วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 06:36  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 เม.ย. 2018, 12:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ต.ค. 2008, 19:58
โพสต์: 293

โฮมเพจ: https://www.facebook.com/McDoorEdgeRubber
แนวปฏิบัติ: ตามหาพุทโธ
งานอดิเรก: ถ่ายภาพ สะสมพระเครื่องพระบูชา เลี้ยงปลา เลี้ยงแมว
ชื่อเล่น: Mc
อายุ: 0
ที่อยู่: สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

ท่านพักอยู่ยังป่าดงพงหนา เหล่าเทวดานาคครุฑและภูติผี
กายทิพย์วิญญาณมากมี แสนยินดีปรีดาโดยทั่วกัน
ผลัดเปลี่ยนเวียนมาหาพระอาจารย์มั่น มาผูกมาพันทุกภูมิทุกชั้นนานา
ท้าวสักกะเทวราชก็มา พร้อมหมู่และมวลเทวามากมายเพื่อขอฟังธรรม
ตอนวิเวกไปอยู่ในป่าเปลี่ยว พักอยู่องค์เดียวในถ้ำดอกคำ
ท้าวสักกะมาหาประจำ เพื่อขอฟังธรรมหนุนนำแนวทาง
ท่านแสดงเมตตาอัปปมัญญาพรหมวิหารให้ฟัง
พร้อมเทวาเทวีประดัง ท้าวสักกะพาเข้ามาฟังทุกครั้งเป็นแสนเป็นหมื่น
พักอยู่ที่นั่นท่านยังได้เห็น มีผู้หญิงและสามเณรแทบจะทุกคืน
เดินไปมาในยามดึกดื่น แทบทุกคืนเดินเวียนวกวนไปมา
ท่านสงสัยจึงถามไปว่า ทั้งสองคนมาเดินเวียนวนอยู่ทำไม
เขาตอบว่าเพราะยังอาลัย พระเจดีย์ที่สร้างไว้ ไม่เสร็จมาตายเสียก่อน
สามเณรองค์อน้องกับหญิงคนนั้น เป็นพี่น้องกัน สัมพันธ์ร่วมอุทรณ์
ทราบแล้วท่านจึงเทศน์สั่งสอน อย่าไปอาลัย อาวอนสิ่งล่วงเลยไป
แม้ทำความผู้พันฉันใด ก็ไม่กลับมาให้เป็นเช่นปัจจุบัน
แม้อนาคตควรปล่อยตามกาล หันมาทำปัจจุบันนั้นให้สำเร็จประโยชน์

โดยพระอาจารย์มั่นได้เทศน์ให้สองพี่น้องฟังว่า

"สิ่งที่ล่วงไปแล้ว ไม่ควรไปทำความผูกพัน เพราะเป็นสิ่งที่ล่วงไปแล้วอย่างแท้จริง แม้จะทำความผู้พันและมั่นใจให้สิ่งนั้นกลับมาเป็นปัจจุบัน ก็เป็นไปไม่ได้ ผู้ทำความสำคัญมั่นหมายนั้น เป็นทุกข์แต่ผู้เดียว โดยความไม่สมหวังตลอดไป อนาคตที่ยังมาไม่ถึง ก็เป็นสิ่งไม่ควรมายึดเหนี่ยวเกี่ยวข้องเช่นกัน อดีตควรปล่อยไว้ตามอดีต อนาคตก็ควรปล่อยไว้ตามกาลของมัน ปัจจุบันเท่านั้นจะสำเร็จประโยชน์ได้ เพราะอยู่ในฐานะที่ควรทำได้ไม่สุดวิสัย การสร้างพระเจดีย์ เราสร้างหวังบุญหวังกุศลต่างหาก มิได้สร้างเพื่อหวังเอาก้อนอิฐ ก้องหิน ปูนทราย ในองค์พระเจดีย์ไปด้วย สิ่งที่เป็นสมบัติของเราในการสร้างพระเจดีย์ ก็คือบุญ ท่านนักสร้างบุญทั้งหลาย ท่านเอาเฉพาะบุญติดตัวไป มิได้เอาสิ่งก่อสร้าง วัตถุทานต่างๆ ที่สละลงเพื่อทานแล้วติดตัวไปด้วย สิ่งที่สำเร็จจากการก่อสร้างและการให้ทานอันเป็นส่วนนามธรรมอยู่ภายใน นั้นคือตัวบุญกุศล เจ้าของผู้คิดเป็นกุศลเจตนาขึ้นมา ให้สำเร็จเป็นวัตถุไทยทานต่างๆ นั้นคือใจ ใจนี่แล เป็นผู้ทรงบุญ ทรงกุศล ทรงมรรค ทรงผล ทรงสวรรค์นิพพาน และใจนี่แล เป็นผู้ไปสู้สวรรค์นิพพาน นอกจากใจ ไม่มีอะไรไป ถ้าคุณทั้งสอง พยายามตัดความขัดข้องห่วงใยที่กำลังเป็นอยู่ออกจากใจ ชั่วเวลาไม่นานเลย จะเป็นผู้หมดภาระเครื่องผูกพัน คุณมีจิตมุ่งมั่นในภพใด จะสมหวังในภพนั้น เพราะแรงกุศลที่ได้พากันสร้างมาพร้อมอยู่แล้ว"

.....................................................
ถ้าจะตาย จะเสียดายทำไมเล่าชีวี
ต้องรู้เท่าทันธาตุขันธ์นี้ ล้วนแต่มีอนิจจังทั้งหมด


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 36 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron