุขทุกข์คลุกคละปะปนแนว รัก มิแคล้วทุกข์เศร้าเข้าตำรา ที่ มีรักตระหนักเถิดจะเกิดผล นั่น คือคนใจปนเปเรรวนหา มี รักไม่ใช่สุขสมอารมณ์พา ทุกข์ มายาพาให้ตรองลองดูเอย ...  ♡✿(◕‿◕)✿♡ กราบอนุโมทนาบุญกับท่านผู้เจริญในธรรมและกัลยาณมิตรทุกท่าน ธรรมรักษา เทวดาคุ้มครอง ขอให้ท่านเจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะเจ้าค่ะ ♡✿(◕‿◕)✿♡
|
|||
| เจ้าของ: | วิริยะ [ 19 ส.ค. 2013, 06:15 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ความรัก กับ ความทุกข์ |
ขอบคุณ คุณฟ้าใสใส คุณดอกจำปี ที่ร่วมแสดงความคิดเห็นนะครับ ..
|
|
| เจ้าของ: | วิริยะ [ 19 ส.ค. 2013, 07:33 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ความรัก กับ ความทุกข์ |
ความรักไม่ว่ารูปแบบใด ต้องมีการพลัดพราก ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่หรือตายจากไป ซึ่งทำให้เกิดทุกข์ โทมนัส เศร้าโศกเสียใจ เรียกว่า "โสกะปริเทวะ อุปายาส" .. ความรักระหว่างคู่รัก เมื่อขาดความซื่อสัตย์ โกหกหลอกลวงกัน ทำลายน้ำใจกัน ความรัก บางครั้งก็กลายเป็นความแค้น ความอาฆาตพยาบาท "จองเวร" "เวร" คือ ความเป็นศัตรูกันของบุคคล ๒ คนหรือ ๒ ฝ่าย เพราะฝ่ายหนึ่งก่อกรรม อีกฝ่ายหนึ่งก็ผูกใจเจ็บคิดแก้แค้น ถ้าไม่ผูกใจเจ็บ ก็ไม่เกิดเป็น "เวร" โดยสมบูรณ์ "กรรม" เมื่อให้ผลแล้ว ก็หมดไป "เวร" เมื่อทั้งสองฝ่ายยังผูกใจเจ็บเป็นศัตรูกัน ก็ยังไม่ระงับ "เวร" จึงอาจยาวก็ได้ สั้นก็ได้ .. (จาก Facebook ๑๐๐ ปี สมเด็จพระสังฆราช) |
|
| เจ้าของ: | วิริยะ [ 20 ส.ค. 2013, 07:07 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ความรัก กับ ความทุกข์ |
การนึกถีงเรื่องกรรมหรือกฏแห่งกรรม ไม่ใช่การหาทางออกไม่ได้ ไม่คิดที่จะแก้ปัญหาหรือสิ้นคิด .. แต่การคิดถึงเรื่องกฏแห่งกรรม เป็นเรื่องสำคัญในพระพุทธศาสนา ในการแก้ปัญหาชีวิต .. กรรมหรือผลของกรรม เป็นเราเองที่สร้างไว้ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน เมื่อกรรมให้ผล เราก็ต้องแบกรับไว้ด้วยชีวิต .. เพราะในอดีต เราไม่ได้ทำให้เป็น "อโหสิกรรม" คือไม่ยอม "ให้อภัย" นั่นเอง .. |
|
| เจ้าของ: | คนโง่งมงาย [ 20 ส.ค. 2013, 11:45 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ความรัก กับ ความทุกข์ |
เห็นด้วยกับทุกท่าน ที่ใดมีรักที่นั้นมีทุกข์ หากยึดมั่นถือมั่น |
|
| เจ้าของ: | วิริยะ [ 20 ส.ค. 2013, 17:39 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ความรัก กับ ความทุกข์ |
ดอกจำปี เขียน: ทิวาสวัสดิ์ค่ะ  คุณวิริยะ(จะอรุณสวัสดิ์ก็น่าจะล่วงเลยต่อเวลาแล้วนะคะ)  ฉันขออนุญาตแสดงความคิดเห็นแบบส่วนตัวอีกครั้งนะคะ และไม่รู้ว่าจะอีกกี่ครั้งด้วยค่ะ  ยินดีเสมอ แวะมาเยี่ยมอีกนะครับ  คนโง่งมงาย เขียน: เห็นด้วยกับทุกท่าน ที่ใดมีรักที่นั้นมีทุกข์ หากยึดมั่นถือมั่น ถูกแล้วครับ เมื่อเจอปัญหา เราจะได้ทุกข์น้อยลง ..
|
|
| เจ้าของ: | ศิษย์หลวงปู่ทา [ 21 ส.ค. 2013, 07:39 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ความรัก กับ ความทุกข์ |
 “แผ่นผ้าดิบสกรีนธรรมะของหลวงปู่เทสก์” เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ ณ วัดป่าเชิงเลน ซ.จรัลสนิทวงศ์ ๓๗ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ อาคารมอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน แม้แต่เหล็กยังหงิกงอ แต่พอคุ้ยซากเถ้าถ่าน กลับพบสิ่งนี้ที่ยังคงทน แม้แต่พระเพลิงยังละไว้มิกล้าทำลาย “หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี” วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=38&t=42782 |
|
| หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
| Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |
|