ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
คาร์เนชั่น ค่ะ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=29&t=29994 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | คาร์เนชั่น [ 12 มี.ค. 2010, 03:48 ] |
หัวข้อกระทู้: | คาร์เนชั่น ค่ะ |
สวัสดีทุกคนนะคะ ขอเป็นเพื่อนทางธรรม ขอเพื่อนๆช่วยชี้แนะ และร่วมแบ่งปัน ความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม ![]() ![]() ![]() ฝากตัวด้วยนะคะ |
เจ้าของ: | ทักทาย [ 12 มี.ค. 2010, 04:13 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คาร์เนชั่น ค่ะ |
สวัสดีค่ะ ![]() |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 12 มี.ค. 2010, 05:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คาร์เนชั่น ค่ะ |
![]() ![]() ![]() ![]() สู่ ลานธรรมจักร ณ แห่งนี้มีธรรมะ และกัลยาณมิตร ด้วยจ้า |
เจ้าของ: | คิดดี ทำดี พูดดี [ 12 มี.ค. 2010, 18:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คาร์เนชั่น ค่ะ |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | aswakos [ 12 มี.ค. 2010, 18:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คาร์เนชั่น ค่ะ |
เจ้าของ: | วรานนท์ [ 12 มี.ค. 2010, 19:42 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: คาร์เนชั่น ค่ะ | ||
![]() ![]() ![]() สวัสดีครับ ขอให้มีความสุข ณ ลานธรรมจักรแห่งนี้ด้วยครับ ![]() ![]() ![]()
|
เจ้าของ: | หลวงจีนงมงาย [ 15 มี.ค. 2010, 11:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คาร์เนชั่น ค่ะ |
เจ้าของ: | คาร์เนชั่น [ 18 มี.ค. 2010, 16:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คาร์เนชั่น ค่ะ |
รู้สึกอบอุ่นมากค่ะ บางครั้งก็ยังไม่ได้เข้าบ้าน แต่ก็แอบเที่ยวอยู่รอบๆ ตลอดเลยค่ะ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | คาร์เนชั่น [ 20 มี.ค. 2010, 20:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คาร์เนชั่น ค่ะ |
ณ สวนโมกขพลาราม กว่า ๑๘ ปีที่พระสิงห์ทองไม่เคยไปไหนเลย คอยรับใช้ท่านอาจารย์พุทธทาส จนกระทั่งท่านอาจารย์ป่วย และมรณภาพ พระสิงห์ทองรู้สึกเหงา เพราะผูกพันกับท่านอาจารย์มาก จึงขึ้นไปภาวนาอยู่บนเขากว่า ๓ ปี ช่วงนั้นท่านได้เรียนรู้ฝึกปฏิบัติวิปัสสนาจริงจังคนเดียว เมื่อจิตเริ่มมีกำลัง ท่านมีเวลาไตร่ตรองชีวิต จึงพบว่า ธรรมะจากท่านอาจารย์ได้สะสมอยู่ในตัว และนำมาใช้ได้จริง “ตอนเราอยู่กับอาจารย์ เหมือนท่านเขียนหนังสือไว้ในใจเรา ท่านให้แต่ละข้อๆ ใส่มาเรื่อยๆ อาตมาบันทึกไว้หมด พอฝึกปฏิบัติจิตรวมเป็นหนึ่งเดียว มีความสงบ มันเห็นเหมือนดอกเห็ดเลย “ พระสิงห์ทองจบเพียงประถม ๔ ท่านมาจากครอบครัวชาวนาที่อบอุ่น แม่และยายสั่งสอนให้ทำสิ่งดีๆ จนได้บวชเรียนที่สวนโมกข์ และรับใช้ท่านอาจารย์พุทธทาส ปัจจุบันจำพรรษาอยู่วัดธารน้ำไหล สวนโมกข์ “ท่านฝึกให้อ่านออกเขียนได้ ตอนนั้นอาตมาอ่านหนังสือไม่ออก เพราะตอนเด็กๆ ครูเกรงใจคุณยาย ไม่กล้าตีเด็กชายสิงห์ทอง เมื่อมาอยู่กับท่านอาจารย์ ท่านฝึกให้ จนสอบนักธรรมตรีโทได้ “ ช่วงที่พระสิงห์ทองรับใช้ท่านอาจารย์พุทธทาส ท่านเรียนรู้จากการปฏิบัติของท่านอาจารย์ และการสนทนาธรรม พระสิงห์ทองเล่าว่า เวลาอาตมาไม่อยู่ ท่านอาจารย์จะไม่ใช้ใครเลย ท่านจะให้แต่สิ่งดีๆ ไม่เคยให้อารมณ์เสียๆ กับเรา ไม่ว่าจะทำผิดหรือถูก ท่านบอกว่า ไม่มีผิด ไม่มีถูก ท่านอารมณ์สม่ำเสมอ นี่คือการให้ศีล ให้ทาน “เคยมีคนเอาเงินผ้าป่าไปกองเป็นแสนๆ ท่านก็พูดกับคนทำบุญว่า อย่าบ้าบุญกันนักเลย เอาความรู้ไปดับทุกข์บ้างได้ไหม ท่านอาจารย์นำธรรมจากพระพุทธเจ้ามาให้มวลชน แต่มวลชนอาจไม่ชอบ เพราะไม่ถูกใจ ท่านไม่ได้พูดให้ถูกใจคน ท่านพูดตามธรรมชาติ วิวัฒนาการจากใจคนเข้าไปสู่ในธรรมชาติเท่านั้นเอง “ แม้ช่วงที่ท่านอาจารย์พุทธทาสป่วยหนัก พระสิงห์ทองบอกว่า ท่านก็ยังนั่งเขียนหนังสือตามปกติ ตอนนั้นปี ๒๕๓๔ ท่านอาจารย์อายุ ๘๔ ปี น้ำท่วมปอด แม้จะมีเครื่องบินมารับท่านไปรักษาที่กรุงเทพฯ ท่านบอกไปว่า “เราไม่หอบสังขารหนีความตาย” หมอก็ว่าดื้อ ท่านบอกว่ารักษาได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น และช่วงที่ท่านเส้นเลือดในสมองแตก จำอะไรไม่ได้เลย ตอนนั้น หมอประเวศ วะสี ให้หมอนิพนธ์ พวงวรินทร์ ลูกศิษย์มาดูแล หมอนิพนธ์ศรัทธาท่านอาจารย์มาก พยายามให้ท่านอาจารย์นับเลขอยู่ค่อนวัน "ท่านอาจารย์คงจะเมตตาก็นับตาม...หนึ่ง สอง สาม ถึงร้อยและพัน หมอนิพนธ์รู้สึกดีใจ ที่คนไข้ตอบสนอง พอนับมาเรื่อยๆ เห็นหน้าอาตมายืนอยู่ ท่านก็เรียก 'ทอง' ความจำค่อยๆ คืนมา ไม่ได้คืนมาเฉยๆ เขียนหนังสือได้อีกเล่ม เพราะร่างกายเป็นธรรมชาติจัดสรรของมันเอง ไม่ได้ใช้ยาอะไร ท่านเป็นคนแข็ง ไม่กลัวความตาย หลังจากนั้นสามวันท่านบอกว่า ทองไปเรียกหมอประยูร หมอประเวศ อาจารย์รัญจวน มาฟังธรรม ท่านพูดเรื่อง ประมวลพรหมจรรย์สิบ ” ส่วนอีกครั้งที่ พระสิงห์ทองเล่าถึงอาการป่วยท่านอาจารย์พุทธทาส คือ คืนหนึ่งตอนสี่ทุ่มกำลังนอนอยู่ ท่านอาจารย์เรียก “ทอง เราปวดถ่ายโว้ย” พอมองขึ้นไปบนเตียงท่าน เลือดกับอุจจาระเต็มเตียง ไม่อยากให้ท่านลงจากเตียง แต่ท่านจะลง เลยให้ท่านเกาะบ่าเดินขึ้นส้วมที่อยู่หัวเตียง “ตอนนั้นรู้แล้วว่า ท่านอาจารย์ไม่รอดแน่ พอไปถึงตรงส้วม ปรากฏว่าขึ้นไม่ได้ อาตมาตอนนั้นผอมมาก หนักแค่ ๔๐ กว่ากิโลกรัม ท่านอาจารย์เกือบ ๑๐๐ กิโลกรัม ปรากฏว่า ท่านอาจารย์เอนไปเอนมา อาตมาเตรียมพร้อม สุดท้ายท่านเอนมาที่อกพอดี” เช้าวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ช่วงตี ๔ พระสิงห์ทองเล่าต่อว่า ท่านอาจารย์เรียกให้ตื่นแล้วบอกว่า “เราจะตายแล้วโว้ย” แต่ท่านเปิดไฟนั่งเขียนหนังสือ จากนั้นให้ไปเรียนพระอาจารย์โพธิ์ “คิดดูเอาเอง เป็นนักเลงไหม ใครจะใจแข็งขนาดนั้น พอพระอาจารย์โพธิ์มาถึง ท่านอาจารย์บอกว่า 'โพธิ์ เราไม่ไหวแล้วโว้ย' ท่านคุยแบบธรรมดา ไม่มีการใส่อารมณ์เลย น่าคิดนะ ถ้าเราทำได้ หน้าตาท่านไม่บ่งบอกเลยว่า ทุกข์ แต่ท่านบอกว่า ท่านไม่รอด ท่านพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พระอาจารย์โพธิ์ และหมอประยูร คุยกับท่านอาจารย์ตั้งแต่ตี ๕-๗ โมงเช้าในห้องเล็กๆ เมื่อรู้สึกเหนื่อย จึงออกมาด้านนอก" ในช่วงนั้น พระสิงห์ทองเล่าต่อว่า ท่านอาจารย์ให้เราอยู่ก่อน ท่านอยากให้เราดูทุกอย่าง ผ่านไปสักพัก ท่านบอกว่า “ทอง ลิ้นเราแข็งแล้ว” คำสุดท้ายจากนั้นกระตุก กลั้นใจดู ๕ นาที พอท่านนิ่ง เราเปิดประตูออกไปบอกอาจารย์โพธิ์ว่า “ท่านอาจารย์ลิ้นแข็งแล้ว ตายแน่คราวนี้” ก่อนสิ้นลม ท่านอาจารย์พุทธทาสไม่ได้วิตกกังวลใดๆ เมื่อท่านสิ้นลม พระสิงห์ทองที่มีความผูกพันมาก จึงรู้สึกเหงา และขึ้นไปภาวนาบนเขาคนเดียว “ช่วงภาวนาสามเดือน จากที่คุยไม่เป็น มีคนบอกว่า อาตมาเปลี่ยนจากหลังมือเป็นหน้ามือ เทศน์ให้คนฟังได้ มันคงสะสมมานาน แต่เราไม่ได้ปฏิบัติ เมื่อก่อนเห็นท่านอาจารย์นั่งขัดสมาธิเพชรทุกวัน แต่ไม่รู้ว่าคืออะไร ท่านไม่ได้บอกเรา แต่นั่งให้ดู พอท่านอาจารย์สิ้น ขึ้นไปภาวนาบนเขา หัดนั่งขัดสมาธิเพชร มันจะตายเอา ขาแข็ง ลงไม่ได้” ธรรมะที่สะสมในตัวพระสิงห์ทองในช่วงรับใช้ท่านอาจารย์พุทธทาส ทำให้การปฏิบัติธรรมพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว พระสิงห์ทองบอกว่า ขึ้นอยู่กับการฝึก คนเราอย่าไปคิดว่า ทำไม่ได้ แค่เราไม่ได้ฝึกเท่านั้นเอง จากที่อาตมาเคยฟุ้ง หายฟุ้งไปเลย จิตสงบเป็นระเบียบโดยอัตโนมัติ จิตต้องมีความสะอาด สว่างสงบ “คนไม่เข้าใจจิตตภาวนา คิดว่า ต้องไปนั่งสมาธิอย่างเดียว สิ่งไหนไม่ดีก็เอาออกจากตัว ถ้าเราเข้าใจศาสนา มันจะดีหมด ไม่ใช่ว่าชวนทำบุญอย่างเดียว ถ้ามากไปก็ไม่ไหว คนจะเบื่อ แต่ถ้าทำอย่างนี้ คนจะมีบุญในใจ มีปัญญา ไม่ต้องไปบอกให้เขาทำบุญเลย” เมื่อพระสิงห์ทองปฏิบัติจริงจัง จึงมีความเข้าใจชีวิตและธรรมะมากขึ้น ตลอด ๓ ปีท่านเดินบนเขาทุกวัน ท่านบอกว่า ไม่รู้เอากำลังมาจากไหน ทั้งๆ ที่ตอนนั้นอายุมาก แต่สามารถเดินจากกรุงเทพฯ ถึงสวนโมกข์ใน ๑๐ วัน และเดินตัดป่าเขาจากสวนโมกข์ ไปแม่ฮ่องสอนหนึ่งเดือน “เพราะจิตใจที่ฝึก มันไม่รู้จักเหนื่อย” "เพ็ญลักษณ์ ภักดีเจริญ" คม ชัด ลึก |
เจ้าของ: | Bwitch [ 22 มี.ค. 2010, 13:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คาร์เนชั่น ค่ะ |
![]() ปรัชญาและข้อคิดคติเตือนใจ จาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงวาดลายเส้นฝีพระหัตถ์เป็นภาพสัตว์ต่างๆ และทรงพระอักษรด้วยพระองค์เอง มาเป็นปรัชญาและข้อคิดคติเตือนใจให้พสกนิกรชาวไทย ได้ดำเนินชีวิตอย่างมีสติ และตั้งอยู่ในธรรมอยู่เสมอ อีกทั้งยังได้แสดงถึงพระปรีชาสามารถ ทั้งในด้านภาษาศาสตร์และวรรณกรรม ที่สื่อความหมายได้ลึกซึ้งเป็นอย่างยิ่ง ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | คาร์เนชั่น [ 25 มี.ค. 2010, 14:14 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คาร์เนชั่น ค่ะ |
. .กิ น ข้ า ว จ า น เ เ ม ว. . . . . .อ า บ น้ำ ใ น คู . . . . .น อ น กุ ฏิ เ ล้ า ห มู. . . . . .ฟั ง ยุ ง ร้ อ ง เ พ ล ง. . . ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Bwitch [ 26 มี.ค. 2010, 10:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คาร์เนชั่น ค่ะ |
![]() |
เจ้าของ: | Bwitch [ 31 มี.ค. 2010, 12:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คาร์เนชั่น ค่ะ |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 31 มี.ค. 2010, 14:16 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: คาร์เนชั่น ค่ะ |
![]() ![]() ![]() ![]() ...ยินดีต้อนรับสู่ลานธรรมจักรค่ะ... ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |