วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 10:39  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


Facebook ลานธรรมจักร - http://www.facebook.com/larndhammajak
ห้องแชดสนทนาธรรม - http://www.dhammajak.net/chat/



กลับไปยังกระทู้  [ 122 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 5, 6, 7, 8, 9  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 10:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มี.ค. 2010, 12:46
โพสต์: 19

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เอรากอน เขียน:
แต่ถ้ามันใหญ่จริง ๆ ก็ดีสิ่...
แล้ง ๆ อย่างนี้...ถ้าเห็นเมฆก้อนใหญ่ ๆ คลึ้ม ๆ ลอยมา... :b17: :b17:



สวัสดีครับ 'ก้อนใหญ่
คนใกล้ตาย เพิ่งมาเดินเล่นในนี้ได้ไม่นาน
:b1: อาจจะฟังดูแปลก จะเชื่อหรือไม่โปรดพิจารณา
แต่คนใกล้ตายได้ฝันไปว่า ถึงเวลาที่ จิ้งจกตัวน้อย ๆ จะต้องออกจากไข่ และเติบโต
เป็นนัยที่แปลก เพราะทันทีที่เจ้าจิ้งจกน้อยออกจากไข่
มันก็ไม่ได้สนใจที่จะอยู่ในบ้าน มันได้วิ่งมุ่งหน้าไปสู่ป่าซึ่งเป็นที่อยู่ของคนตายทันที
เป็นฝันที่ไร้สาระ
แต่รุ่งขึ้นมา คนใกล้ตายได้มาเห็น 'ก้อนฟ้าตาโต
:b1:
อย่าเพิ่งห่วงสนุกครับ ช่วงนี้ปลีกตัวได้ก็ปลีก สำรวมได้แล้ว 'ก้อนฟ้าตาโต
พ้นวิกฤตเมื่อไร ค่อยกลับมา :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 22:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
:b8: ขออนุโมทนาค่ะ ท่าน"กอนฟ้า-ต๊กโต" :b8:
ถึงวันนั้นเพื่อนๆ คงได้สนทนาธรรมกันอีกเนาะ

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2010, 17:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ม.ค. 2007, 11:39
โพสต์: 85

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

อัศวโฆษ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2010, 17:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนใกล้ตาย เขียน:
:b1:
อย่าเพิ่งห่วงสนุกครับ ช่วงนี้ปลีกตัวได้ก็ปลีก สำรวมได้แล้ว 'ก้อนฟ้าตาโต
พ้นวิกฤตเมื่อไร ค่อยกลับมา :b8: :b8:


:b12: แล้วตอนนี้ พ้นยังหง่ะ :b20:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2010, 11:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 พ.ค. 2010, 15:56
โพสต์: 79

ชื่อเล่น: pa
อายุ: 41
ที่อยู่: St. Oswald Sebenellen 3 Deutschland

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับค่ะ :b44:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2010, 23:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


@ขุมทรัพย์จากพระโอษฐ์@

:b51: :b53: :b53: :b53: :b53: :b51:

"คนกล่าวคำขนาบข่มขี่นั่นแหละ คือคนชี้ขุมทรัพย์ละ"

"คนเรา ควรมองผู้มีปัญญาใดๆ ที่คอยชี้โทษ คอยกล่าวคำขนาบอยู่เสมอไป
ว่าคนนั่นแหละ คือผู้ชี้ขุมทรัพย์ละ ควรคบบัณฑิตที่เป็นเช่นนั้น"


"เมื่อคบหากับบัณฑิตชนิดนั้นอยู่ ย่อมมีแต่ดีท่าเดียว ไม่มีเลวเลย"

จากพระพุทธภาษิตข้างต้น เป็นที่มาของหนังสือ
"ขุมทรัพย์จากพระโอษฐ์" ที่เจ้าประคุณท่านอาจารย์พุทธทาส
ได้รวบรวมเฉพาะพระพุทธภาษิตประเภทหนึ่งในพระไตรปิฎก ที่ท่านกล่าวว่า
"สะดุดตาและดึงดูดความสนใจอย่างมาก จนถึงกับต้องหยุดพิจารณาข้อความนั้นๆ
อย่างพินิจพิเคราะห์ทุกคราวไป เพราะเป็นข้อความที่ไม่เคยคิดว่า
พระผู้มีภาคเจ้าจะทรงมีพระดำรัสรุนแรงถึงเพียงนี้
ทั้งในทางที่จะ ขนาบและในทางที่จะชี้ชวน"


หากเปรียบผู้ปฏิบัติธรรม ที่มุ่งประพฤติปฏิบัติให้ถูกต้องตรงทางเป็นดั่ง
ผู้ขุดค้นขุมทรัพย์
หนังสือ "ขุมทรัพย์จากพระโอษฐ์" นี้ ก็เปรียบได้ดั่ง ลายแทงขุมทรัพย์
ที่จะนำไปให้ผู้ประพฤติปฏิบัติตามไปสู่จุดหมายอันพึงประสงค์ได้ตามกำลังสติปัญญา
แห่งการตีความหมายในลายแทงนั้นๆ


"...เพื่อสะดวกแก่การศึกษาของผู้ขุดค้นขุมทรัพย์
เพื่อเป็นกำลังใจของผู้เหน็ดเหนื่อยในการขุดค้นขุมทรัพย์
และเพื่อเป็นเครื่องกลับตัวของผู้ที่ขุดค้นขุมทรัพย์เมื่ออยู่ในวิถีที่นอกทาง..."


ตอน : ผู้ชี้ขุมทรัพย์

อานนท์! เราไม่พยายามทำกับพวกเธอ อย่างทะนุถนอม
เหมือนพวกช่างหม้อ ทำแก่หม้อ ที่ยังเปียก ยังดิบอยู่

อานนท์! เราจักขนาบแล้ว ขนาบอีก ไม่มีหยุด

อานนท์! เราจักชี้โทษแล้ว ชี้โทษอีก ไม่มีหยุด

ผู้ใดมีมรรคผลเป็นแก่นสาร ผู้นั้นจักทนอยู่ได้

คนเรา ควรมองผู้มีปัญญาใดๆ ที่คอยชี้โทษ คอยกล่าวคำขนาบอยู่เสมอไป
ว่าคนนั้นแหละ คือผู้ชี้ขุมทรัพย์ละ, ควรคบบัณฑิตที่เป็นเช่นนั้น

เมื่อคบหากับบัณฑิตชนิดนั้นอยู่ ย่อมมีแต่ดีท่าเดียว ไม่มีเลวเลย.


ตอน : ผู้ชี้ชวนวิงวอน

ภิกษุทั้งหลาย! กิจอันใด ที่ศาสดาผู้เอ็นดูแสวงหาประโยชน์ เกื้อกูล
อาศัยความเอ็นดูแล้ว จะพึงทำแก่สาวกทั้งหลาย, กิจอันนั้น เราได้ทำแล้วแก่พวกเธอทั้งหลาย

ภิกษุทั้งหลาย! นั่น โคนไม้ทั้งหลาย, นั่น เรือนว่างทั้งหลาย

ภิกษุทั้งหลาย! พวกเธอทั้งหลายจงเพียรเผากิเลส, อย่าได้ประมาท

พวกเธอทั้งหลาย อย่าได้เป็นผู้ที่ต้องร้อนใจ ในภายหลังเลย

นี่แล เป็นวาจาเครื่องพร่ำสอนพวกเธอทั้งหลายของเรา.


ตอน : คืนวันที่มีแต่ "ความมืด"

ภิกษุทั้งหลาย! คืนวันของภิกษุที่ประกอบด้วยองค์ประกอบหกอย่างแล้ว,
ย่อมผ่านไป โดยหวังได้แต่ความเสื่อมในกุศลธรรมทั้งหลายอย่างเดียว
หาความเจริญมิได้ หกอย่างอะไรบ้างเล่า? หกอย่างคือ ภิกษุในกรณีนี้ :-

๑) มีความต้องการมากจนเป็นทุกข์ เพราะไม่รู้จักพอในเรื่องจีวร, บิณฑบาต,
เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร

๒) เป็นคนไม่มีศรัทธา

๓) เป็นคนทุศีล

๔) เป็นคนเกียจคร้าน

๕) เป็นคนมีสติฟั่นเฟือน

๖) เป็นคนมีปัญญาทึบ

ภิกษุทั้งหลาย! คืนวันของภิกษุ ที่ประกอบด้วยองค์ประกอบหกอย่างเหล่านี้แล้ว
ย่อมผ่านไป โดยหวังได้แต่ความเสื่อมในกุศลธรรมทั้งหลายอย่างเดียว หาความเจริญมิได้.


ตอน : คืนวันที่มีแต่ "ความสว่าง"

ภิกษุทั้งหลาย! คืนวันของภิกษุ ที่ประกอบด้วยองค์ประกอบหกอย่างแล้ว ย่อมผ่านไป
โดยหวังได้แต่ความเจริญในกุศลธรรมทั้งหลายอย่างเดียว หาความเสื่อมมิได้
หกอย่างอะไรบ้างเล่า? หกอย่างคือ ภิกษุในกรณีนี้ :-

๑) ไม่มีความต้องการมาก จึงไม่เป็นทุกข์ เพราะรู้จักพอในเรื่องจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ
และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร

๒) เป็นคนมีศรัทธา

๓) เป็นคนมีศีล

๔) เป็นคนปรารภความเพียร

๕) เป็นคนมีสติ

๖) เป็นคนมีปัญญา

ภิกษุทั้งหลาย! คืนวันของภิกษุ ที่ประกอบด้วยองค์ประกอบหกอย่างเหล่านี้แล้ว ย่อมผ่านไป โดยหวังได้แต่ความเจริญในกุศลธรรมทั้งหลายอย่างเดียว หาความเสื่อมมิได้เลย.


ตอน : นกแก้ว นกขุนทอง

ภิกษุ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมเล่าเรียนปริยัติธรรม (นานาชนิด)
คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมมะ เวทัลละ;
แต่เธอไม่รู้ทั่วถึงความหมายอันยิ่งแห่งธรรมนั้นๆ ด้วยปัญญา
ภิกษุนี้เราเรียกว่า ผู้มากด้วยปริยัติ (นักเรียน) ยังมิใช่ธรรมวิหารี (ผู้อยู่ด้วยธรรม)


อีกอย่างหนึ่ง ภิกษุแสดงธรรมตามที่ได้ฟังได้เรียนมา แก่คนอื่นโดยพิสดาร
แต่เธอไม่รู้ทั่วถึงความหมายอันยิ่งแห่งธรรมนั้นๆ ด้วยปัญญา
ภิกษุนี้ เราเรียกว่า ผู้มากด้วยการบัญญัติ (นักแต่ง) มิใช่ธรรมวิหารี (ผู้อยู่ด้วยธรรม)


อีกอย่างหนึ่ง ภิกษุทำการสาธยายธรรม ตามที่ได้ฟังได้เรียนมาโดยพิสดาร
แต่เธอไม่รู้ทั่วถึงความหมายอันยิ่งแห่งธรรมนั้นๆ ด้วยปัญญา
ภิกษุนี้เราเรียกว่า ผู้มากด้วยการสวด (นักสวดป ยังมิใช่ธรรมวิหารี (ผู้อยู่ด้วยธรรม)


อีกอย่างหนึ่ง ภิกษุคิดพล่านไปในธรรม ตามที่ได้ฟังได้เรียนมา
แต่เธอไม่รู้ทั่วถึงความหมายอันยิ่งแห่งธรรมนั้นๆ ด้วยปัญญา
ภิกษุนี้เราเรียกว่า ผู้มากด้วยการคิด (นักคิด) ยังมิใช่ธรรมวิหารี (ผู้อยู่ด้วยธรรม)


ตอน : ผู้ไม่ใช่นกแก้ว นกขุนทอง

ภิกษุ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเล่าเรียนปริยัติธรรม (นานาชนิด)
คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมมะ เวทัลละ;
และเธอย่อมรู้ทั่วถึงความหมายอันยิ่งแห่งธรรมนั้นๆ ด้วยปัญญา
ภิกษุอย่างนี้แล ชื่อว่า ธรรมวิหารี (ผู้อยู่ด้วยธรรม)

ภิกษุ! ภิกษุผู้มากด้วยปริยัติเราก็แสดงแล้ว ผู้มากด้วยการบัญญัติเราก็แสดงแล้ว
ผู้มากด้วยการสาธยายเราก็แสดงแล้ว ผู้มากด้วยการคิดเราก็แสดงแล้ว
และธรรมวิหารี (ผู้อยู่ด้วยธรรม) เราก็แสดงแล้วด้วยประการฉะนี้

ภิกษุ! กิจอันใด ที่ศาสดาผู้เอ็นดูแสวงหาประโยชน์เกื้อกูล อาศัยความเอ็นดูแล้ว
จะพึงทำแก่สาวกทั้งหลาย กิจอันนั้น เราได้ทำแล้วแก่พวกเธอทั้งหลาย
ภิกษุ! นั่น โคนไม้ทั้งหลาย นั่นเรือนว่างทั้งหลาย
ภิกษุ! เธอทั้งหลาย จงเพียรเผากิเลส อย่าได้เป็นผู้ประมาท;
เธอทั้งหลายอย่าเป็นผู้ที่ต้องร้อนใจ ในภายหลังเลย.
นี่แล เป็นวาจาเครื่องพร่ำสอนเธอทั้งหลายของเรา.



คัดความจาก วารสารธรรมมาตา, ธรรมาศรมธรรมมาตา


http://www.oknation.net/blog/print.php?id=128824


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2010, 09:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 พ.ย. 2009, 18:14
โพสต์: 435

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




7264-3.gif
7264-3.gif [ 411.03 KiB | เปิดดู 5737 ครั้ง ]
เอก๊อน...ต่อเรือ...ไปเที่ยวทะเลกันม๊ะะะ เอกอนชวนม๊ดดด้วยน๊ะ...อิอิ



หรือมาฟ้งเพลงบ้านเราก็ได้น๊าา... :b3: :b3:
http://fws.cc/whatami/index.php?topic=71.0
ถ้ามาไม่เจอซุกชนได้ตามสบายน๊ะจ๊ะ :b31: :b17:
เราไม่ค่อยอยู่บ้าน...ชอบไปที่อื่น...แอ่ะแอ่ะ
:b14: :b12: :b12:

.....................................................
สรุปคำสอนของสมเด็จองค์ปฐม
"ท่านทั้งหลาย การหลบหลีกไม่ต้องตกอบายภูมิ มีนรกเป็นต้น เป็นของ ไม่ยาก
1. ขอทุกท่านจงอย่าลืมความตาย จงคิดว่าความตาย อาจจะมีกับเราเดี๋ยวนี้ไว้เสมอๆ
2. เคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ด้วยศรัทธาแท้ (ด้วยความจริงใจ)
3. มีศีลบริสุทธิ์เป็นปกติ และ
4. เป็นกรณีพิเศษ ปฏิเสธการเกิดเป็นมนุษย์ เทวดา นางฟ้า และพรหม ในชาติต่อไป ทุกท่านเห็นนิพพาน แล้วตั้งใจไปพระนิพพานได้ในที่สุด"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2010, 10:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: สาธุค่ะ ยังไม่ทันต้องลงเรือ ก็เมาซะแล้วค่ะ
ภาพเรือสวยดี แต่ดูนานๆ ไม่ได้ค่ะ มาววววววววว....เอิ๊กกกๆๆๆ :b23: :b22:
ตอนนี้ป่วย ปลายประสาทมีปัญหาค่ะ (วิงเวียนคล้ายเมาคลื่น :b12: )
ต้องทานวิตามินบำรุงประสาทค่ะ

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2010, 12:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


sirisuk เขียน:
เอก๊อน...ต่อเรือ...ไปเที่ยวทะเลกันม๊ะะะ เอกอนชวนม๊ดดด้วยน๊ะ...อิอิ



หรือมาฟ้งเพลงบ้านเราก็ได้น๊าา... :b3: :b3:
http://fws.cc/whatami/index.php?topic=71.0
ถ้ามาไม่เจอซุกชนได้ตามสบายน๊ะจ๊ะ :b31: :b17:
เราไม่ค่อยอยู่บ้าน...ชอบไปที่อื่น...แอ่ะแอ่ะ
:b14: :b12: :b12:


คะ จะไป ณ บัดนาว เลยล่ะ
...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2011, 10:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


เจอที่บ่นแล้ว :b12:
วันนี้วันที่ 13 พฤษภาคม 2011
อิอิ ผ่านไปหนึ่งปี บังเอิ๊ญ บังเิอิญ
55555


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2011, 11:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณเอรากอน กับคุณ eragon-joe เป็นคนเดียวกันใช่ไหมครับ
เป็นคนอารมณ์ดีมากครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2011, 01:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
คุณเอรากอน กับคุณ eragon-joe เป็นคนเดียวกันใช่ไหมครับ
เป็นคนอารมณ์ดีมากครับ


อิอิ ก็ชีวิตมันวนเวียนอยู่กับอารมณ์เก่า ๆ น่ะ
คือ มันก็มีทุกข์นะ ทุกข์กาย ทุกข์ใจ
ก็ หมุนเวียน เวียนมาเจอกันอีก ก็ 5555 เจอกันอีกแย๊วววว

คือ พอเจอกับมันเรื่อย ๆ มันก็เห็นแง่ว่ามันเป็นคนละเรื่องกัน
เวทนาเปลี่ยน อารมณ์เปลี่ยน แต่บางอย่างไม่เปลี่ยน

ที่มันไม่เปลี่ยน ไม่ใช่ว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่เปลี่ยน
แต่มันเป็นสิ่งที่ไม่ประกอบด้วยปัจจัย

:b6:

การแสดงความอารมณ์ดี ไม่ได้หมายความว่า ไม่มีทุกข์ หง่ะ
เพียงแต่กำลังใจ มันอยู่ในสภาวะที่มีกำลังเหนือกว่า

ดังนั้นไม่ใช่เรา ที่เป็นผู้อารมณ์ดี

เราเป็นเพียง สิ่งที่รับรู้อารมณ์ ใช่ป๊ะ

หม่ำ หม่ำ หม่ำ

:b12: :b30: :b30: :b30:

:b41: :b41: :b41: :b41:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2011, 15:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
eragon_joeเขียน
การแสดงความอารมณ์ดี ไม่ได้หมายความว่า ไม่มีทุกข์ หง่ะ
เพียงแต่กำลังใจ มันอยู่ในสภาวะที่มีกำลังเหนือกว่า

ดังนั้นไม่ใช่เรา ที่เป็นผู้อารมณ์ดี

เราเป็นเพียง สิ่งที่รับรู้อารมณ์ ใช่ป๊ะ

เป็นสิ่งที่ดีครับที่เรารู้จักตัวเอง เรารู้ว่าคนเรามันต้องมีทั้งทุกข์ทั้งสุข หากเราแยกแยะได้เราก็เกิดความสบายใจขึ้นมาเองโดยไม่ต้องฝืน เท่าที่เข้ามาเวปธรรมจักรแห่งนี้เกือบแทบทุกท่านแลอารมณ์ดี เยือกเย็น มีการทดสอบความคิดเห็นกันอย่างคนที่มีจิตเมตตาต่อกัน นั่นเป็นสาเหตุที่ทำไมตัวผมเองถึงเข้ามาเวปนี้ตลอดเมื่อมีเวลา นึกขำตัวเองในบางครั้งว่าเราไม่ไปเวปอื่นๆเลย เพราะทุกท่านมีบุคลิคที่น่าเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมที่เข้ามาแสดง น่าติดตามอ่าน ปีหนึ่งผ่านไปก็เริ่มรู้จักเพื่อนๆในเวปนี้ในเรื่องของชื่อนาม คือรู้สึกชื่นชมกับความแสวงในธรรมของแต่ละท่าน ก็ไม่เฉพาะว่าจะอารมณ์ดีในที่แห่งนี้ ชีวิตข้างนอกที่สับสนวุ่นวายเราก็ปรับตัวได้ ไม่โกรธแค้นเคืองใครที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะมีเหตุใช่ไหมครับ ก็ต้องฝึกฝนกันต่อไปครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2011, 04:08 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
ไม่โกรธแค้นเคืองใครที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะมีเหตุใช่ไหมครับ


ใช่ เวลาที่อารมณ์โกรธมันครอบงำ
มันรู้สึกเหมือน มีไฟมาลามเผากาย เผาใจ ร้อนรน อยู่ไม่เป็นสุข
แค่เห็นว่าการที่เราหลงไปเล่นกับความโกรธ มันก็เหมือนกับเรากำลังจุดไฟเผาตัวเอง
ด้วยความรักตัวกลัวตาย มันก็หาทางกระโดดออกจากกองไฟ
แค่นั้น ไม่ได้คิดอะไรซับซ้อนไปมากกว่านี้
เพราะเมื่อเราเห็นพฤติกรรมถีบตัวออกจาก อารมณ์โทสะ
เราก็รู้แล้วว่า ไม่ใช่สิ่งที่เขามัก ก็เลยไม่ต้องอบรม
แค่ตรวจตราดูพฤติกรรมให้ดำรงทิศทางนั้นไว้

ไม่มีจิตดวงไหนอยากตกอยู่ในสภาพที่จมอยู่ในกองไฟหรอก
นอกเสียจาก โลภะ โมหะ มีกำลังเหนือกว่่า
ซึ่งตรงนี้สิ่ ที่จะต้องไปทำไอ้เจ้าสองตัวให้เบาบางก่อน

:b12:

อิอิ ยังไม่ได้นอนเลย ไปนอนดีกวั่ะ...

:b30: :b30: :b30:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2011, 15:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
eragon_joeเขียน
ไม่มีจิตดวงไหนอยากตกอยู่ในสภาพที่จมอยู่ในกองไฟหรอก
นอกเสียจาก โลภะ โมหะ มีกำลังเหนือกว่่า
ซึ่งตรงนี้สิ่ ที่จะต้องไปทำไอ้เจ้าสองตัวให้เบาบางก่อน

เป็นเรื่องน่าแปลกครับที่วันนี้ผมไปอ่านเจอคำว่า โลภะ โมหะ โทสะ ใน มรรคข้อที่ 2 คืออ่านมาหลายวันแล้วต้องการความเข้าใจในเนื้อหาว่าทำไมพระพุทธเจ้าจึงใช้คำปฏิเสธ แทนคำตรงข้ามเช่น คำว่า อโลภะ จากเนกขัมมสังกัปส์ หรือ คำว่า อพยาบาทสังกัปส์ ซึ่งมีความหมายว่าเมตตา และ อวิหิงสาสังกัปส์ คือกรุณา จึงได้ความหมายที่ชัดเจนว่าไม่มีประมาณนั่นเอง
ก็อ่านมาจากหนังสืออีกทีจึงรู้ตัวเองว่ายังคงต้องศึกษาอีกนานจนกว่าชีวิตจะหาไม่ประมาณนั้นครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 122 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 5, 6, 7, 8, 9  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 28 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร