ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ขอพรหลังสวดมนต์ถือเป็นการบนบานหรือไม่ (ดังตฤณ)
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=28&t=35174
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  สาวิกาน้อย [ 22 ต.ค. 2010, 06:29 ]
หัวข้อกระทู้:  ขอพรหลังสวดมนต์ถือเป็นการบนบานหรือไม่ (ดังตฤณ)

รูปภาพ

ขอพรหลังสวดมนต์ถือเป็นการบนบานหรือไม่
โดย....ดังตฤณ


ถาม - ถ้าสวดมนต์เสร็จแล้วเราขอพรต่างๆ
จะเหมือนกับการบนบานศาลกล่าวหรือไม่


รูปภาพ


มันใกล้เคียง คือการบนบานศาลกล่าวเหมือนกับว่าเราไปติดสินบนเจ้าที่เจ้าทาง หรือว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้ เราไม่เห็นหน้าท่านหรอกนะ คือเป็นใครก็ไม่รู้ แล้วท่านก็ไม่รู้จักเราด้วย อยู่ๆ ก็มาขอดื้อๆ นั่นแหละ ด้วยการที่เอาหัวหมูไปให้บ้าง หัวหมูอันเดียวขอรถเบ๊นซ์ หรือบอกว่าลูกช้างเป็นหนี้อยู่ล้านห้า เอาหัวหมูมาให้ ถ้าหนี้ก้อนนี้ปลดหมด เดี๋ยวจะเอาหัวหมูมาให้อีกก้อนนึง คือมันเป็นการต่อรองแบบมนุษย์ จะลงทุนหวังผลแบบเกินตัวนะ

ทีนี้การสวดมนต์ไหว้พระ เราลงทุนไปนิดเดียวนะ คือมาพนมมือแต้ แล้วก็อิติปิโสภะคะวา เสร็จแล้วก็สวดมนต์ขอพรไป ถ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ให้ เราก็โกรธสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บอกว่าหนูจะไม่นับถือท่านอีกแล้ว ขอแล้วไม่ให้ มันเหมือนกับลูก ลูกที่งอนพ่อแม่ คือขอให้คุณสังเกต คุณขออะไรไปกับสิ่งที่คุณมองไม่เห็นนะ คุณมักจะมีอารมณ์ที่มันไม่คงเส้นคงวา แล้วก็ไม่เป็นเหตุเป็นผล คือมันจะไปกระตุ้นในทางจิตวิทยานะ มันจะไปกระตุ้นการเรียกร้องจะเอาอย่างใจโดยไม่มีเหตุผล อย่างไม่สมเหตุสมผล

การที่สวดมนต์ไหว้พระหรือทำบุญอะไรก็แล้วแต่ สิ่งที่จะขอ ถ้าจะขอให้ดีที่สุดนะ ขอให้ความโลภมันลดลง ดีที่สุดเลยนะครับ เพราะว่าความโลภนั่นแหละตัวที่ทำให้เราทุกข์ ความอยากนั่นแหละ ความทะยานอยากนั่นแหละ ตัวที่ดึงเราไปสู่สถานการณ์ยากลำบาก สู่สถานการณ์ติดหนี้ติดสิน สู่สถานการณ์ไปมีเรื่องมีราวเดือดเนื้อร้อนใจ เป็นคดีความกัน มันไม่ใช่จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์นะที่จะมาตัดสิน แต่เป็นตัวคุณเอง ถ้าหากว่าคุณทำบุญอะไรไปแล้ว สวดมนต์ไปแล้ว อธิษฐานขอให้มองเข้ามาที่จิตตัวเองนี่ มันเคยโลภอยู่แค่ไหน ขอให้โลภลดลงครึ่งหนึ่ง มันเคยอยากอะไรแค่ไหน ขอให้มันน้อยลงสัก ๒๕ เปอร์เซ็นต์ หนึ่งในสี่ อะไรอย่างนี้

ตรงนี้มันจะได้ประโยชน์จริงๆ เพราะว่าทิศทางของจิตของคุณมันจะเป็นไปในทางที่ลดต้นเหตุของความทุกข์ลง ไม่ใช่เพิ่มต้นเหตุของความทุกข์ในแบบที่ไม่รู้ตัว อย่างที่ผมบอกนะครับ ยิ่งคุณขอมากเท่าไหร่กับสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ สิ่งที่มองไม่เห็น อารมณ์ของคุณมันจะยิ่งไหวง่าย มันจะยิ่ง sensitive แล้วก็จะเอาอย่างใจตัวเองมาก อันนั้นคือมันอาจจะเทียบ หรือเทียบไม่ได้กับบนบานศาลกล่าวก็ตาม แต่ว่าอาการทางจิตมันจะไปทางเดียวกัน คือชอบอะไรที่มันไม่สมเหตุสมผล อยากได้อะไรที่มันไม่สมควรนะครับ


ดังตฤณวิสัชนา http://www.dlitemag.com/

เจ้าของ:  Hanako [ 22 ต.ค. 2010, 07:13 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอพรหลังสวดมนต์ถือเป็นการบนบานหรือไม่ (ดังตฤณ)

เมื่อก่อนชอบขอค่ะ ถึงจะขอให้ได้รู้ธรรมก็เถอะนะก็ชอบขอจัง

เดี๋ยวนี้ไม่ได้ขออะไรแล้วค่ะ รู้สึกว่า ถึงจะขอของดีแต่ก็ทำให้ตัวเองติดนิสัยช่างขอ

ทุกวันนี้ก็จะตั้งใจว่าสวดมนต์เพื่อระลึกคุณพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ ทบทวนคำสอนของพะพุทธเจ้า จะได้ไม่หลงถ้าเจอใครชักจูงไปในทางที่ผิด ไม่ได้อธิษฐานอะไรเป็นพิเศษเลย

เจ้าของ:  bluebird [ 26 มี.ค. 2011, 17:30 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขอพรหลังสวดมนต์ถือเป็นการบนบานหรือไม่ (ดังตฤณ)

:b8: ขอให้มีธรรมะในใจก็พอค่ะ :b8:

คิดดี พูดดี ทำดี เจริญสติภาวนา

:b8:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/