วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 07:17  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


Facebook ลานธรรมจักร - http://www.facebook.com/larndhammajak
ห้องแชดสนทนาธรรม - http://www.dhammajak.net/chat/



กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.พ. 2011, 12:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2011, 13:23
โพสต์: 29

แนวปฏิบัติ: พุทโธ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ,ปฏิบัติธรรม,ปลูกต้นไม้/จัดสวน,เลี้ยงสัตว์,
สิ่งที่ชื่นชอบ: ธรรมมะ
ชื่อเล่น: Eak
อายุ: 36
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


แนะนำตัวครับชื่อ"อิฐิมาโญ"ไม่ใช่พระแต่เป็นฉายาตอนบวชครับ.(ฝึกนั่งสมาธิแบบจริงจังครบ1ปีในวันนี้แล้วครับ)
ผมเรียนพื้นฐานสมาธิจากวัดธรรมมงคล"โดยมีพระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์"เป็นผู้วางรากฐานแบบเรียนใว้และมีศิษย์รุ่นต่อรุ่นดูแลกันปัจจุบันถึงรุ่นที่28(มีรุ่น27คอยดูแล)ผมจบรุ่น26วิชาญาณครับ.(ไม่ทราบมีใครบ้างมั๊ยเอ่ย?)คือจะขอรบกวนขอคำชี้แนะแนวทาง/ประสบการณ์/ความรู้แบ่งปันจากทุกท่านด้วยครับ
- คือเมื่อนั่งสมาธิปล่อยกายสบายๆไม่เคร่งเครียดลมหายใจปล่อยไปตามธรรมชาติใช้บทบริกรรมสำหรับผูกจิตว่า"พุทโธ"อยู่ที่ฐานของจิตไปเรื่อยๆจนนิ่งสงบแล้วก็ไม่ต้องบริกรรมแต่"พุทโธ"ยังอยู่ณ.ฐานของจิตนิ่งไม่สัดส่ายไปไหนและร่างกายก็นิ่งสงบเช่นกันจนรู้สึกลมหายใจหายไปในขณะนั้นหูเริ่มไม่ได้ยินเสียงค่อยๆดับวูบไป.ร่างกายแข็งทื่อเหมือนถูกบีดอัดเค้นอย่างแรงแถบจะระเบิดออกมาให้ได้แต่ร่างกายเกิดการต่อต้านพยามยามหายใจอึกอักๆแทบจะขาดใจจนต้องแก้ไขคือค่อยๆสูดลมหายใจลึกๆหูก็ค่อยคลายร่างกายก็ค่อยๆผ่อนจากอาการดังกล่าวแต่จิตก็ยังทรงใว้ได้.
โดยปฏิบัติทีไรก็จะเป็นแบบนี้และต้องคอยแก้ไขวิธีนี้ทุกทีเช่นกัน.
-จึงอยากขอคำชี้แนะ/ประสบการณ์/ความรู้จากทุกท่านด้วยครับ
(แต่ยังไม่ได้ไปสอบถามใครเลยนอกจากเพื่อนๆที่ปฏิบัติด้วยกันแต่ก็ไม่มีใครให้ความกระจ่างได้เนื่องด้วยประสบการณ์และปัจจัยอื่นๆแตกต่างกันออกไป)
ขอโน้มรับทุกท่าน ขอบคุณครับ.. cool


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.พ. 2011, 08:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8: tongue ยินดีต้อนรับน้องใหม่ คุณ อิฐิมาโญ smiley :b8:
สู่ ลานธรรมจักรแห่งนี้มีธรรมะ และกัลยาณมิตร ด้วยจ้า

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.พ. 2011, 12:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2010, 00:17
โพสต์: 255

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b42: ตอนลมหายใจจะขาดหายแผ่วเบาแทบไม่รู้สึกนี้ เป็นช่วงอุปจาระสมาธิ ตอนนี้จิตวางตัวพุทธโธไปแล้ว เพราะตัวพุทธโธ ที่จริงคือตัวสมมุติบัญญัติ หรือที่เรียกว่าตัววิตก เมื่อเข้าสมาธิขั้นกลางจิตจึงวางตัวพุทโธไป เหลือเพียงลมหายใจแผ่วมากแทบจับความรู้สึกไม่ได้ ตอนนี้ถ้าเกิดสิ่งกระทบภายนอก เช่นเสียงหมาเห่า จิตจะไม่ปรุงแต่งแล้ว(ไม่คิดตามไปว่าหมาใคร อะไรทำนองนี้ รู้แต่สักว่าหมาเห่าแล้ว แต่ไม่คิด) เราต้องทำอย่างไรถึงตอนนี้ ต้องเลิกตามลมหายใจ เอาจิตไปจรดไว้ที่ปลายจมุก รู้สึกให้ทุกครั้งที่ลมหายใจออกกระทบปลายจมูก อย่าเพลินรู้สึกให้ต่อเนื่องไปจนลมหายใจขาด อันนีเรียกรูปเริ่มดับ(กำลังจะเหลือแต่นาม) ถ้าลมหายใจขาด ประคองจิตนิ่งไว้เป็นกลางๆมันถึงจุดรอยต่อระหว่างอุปจาระสมาธิเข้าสู่อัปนาสมาธิ(หรือเข้าไปสู่ปฐมฌาณ) แต่ความจริงมันยากมาก ถ้าทำจิตไว้ไม่พอดี อยางของคุณนี้ จิตมันไม่น่าเป็นกลาง อาจกลัวที่ลมหายใจขาด กำหนดลมหายใจไม่ถูก พยามวางจิตเป็นกลางๆ อย่าส่งจิตไปนอกกายเด็ดขาด ลมหายใจขาด กายยังไม่ดับ ก็ประคองจิตไว้ในกายนี้ ทำอยู่อย่างนี้ถ้ามันรู้สึกสบายแล้วถือว่าถูกทาง เข้าอัปนาสมาธิไม่ได้ไม่เป็นไร เพียรอยู่อย่างนั้น อย่าอยาก อย่ากลัวอะไรเกิดขึ้นในจิตสักแต่ว่ารุ้เท่านั้น แต่ถ้ายังอึดอัด แสดงว่าวางจิตไม่เป็นกลางจริงปรับใหม่ให้เป็นกลางๆเสีย จะเข้าอัปนาสมาธิได้ กิเลสอย่างหยาบ นิวรณ์ต้องดับหมด ความหยาก ความกลัว ต้องไม่มี ทำไปอย่างนั้นเหมือนสูบลมห่วงยางเมื่อไรสมาธิมันสะสมกำลังเพียงพอ ห่วงยางมันก็จะพองพรึบขึ้นมาจนเราตกใจ ประคองจิตไว้สักแต่ว่ารู้ ลมหายใจขาด กายดับไม่มีกาย เหลือแต่จิตดวงเดียวส่องแสงสว่างอยู่ นั่นแหละที่สุดของสมาธิในเบื้องต้น รอจิตมันดำเนินต่อปจนครบทุกสภาวะ มันจะต้องผ่าน ปิติ สุขเอกทัคคาและอุเบกขาในที่สุด.....เอาแค่นี้ก่อน อันนี้เป็นประสบการณ์จริงที่เคยผ่านมาไม่ใช่เรื่องเล่าต่อๆกัน หรืออ่านจากตำรามาแต่ก็ไมจำเป็นต้องเอนกันทุกคนเรื่องประสบการณ์ทางจิต อีกอย่างต้องระวังสิ่งที่จะตามมาคือ นิมิตถ้ามันเห็นอะไรนั้นมันผิดทาง ผูกจิตไว้กับลมหายใจจนลมหายใจขาดแล้วจะไม่เห็นนิมิต ซึ่งเป็นของหลอกลวง คือเกิดขึ้นจริงแต่ไม่ใช่ของจริง เอาแค่นี้ก่อน....คนอื่นเขาจะหมันไส้เอา......เจโตวิมุติ.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.พ. 2011, 12:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2011, 13:23
โพสต์: 29

แนวปฏิบัติ: พุทโธ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ,ปฏิบัติธรรม,ปลูกต้นไม้/จัดสวน,เลี้ยงสัตว์,
สิ่งที่ชื่นชอบ: ธรรมมะ
ชื่อเล่น: Eak
อายุ: 36
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


กราบขอบพระคุณท่านเจโตวิมุติครับ. ( ผมรออยู่ตั้งหลายวันว่าจะมีใครเข้าชี้แนะบางน้อ)
ผมเข้าใจแล้วแต่ความลึกซึ่งของรายละเอียดนั้นจะต้องนำไปปฏิบัติก่อนอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามที่ท่านว่าและได้ผลยังไงผมก็จะมาแจ้งให้ท่านทราบรวมทั้งทุกท่านในลานธรรมนี้ด้วยหรือจะมีคำถามเพิ่มเติมก็จะมาขอรบกวน(ไม่ทราบว่าต้องเข้าไปคุยในห้องไหน?.)
เผื่อมีใครที่ปฏิบัติอยู่แล้วเจอแบบนี้ก็จะได้นำไปใช้ประโยชน์ได้.

โดยรวมแล้วผู้ที่สนใจในธรรมและปฏิบัติไม่น่าจะมีการหมั่นไส้เพราะจะทำให้จิตขุ่นมั่ว(เพราะสิ่งแวดล้อมก็มีมากพอแล้วกับการขุ่นมั่ว)การชี้แนะปรึกษาพูดคุยในธรรมก็น่าจะยกเว้นใว้บ้างนะเพราะเป็นเรื่องที่มีแนวทางที่ก่อประโยชน์
นะครับ...เอะหรือคิดไปเอง...อุเบกขาแล้วกันขอรับ. smiley


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.พ. 2011, 15:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: ขออนุโมทนาสาธุค่ะ ฝึกปฏิบัติเพียง 1 ปี
สามารถเจริญก้าวหน้าได้ขนาดนี้

เชิญอ่านปฏิปทาของพระเดชพระคุณพระอาจารย์ชา สุภัทฺโท (รบกับกิเลส)
เพื่อเจริญปัญญาและสร้างกำลังใจในการปฏิบัติต่อไปนะคะ
http://www.watnongpahpong.org/prawatlpc.php

:b8: เจริญในธรรมค่ะ

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.พ. 2011, 17:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เจโตวิมุติเขียน
พยามวางจิตเป็นกลางๆ อย่าส่งจิตไปนอกกายเด็ดขาด

จริงๆเมื่อเช้าผมพิจารณาธรรมนี้อยู่ เพราะเหมือนความสงสัยในใจว่าทุกอย่างล้วนเกิดโดยพื้นฐานของการกระทบกันของอายตนะภายใน และอายตนะภายนอก ก็เลยพิจารณาอายตนะภายใน เพราะคำตอบจากกระทู้ผมเองที่หลายท่านเข้ามาแนะนำ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.พ. 2011, 18:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.พ. 2011, 18:26
โพสต์: 3


 ข้อมูลส่วนตัว


มีเรื่องไม่สบายใจคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.พ. 2011, 19:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.พ. 2011, 18:26
โพสต์: 3


 ข้อมูลส่วนตัว


มีเรื่องไม่สบายใจคะ เรื่องมีอยู่ว่า...

ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร เมื่อใดที่รู้สึกไม่สบายใจ หรือว่ารู้สึกไม่สบายกายด้วย เป็นไม่กี่วันพออาการเหล่านี้หาย ก็จะมีเรื่องไม่ดีตามมา เป็นมาหลายครั้งแล้ว

ครั้งแรก อยู่ๆ ก็ร้องไห้นั่งร้องไห้คนเดียวเป็นชั่วโมงแล้วก๊รู้สึกไม่สบายใจ ก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกัน เพื่อนถามว่าเป็นอะไร ก๊บอกได้แค่รู้สึกหดหู่ แค่นี้เอง แล้วอาการก๊หายไปกลับมาเป็นปกติ แล้วตอนเช้าแม่ของแฟนโทรมาบอกว่า แฟนโดนรถชน ซะอย่างงั้น

ครั้งที่สองรู้สึกไม่สบายใจ อยู่นิ่งๆไม่ได้ ต้องการจะทำอะไรซักอย่าง ก๊ไปคุยกะคนคนั้คนโน้นไปทั่ว รู้สึกเหมือนมีอะไรมารบกวนจิตใจ โทรคุยกะพี่สาวของแฟน แต่ก็ยังไม่หาย พออีกวันสองวันก๊ปกติแฟนก็โทรมาบอกว่าเพื่อนของแฟนเสีย เราเคยเจอเพื่อนของแฟนคนนี้ครั้งหนึ่ง แค่ครั้งเดียวเองนะ

ครั้งที่สาม ปิดเทอมกลับบ้าน มีอยู่วันหนึ่งรู้สึกว่าตัวเองเป็นไข้ คือเป็นไข้แน่ มันรู้สึกแบบนั้นเพราะว่านอนซมทั้งวันทั้งคืนไม่ได้ไปไหนเลย แต่แม่มาจับตัวดูแม่ก๊บอกว่าตัวไม่ร้อนนะ ตัวเย็นปกติ ไม่เห็นตัวร้อนซักนิดเลย แม่บอกแบบนี้ แต่ตัวเองไม่ไหวเลยไง แบบว่านอนกินยาแล้วก็นอน พอเย็นๆ อกแม่ว่ารู้สึกไม่สบายใจเลย เป็นอะไรก๊ไม่รู้ ก๊เลยนอนต่อ ไม่ได้กินข้าวกินน้ำเลย วันพรุ่งขึ้นอาการนี้ก็เริ่มหาย ไปจนรู้สึกว่าปกติ พอตอนบ่ายเพื่อนโทรมาบอกว่า เพื่อนของมันอ่าตาย แต่เราก๊รู้จักกับคนที่ตายนะเหมือนกับเป็นเพื่อนของเพื่อนที่รู้จักกันอีกที ประมาณนี้

แล้วก๊เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ....

จนเมื่อวานนี้ เราไม่สบาย กินข้าวก๊อ๊วก คือไม่สบายใจด้วยเหมือนเดิมเลย แต่ไม่คิดไงว่ามันจะเกิดเรื่องเพราะคิดม่ถึง คิดว่าครั้งนี้คงไม่สบายจริงๆ แต่อาการก๊ดีขึ้นในวันเดียวกันตอนเย็น พอวันนี้ตอนบ่ายๆเพื่อนโทรมาบอกว่า อาจารย์ที่สอนที่โรงเรียนเก่าอ่ะ รถตกเหว เสียเลย

เราไม่แน่ใจว่าเราเป็นอะไร หรือเรามีอะไรที่คนอื่นไม่มี

เคยมีคนทักว่ามีองค์แต่ก็เคยไปถามพระแล้วท่านบอกว่าไม่ได้มีอะไรแบบนั้นหรอก แค่คิดไปเอง อย่าไปคิดมาก แล้วท่านก๊ถามว่าในห้องมีพนะไหม เราก๊ว่ามีเพราะว่าในห้องมีพนะสามองค์ ท่านก๊บอกว่าให้เอาออก ไม่ต้องมีมาก แล้วก็ในห้องอย่ามีดอกไม้สด แล้วถ้าอยากหายจากการที่เป็นแบบนี้ ให้เอาเหล้าเทใส่แก้วตั้งไว้ในห้อง จะนอนหลับสบาย แล้วอย่าไปนั่งสมาธิ วิปัสนา เพราะว่าถ้ามีเซ็นต์แบบนี้แล้วไปนั่ง อาจจะเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น ไม่ก็เป็นบ้าไปเลย เพราะมีหลายคนที่เป็นแบบนี้เเล้วไปนั่งแล้วก็เป็นบ้าไปเลย

ใครก็ได้ขอคำแนะนำหน่อย ว่าควรจะทำไงต่อไปดี

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มี.ค. 2012, 12:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 มี.ค. 2012, 17:36
โพสต์: 210


 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีครับ

.....................................................
กระบี่อยู่ที่ใจ : เมตตาธรรมค้ำจุนโลก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 เม.ย. 2012, 14:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.ย. 2008, 11:39
โพสต์: 316

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


cool สวัสดีคับผม :b4: .... :b16: ผมชื่อ กำลังเพียร :b9: นะคับ :b8:
ไม่มีอะไรเเนะนำคับเเต่ขอเป็นกำลังใจให้เเละขออนุโมทนาในการปฏิบัติเพื่อความหมดสิ้นกิเลสครับ..สาธุ :b8:

.....................................................
คิดดี พูดดี ทำดี มองเเต่ดีเถิด...


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 13 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร