ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
สวดมนต์ผิดๆ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=28&t=28103 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | StableMe [ 30 ธ.ค. 2009, 16:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | สวดมนต์ผิดๆ |
อ้างอิงมาจากคำพูดของ ดร.แม่ชีทศพร เทวาพิทักษ์ธรรม "อย่างแม่ชีสวดมนต์ผิดมา 20 ปี ที่ว่าสวดมนต์ผิดเพราะว่าแม่ชีไม่สมาทานศีลก่อน ยังไม่มีศีลเลยแล้วบทสวดมนต์บทไหนจะมาคุ้มครองเรา แต่บทสวดมนต์ที่สวดไปยังไม่โมฆะนะ ถ้าสมาทานศีล อานิสงส์ของศีลเต็มร้อยเลย" สำหรับท่านที่มีประสบการณ์สวดมนต์มาก่อน คิดยังไงกับเรื่องนี้คะ คือเรากลัวว่าถ้าสมาทานศีลแล้วรักษาไม่ได้ จะบาปไปใหญ่น่ะค่ะ |
เจ้าของ: | -dd- [ 30 ธ.ค. 2009, 17:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สวดมนต์ผิดๆ |
การสมาทานศีล คือ การตั้งเจตนาไว้ว่า จะรักษาศีล คือ ตั้งใจที่จะเว้นขาดจากบาปอันหยาบช้า ความหมายของ สมาทาน คือ ตั้งใจถือเอาโดยชอบ ตั้งใจรับไว้ให้ดี...คือรับสัจจะว่าจะไม่กระทำการล่วงบาปนั่นเอง เช่น ข้าพเจ้าขอสมาทาน(ตั้งใจถือเอาโดยชอบ) ซึ่งสิกขาบทข้องดเว้นจาการปาณาติบาต เป็นต้น หากบุคคลผู้สมาทานศีล แต่ก็ไม่อาจงดเว้นจากรรมชั่ว 5 อย่างนั้น ก็ชื่อว่า ไม่มีศีลในขณะสมาทาน แม้การกล่าวสมาทานนั้นก็เพียงแต่กล่าวไปอย่างนั้นๆเอง จะชื่อว่ามีศีลเพราะเหตุจากการกล่าวสมทาก็หาไม่ แต่เมื่อประสบอารมณ์เฉพาะหน้าที่จะยั่วยุให้เสียศีล ก็พึงเห็นว่า หากบุคคลผู้สมาทานศีลไว้แล้ว ก็เกิดระลึกได้เพราะเหตุแห่งการสมาทานนั่นเอง กระทำหิริโอตตัปปะให้เกิดภายในตน แล้วก็เว้นเสียจากบาปอย่างนั้นทีเดียว ตรงนี้ ชื่อว่า ศีลเกิดแล้ว เกิดเพราะการเว้น โดยอาศัยปัจจัยเจตนาที่ปรารถจะเว้นก่อนหน้านั้นเองเข้าอุปถัมภ์ บางคนแม้ไม่มีการกล่าวสมาทาน ก็สามารถมีหิริโอตตัปปะเกิดแม้ในยามคับขัน ที่ประสบเหตุการณ์บีบคั้นให้เสียศีล ก็ยังเว้นได้ ก็ชื่อว่า ศีลเกิดแล้วเช่นกันเพราะมีวิรัติ คือ การเว้นนั่นเอง ดังนั้น ศีลจึงชื่อว่า เป็นปรมัตถธรรม ในขณะที่มีการเว้นเฉพาะหน้า ส่วนสิกขาบทที่พวกเรากล่าวสมาทานนั้น ยังเป็นบัญญัติที่นำมากล่าว ยังไม่แน่ว่าจะมีศีลเกิดหรือไม่ แต่ว่า ในอัธยาศัยของพวกเรา แม้การสมาทานสิกขาบทด้วยศรัทธาเชื่อเรื่องกรรม เรื่องผลของกรรม ก็นับว่ามีอุปการะมากต่อจิตใจ เพราะจิตใจอย่างนั้นย่อมสั่งสมหิริโอตตัปปะได้มาก อันจะเป็นปัจจัยให้พาตนให้รอดพ้นต่อการล่วงศีลได้ในเวลาต่อๆมา แต่เพราะขาดความเข้าใจ ขาดศรัทธา สักแต่ว่ากล่าวไปลอยๆ อย่างนี้ หาประโยชน์ไม่ได้ เพราะก็ยังคงประพฤติผิดศีลได้เนืองๆโดยหาได้ปรารภในสัจจะที่ตนได้เคยกระทำ การสมาทานศีลสิกขาบทไว้ ดังนั้น พึงตั้งใจมั่นในขณะที่สมาทานพร้อมๆกำกับดูแลจิตใจไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับ เรื่องที่จะเป็นปัจจัยให้เสียศีล หรือแม้คราวใดเกิดพบประสบขึ้นมา ก็ให้หวนระลึกถึงสิกขาบทที่ตนสมาทานไว้แล้วนั่นแล ชื่อว่า การสมาทานนั้นเป็นประโยชน์และเป็นศีลอันเกิดจากการสมาทาน |
เจ้าของ: | StableMe [ 30 ธ.ค. 2009, 17:56 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สวดมนต์ผิดๆ |
เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ คุณ dd การจะปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วน นี่ยากจังนะคะ เดี๋ยวก็กังวลว่าจะต้องทำอย่างนั้นทำอย่างนี้ ยิ่งศึกษา ยิ่งมีอะไรเยอะแยะเต็มไปหมด หลายๆครั้งก็ทำให้ตัวเองสับสน แล้วความกังวลสับสนมันก็มาทำให้เราขาดสมาธิ ขาดความเชื่อมั่นไปได้มากเหมือนกัน |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 30 ธ.ค. 2009, 18:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สวดมนต์ผิดๆ |
ไม่พึงกังวลครับ ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น ค่อยๆ ฝึกไปครับ นี่คือการฝึกครับ |
เจ้าของ: | murano [ 30 ธ.ค. 2009, 21:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สวดมนต์ผิดๆ |
สวดๆ ไปเต๊อะ เดี๋ยวก็ถูกเอง ไม่มีอะไรมากหรอก... ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | วรานนท์ [ 30 ธ.ค. 2009, 22:44 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สวดมนต์ผิดๆ |
![]() ![]() ![]() กรัชกาย เขียน: ไม่พึงกังวลครับ ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น ค่อยๆ ฝึกไปครับ นี่คือการฝึกครับ เห็นด้วยครับ มันจะดีขึ้นเลื่อย ๆ ครับ ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |