ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
เพียงเปล่งเสียงตามบทสวดมนต์ ก็เปลี่ยนใจเราแล้ว (สุวีโรภิกขุ) http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=28&t=32068 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ลูกโป่ง [ 26 พ.ค. 2010, 15:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | เพียงเปล่งเสียงตามบทสวดมนต์ ก็เปลี่ยนใจเราแล้ว (สุวีโรภิกขุ) |
เพียงเปล่งเสียงตามบทสวดมนต์ ก็เปลี่ยนใจเราแล้ว โดย…..สุวีโรภิกขุ โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 21 มีนาคม 2553 อาจารย์ที่น่าเคารพของข้าพเจ้าท่านหนึ่งกำลังสนใจเรื่องการปฏิบัติภาวนา แต่ด้วยอายุวัยและสังขารร่างกายที่ไม่ใคร่จะเอื้ออำนวยนัก ไอ้ครั้นจะมาเดินจงกรมหรือนั่งสมาธิ เธอว่า (เคยลองฝึกดูแล้ว) ไม่ไหวแน่ๆ เธอจึงหันมาอ่านหนังสือกับฟังซีดีธรรมะ เพื่อทำความเข้าใจด้วยตัวเองแทน ซึ่งมันก็น่าจะเป็นไปได้จริงมากกว่า ใช่ไหม ? แต่หลังจากได้อ่านอยู่หลายปีได้ฟังมาปีหนึ่ง กลับมองไม่เห็นความก้าวหน้าหรือการเปลี่ยนแปลงอันใด ที่น่าพึงพอใจในตัวเอง เอาเสียเลย อีกทั้งในช่วงเวลานี้หลังเกษียณยังต้องรับหน้าที่ดูแลมารดาวัยชรา ซึ่งป่วยไข้ด้วยโรคอันเกิดจากความเสื่อมของสมอง ก่อนออกจากบ้านมาทำงาน (หลังเกษียณยังรักที่จะทำงานช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป) จึงต้องตระเตรียมอาหารและสิ่งจำเป็นทิ้งเอาไว้ให้ผู้ดูแล อาหารเหลวที่เป็นของย่อยง่ายเหมาะกับวัย กลับมิใช่ว่าจะบริโภคเข้าไปได้ง่ายอย่างที่คิด หลายครั้งหลายหนอาจารย์จำต้องบังคับให้คุณแม่ทานเข้าไป บ่อยครั้งจึงมีปากเสียงกระทบกระทั่งกัน จนถึงขั้นคุณแม่ไม่ยอมกินและยังแถมคำด่าทอให้พรตามมาหลายชุด ซึ่งอาจารย์ก็น้อมรับด้วยความโมโหและพกติดใจเอาไปด้วยทุกเวลา ความรู้สึกไม่สบายใจจึงเกิดขึ้นเวียนวนไปมาพร้อมๆ กับกิจกรรมภายในบ้าน เธอถามตนเองว่า ทำไม ? ทำดีแล้วยังทุกข์อีก ยิ่งกระทำต่อมารดาด้วยแล้ว ไฉน ? เราจึงหาความสงบสุขภายในใจกับสิ่งดีๆ ที่ทำให้ไม่ได้เลย เพื่อนๆ และลูกศิษย์ต่างก็ช่วยพูดให้กำลังใจกัน “ในเวลาอย่างนี้ เป็นโอกาสที่ดีแล้วล่ะที่จะได้ทำความดีตอบแทนกลับคืน” นั่นสินะ แล้วถ้ามันดีจริงทำไม ? ครูถึงได้เป็นทุกข์และกลุ้มใจอย่างนี้ล่ะ เคยสังเกตุเห็นบ้างรึเปล่าว่า เพราะเหตุใด ? ...คุณความดีที่คิดเอาไว้และได้ทำต่อใครบางคนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน จึงสามารถย้อนกลับมาสร้างความทุกข์บั่นทอนจิตใจตัวเอง หรือว่าเคยบ้างไหม ? ที่จะรู้สึกกังขาต่อความดีงามที่ตนเองกระทำให้กับผู้อื่นว่า มันคงจะไม่ดีจริง หรือมันดีได้ไม่สมดีใช่ไหม ? ถึงไม่สามารถเติมเต็มหัวใจเรา หรือว่ามีความต้องการทำดีเพื่อประโยชน์อื่นๆ ไปตามเรื่องตามราวในแต่ละเหตุการณ์ คุณงามความดีมันก็ดีในแบบของมันอยู่หรอก ทว่ามันอาจไม่ได้ดีสมใจเราจริงๆ เท่านั้นเอง ถ้าอย่างงั้น...จะทำดีไปทำไม ? หากมันไม่เห็นผลอย่างที่คิด อีกทั้งยังเข้าไม่ถึงจิตใจเรา แค่ทำดีแต่ไม่หวังผล อย่างงั้นหรือ ? เพียรทำความดีเพราะเห็นว่ามันดี และทำได้ไม่เบียดเบียนใคร (รวมทั้งตนเอง) ก็เพียงพอแล้ว จะหาเหตุอ้างความชอบธรรมอันใดไปทำไมกัน เมื่อมิได้ทำเพื่อโอ้อวดหรือหวังผลอื่นใดแอบแฝง ส่วนที่ต่อจากนั้นจะเป็นไรไป หากแม้นจะเป็นทำดีไม่ได้ดีดังใจ ก็แค่รู้และยอมรับไปตามความเป็นจริง ของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเราที่เป็นอย่างงั้นเอง มีเพื่อนบางคนแนะให้อาจารย์สวดมนต์ลองดู เพราะผู้แนะนำก็ได้รับประโยชน์อันเกิดจากการสวดมนต์มิใช่น้อย อันส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทางที่ดีขึ้น แต่พออาจารย์เริ่มต้นสวดมนต์จริงๆ ในใจกลับมีความคิดความเห็นมากมาย ให้ไม่ยอมโอนอ่อนตามภาษาที่ตัวท่านเองไม่เข้าใจ และด้วยความเป็นนักวิจัยของท่านเอง จึงหาเหตุผลมาโต้แย้งในการสวดมนต์แต่ละครั้ง จนกระทั่งเลิกกิจกรรมนี้ไปในที่สุด ในงานวิจัยร่วมกันของ ดร.แอนดรู ไวลด์กับดร.ริชาร์ด เกอร์เบอร์ ในหนังสือชื่อ Vibration Medicine กล่าวเอาไว้ว่า พลังสั่นสะเทือนที่เราได้จากการท่องคาถาสวดมนต์นั้นเป็นยาวิเศษ หากร่างกายได้รับพลังจากการสวดมนต์นี้จะช่วยเยียวยาอาการของโรคที่อวัยวะส่วนนั้นๆ เพราะว่าคลื่นเสียงที่เปล่งออกมาจากการสวดมนต์ที่กระทบโสตประสาทการรับฟัง ด้วยความดังสม่ำเสมอและมีจังหวะความถี่ในระดับเดียวกัน จะสามารถกระตุ้นกระบวนการทำงานภายในร่างกายและฟื้นฟูสุขภาพให้ดีขึ้น เมื่อเซลล์ประสาทของระบบประสาทสมอง สังเคราะห์สารสื่อประสาทหลายๆ ชนิดบริเวณ ก้านสมอง และหลั่งสารสื่อประสาทชื่อ ซีโรโทนิน (serotonin) ออกมาจากปมประสาท (synapse) เพิ่มขึ้น ซีโรโทนินเป็นสารตั้งต้นสำคัญในการสังเคราะห์สารสื่อประสาทชนิดอื่นๆ เช่น เมลาโทนิน ซึ่งเปรียบคล้ายกับยาอายุวัฒนะ, โดปามีน มีฤทธิ์ลดความก้าวร้าวและอาการพาร์กินสัน นอกจากนี้ปริมาณของซีโรโทนินยังมีความสัมพันธ์ต่อการกระตุ้น การหลั่งสารสื่อประสาทอื่นๆ เช่น อะเซทิลโคลีน ช่วยในกระบวนการเรียนรู้และความจำ ดังเช่นที่อาจารย์เสถียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต ได้เคยอธิบายว่า “เวลาเราสวดมนต์นานๆ คำแต่ละคำจะสร้างความสั่นสะเทือน ไม่เท่ากันตามฐานที่เกิดของเสียง หรือตามวิธีเปล่งเสียง แม้ว่าเสียงจะออกมาจากปากเหมือนกัน แต่ว่าเสียงบางเสียงออกมาจากริมฝีปาก บางเสียงออกมาจากปุ่มเหงือก บางเสียงออกมาจากไรฟัน บางเสียงออกมาจากคอ ดังนั้นถ้าเราสวดมนต์ถูกต้องตามฐานกรณ์ จะเกิดพลังของการสั่น (Vibration)” พลังของการสั่นนี้จะเข้าไปเยียวยาอาการป่วย เสียงสวดมนต์จึงช่วยกระตุ้นต่อมต่างๆให้ทำหน้าที่ปราบเชื้อโรคบางชนิด บทสวดมนต์ในพระพุทธศาสนา เสียงอักขระแต่ละตัวมีคำหนักเบาไม่เท่ากัน บางตัวสั่นสะเทือนมาก บางตัวสั่นสะเทือนน้อย ทำให้ต่อมต่างๆ ในร่างกายถูกกระตุ้นเมื่อต่อมที่ฝ่อถูกกระตุ้นบ่อยๆ เข้า ก็คงคืนสภาพ อาการป่วยก็จะดีขึ้น ดร.แอนดรู ไวลด์ ยังกล่าวอีกว่า การหายใจเข้า-ออกยาวใน ๑ นาทีไม่เกิน ๖ ครั้ง ยังช่วยแก้ปัญหาอาการปวดหัวไมเกรน ความเครียด และโรคนอนหลับ เป็นต้น เช่นนี้แล้วจะมีกิจกรรมใดที่ดีต่อร่างกายและทำได้ง่ายเท่ากับการสวดมนต์อีกเล่า เราจะสามารถหายใจยาวๆ ได้ในทันทีที่เปล่งเสียงออกมา หลังจากได้รับกำลังใจจากลูกศิษย์ลูกหาอย่างต่อเนื่อง เห็นจะไม่มีทางอื่นกระมัง ที่จะช่วยลดความไม่สบายใจ ได้ดีเท่ากับการสวดมนต์อีกแล้วในเวลานี้ อาจารย์ของข้าพเจ้าจึงกลับมาสวดมนต์อีกครั้ง ทั้งๆ ที่รู้ความหมายของบทสวด แม้จะยังไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งกับเนื้อหาของบทสวดก็ตามที แถมเปิดอ่านท่องติดๆ ขัดไปอย่างนั้น หากท่านก็ยังทำอยู่เป็นประจำสม่ำเสมอ ซึ่งในที่สุดก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมขึ้นมา อาจารย์มีความสุข คุณแม่อาจารย์ก็มีความสุข พูดบ่นน้อยลง ยอมทานอาหารเหลวและมาร่วมสวดมนต์กับท่าน “ภาษาพระฉันไม่คุ้นเอาซะเลย” นั่นมันก็ดีนะ จะได้ไม่มีอะไรให้ต้องไปคิดต่อ แค่ปากว่าตามไปด้วยใจที่ยอมทำและทำเต็มที่ เท่านี้ก็ดีแล้ว เป็นความดีที่ไม่เบียดเบียนใจ เพราะมันหยุดคิดและเลิกรากับความวิตกกังวลไปเลย พอเริ่มออกเสียงเปล่งคำอักขระต่างๆอย่างต่อเนื่อง ความคิดทั้งหลายก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว อาจารย์บอกว่า “ถึงครูจะสวดมนต์ ก็สวดไม่คล่อง แถมยังสวดผิดๆ ถูกๆ แต่ไม่รู้ทำไม อะไรๆ ต่างๆ มันถึงได้ดีขึ้นมา” นั่นสินะ มันดีก็ดีแล้วเนอะ เป็นความดีที่รู้จักยอมเปลี่ยนใจตัวเองให้กลับมาสวดมนต์อีกครั้ง ไงล่ะอาจารย์ ที่มา...เครือข่ายพุทธิกา : เพื่อพระพุทธศาสนาและสังคม รวมกระทู้เกี่ยวกับ “การสวดมนต์” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=44099 |
เจ้าของ: | วรานนท์ [ 26 พ.ค. 2010, 18:38 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เพียงเปล่งเสียงตามบทสวดมนต์ ก็เปลี่ยนใจเราแล้ว |
อนุโมทนาสาธุด้วยครับ |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 26 พ.ค. 2010, 18:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เพียงเปล่งเสียงตามบทสวดมนต์ ก็เปลี่ยนใจเราแล้ว |
เจ้าของ: | ธรรมบุตร [ 26 พ.ค. 2010, 19:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เพียงเปล่งเสียงตามบทสวดมนต์ ก็เปลี่ยนใจเราแล้ว |
อนุโมทนา..สาธุ..จร้า..น้องลูกโป่ง |
เจ้าของ: | mopee-9 [ 07 มิ.ย. 2010, 00:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เพียงเปล่งเสียงตามบทสวดมนต์ ก็เปลี่ยนใจเราแล้ว |
สาธุ...............................การสวดมนต์ยังใจให้เป็นสมาธิ |
เจ้าของ: | อมิตาพุทธ [ 07 มิ.ย. 2010, 01:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เพียงเปล่งเสียงตามบทสวดมนต์ ก็เปลี่ยนใจเราแล้ว |
อนุโมทนา ครับคุณลูกโป่ง สาธุ |
เจ้าของ: | ภัทร์ไพบูลย์ [ 24 มิ.ย. 2010, 12:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เพียงเปล่งเสียงตามบทสวดมนต์ ก็เปลี่ยนใจเราแล้ว |
ขอโมทนาสาธุในความเพียรด้วยจิตที่นอบน้อมครับ |
เจ้าของ: | ฟ้าใสใส [ 03 ต.ค. 2010, 21:23 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: เพียงเปล่งเสียงตามบทสวดมนต์ ก็เปลี่ยนใจเราแล้ว | ||
ความดีที่ทำไว้เองนี้แหละ เป็นทรัพย์ส่วนของตัวโดยเฉพาะ ธรรมนั่นแหละ ย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม กราบอนุโมทนาบุญกับท่านผู้เจริญในธรรมและกัลยาณมิตรทุกท่านค่ะ
|
เจ้าของ: | saovapa [ 11 ต.ค. 2012, 19:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เพียงเปล่งเสียงตามบทสวดมนต์ ก็เปลี่ยนใจเราแล้ว |
อนุโมทนาสาธุด้วยคะ |
เจ้าของ: | Nuntiy [ 13 มิ.ย. 2013, 10:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เพียงเปล่งเสียงตามบทสวดมนต์ ก็เปลี่ยนใจเราแล้ว : สุวีโรภ |
เจ้าของ: | Duangtip [ 03 ก.ย. 2018, 06:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เพียงเปล่งเสียงตามบทสวดมนต์ ก็เปลี่ยนใจเราแล้ว (สุวีโรภิ |
ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |