วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 18:28  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


- สถานที่ปฏิบัติธรรม
แนะนำรายชื่อสถานที่ปฏิบัติธรรมกรรมฐานทั่วประเทศ
http://www.dhammajak.net/forums/viewforum.php?f=9

- รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=30



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2019, 08:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

ไมใช่ว่าเรามารักษาศีลเปล่าๆ โดยไม่ได้บุญได้กุศลอะไรอย่างนี้ไม่ใช่นะ ได้บุญได้กุศลมากกาย คำว่า บุญนั้นก็หมายความว่า เมื่อเรามาทำความดีไม่ทำความชั่ว นั่งภาวนาพิจารณาดูตัวเอง เห็นว่าตนเองนั้นทำแต่ความดี ความชั่วไม่ทำ ก็จะเกิดปีติขึ้นในใจ เอิบอิ่มใจ ใจเบิกใจบาน อันนี้ล่ะท่านเรียกว่า บุญ บุญเกิดขึ้นในใจ บุญนั้นไม่มีรูปร่างอะไร เป็นนามธรรมเกิดขึ้นกับจิตใจ เมื่อใจนึกถึงความดีเหล่านั้นมาแล้วก็เกิดปีติว่าเรานั้นได้ทำดี เรามีบุญกุศลคือความดีเป็นที่พึ่งอยู่ อันอย่างนี้เรียกว่า “ทำบุญ” ให้เข้าใจ

คำว่า “บำเพ็ญกุศล” นั้นหมายถึงว่าเราอบรมจิตใจให้สงบระงับลงไปแล้วก็เกิดปัญญาความรู้ความฉลาดขึ้น สามารถถอนจิตใจตัวเองอันที่ยังละไม่ได้นั้นให้ละมันถ้ามันไม่ขาดก็ให้มันเบาบางไปจากจิตใจ หรือว่าความชั่วร้ายอันใดมากระทบกระทั่งเข้าอย่างนี้เราก็รู้ทัน เราไม่หวั่นไหวไปตามมัน ใครจะมายั่วให้โกรธเราก็ไม่โกรธ ห้ามจิตได้ สอนจิตตัวเองให้ละอารมณ์ที่น่าเกลียดน่าชังต่างๆ ได้ อันนี้ท่านเรียกว่า บำเพ็ญกุศล ให้เข้าใจ เราบำเพ็ญทั้งบุญทั้งกุศลนั่นน่ะดี

อย่าไปเข้าใจว่าเป็นเรื่องเดียวกันนะ คำว่า “บุญ” กับ “กุศล” นี่ กุศลนั้นย่อมมีประสิทธิภาพสูงกว่าบุญ เพราะกุศลนั้นหมายถึงจิตใจที่ฉลาด รู้จักละกิเลสบาปอธรรมออกจากจิตใจได้ ถึงไม่หมดก็เรียกว่าทำให้เบาบางลงได้อย่างนี้นะ คำว่าบุญนั้นหมายถึงเราทำความดีด้วยกายด้วยวาจา เช่น กราบไหว้พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ ไหว้พ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอาแล้วได้ความอิ่มใจ หรือว่าได้สละวัตถุไทยทานที่หามาได้แสนยากออกให้เป็นทานไป เช่นนี้แล้วก็มาพิจารณาถึงผลทานที่ตนได้กระทำบำเพ็ญนั้นเห็นว่ามีประโยชน์แก่ตนและผู้อื่นจริงๆ ก็เกิดปีติปราโมทย์ขึ้นในใจ อิ่มใจขึ้นมา


:b45: :b45:

ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
“เมื่อศีลบริสุทธิ์”


◇◆ ประวัติ ปฏิปทาและคำสอน “หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ” ◆◇
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=43689

:b44: ชวนอ่านพระธรรมเทศนาเต็มกัณฑ์เทศน์ของ
“พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)”

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=75&t=53080

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร