กลับถึงบ้านแล้วครับ นำเรื่องเมื่อวานกลางคืนมาฝากครับ

ขอเกริ่น นำก่อนครับว่า
ทิ่อินโดนีเซีย ส่วนมากเป็นศาสนาอิสลาม ครับ ส่วนเฉพาะที่เกาะบาหลีเท่านั้นที่ส่วนมากเป็น ฮินดู
ที่เมือง บุโรพุทโธ ที่เราพักนี้ ส่วนมากก็เป็นอิสลามครับ
แต่ ชาวมุสลิมที่นี่ใจกว้าง ไม่เข้มงวด เขาเรียกตนเองว่า เป็น ท้องถิ่น Tradition Muslim
ส่วน มุสลิม ที่เข้มงวด เช่นตะวันออกกลาง ชาวอินโดนีเซียถือว่า เป็น Strict Muslim
ซึ่งชาวอินโดนีเซีย มองว่า เข้มเกินไป และรุนแรง ซึ่งแท้จริงแล้ว ศาสนาเขาสอนให้เมตตา และอยู่ร่วมกับศาสนาอื่นได้ เขาว่า อย่างนั้นครับ

ในนี้ มีมหาสถูป บุโรพุทโธ และวัดของพุทธ คือวัด เมนดุท ที่เรามาทำสมาธิ และวัดพาวัน
พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ที่เมืองนี้ มีแต่วัดเมนดุท และตอนนี้มีเพียงสามรูปเท่านั้นครับ

แต่ที่นี่เป็นวัด เก่าแก่ พระประธาน อายุ 1200 ปี ในสมัยเดียวกับบุโรพุทโธ
ทุกปี ช่วงวิสาขบูชา ชาวพุทธทั้งหมดในประเทศอินโดนีเซีย
จะมาที่วัดนี้ เขาจะนำ น้ำ ศักดิสิทธิ จากเมืองหนึ่ง และนำไฟ จากภูเขาไฟ เมอราปี้ มาสวดที่นี่
และนำเดินทางไปวัด พาวัน และมีพิธี ใหญ่กันที่ เจดีย์ บุโรพุทโธครับ

ปัจจุบัน วัดเมนดุท และทุกวัดในอินโดนีเซีย อยู่ในความดูและรัฐบาล มีระบบป้องกันภัยที่ดีมาก
วัดนี้อยู่ในโปรแกรมของโรงแรมที่เราพัก ว่า ให้เลือกรายการพิเศษ
หนึ่งในนั้นคือ มาทำสมาธิ และสวดกับพระสงฆ์ ที่วัดเมนดุท เราจึงเลือกที่นี้

เพราะได้ข่าวว่า พระพุทธรูปโบราณที่นี่ เป็นหนึ่งในพระพุทธรูป หิน แกะที่ใหญ่และสวยที่สุดในโลกครับ
คนพาเรามา เป็นมุสลิมที่ใจกว้าง มาก เขาเข้าใจพุทธได้ดีพอควร และทำสมาธิด้วย
เขาพาเราที่วัดนี้

ในโปรแกรม เขาบอกว่า พระจะสวด 19.00-19.30 เราจะสวดและนั่งสมาธิกับพระ
และจากนั้นสามารถจะไปนั่งสมาธิที่ วิหารโบราณ ต่อองค์พระพุทธรูป 1200 ปีด้วย

โรงแรม ได้โคกับรัฐบาล เป็นโปรแกรมทัวร์
ดังนั้น Security ของวัดจะเปิดให้เราไปทำสิ่งเหล่านี้ครับ

เราได้ทำอย่างที่ตั้งใจ
เป็นบรรยากาศที่เร้าใจ และมีความสุขสงบมากครับ

บุญใดพี่พวกเรามี ขอมีแด่เพื่อนทุกท่าน

ขอนำบุญ นำภาพมาฝากนะครับ

รถของโรงแรมได้พาเรามาที่วัด ในยามค่ำคืน
เราเห็นต้นไทรใหญ่ และวิหารโบราณ ลิบ ๆ เร้าใจมากครับ

นี้คือวิหารโบราณของวัดเมนดุท ดังในคคหแรกสุด ของจริงมืดกว่านี้นะครับ

ภาพด้านหน้า งามสง่า ยิ่งใหญ่ เข้มขลังบอกไม่ถูก
เขาได้เปิดวิหารต้อนรับพวกเรา แล้วครับ เห็นองค์พระลางๆ

เจ้าหน้าที่โรงแรม และ เซคเคียวริตี้ ได้พาเราเข้าวิหารครับ

พระพุทธรูปองค์ใหญ่มากประมาณสามสี่เท่าของคน
ไม่น่าเชื่อเลย ลักษณะเดียวกับที่เขางูราชบุรี เป็นศิลปเดียวกันเลย
แต่มีองค์ ซ้ายขวาเป็นพระโพธิสัตว์ด้วยนะครับ

บรรยากาศไม่อาจบรรยายได้ สงบ และศักดิสิทธิ์มาก

อีก ภาพนะครับ

เขาได้เตรียมที่นั่งอย่างดีและหมอนให้เราไว้เรียบร้อยเลย เราได้นั่งสมาธิกันที่นี่ครับ

เป็นความสุขใจ อย่างมากครับ

เรานั่งสักพัก ประมาณ 20 นาที รู้สึกพอใจแล้ว
สำหรับเด็กที่ไปด้วยนะ
เราก็มาเพื่อเข้าไปฟังพระสวด และนั่งในตัววัดอีกที
วัดอยู่ติดกันนะครับ

มาถึงประตูวัดแล้ว อยากรู้มั้ยครับว่า วัดพระพุทธศาสนา ในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นชาวมุสลิมจะเป็นอย่างไรบ้าง

งดงาม สงบ สันติ

พระท่านอยู่ในอาคารไม่ใหญ่ แต่กว้างขวางดีมากเลย จุคนได้เป็นร้อยนะครับ
เมื่อเราไปถึง มีพระสงฆ์สามรูป สวดมนต์อยู่
นั้นคือ ในเมืองนี้ ตอนนี้มีชาวพุทธ เพียง 10 คนเท่านั้นครับ
คือ พระสามรูปนี้ และ พวกเราอีกเจ็ดคน
ทั้งเมืองไม่มีชาวพุทธ อีกแล้วนะครับ ศูนย์คน
เจ้าหน้าที่โรงแรมได้บอกเราว่า บางครั้งพระก็มีห้ารูป มีเจ็ดรูป แต่ไม่ถึงสิบ รูป
และท่านไปๆ มาๆ เมืองอื่นด้วย เช่นไปธิเบต ภูฏานเป็นต้น
จึงมีมากบ้างน้อยบ้าง
แต่เมื่อมาถึงตอนนี้ก็เห็นว่าทุกองค์ตั้งใจสวดกันเต็มที่ครับ
รู้สึก คล้ายเมืองไทยเลย เพราะเป็นภาษาบาลีนั่นเองครับ
เวลาท่านท่อง หันทะมะยัง... ก็คล้ายกัน
ตอนท้าย ท่านแผ่เมตตา อเวราโหนตุประมาณนี้ครับ

จากนั้นท่านก็เดินไปปิดไฟ และเริ่มนั่งสมาธิกันครับ
เป็นภาพที่งดงามมากจริง ๆจับใจเลย
เมื่ออยู่ตรงนั้น ยิ่งจับใจมาก

สงสารท่านด้วยครับ มีอยู่กันแค่นี้เอง ทั้งเมืองไม่มีชาวพุทธอีกเลย
ท่านก็ตั้งใจมาสวดมนต์ทำวัตรกันทุกวัน

พวกเราได้นั่งสมาธิไปด้วย สักครู่หนึ่งครับ

เช้าวันนี้ เราจะไปสนามบินแล้ว ได้ผ่านวัดที่เมื่อเราได้มานั่งสมาธิกัน
จึงนำภาพยามเช้ามาฝากนะครับ นี้คือวิหาร
ที่เราไปทำสมาธิกันครับ