วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 20:27  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 62 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ส.ค. 2013, 07:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


took0208 เขียน:
จะทำยังไงดีค่ะ พอจะทำใจได้บ้าง ก็เจอคำพูดของสามี เธอมันเลว เขานั่นแสนดี พูดย้ำเปรียบเทียบตัวเราเสมอ แทบอยากจะแช่งกลับเลย ฉันไม่รวย ไม่ทำงาน และอยู่บ้านเลี้ยงลูก กลับหาว่าไม่ดูแลลูก วันๆ ไม่ทำอะไร เอาแต่นอน ชีวิตนี้เมื่อไหร่จะจบกัน ขอให้หัวใจดวงนี้ขาดกันเสียที เป็นความผิดของฉันที่เธอมีชู้สินะ :b2: :b2: :b2: :b2: :b2: :b2:


ไม่มีใครทำร้ายใจเราได้ มีแต่ตัวเรานั้นเท่านั้นที่ทำร้ายตนเอง
กล้าหาญไว้ค่ะ เราไม่ได้เป็นอย่างเค้าพูด ไม่รับคำพูดนั้นเข้ามาทำร้ายใจเรา
ให้คำพูดที่ได้ยินเป็นเพียงเสียงเข้ามากระทบแล้วก็หายไป แต่เรายังเก็บคำพูดเค้าไว้ไม่ยอมให้มันหายไป
ของไม่ดีคำพูดไม่ดี จะเก็บไว้ทำไม
ได้ยินแล้วรู้ว่าเค้าด่าเรา "เราไม่ได้เป็นอย่างนั้น" บอกโต้ไปในใจเราด้วยใจเข้มแข็ง แล้ววางท่าสง่าไว้ รู้ไว้แต่ว่าเราเป็นไม่อย่างนั้น แล้วจะเสียใจทำไม อยากพูดอะไรก็ให้เค้าพูดไป เรามีสติไว้ สูดลมหายใจเข้า
ออกให้สบายๆ แล้วแผ่เมตตาให้ตนเองทันที พูดท่องไว้ในใจเลย ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข ท่องไปเลย


คำพูดว่ากันให้เร่าร้อนใจเสียใจนั้น หากเค้าพูดมาเค้าต้องมีความเร่าร้อนด้วย เรารับมาเราก็เร่าร้อนด้วย
เราจะรับมาทำไม ปล่อยให้เค้าเร่าร้อนคนเดียวไม่ดีหรือ จริงมั้ย

เราอย่าเอาเข้ามาในใจ ของเสียอย่างนี้ให้เค้าเก็บเอาไว้ มันจะกลับไปสนองเค้าเองแหล่ะค่ะ
ไม่ต้องไปแช่งเค้า เพราะแช่งเค้าไป ใจเราต้องน้อมไปกับคำแช่งนั้นก่อนแล้ว แล้วก็ส่งไปให้คนอื่น
คนที่รับคำแช่งก่อนคนแรกเลยคือเราเอง แล้วถ้าเค้าไม่รับ คำแช่งนั้นก็ตกอยู่ที่เราคนเดียวค่ะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ส.ค. 2013, 17:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ส.ค. 2013, 14:39
โพสต์: 38

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณค่ะ คุณ SOAMUSA ที่ให้ข้อคิดดีๆ เราไม่รับมา เราก็ไม่เจ็บ แต่ยังทำไม่ได้เลย จะพยายามให้มากขึ้น
คงต้องรบกวน คุณ SOAMUSA ช่วยแนะสติอีกนะค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2013, 07:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


took0208 เขียน:
ขอบคุณค่ะ คุณ SOAMUSA ที่ให้ข้อคิดดีๆ เราไม่รับมา เราก็ไม่เจ็บ แต่ยังทำไม่ได้เลย จะพยายามให้มากขึ้น
คงต้องรบกวน คุณ SOAMUSA ช่วยแนะสติอีกนะค่ะ


มันจะต้องใช้เวลาค่ะ เหมือนเราเป็นแผลที่โดนไฟไหม้ รักษาวันเดียวไม่หายแน่ๆ ค่ะ
ดังนั้นวันนี้ยังไม่เห็นผลงาน ยังไม่เห็นผลสำเร็จ แต่ถ้าทำไปเรื่อยๆ มันจะค่อยๆ ดีขึ้นค่ะ
ถ้าตั้งใจเด็ดเดี่ยวก็หายไวค่ะ มันต้องทวนกระแสจึงจะยากสักหน่อยค่ะ จิตที่เศร้าหมอง จิตตัวนี้ส่งไป
อบายภูมิได้ พระพุทธองค์จึงสอนให้ทำจิตใจให้ผ่องใส จิตต้องเกาะเกี่ยวกับกุศลไว้ค่ะ คิดอะไรก็คิดให้
จิตเกิดกุศลไว้ค่ะ อะไรที่เป็นกุศลในใจง่ายๆ แผ่เมตตาให้ตนเองไว้เวลาขุ่นมัวในจิตใจ สวดพุทธคุณ
ทำสมาธิหายใจเข้าออก เข้าบริกรรมพุท ออกบริกรรมโท จิตมันเกาะอยู่กับลมหายใจ มันก็จะไม่คิดเรื่องอื่น

ทำแบบนี้ทำอยู่ในใจ ทำที่ไหนก็ได้ แต่เวลาทำงานที่ใช้สมองคิดก็ต้องเอาจิตไปทำงานนะคะ
ถ้าทำแบบใช้แรงงาน เช่นทำงานบ้าน กวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน แทนที่จะล้างจานไป ฟุ้งไปเศร้าไป
ก็สวดมนต์ซะเลยขณะนั้น หรือไม่ก็ว่า ไม่เที่ยงๆๆๆๆ ท่องบ่นอยู่อย่างนั้นไปเรื่อยๆ ค่ะ

ก็เริ่มด้วยการมีสติก่อนแล้วก็สวดมนต์ หรือว่าอะไรก็ว่าไป ให้จิตของเรากลับมาดูว่าเราอยู่กับการสวด
หรือไม่ จะมีตัวสติที่เป็นผู้รู้ ไปรู้ที่กำลังทำงานสวดมนต์อยู่ คือ ง่ายๆ ว่า ตรวจดูสิว่าสวดมนต์อยู่
หรือเปล่า ถ้าไปฟุ้งซ่านคิด แต่ปากสวด ก็ให้ดึงกลับมาอยู่ที่การสวดมนต์ค่ะ คือมีตัวผู้รู้ไปด้วยค่ะ
ตัวผู้รู้ก็จะให้จิตกลับมากับการสวดมนต์ตลอดค่ะ ดังนั้นการสวดมนต์จิตจึงจะอยู่กับการสวดมนต์ค่ะ

ไม่ว่าจะทำงานกุศลใดๆ เริ่มด้วยการมีสติก่อนค่ะ แล้วทำกุศล ในระหว่างวันก็ให้มีสติเกิดบ่อยๆ ค่ะ

อยากจะบอกว่า ถ้าเราอยู่ในบ้านเรานะ สวดอะไรก็ออกเสียงมาเลยยิ่งดี เทวดาในบ้านได้ยินก็อนุโมทนา
กับเราด้วยค่ะ เทวดาให้ศีลให้พรอีกนะคะ
เพราะการทำกุศลนั้น ถ้าเกิดครบทั้ง 3 ทวาร แจ่มเลยค่ะ 3 ทวารคือ กาย วาจา ใจ
ในแต่ละวัน ทาน ศีล ภาวนา วนทำอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ ถึงวันนี้ไม่ดี วันข้างหน้าก็ต้องดีเพราะเราสร้าง
เหตุในวันนี้ดี ดีกว่าจมอยู่ในกองทุกข์ค่ะ ไม่มีประโยชน์มีแต่โทษ ขอพูดกันตรงๆ นะคะความตายนั้น
ไม่แน่นอนจริงๆ หากเราตายไปช่วงนี้ในช่วงที่จิตใจเราเศร้าหมอง วันๆ ก็เศร้าหมองร้องไห้
รับรองว่า ส่งตรงสู่อบายภูมิ4 นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน

เพราะฉะนั้นรีบหายเสียใจไวๆ ค่ะ เพราะความตายนั้นมันเป็นของไม่แน่นอนค่ะ
:b27: เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆ ค่ะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2013, 09:08 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 เม.ย. 2013, 11:12
โพสต์: 421

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
หวัดดีค๊า.....
เข้ามาเยี่ยมให้กำลังใจซึ่งกันและกันค่ะ...ดิฉันก็ยังไม่หลุดพ้นความทุกข์เหตุจากความรัก ความยึดมั่น ถือมั่น ความไม่ซื่อสัตย์ของสามีเช่นกันค่ะ.....
ก็ได้ร่วมอ่านและทำตามที่เพื่อน ๆ หลายคนได้ให้ข้อคิด ข้อเสนอแนะ ......ก็ค่อยๆดีขึ้นค่ะ.....และก็หวังว่าคุณก็จะดีขึ้นในเร็ววันเช่นกัน.....
คุณ SOAMUSA ค่ะ อ่านข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะของคุณ รู้สึกชื่นชมคุณมากเลยค่ะ....... :b8: :b8:
ก็ได้นำไปปฏิบัติเช่นกันค่ะ...สวดมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกรม ใส่บาตร สนทนาธรรม ได้หรือไม่ได้อะไร ก็ทำไป แค่รู้สึกดี สงบ เย็นก็พอแล้ว ไม่คาดหวังอะไร เรื่องของเขา จะจบอย่างไร ไม่รู้ เหมือนกัน จะเลิก จะหย่า จะกลับมาอยู่กันอีก?? ไม่รู้ ไม่เดา ดูแลเฉพาะตน...ก็พอค่ะ.......ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง มีฟุ้งซ่านบ้างก็ธรรมดา ไม่ฝืน ก็ตามดู และตัดป็นระยะ ๆ ค่ะ .....หากมีอะไรจะเสนอแนะก็ยินดีมากค่ะ ไม่ทราบว่าคุณได้อ่านเรื่องราวของดิฉันหรือเปล่าค่ะ.......ทุกข์จากการจากตายของพ่อ จากเป็นของสามีค่ะ....ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอนจริง ๆ :b18: :b18:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2013, 11:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2007, 13:46
โพสต์: 4

ที่อยู่: ราชบุรี

 ข้อมูลส่วนตัว


สวดมนต์ แผ่เมตตา ให้เขา บ่อย ๆๆ ทุกอย่าง จะดีขึ้นเองค่ะ การแค้น ไม่ เกิดประโยชน์ ใด ๆ เลย มี แต่เพิ่มทุกข์ ให้ กับทุกคนที่เกียวข้อง
ทำใจให้สบายนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้
( เจอ มาเหมือนกัน ) สู้ สู้นะคะ
ร้องไห้ได้ แต่ อย่านาน คะ เสียเวลา เปล่า สร้างบุญให้ตัวเองดีกว่าค่ะ :b45:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2013, 15:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


กล้วยไม้ม่วง เขียน:
tongue
หวัดดีค๊า.....
เข้ามาเยี่ยมให้กำลังใจซึ่งกันและกันค่ะ...ดิฉันก็ยังไม่หลุดพ้นความทุกข์เหตุจากความรัก ความยึดมั่น ถือมั่น ความไม่ซื่อสัตย์ของสามีเช่นกันค่ะ.....
ก็ได้ร่วมอ่านและทำตามที่เพื่อน ๆ หลายคนได้ให้ข้อคิด ข้อเสนอแนะ ......ก็ค่อยๆดีขึ้นค่ะ.....และก็หวังว่าคุณก็จะดีขึ้นในเร็ววันเช่นกัน.....
คุณ SOAMUSA ค่ะ อ่านข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะของคุณ รู้สึกชื่นชมคุณมากเลยค่ะ....... :b8: :b8:
ก็ได้นำไปปฏิบัติเช่นกันค่ะ...สวดมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกรม ใส่บาตร สนทนาธรรม ได้หรือไม่ได้อะไร ก็ทำไป แค่รู้สึกดี สงบ เย็นก็พอแล้ว ไม่คาดหวังอะไร เรื่องของเขา จะจบอย่างไร ไม่รู้ เหมือนกัน จะเลิก จะหย่า จะกลับมาอยู่กันอีก?? ไม่รู้ ไม่เดา ดูแลเฉพาะตน...ก็พอค่ะ.......ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง มีฟุ้งซ่านบ้างก็ธรรมดา ไม่ฝืน ก็ตามดู และตัดป็นระยะ ๆ ค่ะ .....หากมีอะไรจะเสนอแนะก็ยินดีมากค่ะ ไม่ทราบว่าคุณได้อ่านเรื่องราวของดิฉันหรือเปล่าค่ะ.......ทุกข์จากการจากตายของพ่อ จากเป็นของสามีค่ะ....ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอนจริง ๆ :b18: :b18:


tongue สวัสดีค่ะ
ดิฉันเข้าไปอ่านเรื่องของคุณแล้ว ก็น่าเห็นใจมากทีเดียว ในขณะที่กำลังมีความทุกข์ที่พ่อป่วย
สามีก็ทำเรื่องซ้ำเติมอีก แต่มันก็ผ่านไปแล้ว คุณคงไม่อยากได้สามีกลับมาแล้วใช่มั้ยคะ

ดูว่าคุณมีความสุขดีขึ้นแล้ว จะกลับย้อนไปทุกข์อีกทำไม ถ้าอยู่คนเดียวได้มุ่งทำกุศลไปมีโอกาสดีๆแล้ว
คุณรู้หรือไม่ว่า ขณะนี้คุณมีโอกาสดีกว่าคนหลายๆ คน คุณมีงานทำมีเงินใช้จ่าย มีเวลาเป็น
ของตนเองล้วนๆ คุณสามารถหิ้วกระเป๋าไปปฏิบัติธรรมที่ไหนก็ได้ เงินก็มี อิสระก็มี คุณสมบัตินี้เป็นสิ่งที่
กุศลส่งค่ะ

แต่หากสามีอยากกลับมาคืนดี ดูๆ แล้วเค้าไม่ธรรมดานะคะ หากคุณไม่คิดจะกลับไปคืนดี ดิฉันก็ห่วงใน
เรื่องความปลอดภัยของคุณด้วยค่ะ ถ้าหากคุณไม่คิดจะคืนดี ก็ระวังตัวไว้บ้างค่ะ เพราะเค้ากลับมาอยู่
กับคุณต่อไป เค้าก็ไม่ต้องทำงานก็ได้ เค้าเคยสบาย จากคุณไปก็คงลำบากอยากจะกลับมาสบาย

เรื่องความปลอดภัยให้มองในแง่ร้ายไว้ค่ะ คือระวังตัวไว้ก่อนค่ะ
ไม่มีอะไรดีไปกว่าธรรมะของพระพุทธองค์ ดิฉันเคยมีความทุกข์มาก รักษาหายได้เพราะพระธรรม
พระธรรมเหมือนยารักษาใจได้ดีที่สุดค่ะ

ดีใจกับคุณด้วยค่ะที่มุ่งการปฏิบัติธรรม
:b8: ขออนุโมทนาสาธุในบุญกุศลด้วยคนค่ะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2013, 15:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


ช่อม่วง เขียน:
สวดมนต์ แผ่เมตตา ให้เขา บ่อย ๆๆ ทุกอย่าง จะดีขึ้นเองค่ะ การแค้น ไม่ เกิดประโยชน์ ใด ๆ เลย มี แต่เพิ่มทุกข์ ให้ กับทุกคนที่เกียวข้อง
ทำใจให้สบายนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้
( เจอ มาเหมือนกัน ) สู้ สู้นะคะ
ร้องไห้ได้ แต่ อย่านาน คะ เสียเวลา เปล่า สร้างบุญให้ตัวเองดีกว่าค่ะ :b45:



:b8: ขออนุโมทนาสาธุในจิตใจอันดีงามที่มีต่อกัลยาณมิตรด้วยกันค่ะ
เห็นด้วยค่ะ เรารักตัวเองกันดีกว่าด้วยการทำกุศลกันต่อไปค่ะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2013, 21:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ส.ค. 2013, 14:39
โพสต์: 38

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบพระคุณทุกๆ ท่านนะค่ะ ที่ให้คำแนะนำที่ดี อ่านแล้วดีใจที่ยังมีคนเข้าใจในตัวของดิฉัน ยังรู้ว่า ทุกคนๆ ผ่านความเจ็บปวดมาเหมือนกัน และยังดีขึ้น ดิฉันยังตัดไม่ขาด จะพยายามคิดมันไม่เที่ยง เขาไม่ใช่เนื้อคู่ที่ร่วมทำบุญกันมา ดิฉันจะพยายามทำใจให้ได้ ถึงแม้ว่าจะกลับมาคืนดีกัน วันข้างหน้าเขาก็อาจทำแบบนี้ได้อีก ตัดใจตอนนี้ซะน่าจะดีกว่า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ย. 2013, 10:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ส.ค. 2013, 14:39
โพสต์: 38

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ก็ยังเศร้าอยู่ดี cry cry


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ย. 2013, 15:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


took0208 เขียน:
ก็ยังเศร้าอยู่ดี cry cry


ของคุณคงต้องคอยกินยาเม็ดสุดท้ายแล้วล่ะค่ะ คือ ยาที่ชื่อว่าเวลา :b19:
:b4: ล้อเล่นนะคะ

เชื่อดิ ยังไงมันจะหายแหล่ะ ไม่วันนี้ก็วันข้างหน้า
อย่าไปร้องไห้มากไม่เอาค่ะ เดี๋ยวไม่สวยนะคะ :b2:

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ย. 2013, 20:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ส.ค. 2013, 14:39
โพสต์: 38

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สงสัยจะเป็นยาแบบนั้น จริงๆ ยาที่ชื่อ เวลา Kiss


ไว้ใจมากก็เจ็บมาก แต่ต้องใช้เวลาจริงๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2013, 19:08 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ส.ค. 2013, 14:39
โพสต์: 38

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทุกข์อยู่ได้ เมื่อไหร่จะหายนะ ตอนนี้เขาก็เอาลูกมาเป็นข้อต่อรอง ให้ดิฉันต้องจำยอมอีก เวลามาก็แอบไปเดินคุยโทรหากันเป็นชั่วโมง ไม่รู้ว่าจะมาทำไม มาเพื่ออะไร แค่รู้ว่าเขาคุยกัน ตัวเราก็โกรธ ก็มันยังตัดไม่ขาด คอยแต่นึกถึงวันเก่าๆ อีก เฮ้อ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2013, 21:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


took0208 เขียน:
ทุกข์อยู่ได้ เมื่อไหร่จะหายนะ ตอนนี้เขาก็เอาลูกมาเป็นข้อต่อรอง ให้ดิฉันต้องจำยอมอีก เวลามาก็แอบไปเดินคุยโทรหากันเป็นชั่วโมง ไม่รู้ว่าจะมาทำไม มาเพื่ออะไร แค่รู้ว่าเขาคุยกัน ตัวเราก็โกรธ ก็มันยังตัดไม่ขาด คอยแต่นึกถึงวันเก่าๆ อีก เฮ้อ


ผู้หญิงที่จะขวางผู้ชายไม่ให้มีเมียน้อยได้นั้น หายากค่ะ ไล่คนนี้ออกไปได้ คนใหม่ก็มาอีก
เสียเวลาชีวิตจริงๆ ค่ะ คุณคอยดูไปล่ะกัน หมดคนนี้คนใหม่ก็มา คุณจะเหนื่อยจนคุณชินไปเอง
คุณจะเสียใจจนด้านชาไปเองค่ะ ช่วงนี้เพิ่งเริ่มออร์เดิร์ฟค่ะ เมนคอร์ดอาจจะยังไม่เสริฟก็ได้นะคะ

ทำใจเถอะค่ะ หากเค้ายังดูแลลูก แล้วมีเงินให้ใช้ ก็อยู่ๆ ไปค่ะ เพราะเราเองก็ไม่ได้คิดจะมีใครใหม่
แล้วจะทำไงล่ะ ก็ต้องอยู่ๆ ไปให้ลูกมีพ่อ จะได้ให้ลูกรู้สึกไม่พร่องมีทั้งพ่อทั้งแม่ ลูกจะเติบโตมีความสุข
นะคะ ดิฉันเคยไล่สามีออกจากบ้านไปครึ่งปี ลูกน้อย2 คนเหงาอย่างเห็นได้ชัดเจนเลยค่ะ สงสารลูกนะคะ
ถ้าคุณทนได้ก็ทนไปนะคะเพื่อลูก แล้วอีกหน่อยสามีคุณเค้าไม่มีใคร เค้าก็เป็นของคุณคนเดียวแหล่ะค่ะ
เดี๋ยวบางทีถึงจุดๆ หนึ่ง สามีเค้าก็อาจจะยอมมอบตัวกับคุณเองนะคะ เลิกวุ่นวายไปเองก็มีค่ะ

ดิฉันเคยเห็นสามีบางคนนะคะ เหมาหมดทุกอย่างทั้งเจ้าชู้ ทั้งเที่ยวทั้งเมา
อยู่มาวันหนึ่ง เกิดไปเจอจุดพลิกผันขึ้นมาอย่างไรไม่ทราบ เปลี่ยนจากหลังเท้าเป็นหน้ามือเลยค่ะ
แทบจะออกบวชได้เลยนะคะ กลายเป็นสามีที่สุดประเสริฐขึ้นมาค่ะ คือเพื่อนดิฉันเองแหล่ะค่ะ

ทนๆ กันไปเถอะ ไม่รู้วันหน้าใครจะเป็นอย่างไรนะคะ ดิฉันก็แค่ยกตัวอย่างให้อ่านเท่านั้นแหล่ะค่ะ :b27:

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ย. 2013, 10:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ส.ค. 2013, 18:18
โพสต์: 18

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


SOAMUSA เขียน:
took0208 เขียน:
ทุกข์อยู่ได้ เมื่อไหร่จะหายนะ ตอนนี้เขาก็เอาลูกมาเป็นข้อต่อรอง ให้ดิฉันต้องจำยอมอีก เวลามาก็แอบไปเดินคุยโทรหากันเป็นชั่วโมง ไม่รู้ว่าจะมาทำไม มาเพื่ออะไร แค่รู้ว่าเขาคุยกัน ตัวเราก็โกรธ ก็มันยังตัดไม่ขาด คอยแต่นึกถึงวันเก่าๆ อีก เฮ้อ


ผู้หญิงที่จะขวางผู้ชายไม่ให้มีเมียน้อยได้นั้น หายากค่ะ ไล่คนนี้ออกไปได้ คนใหม่ก็มาอีก
เสียเวลาชีวิตจริงๆ ค่ะ คุณคอยดูไปล่ะกัน หมดคนนี้คนใหม่ก็มา คุณจะเหนื่อยจนคุณชินไปเอง
คุณจะเสียใจจนด้านชาไปเองค่ะ ช่วงนี้เพิ่งเริ่มออร์เดิร์ฟค่ะ เมนคอร์ดอาจจะยังไม่เสริฟก็ได้นะคะ

ทำใจเถอะค่ะ หากเค้ายังดูแลลูก แล้วมีเงินให้ใช้ ก็อยู่ๆ ไปค่ะ เพราะเราเองก็ไม่ได้คิดจะมีใครใหม่
แล้วจะทำไงล่ะ ก็ต้องอยู่ๆ ไปให้ลูกมีพ่อ จะได้ให้ลูกรู้สึกไม่พร่องมีทั้งพ่อทั้งแม่ ลูกจะเติบโตมีความสุข
นะคะ ดิฉันเคยไล่สามีออกจากบ้านไปครึ่งปี ลูกน้อย2 คนเหงาอย่างเห็นได้ชัดเจนเลยค่ะ สงสารลูกนะคะ
ถ้าคุณทนได้ก็ทนไปนะคะเพื่อลูก แล้วอีกหน่อยสามีคุณเค้าไม่มีใคร เค้าก็เป็นของคุณคนเดียวแหล่ะค่ะ
เดี๋ยวบางทีถึงจุดๆ หนึ่ง สามีเค้าก็อาจจะยอมมอบตัวกับคุณเองนะคะ เลิกวุ่นวายไปเองก็มีค่ะ

ดิฉันเคยเห็นสามีบางคนนะคะ เหมาหมดทุกอย่างทั้งเจ้าชู้ ทั้งเที่ยวทั้งเมา
อยู่มาวันหนึ่ง เกิดไปเจอจุดพลิกผันขึ้นมาอย่างไรไม่ทราบ เปลี่ยนจากหลังเท้าเป็นหน้ามือเลยค่ะ
แทบจะออกบวชได้เลยนะคะ กลายเป็นสามีที่สุดประเสริฐขึ้นมาค่ะ คือเพื่อนดิฉันเองแหล่ะค่ะ

ทนๆ กันไปเถอะ ไม่รู้วันหน้าใครจะเป็นอย่างไรนะคะ ดิฉันก็แค่ยกตัวอย่างให้อ่านเท่านั้นแหล่ะค่ะ :b27:


จริงค่ะเห็นด้วย สามีดิฉันมีเรื่อยๆ จนดิฉันปล่อยวางเลยค่ะทั้งเที่ยวทั้งดื่ม ใจก็ยังรักยังเลิกไม่ได้ จึงไม่ถือมั่นอะไรสักอย่างเลย เวลาค่ะจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นค่ะ จนมันเบาจนมันไม่หนักค่ะ ทุกข์ได้ก็สุขได้ สุขได้ก็ทุกข์ได้ค่ะ อย่าไปยึดมั่นถือมั่นให้ทุกข์ทำไมค่ะ ฝึกจิตให้เป็นสมาธิปัญญาจะมาเองค่ะ มาสร้างกุศลทำตนให้เป็นประโยชน์มีค่าต่อคนอื่นๆดีกว่าค่ะ เป็นเสบียงเลี้ยงตัวเราดีกว่าค่ะ

และคำ ว่า "ชิน ชา" มันจะมาหาคุณเองโดยไม่รู้ตัว ทำดีต้องได้ดีสิค่ะ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ย. 2013, 21:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ส.ค. 2013, 14:39
โพสต์: 38

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณนะค่ะ สำหรับข้อคิดดีๆ สำหรับดิฉันมันเหมือนภาพย้อนไปรุ่นพ่อ รุ่นแม่ ที่กลับมาตายรังกัน
เห็นแล้วสงสารตัวเองมาก ถ้าต้องแบบนั้นอีก เหมือนเราเป็นผู้หญิงแล้วต้องจำยอมไปหมด เหมือนไม่มีทางให้เดิน ต้องยอมด้วยลูกที่มีกันด้วยความตั้งใจ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 62 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 14 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร