วันเวลาปัจจุบัน 24 เม.ย. 2024, 06:36  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 19 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ต.ค. 2013, 09:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ส.ค. 2013, 15:04
โพสต์: 30

แนวปฏิบัติ: พุทโธ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ต่อเนื่องจากกระทู้เก่าที่สามีไปมีหญิงอื่น ทุกครั้งที่ได้พูดคุยกับสามีเราจะบอกเขาเสมอว่าให้อภัยกับทุกอย่างที่เขาทำกับเรา ไม่โกรธ ขอเพียงแค่มาเริ่มต้นใหม่กลับมาเป็นครอบครัวดังเดิมอยู่กันพ่อแม่ลูก เรายังรัก ห่วงใย อยากดูแลเขาเหมือนที่เคยเป็น นี่ก็เข้าเดือนที่สิบที่ยังหวังว่าสามีจะกลับมา แต่เมื่อคืนคุยทางโทรศัพท์กับสามี สามีบอกว่าเรื่องของเรามันจบไปนานแล้ว ได้ฟังแค่นี้ความรู้สึกมันเปลี่ยนทันที กลายเป็นคิดหาวิธีที่จะทำให้สามีมีปัญหากับผู้หญิงคนนั้น หาทางที่จะทำให้เขาทุกข์เหมือนที่เรารู้สึก แต่อีกด้านของจิตก็เตือนว่านี่เรากำลังจะสร้างกรรมให้ตัวเองนะ เกิดอะไรขึ้นกันแน่กับตัวเองให้อภัยเขายังไง ทำไมยังมีความรู้สึกโกรธเมื่อเขาไม่เลือกเรา ช่วยชี้แนะหน่อยค่ะ ไม่ได้โกรธที่เขาไปมีคนอื่นพร้อมที่เริ่มใหม่ถ้าเขากลับมา แต่โกรธที่เขาไม่เลือกเราทั้งที่อยู่ด้วยกันมาเกือบสิบปี ร่วมหาร่วมสร้างช่วยเหลือจุนเจือทุกด้านจนมี แต่มาวันนี้ความดีของเราไม่มีเหลือเลยในสายตาของสามีแม้แต่นิดเดียว


แก้ไขล่าสุดโดย Pathita เมื่อ 04 ต.ค. 2013, 10:06, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ต.ค. 2013, 09:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความคิดความรู้สึกยังแอบอิงเรื่องนี่อยู่กระมัง ลองสำรวจใจตนเองดูสิครับ :b1:

ปรารถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้นสมปรารถนา ก็เป็นทุกข์ (เมื่อไม่ได้ ก็อยากทำลาย เคียดแค้น ขัดเคือง ชิงชัง ซึ่งเป็นลักษณะของโทสะจิต) พลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักที่พอใจ ก็เป็นทุกข์ โดยสรุป อุปาทานขันธ์ เป็นตัวทุกข (การยึดติดถือมั่นในกายใจทั้งเขาทั้งเรา เป็นตัวทุกข์) ยากครับ แต่แนะนำให้สังเกตดู

อ้างคำพูด:
ไม่ได้โกรธที่เขาไปมีคนอื่นพร้อมที่เริ่มใหม่ถ้าเขากลับมา แต่โกรธที่เขาไม่เลือกเราทั้งที่อยู่ด้วยกันมาเกือบสิบปี ร่วมหาร่วมสร้างช่วยเหลือจุนเจือทุกด้านจนมี แต่มาวันนี้ความดีของเราไม่มีเหลือเลยในสายตาของสามีแม้แต่นิดเดียว



ดูๆความมั่นคงแข็งแรงของสถาบันครอบครัว เหมือนจะตกหนักอยู่ที่เพศแม่ ต้องเป็นฝ่ายประคับประคองประสานไว้ ฝ่ายชายผิดพลาดไป...ก็อภัยให้ได้ ถ้ากลับมาอยู่กันพร้อมหน้าพ่อแม่ลูก แต่ก็เออ...พูดลำบาก...

นั่นก็ปรารถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้นสมหวัง ก็เป็นทุกข์ โทมนัส อุปายาส ....

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ต.ค. 2013, 13:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


Pathita เขียน:
ต่อเนื่องจากกระทู้เก่าที่สามีไปมีหญิงอื่น ทุกครั้งที่ได้พูดคุยกับสามีเราจะบอกเขาเสมอว่าให้อภัยกับทุกอย่างที่เขาทำกับเรา ไม่โกรธ ขอเพียงแค่มาเริ่มต้นใหม่กลับมาเป็นครอบครัวดังเดิมอยู่กันพ่อแม่ลูก เรายังรัก ห่วงใย อยากดูแลเขาเหมือนที่เคยเป็น นี่ก็เข้าเดือนที่สิบที่ยังหวังว่าสามีจะกลับมา แต่เมื่อคืนคุยทางโทรศัพท์กับสามี สามีบอกว่าเรื่องของเรามันจบไปนานแล้ว ได้ฟังแค่นี้ความรู้สึกมันเปลี่ยนทันที กลายเป็นคิดหาวิธีที่จะทำให้สามีมีปัญหากับผู้หญิงคนนั้น หาทางที่จะทำให้เขาทุกข์เหมือนที่เรารู้สึก แต่อีกด้านของจิตก็เตือนว่านี่เรากำลังจะสร้างกรรมให้ตัวเองนะ เกิดอะไรขึ้นกันแน่กับตัวเองให้อภัยเขายังไง ทำไมยังมีความรู้สึกโกรธเมื่อเขาไม่เลือกเรา ช่วยชี้แนะหน่อยค่ะ ไม่ได้โกรธที่เขาไปมีคนอื่นพร้อมที่เริ่มใหม่ถ้าเขากลับมา แต่โกรธที่เขาไม่เลือกเราทั้งที่อยู่ด้วยกันมาเกือบสิบปี ร่วมหาร่วมสร้างช่วยเหลือจุนเจือทุกด้านจนมี แต่มาวันนี้ความดีของเราไม่มีเหลือเลยในสายตาของสามีแม้แต่นิดเดียว


ตัดใจเสียเถอะค่ะ ถ้าสามีกลับมาเมื่อไหร่ ก็ถือซะว่าไปงานกาชาดช้อนไข่หรือสอยดาวมา แล้วได้รางวัลค่ะ
คุณยังรักสามีอยู่มากนะคะ อยากให้เค้ากลับมา เมื่อเค้าไม่มาก็โกรธเป็นธรรมดาค่ะ
เพราะเหตุของความทุกข์คือ ความอยากได้สามีกลับคืน เมื่อไม่ได้ดั่งใจก็ต้องโกรธเสียใจตามมาค่ะ
ถ้าอภัยสามีได้จริง นึกถึงสามีแล้วต้องไม่โกรธ ไม่ว่าเค้าจะทำอะไรให้เสียใจไว้นึกขึ้นมาแล้วไม่โกรธค่ะ

พระพุทธภาษิตในปิยวรรค พระธรรมบท ว่าดังนี้

ปิยโต ชายเต โสโก ความโศกย่อมเกิดแต่สิ่งที่รัก
เปมโต ชายเต โสโก ความโศกย่อมเกิดแต่ความรัก
รติยา ชายแต โสโก ความโศกย่อมเกิดแต่ความยินดี
กามโต ชายเต โสโก ความโศกย่อมเกิดแต่ความใคร่
ตณฺหาย ชายเต โสโก ความโศกย่อมเกิดแต่ความอยาก


สิ่งที่เป็นเหตุให้เกิดความรักก็ดี ความยินดีก็ดี ความใคร่ก็ดี ความอยากก็ดี ซึ่งปรากฏในพระพุทธภาษิต
ทั้งหลายนี้นั้น โดยความหมายเป็นอันเดียวกัน ต่างกันแต่สำนวนโวหารเท่านั้น เมื่อกล่าวโดยปรมัตถนัย
ก็ได้แ่ก่ตัว โลภเจตสิก มีหน้าที่ปรุงแต่งจิต ให้รัก ให้ใคร่ ให้อยากได้ ให้กำหนัดยินดีนั่นเอง
ปุถุชนนั้นย่อมชุ่มโชกด้วยความรัก ความใคร่ ความกำหนัดยินดีในอารมณ์ที่ตนปรารถนา
อยู่ตลอดเวลา ตลอดชีวิตหรือตลอดทุกภพทุกชาติ

ส่วนพระอรหันต์นั้น ท่านตัดโลภเจตสิก หรือโลภกิเลสนี้ พร้อมทั้งภพ ด้วยอาวุธพิเศษ
คือ อรหัตตมรรคญาณเสียแล้ว เมื่อโลภะอันเป็นรากฐานให้เกิดความรักสิ้นสูญไปเสียแล้ว
ความโศกอันเป็นผลจึงพลอยดับสูญไปด้วย ดังพระพุทธภาษิตว่า

เปมโต วิปฺปมุตฺตสฺส นตฺถิ โสโก กุโต ภยํ.
เมื่อหลุดพ้นจากความรักแล้ว ความโศก และความกลัวจะมีมาแต่ที่ไหนเล่า


:b8: :b8: :b8:

ถ้าดิฉันเป็นคุณนะคะ ดิฉันจะกล้าได้กล้าเสียค่ะ ดิฉันจะไม่ง้อ ให้เค้าอยู่กันให้เต็มที่เป็นครอบครัวเลยค่ะ
เพราะการที่เรายังค้างคาคาบเกี่ยวอยู่นั้น ถ้าสมมุติว่าเมียน้อยรู้ว่าเรายังง้อสามีอยู่ เมียจะยิ่งแอ๊บทำตัวดี
น่ารักค่ะ ถ้าเราขาดจากสามี เมียน้อยจะได้เลิกแอ๊บแล้วงัดนิสัยเดิมออกมาค่ะ ลองแย่งสามีชาวบ้านได้
นิสัยที่แอ๊บซ่อนไว้ก็ต้องมีชั่วบ้างแหล่ะค่ะ ให้เค้าอยู่กันสบายๆ เผื่อสามีจะได้ตาสว่าง เปรียบเทียบ
เอาเองว่าใครดี ใครชั่วค่ะ ถ้าคุณเป็นเมียที่ดี แล้วบังเอิญเมียน้อยชั่ว คุณก็มีสิทธิ์ได้สามีคืนค่ะถ้าสามี
ของคุณคิดจะกลับมาเค้าก็จะกลับมาหาคุณเองค่ะ แต่ถ้าบังเอิญไปเจอใครใหม่อีกเค้าก็ไม่กลับค่ะ

(วิธีนี้ไม่คอนเฟริมว่าได้ผลนะคะ แต่ดิฉันจะใช้วิธีนี้แหล่ะค่ะ 2 ครั้งได้ผลทุกครั้งค่ะ )

:b27: เป็นกำลังใจให้นะคะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ต.ค. 2013, 20:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ Pathita ต้องการสามีคืน หรือว่าต้องการชนะเมียน้อยค่ะ คุยแบบเปิดๆมาเลยค่ะ :b12:
วิธีของคุณโสมฯก็ดีน่ะค่ะ ให้เค้า2คนเปิดตัวกันไปเลยค่ะ
คุณ Pathita เป็นผู้ยืนดูสิค่ะ แล้วคุณจะเห็นความตลก
ผู้หญิงที่เค้าคิดจะแย่งสามีคนอื่น เค้าซ่อนความไร้เดียงสาไว้ คนที่เป็นเมียหลวงไม่ทันเค้าหรอกค่ะ
แต่พอเปิดตัวเป็นชีวิตคู่ ต่างคนต่างเปิดทาสแท้ของตัวเองออกมา
เดี๋ยวเค้า2คนก็กระเจิงไปคนล่ะทิศล่ะทางเองล่ะค่ะ ผู้ชายที่เจ้าชู้น่ะ
ถ้าไปให้ค่าเค้ามาก เค้าหลงตัวเองค่ะ :b1:

คุณโสมฯเล่าวิธี ที่ทำให้สามีคุณโสมฯกลับมาให้ฟังบ้างสิค่ะ
เราคิดว่าวิธีของคุณโสมฯ ต้องมีตลกๆปนด้วยแน่นอน
เพราะดูๆแล้ว คุณโสมฯเป็นผู้หญิงที่มั่น :b12: :b41: :b47: :b55:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2013, 09:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
คุณ Pathita ต้องการสามีคืน หรือว่าต้องการชนะเมียน้อยค่ะ คุยแบบเปิดๆมาเลยค่ะ :b12:
วิธีของคุณโสมฯก็ดีน่ะค่ะ ให้เค้า2คนเปิดตัวกันไปเลยค่ะ
คุณ Pathita เป็นผู้ยืนดูสิค่ะ แล้วคุณจะเห็นความตลก
ผู้หญิงที่เค้าคิดจะแย่งสามีคนอื่น เค้าซ่อนความไร้เดียงสาไว้ คนที่เป็นเมียหลวงไม่ทันเค้าหรอกค่ะ
แต่พอเปิดตัวเป็นชีวิตคู่ ต่างคนต่างเปิดทาสแท้ของตัวเองออกมา
เดี๋ยวเค้า2คนก็กระเจิงไปคนล่ะทิศล่ะทางเองล่ะค่ะ ผู้ชายที่เจ้าชู้น่ะ
ถ้าไปให้ค่าเค้ามาก เค้าหลงตัวเองค่ะ :b1:

คุณโสมฯเล่าวิธี ที่ทำให้สามีคุณโสมฯกลับมาให้ฟังบ้างสิค่ะ
เราคิดว่าวิธีของคุณโสมฯ ต้องมีตลกๆปนด้วยแน่นอน
เพราะดูๆแล้ว คุณโสมฯเป็นผู้หญิงที่มั่น :b12: :b41: :b47: :b55:


อยากเอาชนะเมียน้อยนี้ สมัยก่อนโน้น...ดิฉันก็เคยเป็นค่ะ
เรียกว่าตอนนั้นทิ้งโอกาสต่างๆ มายมาย แม้แต่อนาคตที่ดีๆ ก็ทิ้งค่ะ
เพื่อเอาชนะอย่างเดียว พอตอนนี้กลับไปมองแล้ว เราทำอนาคตของเราพังเองค่ะ
ทั้้งหน้าที่การงาน ทั้งผู้ชายคนใหม่ที่ทั้งดีทั้งรวยดิฉันก็ไม่มองค่ะเพราะจุดมุ่งหมายคือ ชนะเมียน้อย

ต้องไปทำงานต่างจังหวัดดิฉันก็ไม่ไป ซึ่งถ้าไปทำงานต่างจังหวัดตอนนั้น อนาคตการงานก็ไปไกล
แต่ดิฉันก็ไม่ไปต่างจังหวัด แถมยังสละสิทธิ์ แล้วกลับไปทำงานเก่า จะอยู่กรุงเทพฯ ตามล้างแค้นค่ะ
ดิฉันปล่อยสามีไปครั้งแรกนั้น ดิฉันไม่ปล่อยธรรมดาค่ะ วางแผนล้างแค้นก่อกวน แบบไม่ง้อสามี
แต่ก่อกวน ทำวิธีที่เรียกว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งค่ะ คราวใดถอยคราวใดรุก ก็ชนะค่ะ
ตอนนั้นยังไม่มีลูกนะคะ ดิฉันอายุ 28 เมียน้อยอายุน้อยกว่าดิฉัน 7 ปี ดิฉันก็ก่อกวนแบบไม่ง้อสามี
จนในที่สุดสามีหนีเมียน้อยค่ะ แล้วดิฉันก็ช่วยสามีหนีเมียน้อยด้วยค่ะ

มันเป็นความร้ายกาจของดิฉันหมดแหล่ะค่ะที่ชนะมาได้ครั้งแรก
ส่วนครั้งที่ 2 นี้ คงเป็นเพราะลูกสาว 2 คนด้วย สามีถึงร้องไห้ขอกลับบ้านค่ะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2013, 10:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ส.ค. 2013, 15:04
โพสต์: 30

แนวปฏิบัติ: พุทโธ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
คุณ Pathita ต้องการสามีคืน หรือว่าต้องการชนะเมียน้อยค่ะ คุยแบบเปิดๆมาเลยค่ะ :b12:
วิธีของคุณโสมฯก็ดีน่ะค่ะ ให้เค้า2คนเปิดตัวกันไปเลยค่ะ
คุณ Pathita เป็นผู้ยืนดูสิค่ะ แล้วคุณจะเห็นความตลก
ผู้หญิงที่เค้าคิดจะแย่งสามีคนอื่น เค้าซ่อนความไร้เดียงสาไว้ คนที่เป็นเมียหลวงไม่ทันเค้าหรอกค่ะ
แต่พอเปิดตัวเป็นชีวิตคู่ ต่างคนต่างเปิดทาสแท้ของตัวเองออกมา
เดี๋ยวเค้า2คนก็กระเจิงไปคนล่ะทิศล่ะทางเองล่ะค่ะ ผู้ชายที่เจ้าชู้น่ะ
ถ้าไปให้ค่าเค้ามาก เค้าหลงตัวเองค่ะ :b1:

คุณโสมฯเล่าวิธี ที่ทำให้สามีคุณโสมฯกลับมาให้ฟังบ้างสิค่ะ
เราคิดว่าวิธีของคุณโสมฯ ต้องมีตลกๆปนด้วยแน่นอน
เพราะดูๆแล้ว คุณโสมฯเป็นผู้หญิงที่มั่น :b12: :b41: :b47: :b55:


ทั้งสองอย่างเลยค่ะ อยากให้เขากลับมา(ทั้งที่ตลอดเวลาชีวิตคู่เขาก็ไม่ได้ทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวที่ดีเท่าไหร่ แต่ตัวดิฉันก็พอใจและมีความสุขที่มีเขาอยู่เคียงข้าง)และทั้งอยากเอาชนะเมียน้อย คือผู้หญิงบอกว่า"ผู้ชายเขาบอกว่าเลิกกับหนูไม่ได้ถึงไม่ได้อยู่กับหนูเขาก็ไม่กลับไปหาพี่อยู่ดี" ฟังแล้วมันจี๊ดค่ะขณะเดียวกันได้คุยกับสามีเขากลับบอกว่าขอเวลาเคลียร์ก่อน แต่ตอนนี้สามีหลงเมียน้อยแบบหัวปักหัวปำ ทั้งเห็นใจและแคร์ความรู้สึกมันมากกว่าดิฉันซะอีก เลยรู้สึกยอมไม่ได้ปกติแล้วเป็นคนไม่ยุ่งกับใครและเคยทำให้ใครต้องเดือดร้อน ใครดีมาก็ดีตอบใครร้ายมาก็ดีตอบ แต่นี่เข้ามาแทรกแซงในชีวิตทำให้ดิฉันวุ่นวายคนแบบนี้ดีตอบก็เท่านั้นเลยต้องร้ายไปบ้าง ดิฉันเฉยกับพวกเขามาเก้าเดือนก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ตอนนี้เลยเฉยไม่ไหว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2013, 11:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Pathita เขียน:
ต่อเนื่องจากกระทู้เก่าที่สามีไปมีหญิงอื่น ทุกครั้งที่ได้พูดคุยกับสามีเราจะบอกเขาเสมอว่าให้อภัยกับทุกอย่างที่เขาทำกับเรา ไม่โกรธ ขอเพียงแค่มาเริ่มต้นใหม่กลับมาเป็นครอบครัวดังเดิมอยู่กันพ่อแม่ลูก เรายังรัก ห่วงใย อยากดูแลเขาเหมือนที่เคยเป็น นี่ก็เข้าเดือนที่สิบที่ยังหวังว่าสามีจะกลับมา แต่เมื่อคืนคุยทางโทรศัพท์กับสามี สามีบอกว่าเรื่องของเรามันจบไปนานแล้ว ได้ฟังแค่นี้ความรู้สึกมันเปลี่ยนทันที กลายเป็นคิดหาวิธีที่จะทำให้สามีมีปัญหากับผู้หญิงคนนั้น หาทางที่จะทำให้เขาทุกข์เหมือนที่เรารู้สึก แต่อีกด้านของจิตก็เตือนว่านี่เรากำลังจะสร้างกรรมให้ตัวเองนะ เกิดอะไรขึ้นกันแน่กับตัวเองให้อภัยเขายังไง ทำไมยังมีความรู้สึกโกรธเมื่อเขาไม่เลือกเรา ช่วยชี้แนะหน่อยค่ะ ไม่ได้โกรธที่เขาไปมีคนอื่นพร้อมที่เริ่มใหม่ถ้าเขากลับมา แต่โกรธที่เขาไม่เลือกเราทั้งที่อยู่ด้วยกันมาเกือบสิบปี ร่วมหาร่วมสร้างช่วยเหลือจุนเจือทุกด้านจนมี แต่มาวันนี้ความดีของเราไม่มีเหลือเลยในสายตาของสามีแม้แต่นิดเดียว


ความเป็น "สามี" ของเขากลายเป็นอดีตไปแล้ว...มันผ่านมาแล้วและปัจจุบันก็ไม่ใช่แล้ว
คิดเสียว่าเหมือน เสื้อผ้า หรือรองเท้า เก่า ๆ ขาดๆ ที่เรา"ทิ้งแล้ว" ไม่ต้องไปอาลัยอาวรณ์...ของไม่ดีจะไปเสียดายทำไม...

ให้อภัยเขาไปเถอะ ต้องคิดว่าเป็นโชคดีของเราที่พ้นจากทุกข์กองนี้ไปได้...ยังมีโอกาสที่ดีรอเราอยู่..
"เขาไม่ได้เป็นลมหายใจของเราสักหน่อย ไม่มีเขาเราก็ยังหายใจและกินข้าวได้"
ผู้หญิงมักคิดว่า :b47: ชีวิตเป็นส่วนหนึ่งของความรัก
ผู้ชายมักคิดว่า :b47: ความรักเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

..ดูเหมือนง่ายแต่ก็เข้าใจว่าสำหรับคนที่ผงเข้าตาตัวเอง..มันเขี่ยออกยาก..แต่ก็ต้องพยายามนะ!

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี


แก้ไขล่าสุดโดย ปลีกวิเวก เมื่อ 05 ต.ค. 2013, 14:45, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2013, 12:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


น่าเสียดายเวลาที่คุณเสียไปค่ะ คุณลองเอาข้อความที่คุณโสมฯเขียน
เอามาค่อยๆคิดอีกครั้งค่ะ ว่าปล่อยพวกเค้าไปดีมั๊ย

เราชอบการตัดสินใจ เรื่องสามีของผู้หญิงมาเลย์หรือสิงโปรค์อยู่อย่างหนึ่ง
คือถ้าสามีของเค้ามีผู้หญิงใหม่ เค้าตัดใจเลิกเลย แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่
ทำงานแต่งตัว เก็บเงิน ทุกๆปีพาลูกไปเที่ยวทัวร์ เค้าจะไม่ว่าทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
ไม่เอ่ยถึงเลย พูดง่ายๆ คือเค้าไม่ให้ราคา

เราเห็นทุกคนที่อยู่ในหมู่บ้านที่เราอยู่ จะเป็นแบบนี้ค่ะ ตรงที่เราอยู่นี่แม่หม้ายเยอะค่ะ
สามีตายบ้างสามีเลิกบ้าง ชีวิตพวกเค้าจะอยู่กันแบบไม่ซีเรียส

เรามองว่า ตอนนี้ คุณPathita กำลังหลงไปเล่นกับตัวกิเลสทั้ง4อยู่ คือรัก-โลภ-โกรธ-หลง
ถ้าใครหลงเล่นกับกิเลสทั้ง4ตัวนี้อยู่ ชีวิตจะมีแต่ความทุกข์ สำหรับเรา
เรายังตัดเจ้าตัวความโลภไม่ได้ค่ะ :b12:
เราก็เลยบางครั้งก็ทุกข์ อยากจะตัดก็ตัดไม่ได้ คือนิสัยจะชอบอะไรที่มันเยอะๆน่ะค่ะ
ที่คุณปลีกวิเวกเขียนมา ก็ดีน่ะค่ะ :b1: :b41: :b47: :b55:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2013, 13:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ต.ค. 2012, 19:33
โพสต์: 117


 ข้อมูลส่วนตัว


Pathita เขียน:
bbby เขียน:
คุณ Pathita ต้องการสามีคืน หรือว่าต้องการชนะเมียน้อยค่ะ คุยแบบเปิดๆมาเลยค่ะ :b12:
วิธีของคุณโสมฯก็ดีน่ะค่ะ ให้เค้า2คนเปิดตัวกันไปเลยค่ะ
คุณ Pathita เป็นผู้ยืนดูสิค่ะ แล้วคุณจะเห็นความตลก
ผู้หญิงที่เค้าคิดจะแย่งสามีคนอื่น เค้าซ่อนความไร้เดียงสาไว้ คนที่เป็นเมียหลวงไม่ทันเค้าหรอกค่ะ
แต่พอเปิดตัวเป็นชีวิตคู่ ต่างคนต่างเปิดทาสแท้ของตัวเองออกมา
เดี๋ยวเค้า2คนก็กระเจิงไปคนล่ะทิศล่ะทางเองล่ะค่ะ ผู้ชายที่เจ้าชู้น่ะ
ถ้าไปให้ค่าเค้ามาก เค้าหลงตัวเองค่ะ :b1:

คุณโสมฯเล่าวิธี ที่ทำให้สามีคุณโสมฯกลับมาให้ฟังบ้างสิค่ะ
เราคิดว่าวิธีของคุณโสมฯ ต้องมีตลกๆปนด้วยแน่นอน
เพราะดูๆแล้ว คุณโสมฯเป็นผู้หญิงที่มั่น :b12: :b41: :b47: :b55:


ทั้งสองอย่างเลยค่ะ อยากให้เขากลับมา(ทั้งที่ตลอดเวลาชีวิตคู่เขาก็ไม่ได้ทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวที่ดีเท่าไหร่ แต่ตัวดิฉันก็พอใจและมีความสุขที่มีเขาอยู่เคียงข้าง)และทั้งอยากเอาชนะเมียน้อย คือผู้หญิงบอกว่า"ผู้ชายเขาบอกว่าเลิกกับหนูไม่ได้ถึงไม่ได้อยู่กับหนูเขาก็ไม่กลับไปหาพี่อยู่ดี" ฟังแล้วมันจี๊ดค่ะขณะเดียวกันได้คุยกับสามีเขากลับบอกว่าขอเวลาเคลียร์ก่อน แต่ตอนนี้สามีหลงเมียน้อยแบบหัวปักหัวปำ ทั้งเห็นใจและแคร์ความรู้สึกมันมากกว่าดิฉันซะอีก เลยรู้สึกยอมไม่ได้ปกติแล้วเป็นคนไม่ยุ่งกับใครและเคยทำให้ใครต้องเดือดร้อน ใครดีมาก็ดีตอบใครร้ายมาก็ดีตอบ แต่นี่เข้ามาแทรกแซงในชีวิตทำให้ดิฉันวุ่นวายคนแบบนี้ดีตอบก็เท่านั้นเลยต้องร้ายไปบ้าง


คุณ Pathita สิบเดือนที่ผ่านมาคุณทนได้-อยู่ได้
หลังจากนี้ - จะมีเขา หรือไม่มี จะมีความหมายต่างกันตรงไหน
ดิฉันคิดว่าคุณPatnitha รู้ตัวเองดีว่าจะตัดสินใจอย่างไร
สิบเดือน คุณเข้มแข็ง ...ใจคุณสู้ได้ ...แต่คุณไม่คิดจะสู้เท่านั้นเอง.

หลากหลายคำแนะนำ ของเพื่อนๆ...ด้วยความปารถนาดีต่อคุณ Pathnita
ลองพิจารณาดูนะค่ะ จากคำพูด.
อ้างคำพูด:
ดิฉันเฉยกับพวกเขามาเก้าเดือนก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ตอนนี้เลยเฉยไม่ไหว
... แล้วต่อจากนี้ทำไมเราจะเฉยไม่ไหว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2013, 18:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ส.ค. 2013, 15:04
โพสต์: 30

แนวปฏิบัติ: พุทโธ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณทุกท่านมากค่ะที่ให้คำแนะนำและกำลังใจ จริงค่ะที่ผ่านมาเก้าเดือนสิบเดือนดิฉันก็สู้ด้วยตัวเองตามลำพัง หายใจก็ด้วยตัวเอง เจ็บปวดก็เพราะตัวเองแต่ทำไมยังฉลาดน้อยไม่ยอมปล่อยทุกข์ออกจากตัวเองซะที เฮ้อ :b2: อนาจใจตัวเองจัง ดิฉันจะลองทำอย่างที่คุณSOAMUSAแนะนำคือปล่อยให้พวกเขาใช้ชีวิตกันไปจะได้ออกลายกันได้เต็มที่ ถ้าพวกเขารับตัวตนที่แท้จริงกันได้ ดิฉันก็คงยินดีกับเขา
เหมือนจะง่ายแต่ทำใจได้ยากอยู่นะ ลูกสาววัยแค่เจ็ดขวบเอ่อถามแม่ว่า "เมื่อไหร่แม่จะตัดใจจากพ่อได้ซะทีพ่อเขาไม่กลับมาหาเราแล้วหล่ะ ปล่อยเขาไปเถอะนะแม่ หนูไม่อยากเห็นแม่ร้องไห้". ฟังเจ้าตัวน้อยถามน้ำตาร่วง cry เลยทั้งรักและสงสารตัวเองและลูกจัง แต่ถ้าคนเป็นแม่ไม่เข้มแข็งแล้วจะดูแลเลี้ยงดูลูกน้อยให้เติบโตได้ยังไงเนอะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2013, 18:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2013, 09:00
โพสต์: 4

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ pat ka
พี่เป็นคนนึงที่ได้มีโอกาสเข้ามาที่บอร์ดนี้เมื่อ 7 เดือนก่อน เดาไม่ยากค่ะ เหตุมาจากหาที่ระบายและหากำลังใจจากการถูกทำร้ายทางจิตใจจากชายที่เราเลือกมาเป็นคู่ชีวิต
เพื่อนๆ พี่ๆ ที่แนะนำคุณ pat ไม่ว่าจะคุณกล้วยไม้ม่วง คุณปลีกวิเวก พี่รุ่งอรุณ คุณกรัชกาย คุณกล้วยหอม คุณ auie และอีกหลายคน ผ่านความรู้สึกหดหู่เหล่านี้มาทั้งนั้น

ต้นทาง เกิดจากเขา หรือเรียกรวมว่า เราทั้งสาม (สามีตัวดี อีหนูวัยเต่งตึง และ ภรรยารุ่นลายครามคือเรา)
หากแบ่งเป็นสามส่วน จะเห็นง่ายๆค่ะว่า สามีอยู่ตรงกลาง แต่เยื้องไปทางอีหนู ซึ่งเขาเพิ่มพื้นที่ไปหาเอง
เมื่อเขาไปเอง หมายความว่า เขาคิดแล้วค่ะคุณ pat เราจึงต้องให้เครดิตความคิดของเขานะคะ
ปล่อยให้เรื่องดำเนินไปเถอะค่ะ เราเอาจิตใจเรามาตั้งสติใหม่ให้กับคนที่เห็นความหมายดีกว่าค่ะ
ถ้าเราเชื่อมั่นว่าเราดีจริง เราจะค่อยๆ มั่นใจนะคะ อย่าไปนอยว่า เราแก่กว่า น่าเบื่อกว่า เพราะว่ามันจริงนี่คะ
คนจะดี ดีที่ตัวตน ไม่ใช่เหี่ยวแก่
ถ้าเขาเลือกสาวเต่งตึง ก็ต้องยอมรับค่ะ เขาจะไม่มีวันหยุด อย่ารอค่ะ ลุกขึ้นเดินต่อดีกว่า เอาธรรมะเข้าประคอง
จะพาคุณ pat ไปพบเส้นทางดีดีที่มีกัลยาณมิตรนะคะ ชีวิตต้องคิดบวกค่ะ
ทำใจเบาๆ เขาไปสู่วิบาก จนเมื่อเขาพบความจริงด้วยตนเอง แล้วค่อยมาว่ากันใหม่ อย่าโกรธ อย่าแค้น ทำใจร่มๆ
และมองเขาอย่างมิตร ทำให้ได้นะคะ เวลาจะหาทางออกให้คุณค่ะ
พี่ผ่านมาแล้ว เชื่อพี่และเพื่อนๆ นะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2013, 11:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 00:22
โพสต์: 223

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แต่อีกด้านของจิตก็เตือนว่านี่เรากำลังจะสร้างกรรมให้ตัวเองนะ เกิดอะไรขึ้นกันแน่กับตัวเองให้อภัยเขายังไง ทำไมยังมีความรู้สึกโกรธเมื่อเขาไม่เลือกเรา ช่วยชี้แนะหน่อยค่ะ

:b47: :b8: :b8: :b8: :b47:

:b47: อนุโมทนา คุณ Pathita และทุกๆท่านครับ :b47:









:b46: :b46: :b46: :b47: :b47: :b48: :b47: :b47: :b46: :b46: :b46:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2013, 16:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ส.ค. 2013, 15:04
โพสต์: 30

แนวปฏิบัติ: พุทโธ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะ หายไปนานหลายวัน ก่อนอื่นนะค่ะเมื่อวันอาทิตย์ที่6 ได้ไปทัวร์บุญที่วัดท่าซุง(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)มาเอาบุญมาฝากทุกท่านนะค่ะ :b8: กลับมาคราวนี้มาพร้อมกับความสดใส :b12: สดชื่นในชีวิตมากขึ้นค่ะ
ตอนนี้นำคำแนะนำของทุกท่านๆมาใช้ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งค่ะที่ให้กำลังใจ
1.ปล่อยให้พวกเขาใช้ชีวิตกันเต็มที่เลยค่ะจะได้รู้ตัวตนของกันและกัน หากพวกเขารับกันได้ก็ยินดีด้วย 2.เลิกเอาจิตไปผูกกับ(อดีต)สามี พอคิดปุ๊บก็หาหนังสือมาอ่านหรือพูดคุยกับคนอื่นจะได้ไม่ว้าวุ่น 3.มีเวลาในการสร้างกุศลบารมีให้ตัวเองมากขึ้นเพราะไม่มัวแต่คิดเรื่องเขา เช่นสวดมนต์ onion นั่งสมาธิ ไปทัวร์บุญ ปล่อยปลา ฯลฯ 4.ฝึกจิตตัวเองให้แข็งโดยการไม่ติดต่อกับสามีเลย
ดิฉันทำแค่นี้มาหนึ่งสัปดาห์รู้สึกตัวเองมีความสุขขึ้นค่ะ ใจมันเบาขึ้นเยอะ ไม่ฟุ้งซ่านแถมรู้สึกว่าตัวเองอิ่มในบุญด้วยซ้ำ ขณะเดียวกันก็ได้นำคำแนะนำ ข้อคิดต่างๆที่ได้จากลานธรรมแห่งนี้ไปแบ่งปันให้กับผู้อื่นด้วยหน๊า tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2013, 13:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


Pathita เขียน:
สวัสดีค่ะ หายไปนานหลายวัน ก่อนอื่นนะค่ะเมื่อวันอาทิตย์ที่6 ได้ไปทัวร์บุญที่วัดท่าซุง(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)มาเอาบุญมาฝากทุกท่านนะค่ะ :b8: กลับมาคราวนี้มาพร้อมกับความสดใส :b12: สดชื่นในชีวิตมากขึ้นค่ะ
ตอนนี้นำคำแนะนำของทุกท่านๆมาใช้ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งค่ะที่ให้กำลังใจ
1.ปล่อยให้พวกเขาใช้ชีวิตกันเต็มที่เลยค่ะจะได้รู้ตัวตนของกันและกัน หากพวกเขารับกันได้ก็ยินดีด้วย 2.เลิกเอาจิตไปผูกกับ(อดีต)สามี พอคิดปุ๊บก็หาหนังสือมาอ่านหรือพูดคุยกับคนอื่นจะได้ไม่ว้าวุ่น 3.มีเวลาในการสร้างกุศลบารมีให้ตัวเองมากขึ้นเพราะไม่มัวแต่คิดเรื่องเขา เช่นสวดมนต์ onion นั่งสมาธิ ไปทัวร์บุญ ปล่อยปลา ฯลฯ 4.ฝึกจิตตัวเองให้แข็งโดยการไม่ติดต่อกับสามีเลย
ดิฉันทำแค่นี้มาหนึ่งสัปดาห์รู้สึกตัวเองมีความสุขขึ้นค่ะ ใจมันเบาขึ้นเยอะ ไม่ฟุ้งซ่านแถมรู้สึกว่าตัวเองอิ่มในบุญด้วยซ้ำ ขณะเดียวกันก็ได้นำคำแนะนำ ข้อคิดต่างๆที่ได้จากลานธรรมแห่งนี้ไปแบ่งปันให้กับผู้อื่นด้วยหน๊า tongue


:b8: สาธุ ในบุญกุศลทั้งปวงด้วยขอบคุณค่ะ
ดีใจด้วยค่ะ ที่รู้สึกดีขึ้น ให้ใจรู้สึกสบายๆ แบบนี้ไว้เสมอๆ ค่ะ
เพราะความเศร้าใจทุกข์ใจนั้น ถ้าเราจมอยู่กับมันเรื่อยๆ ไปก็เหมือนการเสพติดความเศร้าไว้
จนเรื้อรัง ออกจากความทุกข์ใจหายเศร้ายากคะ ยิ่งจมอยู่กับความเศร้าก็ยิ่งเศร้าไม่เลิกลาค่ะ
จนกลายเป็นโรคซึมเศร้าไปในที่สุดค่ะ โรคซึมเศร้านั้นแม้แต่ยาก็ช่วยได้แค่ 50%เท่านั้นค่ะ
ทีเหลือจะต้องเยียวยาใจตนเองด้วยค่ะ

:b27: ดีใจด้วยค่ะที่รู้สึกดีขึ้นค่ะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2013, 16:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 เม.ย. 2013, 11:12
โพสต์: 421

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8:

ดีใจด้วยค่ะ........
ขอให้เก็บความรู้สึกที่ว่าง....จากเขา สุขในตน อิ่มในธรรมะ แล้วเราจะมีปัญญาพอที่จะตามทัน อารมณ์ความรู้สึก...มีสติ ควบคุมสถานการณ์..ที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่า ดี ถูกใจ ไม่ถูกใจ..

เหมือนเรา ที่ฝึกดูจิต ว่า จริง ๆ ปัญหาอยู่ตรงไหนอย่างไร.....

ก็ฝึกกันไป ....จนกว่าจะปิดตา.....

คิดไว้ สักวันมึงต้องทิ้งกูไป ตามที่อาจารย์พงษ์ศักดิ์ เคยพูดไว้

เพราะสุดท้าย ท้ายสุด ก็ต้องจากอยู่ดี....ไม่ว่าจากเป็น-จากตาย ก็คือการจากทั้งนั้น..เพียงแต่ช้า เร็ว เมื่อไร อย่างไร ????

อยู่ก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ลดการเบียดเบียนสรรพสิ่งให้มากที่สุด....ก็เท่านั้นเอง.......(ทุกอย่างก็บอกตนเองเช่นกันค่ะ) :b39: :b39:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 19 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 22 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร