ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ศีลอย่างไรสามารถถึงซึ่ง “พระนิพพาน” (ท่านพ่อลี ธัมมธโร) http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=30&t=49171 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | Hanako [ 10 ม.ค. 2015, 17:00 ] |
หัวข้อกระทู้: | ศีลอย่างไรสามารถถึงซึ่ง “พระนิพพาน” (ท่านพ่อลี ธัมมธโร) |
![]() พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร วัดอโศการาม อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พระธรรมเทศนาต่อเนื่องจากกระทู้ “ศีล ๓ ระดับ” อ่านที่นี่ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=30&t=49052 ![]() ![]() "ปาณาฯ" สัตว์ผู้ข้องอยู่ในความดี ความสุข มันจึงหากิน ดวงจิตของเรายังข้องอยู่ในบุญกุศล มันทำยังไม่อิ่มไม่เต็มใจ พอนึกถึงจะไปทำบุญก็เท่ากับ "กุศลจิต" เกิดขึ้นตัวหนึ่ง มันเกิดข้องในจิตของเรา ถ้าเราเกิดกลับใจไม่ทำ ก็เป็นการ "ฆ่าตัวเอง" เรียกว่า "ศีลธรรมขาด" ฆ่าตัวเองได้ ทำไมจะฆ่าคนอื่นไม่ได้ ดวงใจฆ่าศีล เช่น กลับใจไม่ฟังเทศน์ บุญที่ควรจะได้ก็ตายจากจิตที่ดีของเรา นั่งสมาธิก็ไม่นั่งละ..มันเมื่อย นี่เป็นการฆ่าความดีของตัวเอง ศีลอย่างนี้ไม่สามารถถึง นิพฺพุตึ ยนฺติ ได้ในที่สุด ![]() "อทินฺนาฯ" เรื่องต่างๆของเขา แอบไปขโมยมาคิดมานึก ก็เท่ากับเป็นตัวโจร เป็นขโมย ใจไม่บริสุทธิ์ ขโมยของดีเขาก็ค่อยยังชั่ว ของไม่มีความจริงไปเที่ยวขโมยมามันยิ่งหนัก คนบ้าก็ต้องไปขโมยของเลว คนดีก็ขโมยของดี เมื่อใจมันเป็นขโมยได้ ปากมือก็ย่อมได้ และเมื่อศีลตัวนี้ขาด มันก็ล่วงกามได้ ![]() "กาเมฯ" ล่วงในกามวัตถุ สิ่งชั่วไหลเข้ามาสู่จิต กิเลสกามเกิด ราคะ โทสะ โมหะเกิด มันก็ต้องเป็นบ้าเท่านั้น ![]() "มุสาฯ" การพูดปด อยู่บ้านก็มุสา อยู่วัดก็มุสา ผู้ที่ไม่มีความสัตย์จริงนั่นแหละเป็นมุสา นั่งฟังเทศน์ใจมันแล่นไปในบ้าน หรือนั่งสมาธิแต่ใจไปอื่น นี่แหละเป็นการปดหลอกตัวเองอย่างนี้ ศีลของเราก็ไม่บริสุทธิ์ และคำพูดโปรยประโยชน์ วาจา จิตก็เป็นมุสาวาท ถ้าใครไม่รักษาศีลนี้ จิตจะถึงโลกุตตระไม่ได้เป็นอันขาด ![]() "สุราฯ" ดวงจิตไม่ได้กินเหล้าแต่มันเมา เมาในชีวิต เมาในวัย เมาในความไม่มีโรค เมาในความจน เมาจนจะไปวัดก็ไม่ได้ กลัวเสียนั่นเสียนี่ บางคนเมาในความมี เหมือนกินกัญชาอยู่ เราเพลินอยู่ในสังขาร เมาในสรีระร่างกาย เด็กก็เมาในเรื่องเด็ก หนุ่มสาวก็เมาในเรื่องหนุ่มสาว แก่ก็เมาในแก่ งกๆ งันๆ ตาหูมืดมัว ถ้าเราไม่เมาในสิ่งเหล่านี้ ดวงจิตของเราก็เป็น "อธิจตฺเต จ อาโยโคฯ" ทำดวงจิตของเราให้พ้นจากอารมณ์ที่ชั่ว เราก็ถึง "สจิตฺตปริโยทปนํฯ" ถ้าใครหวังดีต่อตัวเอง ต่อพระศาสนา ต้องตั้งใจปฏิบัติดังนี้ ต้องพากันชำระความชั่ว จิตของเราจึงจะถึงมรรคผลนิพพาน จึงจะเป็นไปตามโอวาทคำสอนของนักปราชญ์บัณฑิต ฉะนั้นจงพากันอย่าประมาท ถึงจะจำได้หรือไม่ได้ก็ดีก็อาจจะบรรลุความสุขใจ มนุษย์ สวรรค์ และ นิพพานได้ ![]() ![]() คัดลอกเนื้อหาจาก หนังสือแนวทางวิปัสสนา-กัมมัฏฐาน พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร. โดยชมรมกัลยาณธรรม ปี พ.ศ. ๒๕๕๒. หน้า ๑๗๓-๑๗๕ ![]() http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=38679 ![]() http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=21381 |
เจ้าของ: | ลูกหว้า [ 04 เม.ย. 2015, 18:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศีลอย่างไรสามารถถึงซึ่ง “พระนิพพาน” : ท่านพ่อลี ธัมมธโร |
![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | sirinpho [ 09 ก.ค. 2015, 06:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศีลอย่างไรสามารถถึงซึ่ง “พระนิพพาน” : ท่านพ่อลี ธัมมธโร |
![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | น้องพลอย [ 10 มี.ค. 2018, 06:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ศีลอย่างไรสามารถถึงซึ่ง “พระนิพพาน” : ท่านพ่อลี ธัมมธโร |
![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |