วันเวลาปัจจุบัน 17 เม.ย. 2024, 03:30  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


Facebook ลานธรรมจักร - http://www.facebook.com/larndhammajak
ห้องแชดสนทนาธรรม - http://www.dhammajak.net/chat/



กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 16:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 16:27
โพสต์: 1

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดิฉันเพิ่งสมัครเป็นสมาชิกน้องใหม่ค่ะ มีเรื่องกังวลใจอยากจะได้พบผู้แนะนำทางสว่างให้แก่ชีวิตค่ะ
ดิฉันเคยไปปฏิบัติธรรมที่วัดสังฆทานค่ะ เพราะใกล้บ้านค่ะ ดิฉันปฎิบัติตนตามกฎระเบียบของทางวัดทุกอย่าง ปัญหาของดิฉันไม่ได้อยู่ตรงส่วนนี้ แต่อยู่ตรงที่ตอนเข้าโบสถ์ หรือเวลานั่งสมาธิ ดิฉันชอบนั่งสัปหงกบ้าง ง่วงนอนบ้าง (โดยเฉพาะในตอนทำวัตรเช้า) สิ่งเหล่านี้รบกวนจิตใจดิฉันตลอด เพราะกลัวว่า ถ้าเราง่วงนอน หรือสัปหงก เวลาปฎิบัติธรรม :b30: จะทำให้เราไม่ได้บุญตามที่เราตั้งใจไว้ค่ะ กลัวว่าจะเป็นบาปซะอีก ช่วยชี้แนะดิฉันด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ :b20:

.....................................................
เราควรยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นกับชีวิตแต่ไม่จำเป็นต้องยอมรับสภาพความจริงนั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 18:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 2009, 22:46
โพสต์: 167

แนวปฏิบัติ: buddhism
อายุ: 0
ที่อยู่: nontaburi

 ข้อมูลส่วนตัว


jannii เขียน:
ดิฉันเพิ่งสมัครเป็นสมาชิกน้องใหม่ค่ะ มีเรื่องกังวลใจอยากจะได้พบผู้แนะนำทางสว่างให้แก่ชีวิตค่ะ
ดิฉันเคยไปปฏิบัติธรรมที่วัดสังฆทานค่ะ เพราะใกล้บ้านค่ะ ดิฉันปฎิบัติตนตามกฎระเบียบของทางวัดทุกอย่าง ปัญหาของดิฉันไม่ได้อยู่ตรงส่วนนี้ แต่อยู่ตรงที่ตอนเข้าโบสถ์ หรือเวลานั่งสมาธิ ดิฉันชอบนั่งสัปหงกบ้าง ง่วงนอนบ้าง (โดยเฉพาะในตอนทำวัตรเช้า) สิ่งเหล่านี้รบกวนจิตใจดิฉันตลอด เพราะกลัวว่า ถ้าเราง่วงนอน หรือสัปหงก เวลาปฎิบัติธรรม :b30: จะทำให้เราไม่ได้บุญตามที่เราตั้งใจไว้ค่ะ กลัวว่าจะเป็นบาปซะอีก ช่วยชี้แนะดิฉันด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ :b20:


ขออนุญาตนะครับ เท่าที่เวลา และ ความรู้ผมอำนวย

การง่วงเป็นเรื่องธรรมดาครับ ผมก็ง่วง นั่งหลับประจำ ทั้งที่เข้าวัดก็บ่อย เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ต้องกลัวเป็นบาปครับ นั่งหลับ ไม่ได้รบกวนใคร ถ้าไม่กรน หรือโอนไปทับใคร

นั่งหลับ เพียงแต่ กุศลเราไม่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ตอนที่ไม่หลับ ได้บุญแน่นอน ความตั้งใจไป ตั้งใจทำ คือ ศรัทธามี ศีลก็มี สติก็มี ปัญญาก็มี สมาธิก็มี ความเพียรก็มี ล้วนแต่เป็นบุญทั้งนั้น

วิธีแก้ความง่วงมีหลายวิธี ท่านว่าไว้เยอะ แก้ตรงนี้ก่อน
สวดมนต์ให้ดัง ๆ อย่าหลับตา มันจะทำให้ง่วงง่าย

อุบายแก้ง่วง และ 8 วิธีปฏิบัติ
8 วิธีพระพุทธเจ้าสอนกรรมฐานพระโมคคัลลานะ
.
ให้บรรลุธรรมภายในวันเดียว
พระโมคคัลลานะนับแต่บวชได้ 7 วัน ได้ไปทำความเพียรอยู่ที่บ้านกัลลวามุตตคาม แขวงมคธ อ่อนใจนั่งโงกง่วงอยู่ พระศาสดาเสด็จไปที่นั่น ทรงแสดงอุบายสำหรับระงับความโงกง่วงให้แก่ท่านว่า
.
1. โมคคัลลานะ เมื่อท่านมีสัญญาอย่างไรความง่วงนั้นย่อมครอบงำได้ท่านควรทำในใจถึงสัญญานั้นให้มาก ข้อนี้จะเป็นเหตุที่ให้ท่านละความง่วงนั้นได้
.
2. ถ้ายังละไม่ได้ ท่านควรตรึกตรอง พิจารณาถึงธรรมที่ได้ฟังมาแล้ว และได้เรียนมาแล้วอย่างไร ด้วยน้ำใจของตัว ข้อนี้จะเป็นเหตุที่ให้ท่านละความง่วงนั้นได้
.
3. ถ้ายังละไม่ได้ ท่านควรสาธยายธรรมที่ตัวได้ฟังมาแล้ว และได้เรียนมาแล้วอย่างไร โดยพิสดาร ข้อนี้จะเป็นเหตุที่ให้ท่านละความง่วงนั้นได้
.
4. ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นท่านควรยอนหูทั้งสองข้าง และลูบด้วยฝ้ามือ ข้อนี้จะเป็นเหตุที่ให้ท่านละความง่วงนั้นได้
.
5. ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นท่านควรลุกขึ้นยืนแล้วลูบนัยน์ตาด้วยน้ำ เหลียวดูทิศทั้งหลาย แหงนดูดาวนักกษัตรฤกษ์ ข้อนี้จะเป็นเหตุที่ให้ท่านละความง่วงนั้นได้
.
6. ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นท่านควรทำในใจถึงอาโลกสัญญา คือความสำคัญในแสงสว่าง ตั้งความสำคัญว่ากลางวันไว้ในจิต ให้เหมือนกันทั้งกลางวันกลางคืนมีใจเปิดเผยฉะนี้ ไม่มีอะไรหุ้มห่อ ทำจิตอันมีแสงสว่างให้เกิด ข้อนี้จะเป็นเหตุที่ให้ท่านละความง่วงนั้นได้
.
7. ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นท่านควรอธิฐานจงกรม กำหนดหมายเดินกลับไป กลับมา สำรวมอินทรีย์ มีจิตใจไม่คิดไปภายนอก ข้อนี้จะเป็นเหตุที่ให้ท่านละความง่วงนั้นได้
.
8. ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นท่านควรสำเร็จสีหไสยา คือนอนตะแคงขวา ซ้อนเท้าเหลื่อมเท้า มีสติสัมปชัญญะ ทำความหมายอันจะลุกขึ้นไว้ในใจ พอท่านตื่นแล้วรีบลุกขึ้นด้วยความตั้งใจว่า
.
- เราจะไม่ประกอบสุขในการนอน
- เราจักไม่ประกอบสุขในการเอนข้าง
- เราจักไม่ประกอบสุขในการเคลิ้มหลับ

โมคคัลลานะ ท่านควรสำเหนียกใจอย่างนี้ว่า เราจักไม่ชูงวง (คือถือตัว) เข้าไปสู่ตระกูลดังนี้เพราะว่า ถ้าภิกษุชูงวงเข้าไปสู่ตระกูล ถ้ากิจการในตระกูลนั้นมีอยู่ซึ่งเป็นเหตุที่มนุษย์จะนำไม่ถึงภิกษุผู้มาแล้ว ภิกษุก็จะคิดเห็นว่าเดี๋ยวนี้ใครหนอ ยุยงให้เราแตกจากตระกูลนี้ เดี๋ยวนี้มนุษย์พวกนี้มีอาการอิดหนาระอาใจในเรา เพราะไม่ได้อะไร เธอก็จะมีความเก้อ ครั้นเก้อก็จะเกิดความคิดฟุ้งซ่าน ครั้นคิดฟุ้งซ่านแล้ว ก็จะเกิดความไม่สำรวม ครั้นไม่สำรวมแล้ว จิตก็จะห่างจากสมาธิ อนึ่ง ท่านควรสำเหนียกใจอย่างนี้ว่า เราจักไม่พูดคำซึ่งเป็นเหตุเถียงกัน ถือผิดต่อกัน ดังนี้ เพราะว่าเมื่อคำซึ่งเป็นเหตุเถียงกันถือผิดต่อกันมีขึ้น ก็จำจะต้องหวังความพูดมาก

เมื่อความพูดมากมีขึ้น ก็จะเกิดความคิดฟุ้งซ่าน
ครั้นคิดฟุ้งซ่านแล้ว ก็จะเกิดความไม่สำรวม
ครั้นไม่สำรวมแล้ว จิตก็จะห่างจากสมาธิ

อนึ่ง โมคคัลลานะเราสรรเสริญความคลุกคลีด้วยประการทั้งปวงหามิได้แต่มิใช่ว่าจะไม่สรรเสริญความคลุกคลีด้วยประการทั้งปวง คือเราไม่สรรเสริญความคลุกคลีด้วยหมู่ชนทั้งคฤหัสถ์ บรรพชิต ก็แต่ว่าเสนาสนะที่นอนที่นั่งอันใด เงียบเสียงที่จะอื้ออึงปราศจากลมแต่คนเดินเข้าออก ควรเป็นที่ประกอบกิจของผู้ต้องการที่สงัดควรเป็นที่หลึกออกเร้นอยู่ตามสมณวิสัย เราสรรเสริญความคลุกคลีด้วยเสนาสนะเห็นปานั้น เมื่อพระศาสดาตรัสสอนอย่างนี้แล้ว
.
พระโมคคัลลานะกราบทูลถามว่า ว่าโดยย่อด้วยข้อปฏิบัติเพียงเท่าไหน ภิกษุชื่อว่าน้อมไปแล้ว ในธรรมที่สิ้นตัณหา มีความสำเร็จล่วงส่วนเกษมจากโยคธรรมล่วงส่วน เป็นพรหมจารีบุคคลล่วงส่วน มีที่สุดล่วงส่วน ประเสริฐสุดกว่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
พระศาสดาตรัสตอบว่า โมคคัลลานะภิกุในธรรมวินัยนี้ได้สดับว่า บรรดาธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดมั่น ครั้นได้สดับดังนี้นแล้ว เธอทราบธรรมทั้งปวงขัดด้วยปัญญาอันยิ่ง
.
ครั้นทราบธรรมทั้งปวงชัดด้วยปัญญาอันยิ่งดังนั้นแล้วย่อมกำหนดรู้ธรรมทั้งปวง ครั้นกำหนดรู้ธรรมทั้งปวงดังนั้นแล้ว เธอได้เสวยเวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสุขก็ดี ทุกข์ก็ดี มิใช่ทุกข์ มิใช่สุขก็ดี
- เธอพิจารณาเห็นว่าไม่เที่ยง พิจารณาเห็นด้วยปัญญาเป็นเครื่องหน่าย
- พิจารณาเห็นด้วยปัญญาเป็นเครื่องประดับ
- พิจารณาเห็นด้วยปัญญาเป็นเครื่องสละคืน ในเวทนาทั้งหลายนั้น
- เมื่อพิจารณาเห็นดังนั้น ย่อมไม่ยึดมั่นอะไร ๆ ในโลก
- เมื่อไม่ยึดมั่นย่อมไม่สะดุ้งหวาดหวั่น
- เมื่อไม่สะดุ้งหวาดหวั่น ย่อมดับกิเลสได้สงบได้จำเพาะตัว
.
และทราบชัดว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์ได้อยู่จบแล้ว กิจที่จำจะต้องทำได้ทำเสร็จเท่านี้แล ภิกษุชื่อว่าน้อมไปแล้วในธรรมที่สิ้นตัณหา มีความสำเร็จล่วงสวนเกษมจากโยคธรรมล่วงส่วนเป็นพรหมจีบุคคลประเสริฐสุดกว่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
พระโมคคัลลานะปฏิบัติตามโอวาทที่พระศาสนดาทรงสั่งสอน ก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ในวันนั้น และพระพุทธเจ้าทรงแต่งตั้งให้เป็นภิกษุผู้เที่มีอิทธิฤทธิ์อภิญญาเป็นเลิศกว่าสาวกองค์อื่น ๆ
.
ยกมาทั้งยวง อ่าน ๆ ดูนะครับ
อนุโมทนาสาธุ อย่าท้อนะครับ
ไวโรจนมุเนนทระ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ค. 2010, 18:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จุฬาภินันท์เคยไปปฏิบัติเหมือนกันวัดเดียวกันด้วย จุฬาภินันท์ก็ง่วงมากค่ะเวลาทำวัตรเช้า สิ่งที่จุฬาภินันท์เลือกจะทำคือประเมินตัวเองว่าไหวมั้ย ตอบตัวเองได้ว่าไม่ไหวร่างกายยังไม่พร้อมก็เลยกลับบ้าน

ต้องทำความเข้าใจกันใหม่นะคะ การไปปฏิบัติธรรมที่วัดไม่ได้ให้บุญไปมากกว่าการปฏิบัติที่บ้าน มันขึ้นอยู่กับเจตนาเป็นสำคัญค่ะ ถ้าง่วงก็ลองแก้ง่วงตามที่พระพุทธองค์ทรงสอนก่อนก็ได้ แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆก็ถอนตัวออกมาก่อนค่ะ มาฝึกปฏิบัติเองที่บ้านก็ได้ด้วยการสวดมนต์ทำสมาธิ บุญที่ได้ไม่มากน้อยไปกว่ากันหรอกค่ะ เพียงแต่การไปปฏิบัติที่วัดทำให้ได้ฝึกระเบียบวินัยไปในตัวเท่านั้น

เรื่องจะบาปมั้ยถ้าง่วงนอนเวลาทำวัตรเช้า คำตอบคือไม่บาปค่ะกำลังบุญก็ยังคงได้ตามเจตนาค่ะ แต่ปฏิบัติตอนไม่ง่วงจะทำให้เราเข้าถึงสมาธิได้มากกว่า เราจึงควรปฏิบัติขณะที่ไม่ง่วง

การปฏิบัติก็เพื่อให้เข้าถึงธรรมถึงปัญญามหัศจรรย์ จะเข้าถึงปัญญาธรรมนั้นได้ต้องมีสมาธิก่อนค่ะ อย่าปฏิบัติเพราะหวังจะได้บุญเพราะได้อยู่แล้ว แต่ถ้าไม่มีกิเลสเข้าไปจะทำให้เข้าถึงธรรมได้เร็วขึ้นค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2010, 10:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8: tongue ยินดีต้อนรับน้องใหม่ คุณ jannii smiley :b8:
สู่ ลานธรรมจักร ณ แห่งนี้มีธรรมะ และกัลยาณมิตร ด้วยจ้า


ช่วงก่อนทำวัตรเช้า พยายามอย่าให้ท้องอิ่มมากนักค่ะ
หากนั่งสมาธิแล้วง่วงนอน หรือสัปหงก
ก็ขอให้เปลี่ยนอิริยาบถเป็นเดินจงกรม หรือยืนสมาธิแทนค่ะ

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2010, 10:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ความง่วงเป็นสภาวะอย่างหนึ่งของการปฏิบัติ
หรือ เรียกว่า "นิวรณ์" เป็นสภาวะธรรม ชนะได้ด้วยความเพียร....
ทุกท่านที่ปฏิบัดิ..ต้องเจอและต้องผ่านปัญหาไปให้ได้...เมื่อผ่านได้แล้ว
ก็จะมีสภาวะอื่นเข้ามาทดสอบอีกเรื่อยๆ...และยากขึ้นเรื่อยๆค่ะ

ปฏิบัติต่อไป...ถ้านั่งแล้วง่วง...ก็เปลี่ยนอริยบถ....ลุกไปล้างหน้า...หรือ
ลุกเดินจงกรมก็ได้....ถ้าไม่ไหวจริงๆ...ก็นั่งหลับพิงผนัง หรือเสา..สักแป๊ปก็ได้...
เวลาทานข้าว...ก็อย่าทานให้อิ่มเกิน...เพราะจะทำให้ง่วงได้เหมือนกัน


อนุโมทนาค่ะ :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2010, 15:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b6:
...แค่คิดก็ได้บุญแล้วค่ะ...ได้ทำด้วยก็ได้อานิสงส์มาก...
...ไม่ต้องไปกังวลมากมายขนาดนั้นหรอกค่ะ...
...ขึ้นบันไดยังต้องมีขั้นแรกก่อน...
...และต้องก้าวต่อเพื่อขึ้นในขั้นต่อๆไป...
...เพราะจิตต้องอาศัยการหมั่นฝึกฝนอบรม...
...ไม่ใช่ฝึกวันเดียวได้...จริงไหมคะ...
:b12:
...เหมือนเราฝึกเล่นกีฬา...ฝึกมากก็จะเล่นได้เก่ง...
...การไปปฏิบัติที่วัดอย่างเดียวไม่พอหรอกค่ะ...
...ได้แนวทางแล้วต้องเอามาฝึกฝนต่อที่บ้านนี่แหละ...
...ถ้านั่งแล้วง่วงมาก...ก็เดินจงกรมให้มากๆค่ะ...
...บุญไม่ใช่ทำครั้งเดียวแล้วพอ...กินข้าวยังต้องกินทุกวัน...
...การปฏิบัติธรรมก็ต้องขยันทำไปจนกว่าหมดลมหายใจ...
...ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปค่ะ...
:b20:
:b4: :b4:
:b48: :b48: :b48: :b48: :b48:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 04 พ.ค. 2010, 15:45, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2010, 14:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

:b48: :b47: :b48: :b47: :b48:

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร