ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ทำไมรักถึงจืดจาง อย่างรวดเร็ว http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=27&t=47867 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ฟ้าใสใส [ 06 มิ.ย. 2014, 19:21 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | ทำไมรักถึงจืดจาง อย่างรวดเร็ว | ||
![]() ![]() เพราะความรักมีหลายด้าน หลายแฉกและหลายมุม ดังนั้น ความรักสำหรับบางคนจึงสุกสกาว และสว่างไสวโชติช่วงไม่รู้ดับไม่มีมอด ถือเป็นรักแล้วรักเลยและไม่มีวันซะหรอกที่จะหมดอายุกันง่าย ๆ ตรงข้ามกับความรักของใครอีกหลายคนกลับเบื่อง่ายหน่ายเร็ว รักกันแป๊บ ๆ ปรู๊ดปร๊าดแต่เฉาเร็ว เดี๋ยวก็เซ็งเดี๋ยวก็เลิก ไม่รู้เป็นไงทำไมถึงเลิกกันเร็ว เลิกกันไวอย่างนี้นะ...ชักสงสัยแล้วดิ ซึ่งเอาเหอะ ใครจะรักกันช้าแต่เลิกกันไว หรือรักเร้ว เร็ว แถมเลิกกันง้าย ง่ายก็ตามที มันย่อมมีสาเหตุหรือมูลเหตุจูงใจที่คอยบั่นทอนและกัดเซาะความรักให้เจือจาง และสาละวันเตี้ยลงแหง ๆ เลย งั้นมาดูกันดีกว่าว่า มีอะไรบ้างนะที่เป็นสาเหตุทำให้คู่รักห่างเหินกันเร็ว และเบื่อหน่ายกันอย่างปุ๊บปั๊บ จึงทำให้รักจืดจางต่างฝ่ายต่างหันหลังให้แก่กัน ก็เพราะเหตุผลดังต่อไปนี้ไง เช่น... ![]() ![]() เพราะวังวนของสังขารมนุษย์นั้นไม่เที่ยง และคนเรายังฝืนกฎธรรมชาติไม่ค่อยจะได้ จึงทำให้ผิวพรรณของวัยหนุ่มวัยสาวพออายุมากขึ้น จึงไม่เต่งตึงเหมือนแต่ก่อน แถมบางคนพอริ้วรอยมาเยือนก็ไม่ยอมหาวิธีบำรุงผิวลบรอยเหี่ยวย่นเตรียมไว้ล่วงหน้าซะด้วยสิ แต่อย่างว่ามนุษย์แต่ละคนกว่าจะหมดสวย หมดหล่อก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ บางคนอู๊ยกว่าจะไม่หล่อไม่สวยนู่นแน่ ต้องใช้เวลาเป็น 10-20 ปี กว่าความชราจะมาเยือน หรือจะมาพรากความงามของใบหน้าไปจากพวกเขา ตอนนี้ใครที่ยังสวยและยังหล่ออยู่จึงชะล่าใจได้หน่อย กระนั้นอย่าลืมหมั่นส่องกระจกดูตัวเองบ่อย ๆ ละกัน เผื่อเมื่อไหร่หน้าตาเปลี่ยนไปในทางร่วงโรยจะได้บำรุงร่างกายได้ทันไงจ๊ะ ![]() ![]() เพราะทุกคนชอบตั้งความหวังไว้ที่คนรัก เช่น หวังว่าแฟนจะเป็นคนโรแมนติก แต่ที่ไหนได้ เค้าไม่โรแมนติกอะไรกะคุณเอาซะเลย แถมยังเป็นคนเฉยเมย ไม่ค่อยแสดงอารมณ์และความรู้สึกซะด้วยซ้ำ ไม่งั้นก็หวังว่าแฟนจะเป็นคนช่างเอาอกเอาใจ แต่การเอาใจใส่ของเค้าไหงมีเฉพาะช่วงเริ่มต้น "ก่อร่างสร้างรัก" ก็ไม่รู้ เมื่อเป็นงี้พอเวลาผ่านไป 5 ปี 10 ปี เค้าจึงไม่ค่อยเอาใจคุณเหมือนอย่างเดิม ก็เริ่มผิดหวังแล้วเห็นมะ แล้วเมื่อคนเราพกเอาความผิดหวังเก็บไว้กะตัวมาก ๆ เข้า ก็ย่อมเป็นเหตุทำให้ความรักถดถอยไงเล่า โอ๊ย รู้งี้ อย่าไปตั้งความหวังอะไรกะคนรักซะก็สิ้นเรื่อง...ว่าแต่ ใครจะทำได้เนอะ ![]() ![]() ลองคิดดูถ้าคุณรักเค้ามาก จนมัวแต่ตามหึงหวงไม่ยอมให้แฟนได้มีโอกาสพูดคุยกับเพื่อนต่างเพศ หรือแม้แต่เพื่อนฝูงซะบ้างเลย แล้วใครที่ไหนจะปลาบปลื้มกับการเป็นแฟนของคุณล่ะเจ้าคะ! แม้จริงอยู่ที่ว่า ความรักกับความห่วงหวงน่ะเป็นของคู่กัน แต่ควรแยกแยะความรักกับอาการหึงหวง ที่มักแสดงออกด้วยสายตาอาฆาตให้ออกจากกันโดยเด็ดขาดซะก่อนดีกว่า จะได้ไม่หึงปึงปังกันทีหลัง โอ๊ย มันน่าเวียนหัวจะตายไป งั้นเอางี้ดีมะ หึงแต่พองามเถอะนะที่รัก! ![]() ![]() เป็นใครจะทนไหวล่ะฮะ ถ้าเผื่อมีแฟนเจ้าชู้ เที่ยวเร่ขายขนมจีบใครต่อใครดะไปทั่วน่ะ ซึ่งพวกทำตัวเจ้าชู้นี่ก็เหลือเกิน ทำไมรึจ๊ะมีแฟนคนเดียวมันจะตายรึไง? ถึงต้องเที่ยวไปตามจีบคนโน้นที คนนี้ด้วย เนี่ยละนา เพราะมีนิสัยไม่รักเดียวใจเดียว แต่เที่ยวแจกรักไปเรื่อย ๆ นี่แหละ จึงเป็นที่มาของอาการหมดรักได้ง่ายที่ซู้ด อ่ะเพราะใครอยากมีแฟนเจ้าชู้มั่ง? เชื่อดิไม่มีหรอก แม้แต่คนเจ้าชู้เองก็ไม่อยากมีแฟนเป็นแบบตัวเอง ใช่มะ... โอ๊ย อย่าทำเป็นส่ายหน้าไม่ยอมรับความจริง...เชอะ ![]() ![]() อื้อ ขืนมีแฟนขี้จุ๊ แบบช่างโกหกตลบตะแลงนี่ก็น่าเลิกยุ่งกับเค้าเหมือนกันนะ แหมจะคบกันแบบจริงใจไม่ได้หรือจ๊ะ ทำไมต้องโกหกกันด้วย! ใครเกิดมีแฟนเป็นคนช่างมุสาวาจา แล้วจะไปมีความสุขได้ไงกัน เพราะวัน ๆ เค้าต้องคอย "ปั้นน้ำเป็นตัว" แล้วว่า วันนี้จะพูดปดกะแฟนว่าอะไรดี โอ๊ย เป็นงี้แล้วจะอยู่ด้วยกันยังไงไหว จะให้ "ทน" อยู่แล้วเดี๋ยวก็ชินกันไปเองน่ะรึ เฮ้ย...ไม่เล่นด้วย หรอกนะ ![]() ![]() ขืนใครมีแฟนชอบเล่นการพนันมั่กมาก แบบว่าติดหนึบเล่นหวย, เล่นม้า, เล่นพนันบอล ฯลฯ แถมวัน ๆ ยังหายใจเข้าออกเป็นการพนันละก็ ท่านว่าดวงในเรื่องการมีคู่จะสั่นไหวก็คราวนี้แหละ เพราะอะไรน่ะเหรอ? เพราะพวกบ้าการพนันน่ะ มักทุ่มเทเงินทองไปกับสิ่งเหล่านี้ซะจนหน้ามืดตามัวน่ะเซ่ แถมเผลอ ๆ ใช้เงินตัวเองยังไม่พอบางรายคิดเอาเงินในส่วนของแฟนไปถลุงด้วยนี่สิ ว้าย...แล้วใครจะทนไหวว้า ยิ่งพวกนี้ยิ่งชอบเล่นเสียมากกว่าจะได้ตังค์กลับคืนด้วยดิ่ เฮ่อ ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้ม ![]() ![]() หากใครโดนแฟนใช้กำลังทำร้ายเอาละก็ อย่าไปทนเป็นกระสอบทรายให้เค้าซ้อมเชียวนะ การทำเช่นนี้แสดงถึงความถ่อย เถื่อน ที่ไม่ว่าใครก็รับไม่ได้ทั้งนั้นแหละ โถ มีแต่คนรักกันเค้าจะทะนุถนอมทั้งน้ำใจและทั้งเรือนร่างให้แก่กัน แต่ไอ้นี่ดันมือไว ทีนไว มิน่าถึงได้ทำให้หมดรักกันเร็วก็เงี้ยะ ทั้งหมดล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้รักโรยราไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งคู่รักคู่ไหนเมื่อทราบแล้ว ก็อย่าเลียนแบบพฤติกรรมเหล่านี้เลยนะฮ้า จะได้ครองรักครองเรือนกันไปนาน ๆ โถ รักกันนาน ๆ น่ะ ไม่ผิดกติกาสากลอะไรหรอกจ้า แถมมีแต่ใคร ๆ อยากเชียร์ ให้เป็นคู่กันตลอดกาลด้วยซ้ำ เอ้า...งั้นวันนี้คุณแจกจุ๊บจุ๊บแฟนรึยังจ๊ะ แล้วอย่าลืมหยอดคำหวานพูดภาษาดอกไม้ด้วยล่ะ ![]() ![]() ![]() ขอบคุณที่มา :: ไทยรัฐ :: http://brightlives.th.88db.com/love/love_lovelorn.htm :: ภาพจากอินเทอร์เน็ต ![]() ![]() ![]() ![]() ![]()
|
เจ้าของ: | ฟ้าใสใส [ 06 มิ.ย. 2014, 19:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำไมรักถึงจืดจาง อย่างรวดเร็ว |
![]() ![]() ที่ใดมีของรัก ที่นั่นมีโศก ที่ใดมีของรัก ที่นั่นมีภัย เมื่อไม่มีของรักเสียแล้ว โศกภัย ก็ไม่มี. ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ ที่ใด..มีรัก ที่นั่น..มีทุกข์** ปิยโต ชายเต โสโก ปิยโต ชายเต ภยํ ปิยโต วิปฺปมุตฺตสฺส นตฺถิ โสโก กุโต ภยํ ฯ ๒๑๒ ฯ ที่ใดมีของรัก ที่นั่นมีโศก ที่ใดมีของรัก ที่นั่นมีภัย เมื่อไม่มีของรักเสียแล้ว โศกภัย ก็ไม่มี. From the beloved springs grief, From the beloved springs fear; For him who is free from the beloved There is neither grief nor fear. ๘. วิสาขาสูตร [๑๗๖] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ บุพพารามปราสาทของนางวิสาขามิคารมารดา ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล หลานของนางวิสาขามิคารมารดาเป็นที่รักที่พอใจ ทำกาละลง ครั้งนั้น นางวิสาขามิคารมารดามีผ้าเปียก ผมเปียกเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับในเวลาเที่ยง ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะนางวิสาขามิคารมารดาว่า เชิญเถิดนางวิสาขา ท่านมาแต่ไหนหนอ มีผ้าเปียก มีผมเปียก เข้ามา ณ ที่นี้ในเวลาเที่ยงนางวิสาขากราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หลานของหม่อมฉัน เป็นที่รักที่พอใจ ทำกาละเสียแล้ว เพราะฉะนั้น หม่อมฉันจึงมีผ้าเปียกมีผมเปียก เข้ามา ณ ที่นี้ในเวลาเที่ยง เจ้าค่ะ ฯ พ. ดูกรนางวิสาขา ท่านพึงปรารถนาบุตรและหลานเท่ามนุษย์ในพระนคร สาวัตถีหรือ ฯ วิ. ข้าแต่พระผู้มีพระภาคผู้เจริญ หม่อมฉันพึงปรารถนาบุตรและหลานเท่ามนุษย์ในพระนครสาวัตถี เจ้าค่ะ ฯ พ. ดูกรนางวิสาขา มนุษย์ในพระนครสาวัตถีมากเพียงไร ทำกาละอยู่ทุกวันๆ ฯ วิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ มนุษย์ในพระนครสาวัตถี ๑๐ คนบ้าง ๙ คน บ้าง ๘ คนบ้าง ๗ คนบ้าง ๖ คนบ้าง ๕ คนบ้าง ๔ คนบ้าง ๓ คนบ้าง ๒ คนบ้าง ๑ คนบ้าง ทำกาละอยู่ทุกวันๆ ฯ พ. ดูกรนางวิสาขา ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ท่านพึงเป็นผู้มีผ้าเปียกหรือมีผมเปียกเป็นบางครั้งบางคราวหรือหนอ ฯ วิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ไม่ใช่อย่างนั้น เจ้าค่ะ พอเพียงแล้วด้วยบุตรและหลานมากเพียงนั้นแก่หม่อมฉัน ฯ พ. ดูกรนางวิสาขา ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๑๐๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๑๐๐ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๙๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๙๐ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๘๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๘๐ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๗๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๗๐ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๖๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๖๐ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๕๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๕๐ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๔๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๔๐ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๓๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๓๐ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๒๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๒๐ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๑๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๑๐ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๙ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๙ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๘ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๘ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๗ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๗ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๖ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๖ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๕ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๕ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๔ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๔ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๓ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๓ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๒ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๒ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๑ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๑ ผู้ใดไม่มีสิ่งที่รัก ผู้นั้นก็ไม่มีทุกข์ เรากล่าวว่า ผู้นั้นไม่มีความโศก ปราศจากกิเลสดุจธุลี ไม่มีอุปายาส ฯ ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว ได้ทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า ความโศกก็ดี ความร่ำไรก็ดี ความทุกข์ก็ดี มากมายหลายอย่างนี้มีอยู่ในโลก เพราะอาศัยสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รัก เมื่อไม่มีสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รัก ความโศก ความร่ำไร และความทุกข์เหล่านี้ย่อมไม่มี เพราะเหตุนั้นแล ผู้ใดไม่มีสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รักในโลกไหน ๆ ผู้นั้นเป็นผู้มีความสุข ปราศจากความโศก เพราะเหตุนั้น ผู้ปรารถนาความไม่โศก อันปราศจากกิเลสดุจธุลี ไม่พึงทำสัตว์หรือสังขารให้เป็นที่รัก ในโลกไหนๆ ฯ ขอบคุณที่มา :: http://ajinta.blogspot.com/2012/04/blog-post_24.html ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |