ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ประมวลภาพ “พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทัตโต)” วัดทุ่งแก้ว
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=38&t=45668
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  สาวิกาน้อย [ 20 มิ.ย. 2013, 17:38 ]
หัวข้อกระทู้:  ประมวลภาพ “พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทัตโต)” วัดทุ่งแก้ว

ประมวลภาพ
“พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทัตโต)”

วัดมณีสถิตกปิฏฐาราม
หรือวัดทุ่งแก้ว (พระอารามหลวง)
ต.อุทัยใหม่ อ.เมือง จ.อุทัยธานี


:b8: ขอกราบขอบพระคุณ..ที่มาของรูปภาพ
facebook พระราชอุทัยกวี พุฒ สุทตฺตเถระ

:b43: * * * * * * * * * * * * * * * * :b43:

:b44: พระราชอุทัยกวี (พุฒ สุทัตโต) ประธานในการก่อสร้าง
“มณฑปรอยพระพุทธบาทจำลอง” หลังใหม่ วัดสังกัสรัตนคีรี

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19278

:b44: หลวงพ่อพุฒ “พระองค์นี้ฉันเคารพเหมือนพ่อของฉัน”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=48011

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

เจ้าของ:  สาวิกาน้อย [ 20 มิ.ย. 2013, 17:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ประมวลภาพ “พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทัตโต)” วัดทุ่งแ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

เจ้าของ:  สาวิกาน้อย [ 21 มิ.ย. 2014, 10:10 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ประมวลภาพ “พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทัตโต)” วัดทุ่งแ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

เมื่อครั้งยังเป็นพระมหาพุฒ สุทตฺโต

เจ้าของ:  สาวิกาน้อย [ 21 มิ.ย. 2014, 10:10 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ประมวลภาพ “พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทัตโต)” วัดทุ่งแ

รูปภาพ

รูปภาพ

พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทตฺโต) ถวายเครื่องสักการะแด่
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ (วาสน์ วาสโน)
สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๘ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
ในวาระโอกาสเสด็จมาทรงวางศิลาฤกษ์สะพานข้ามแม่น้ำสะแกกรัง
ด้านหน้าวัดอุโปสถาราม (วัดโบสถ์) อ.เมือง จ.อุทัยธานี
เมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๒๕


รูปภาพ

รูปภาพ

พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทตฺโต) กำลังถือตาลปัตร
จากงานพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธชินราชจำลอง ม.ว.ก.
ณ วัดเบญจมบพิตร เมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๙


รูปภาพ

กุฏิของพระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทตฺโต)
เมื่อครั้งท่านยังมีชีวิตอยู่ ณ วัดทุ่งแก้ว


รูปภาพ

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ทรงเข้ากราบนมัสการพระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทตฺโต)

เจ้าของ:  สาวิกาน้อย [ 21 มิ.ย. 2014, 10:10 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ประมวลภาพ “พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทัตโต)” วัดทุ่งแ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทตฺโต) ตักบาตรดอกไม้
เวียนเทียนรอบพระอุโบสถ ลงอุโบสถเข้าพรรษา

อารัมภอนุโมทนากถา เป็นการกล่าวอนุโมทนา
ด้วยถ้อยคำที่แสดงความยินดีกับพุทธบริษัท
ที่มาร่วมทำบุญตักบาตรดอกไม้
และเวียนเทียนก่อนลงอุโบสถกรรม

อุโบสถกรรม หมายถึงการสวดพระปาติโมกข์
หลวงพ่อพุฒท่านลงอุโบสถทุกวันเช้า-เย็นมิได้ขาด
ทั้งนอกพรรษาและในพรรษา

เจ้าของ:  สาวิกาน้อย [ 08 มี.ค. 2018, 08:25 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ประมวลภาพ “พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทัตโต)” วัดทุ่งแ

รูปภาพ

พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทตฺโต) กำลังเดินตามเสด็จ
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ที่สมมติเอา “ยอดเขาสะแกกรัง” วัดสังกัสรัตนคีรี จ.อุทัยธานี
เป็นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มายังเมืองสังกัสสะในครั้งพุทธกาล


:b50: :b47: :b50:

• เมืองสังกัสสะ บันไดสวรรค์สู่โลกมนุษย์
สถานที่ทรงเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=44853

--------------------------------------

พระสุนทรมุนี (หลวงพ่อใจ คงฺคสโร) อดีตเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี
พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทตฺโต) อดีตเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี
พระอุดมธรรมภาณ (หลวงพ่อสม สุนฺทรธมฺโม) อดีตเจ้าอาวาสวัดสังกัสรัตนคีรี
หลวงพ่อ ๓ รูปนี้เป็นผู้ทำให้เกิดประเพณีตักบาตรเทโว
อันลือลั่นไปทั่วเมืองไทยกระทั่งถึงปัจจุบันนี้

พระอุดมธรรมภาณ (หลวงพ่อสม สุนฺทรธมฺโม) อดีตเจ้าอาวาสวัดสังกัสรัตนคีรี
พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทตฺโต) อดีตเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี
บันทึกภาพหน้า “พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์”
องค์พระพุทธรูปสมัยสุโขทัย ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานเดิม
หลังจากนิมนต์มาจากวัดขวิดและก่อนสร้างวิหารเก่า ณ วัดสังกัสรัตนคีรี

--------------------------------------

ประวัติย่อวันเทโว
เทศนาโดย พระราชอุทัยกวี (พุฒ สุทตฺโต)


ณ วันอาสาฬหปุณณมี เพ็ญเดือน ๘ พระพุทธเจ้าทรงกระทำยมกปาฎิหารที่เมืองสาวัตถี ทรมานพวกเดยรถีย์ให้แพ้พุทธานุภาพแล้ว เสด็จลงจากอากาศทรงสถิตบนรัตนาอาสน์บังลังก์มีประมาณสูงได้ ๑ โยชน์เป็นกำหนด อันปรากฏบนยอดคัณฑามพฤกษ์ในท่ามกลางบรรพษัททั้ง ๔ ทิศๆ ละ ๑๒ โยชน์เสมอกัน ถ้าวัดโดยรอบปริมณฑลก็ได้ ๔๘ โยชน์ เสด็จนิสัชชนาการโดยบุรพาภิมุข โปรดประทานพระธรรมเทศนาโดยสมควรแก่อัธยาศรัยแห่งสรรพอนันตนิกรประชา เมื่อจบพระธรรมเทศนา ประชาชนได้บรรลุมรรคผล ๘๔ โกฏิเป็นประมาณ

ต่อแต่นั้น พระพิชิตมารทรงดำริว่า พระพทุธเจ้าในอดีตเมื่อกระทำยมกปาฏิหารแล้วเสด็จไปจำพรรษาในที่ไหน ทรงทราบด้วยอต๊ตังสญาณว่า เสด็จเข้าจำพรรษาในดาวดึงส์พิภพ ตรัสเทศนาพระสัตตปกรณาภิธรรม ภายในไตรมาส เพื่อกระทำปัจจุปการสนองคุณพระพุทธมารดา

ในขณะนั้น พระชินสีห์ก็เสด็จอุฏฐาการจากรัตนบัลลังก์อันตั้งเหนือยอดคัณฑามพฤกษายกย่องพระทักษิณบาทเหยียบยอดไม้คัณฑามพฤกษ์นั้น ขณะนั้น ยุคันธรและอิสินธรคีรีก็น้อมยอดเข้าประชุมเป็นคู่เคียงเรียงรับพระบงกชบาทอันย่างเป็นทุติยวารสมเด็จพระพิชิตมารก็ยกตติบาทพุทธลีลาศสืบไป

ขณะนั้น ขุนเขาสิเนรุราชก็น้อมยอดลงมารับพระบาทสมเด็จพระมุนินทร เสด็จพระพุทธดำเนิน ๓ ย่าง ล่วงวิถีทางอากาศกำหนดถึง ๖๘ โยชน์เป็นประมาณ ทรงนิสัชชนาการเหนือบัณฑุกัมพลศฺลาอาสน์ ณ ภายใต้ปาริฉัตตรุกขชาติอันเป็นธงชัยเฉลิมดาวดึงส์เทวโลก

ในทันใดนั้น สมเด็จท้าวสหัสนัยน์เทวราช ได้ทัศนาการพระศาสดาจารย์ อันเสด็จนิสีทนาการเหนือบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ณ ภายใต้ปาริฉัตรลุกขชาติ งามโอภาสรุ่งเรืองด้วยพระรัศมี จึงมีพระกมลเกษมสานต์โสมนัส ก็เสด็จอุฏฐาการจากอาสน์ตรัสฤโฆษณา ประกาศให้หมู่อมรเทพยดาในพิภพดาวดึงส์มาเข้าเฝ้าถวายอภิวาทพระบรมโลกนาถแล้ว พระพุทธองค์ทรงทอดพระเนตรไม่เห็นพระพุทธมารดาจึงตรัสถามท้าวโกสีย์ว่า พระมารดา ตถาคตอยู่ที่ไหน ท้าวสหัสสนัยน์ได้สดับพระพุทธดำรัสตรัสถามถึงพระพุทธมารดาดังนั้นจึงอุฎฐาการจากอาสน์ ถวามอภิวาทแล้ว เสด็จขึ้นสู่ดุสิตเทวพืภพ ถึงวิมานพระสิริมหามายาเทพบุตรพุทธมารดา น้อมอภิวาทแล้ว ทูลเสด็จว่าข้าแต่พระแม่เจ้า บัดนี้พระพุทธเจ้าพระโอรสของพระแม่เจ้าเสด็จยังพิภพ ข้าพระพุทธเจ้าคอยท่าพระแม่เจ้าเพื่อตรัสพระธรรมเทศนาโปรดพระแม่เจ้า

เมื่อพระสิริมหามายาเทพบุตรพุทธมารดาได้ทรงสดับก็เกิดโสมมนัสปรีดา เสด็จแวดล้อมด้วยนางอัปสรหนึ่งพันเป็นบรืวาร ลงจากดุสิตพิภพมาสู่ดาวดึงส์สถานเสด็จเข้าไป ถวายอภิวาทพระพุทธปิโยรส พร้อมด้วยนางเทพอัปสรบรวารหนึ่งพัน แล้วทรงสถิตทางทักษิณทิศ

ขณะนั้น พระชินสีห์จึงเหยียดพระกรเบื้องขวาอันวิจิตด้วยตาข่ายลายจักรลัหษณะจากระหว่างผ้าสังฆาฏิ กวักเรียกพระมารดาว่า เอหิ อัมมะ ดูกรพระชนนี มานี่ ตถาคตจะให้ซึ่งขีรมูลค่าน้ำนมโปสาวนิกมูล ค่าข้าวป้อนพระมารดา ที่พระมารดาเลี้ยงตถาคตมาแต่อเนกชาติ อดิตภพ มาตรัง ปมุขังกัตวา พระบรมศาสดา ทรงกระทำพระมารดาให้ป็นประธานแก่เทพยาดาทั้งหลายแล้วก็ตรัสเทศนา พระสัตตะปะกะระณาภิธรรมให้สมครวรแก่พระปัญญาบาระมีแห่งพระพุทธมารดา ตลอดไตรมาส ๓ เดือน

พระพุทธมารดาได้ดำรงในพระโสดาปัตติผลเป็นพระอะริยะบุคคลในพระพุทธศาสนา และเทพยาดาได้บรรลุมรรคผล ๘๐ โกฎิ ยังอีก ๗ วัน จะถึงวันมหาปวารณา

บรรดาพุทธศาสนิกชน จึงพากันเข้าไปหาพระมหาโมคคัลลานะเถระแล้วกล่าวว่าพระผู้เป็นเจ้าควรจะไปกราบทูลพระบรมศาสดาว่าจะเสด็จลงมาจากสวรรค์เมื่อไร พระโมคคลลานเถระก็สำแดงฤทธื์ชำแรกพื้นปฐพีลงไปในที่นั้น แล้วผุดขึ้น ณ เชิงเชาสิเนรุราช กระทำการอธิษฐาน ให้มาหาชนสันนิบาตจงแลเห็นกายของอาตมาอันขึ้นไปอยู่เทวโลกโดยลำดับๆแล้วก็ชำแรกขึ้นไป ณ ภายในท่ามกลางพระเมรุบรรพตประกฎดุจเน้นด้ายแดงอันร้อยเข้าภายในแก้วมณี ครั้นถึงดาวดึงส์พิภพแล้วก็ถวายอภิวาทพระบรมศาสดา แล้วกราบทูลถามว่า พระองค์จะเสด็จลงสู่มนุษย์โลกเมื่อไร จึงมีพระดำรัสตรัสถามว่าดูกรโคคัลลาน์ บัดนี้ สาริบุตรผู้เป็นเชษฐาของท่านอยู่ที่ใด ข้าแต่พระบรมรู พระสารีบุตรจำพรรษาอยู่ที่ใกล้ประตูเมืองสังกัสสนคร ดูกรโมคคัลลาน์ แต่นี้ไปอีก ๗ วัน ถึงวันมหาปวารณาแล้ว ตถาคตจะลงจากเทวโลก ณ ที่ใกล้ประตูเมืองสังกัสสนคร ในวัันนั้นผิวชนทั้งไหลจะไคร่เห็นตถาคต จะลงมาสู่ที่นั้น และเมืองสังกัสสนครไปแต่เมืองสาวัตถีกำหนดทางได้ ๓๐ โยชน์ แม้ว่าผู้มีประโยชน์จะไปก็จะถึงโดยพลันมิได้ช้า เว้นจากปาเถยกิจคือจะนำเสบียงไปเลี้ยงตน เหมือนดุจชนอันรักษาอุโบสถ และไปเพื่อจะฟังธรรม ในทุระวิหารอันไกล ท่านจงไปบอกแก่ประชาชนตามคำคถาคตนี้ พระมหาโมคัลลาน์ก็ยอกรถถวายอภิวาทรับพุทธพจน์แล้ว ก็กราบถวายบังคมลากลับมายังโลกมนุษย์บอกกล่าวแก่มหาชนตามยุบลนั้น

ครั้นถึงวันอัสสะยุชปุณณมีเพ็ญเดือน ๑๑ พระศาสดาทรงปวารณาแล้ว จึงตรัสบอกแก่สมเด็จอมริทราว่า ดูกรท้าวเทวาธิราช ตถาคตจะลงไปสู่มนุษย์โลกในเวลาวันนี้ ท้าวโกสีย์ก็นฤมิตบันไดทิพย์ ๓ บันได ลงจากเทวโลก บันได้ทองอยู่เบื้องขวา บันไดเงินอยู่เบื้องซ้ายบันไดแก้วประดิษฐ์อยู่ท่ามกลาง เชิงบันไดทั้ง ๓ ลงจดพื้นภูมิภาคปฐพี ณ ที่ใกล้เมืองสังกัสสนครและศีรษะบันได้เบื้องบนจดยอดเขาพระสุเมรุ อันเป็นที่ต้ังดาวดึงส์พิภพบันได้ทองเป็นที่ลงแห่งหมู่เทวดาอันตามส่งเสด็จ บัไดเงินเป็นที่ลงแห่งหมู่พรหมทั้งหลายอันตามส่งเสด็จ บันได้แก้วท่ามกลางเป็นทางเสด็จพระสัพพญญู และพระบรมครูเสด็จเถิตเหนือยอดเขาพระสุเมรุราชทรงทอดพระเนตรเรืองสักการะบูชาแห่งเทวดทั้งหลายทั้งหมื่นโลกธาตุ และหมู่มนุษย์จะนับบมิได้เต็มไปทั่วจักรวาล เสด็จยืนประดิษฐาณศีรษะรัตนะบันไดในท่ามกลางหว่าเทพยดาและพรหมบริษัทอันแวดล้อมเป็นบริวารก็ทรงแสดงยมกปาฎิหารซ้ำอีกครั้งหนึ่ง เมื่อแสดงโลกะวิวะระณะปาำฎิหารสืบไป ก็ทอดพระเนตรไป ณ ทิสาภาคเบื้องบน ในการนั้น อันว่า เทวโลกและพรหมโลกก็แลตลอดโล่งเปนลานเดียวกันทั้งสิ้น แล้วทอดพระเนตลงไปฝ่ายอโธภาคเบื้องต่ำ ในขณะนั้น อันว่าอโธทิศก็แลโล่งเป็นลานเดียวกันตลอดถึงอเวจีเป็นที่สุด แล้วก็ทอดพระเนตรไปในทิศเบื้องขวางทั้ง ๘ ทิศ อันว่า พันแห่งจักรวาฬทั้งหลายก็แลโล่งเป็นลานเดียวกัน

ในกาลนั้น สวรรค์และมนุษย์กับทั้งนรกแลเห็นกันปรากฎทั่วทั้งส้ิน มิได้มีที่ปิดบังทั้งหมือนโลกธาตุสัตว์นรกทั้งหลายก็ได้รับความสุข เล็งแลดูซึ่งกันและกัน ต่างก็เกษมสันติ์สำราญ สมเด็จพระบรมศาสดาจารย์ ก็เสด็จพุทธลีลาศลงมาโดยนำอันดับแห่งโสปาณมณีถึงเชิงบันไดแก้ว ก็เสด็จยืนอยู่ ณ ที่นั้นขณะนั้น พระธรรมเสนาบดีพระสารีบุตรก็มาถายอัญชลีพระบรมโลกนาถ แล้วกราบทูลว่า พระเจ้าข้าวันนี้ เทวดาและมนุษย์ทั้งหมด ย่อมกระหยิ่มปรารถนาต่อพระองค์ ลำดับนั้น พระศาสดาจึงตรัสสารีบุตร ชื่อว่าพระพุทธเจ้าผู้ประกอบด้วยคุณเห็นปานนี้ ย่อมเป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายโดยแท้ เืมื่อทรงแสดงธรรม จึงตรัสพระคาถานี้ว่า

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าหล่าใดเป็นปราชญ์
ขวนขวายในฌาณ ยินดีแล้วในธรรมเป็นที่เข้าไปสงบ
ด้วยสามารถแห่งการออก แม้แต่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
ก็ย่อมกระหยิ่มต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเหล่านั้น ผู้มีสติฯ


ในเวลาจบเทศนา มีผู้บรรจุมรรคผลประมาณ ๓๐ โกฎิ ภิกษุ ๕๐๐ รูปสัทธิวิหาริของพระสารีบุตรเถระ ต้ังอยู่แล้วในความเป็นอรหันต์ในที่นี้มีคำว่าวิสัชชนา ดังจะรู้มา พระสัพพัญญูพุทธเจ้าทั้งหลาย มิได้เว้นซึงพุทธธรรมดา ๒ ประการคือ การะทำยมกปาฎิหาร แล้วเสด็จขึ้นไปจำพรรษา ในดาวดึงส์เทวโลก ๑ คือ ลงจากเทวโลก ณ ที่ใกล้ประตูเมื่องสังกัสสนคร ๑ พระพุทธธรรมดาอันนี้เหมือนกันทั้ง ๕ พระองค์ในมหาภัททกัลป์นี้

เจ้าของ:  สาวิกาน้อย [ 08 มี.ค. 2018, 08:26 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ประมวลภาพ “พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทัตโต)” วัดทุ่งแ

รูปภาพ

:b50: :b49: จากซ้าย : พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทตฺโต)
กับ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ)


รูปภาพ

:b50: :b49: จากซ้าย : สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ),
พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทตฺโต)
และ “สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฟื้น ชุตินฺธโร)”
วัดสามพระยา วรวิหาร กรุงเทพมหานคร


รูปภาพ

พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทตฺโต) เดินทางมารับเสด็จ
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณฺณสิริ)
สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๗ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
ณ แพขนานยนต์ อ.มโนรมย์ รอยต่อระหว่าง จ.อุทัยธานี กับ จ.ชัยนาท

เจ้าของ:  สาวิกาน้อย [ 08 มี.ค. 2018, 08:26 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ประมวลภาพ “พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทัตโต)” วัดทุ่งแ

รูปภาพ

พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทตฺโต)
กับ พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพิสัย ฐานธมฺโม)
ขณะติดตามตรวจเยี่ยม “ตึกสงฆ์อาพาธ”
โรงพยาบาลอุทัยธานี อ.เมือง จ.อุทัยธานี
ในสมัยก่อนพระเณรมีมากจำเป็นต้องสร้างตึกผู้ป่วย
สำหรับพระสงฆ์และสามเณรโดยเฉพาะ
หลวงพ่อพุฒท่านมีจิตเมตตามาก จึงดำริให้ก่อสร้างตึกสงฆ์อาพาธ
สำหรับพระภิกษุและสามเณร เพื่อที่จะไม่ปะปนกับผู้ป่วยทั่วไป

เจ้าของ:  สาวิกาน้อย [ 04 ก.ค. 2021, 09:11 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ประมวลภาพ “พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทัตโต)” วัดทุ่งแ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ถวายเทียนแพ ผ้าไตร ดอกไม้
แด่พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทตฺโต)
หลวงพ่อพุฒ สุทตฺโต ท่านก็มีเมตตาอนุโมทนาตอบ
และมอบภาพที่ระลึกขององค์ท่านให้กับหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ กล่าวถึงหลวงพ่อพุฒว่า
“พระองค์นี้ฉันเคารพเหมือนพ่อของฉัน”

:b47: :b44: :b47:

เรื่องที่ ๒๖
พระราชอุทัยกวี เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี
มรณภาพแล้วไปเกิดเป็นพรหมอนาคามี

หนังสือตายแล้วไปไหน โดย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=6&t=38902

“...เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานีคือ เจ้าคุณราชอุทัยกวีท่านมรณภาพ ถ้าจำไม่ผิดก็เป็นวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๓๓ ความตายของท่านนี่อัศจรรย์อย่างยิ่ง เป็นการตายที่ไม่เคยมีใครคิดว่าท่านจะตาย แต่เรื่องความตายมันเป็นของธรรมดา แต่เท่าที่ทราบมาในกาลก่อนท่านบอกว่า

เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๐ คืนวันนั้นทำท่าจะตายครั้งหนึ่ง ท่านป่วยมากอาการไม่ดี ตอนนั้นก็ไม่มีใครคิดว่าท่านจะอยู่ ในคืนนั้นท่านเรียกพระครูประชุม เจ้าคณะอำเภอ เข้าไปบอกด้วยวาจาด้วย ให้บันทึกเสียงด้วยและให้บันทึกเป็นหนังสือด้วย เรื่องการเงินและอะไรก็ตามมีที่ไหนเท่าไร ท่านจำได้ดีสั่งเสียเรียบร้อย ท่านบอกว่า “ถ้าฉันจะตายคืนนี้ก็ต้องตายภายในระยะ ๒ ยาม ถ้าเลย ๒ ยามไปแล้วจะยังไม่ตาย”

นี่ก็แสดงว่าก่อนจะพูดแบบนี้ต้องมีคนมาบอก คนในที่นี้ต้องมีร่างกายเป็นทิพย์เหมือนกับท่านธัมมิกอุบาสก ก่อนจะตายก็เห็นเทวดามาล้อมบอกฉันอยู่ชั้นนั้น ฉันอยู่ชั้นนี้ ไปอยู่กับฉันเถอะ ท่านเจ้าคุณราชอุทัยกวี หลวงพ่อองค์นี้ก็เช่นเดียวกัน ท่านก็คงจะต้องสัมผัสติดต่อกันมาก่อน ถึงได้บอกแบบนี้

เป็นอันว่าคืนวันนั้นหลังจาก ๒ ยามไปแล้ว อาการร่อแร่เต็มทีของท่านหายไป กลับกลายเป็นมีกำลังดีเหมือนกับหายจากการป่วยไข้ไม่สบาย ตอนที่อาตมารับสมณศักดิ์เลื่อนเป็นชั้นราชได้ไปนมัสการท่าน เห็นท่านมีสุขภาพดีและก็ปกติทุกอย่าง หายจากโรคภัยไข้เจ็บ พวกเราก็ดีใจ เพราะว่าท่านเป็นพระดีจริงๆ ตรงไปตรงมาและมีคุณธรรมจริงๆ รวมความว่าท่านอยู่มาอีก ๓ ปี จนถึงวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๓๓ ท่านก็มรณภาพ การตายของท่านตามที่ทราบมาเป็นอย่างนี้ เขาบอกว่าในตอนเช้าคนส่งหมูทราบว่าท่านชอบหมูเขาก็นำหัวหมูที่ปรุงแล้วมาถวาย และก็ชอบมะม่วงเขาก็เอามะม่วงไปถวาย ตอนเช้าฉันได้มาก

ต่อมาท่านเรียกคนปฏิบัติมาเป็นสตรีอายุมากแล้ว ให้ไปหยิบปฏิทินร้อยปีมาดูอายุ ท่านบอกว่า “อายุตั้ง ๙๕ ปี จะให้มันตายเสียทีมันก็ไม่ตาย อยู่ไปก็ลำบาก ร่างกายไปไหนไม่สะดวก” ก็พูดกันแบบคนที่มีความรู้สึกตามความเป็นจริง เรียกกันว่า นักวิปัสสนาญาณแท้ ตอนสายท่านเรียกธนาคารมาขอตรวจดูเงินในบัญชี หลังจากนั้นแล้วท่านก็จำวัด ก็เป็นอันว่าการจำวัดของท่านครั้งนี้ไม่ต้องจำกันอีกต่อไป จำได้ตลอดกาลตลอดสมัยนั่นคือท่านตาย เวลาที่เขานำอาหารเพลไปถวายปรากฏว่าเลิกหายใจแล้ว

ต่อมาวันรุ่งขึ้น วันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๓๓ ตอนบ่ายอาตมาลงรับแขก วันนั้นไม่ค่อยมีใครจะคุยด้วยหาคนคุยด้วยยาก ก็เลยคุยเรื่องท่านเจ้าคณะจังหวัด ท่านเจ้าคุณราชอุทัยกวี บอกว่าพระองค์นี้ฉันเคารพเหมือนพ่อของฉัน เคยพูดกับท่านก็เคยพูด เรื่องการทำบุญก็เหมือนกัน ทำบุญทุกครั้งนิมนต์ท่านๆ จะมาหรือไม่มาก็ตาม ต้องถวายเครื่องสักการะตามสมควร ถือว่าท่านมาไม่ได้แต่เอาใจมาได้ ในสมัยเมื่อท่านยังป่วยอยู่ร่างกายไม่ดีนักพอทนไหว ท่านมา ตอนหลังท่านไม่ไหวจึงมาไม่ได้ ในเมื่อกายมาไม่ได้ก็ถือว่าใจมาได้ ในเมื่อใจมาก็ส่งเครื่องสักการะฝากท่านเจ้าคณะอำเภอไป ขณะที่นั่งคุยถึงธรรมะ ไม่ทราบว่าใครเป็นคนถามอาการตายของท่านเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี ได้ถามว่า “เวลานี้มีความรู้สึกว่าท่านไปไหน”

ถ้าถามอย่างนี้ก็ตอบกันไม่ยาก ตอบทันทีโดยไม่ต้องคิดว่าเวลานี้ท่านเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานีอยู่วัดทุ่งแก้ว หมายความว่าศพของท่านอยู่ที่นั่น แต่พอตอบเท่านั้นสิ่งที่แปลกก็เกิดขึ้นนั่นคือ มีภาพ ๒ ภาพ ภาพหนึ่งเป็นภาพเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี เจ้าคุณราชอุทัยกวี หรือเรียกว่า หลวงพ่อราชอุทัยกวี ก็แล้วกัน ท่านอยู่ข้างหน้า แต่ภาพข้างหลังเป็นพรหม สวยงามมาก แพรวพราวเป็นระยับ นึกในใจว่าภาพอย่างนี้ลองหรี่ตาก็เห็น ลองหลับตานึกก็เห็น ลืมตาก็เห็น อย่างนี้ไม่ใช่อำนาจความเป็นทิพย์ของจิตของบุคคลผู้พูด ต้องถือว่าเป็นกำลังของท่านผู้ตายบันดาลให้เห็น อย่างที่ท่านทั้งหลายไม่เคยเห็นผีแล้วย่องไปเห็นเข้านั่นแหละ ถ้าผีบันดาลให้เห็นก็เห็นได้ เรื่องนี้ก็เหมือนกันเป็นเรื่องของผีบันดาล

เมื่อเห็นภาพท่านแล้วก็นึกจะยกมือไหว้ ก็เกรงเขาจะหาว่าบ้า อยู่ๆ ก็ไหว้อากาศ และก็ไหว้ไปข้างหน้าคนที่เป็นฆราวาส มันก็จะไม่เหมาะ ก็เอาใจไหว้นึกไหว้ในใจ ท่านก็ยกมือรับไหว้แล้วก็ยิ้ม อาตมาถามท่านว่า “หลวงพ่อขอรับ ไปอยู่ที่ไหน” ท่านบอกว่า “เวลานี้ไปอยู่อนาคามี”

ก็ถามว่า “ทำไมไม่ไปเลยเล่าขอรับ มันอีกนิดเดียว อนาคามีกับนิพพานเป็นของไม่ไกล”

ท่านบอกว่า “อีตอนก่อนจะไปมันมีกังวลเรื่องเงินนิดหน่อย” ถามว่า “แก่แล้วยังห่วงสตางค์หรือ” ท่านก็เลยบอกว่า “เรื่องสตางค์ส่วนตัวนั่นไม่ห่วง ห่วงเรื่องเงินสงฆ์เกรงว่าจะผิดพลาด แต่ก็ไม่มีอะไรสำคัญ จิตสะดุดนิดเดียวก็เลยจำต้องพักอยู่แค่เขตของอนาคามี”


เป็นอันว่าวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๓๓ ก็เป็นวาระที่ท่านตัดความทุกข์ ต่อไปนี้ก็มีแต่ความสุข ขึ้นชื่อว่าความทุกข์สักนิดหนึ่งจะไม่มีกับท่านอีกต่อไป เพราะเขตของอนาคามีเป็นเขตที่มีความสงัดจากความทุกข์ทุกอย่าง ต่อจากนั้นไปก็เข้าเขตนิพพาน เวลานี้เขาพูดกันว่าไม่มีพระอรหันต์ ไม่มีพระอริยเจ้าก็ตาม ขอท่านทั้งหลายจงอย่าลืมว่า โลกที่โกหกมีโลกเดียว คือ โลกมนุษย์ เวลานี้อาตมาพูดตามผีบอก และโลกที่ไม่โกหก คือ โลกอื่นไม่ใช่โลกมนุษย์ ฉะนั้น เวลานี้ท่านไปอยู่โลกอื่นแล้ว ท่านต้องพูดตามความเป็นจริง...”

-----------------------

:b49: :b50: หมายเหตุ : พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทตฺโต)
มรณภาพ วันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๓๓ สิริอายุรวมได้ ๙๕ พรรษา
มีผิวกาย สีชมพู
สุขภาพ แข็งแรง พร้อมด้วยสติสัมปชัญญะดีเยี่ยม
และทราบวันมรณภาพในวาระสุดท้ายของชีวิต


พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทตฺโต) และพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) ท่านทั้งสองต่างมีความรักเมตตา มีจิตคารวะต่อกัน ที่ไม่มีใครเคยทราบมาก่อน (อ่านในเรื่องที่ ๒๖ ข้างต้น จะทราบว่าความเมตตาของหลวงพ่อทั้งสององค์นี้สูงส่งจริงๆ เวลาพระผู้ใหญ่จะชมใคร ดีใจต่อกันนั้น นับเป็นเรื่องยาก) เช่น

“เห็นท่านมีสุขภาพดีและก็ปกติทุกอย่าง หายจากโรคภัยไข้เจ็บ พวกเราก็ดีใจ เพราะว่าท่านเป็นพระดีจริงๆ ตรงไปตรงมาและมีคุณธรรมจริงๆ”

“บอกว่าพระองค์นี้ฉันเคารพเหมือนพ่อของฉัน เคยพูดกับท่านก็เคยพูด”


รูปภาพ

พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
ได้บันทึกภาพเป็นที่ระลึกกับพระราชอุทัยกวี (ประชุม มาเรยฺโย)
เจ้าอาวาสวัดมณีสถิตกปิฏฐาราม เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี


-----------------------

:b49: :b50: รวมคำสอน “หลวงพ่อฤาษีลิงดำ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=38703

:b49: :b50: ประวัติและปฏิปทา “หลวงพ่อฤาษีลิงดำ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=34508

เจ้าของ:  สาวิกาน้อย [ 07 มี.ค. 2024, 21:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ประมวลภาพ “พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทัตโต)” วัดทุ่งแ

onion

เจ้าของ:  สาวิกาน้อย [ 07 มี.ค. 2024, 21:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ประมวลภาพ “พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทัตโต)” วัดทุ่งแ

Kiss

เจ้าของ:  สาวิกาน้อย [ 07 มี.ค. 2024, 21:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ประมวลภาพ “พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทัตโต)” วัดทุ่งแ

onion

เจ้าของ:  สาวิกาน้อย [ 07 มี.ค. 2024, 21:43 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ประมวลภาพ “พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุฒ สุทัตโต)” วัดทุ่งแ

:b39:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/