ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ความหนักเบาของกรรม ขึ้นอยู่กับคนไหม http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=4&t=22185 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ละอายกรรม [ 09 พ.ค. 2009, 11:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | ความหนักเบาของกรรม ขึ้นอยู่กับคนไหม |
คือว่าถ้าคนเราทำกรรมในชาตินี้ ระหว่างคนที่ไม่สำนึกถึงกรรมที่ทำไป กับ คนที่สำนึก แล้วกรรมที่จะได้รับในภายภาคหน้าจะต่างกันหรือไม่ครับ |
เจ้าของ: | walaiporn [ 10 พ.ค. 2009, 00:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความหนักเบาของกรรม ขึ้นอยู่กับคนไหม |
ละอายกรรม เขียน: คือว่าถ้าคนเราทำกรรมในชาตินี้ ระหว่างคนที่ไม่สำนึกถึงกรรมที่ทำไป กับ คนที่สำนึก แล้วกรรมที่จะได้รับในภายภาคหน้าจะต่างกันหรือไม่ครับ ให้ดูตอนลงมือกระทำค่ะ ไม่ใช่ดูหลังจากเกิดการกระทำ มันมีสองเหตุและผล อย่างกรณีแรก ทำกรรมในชาตินี้ อาจจะทำไปด้วยความไม่รู้ แต่ได้กระทำไปแล้ว คือ ดูที่เจตนาด้วย ตั้งใจทำหรือไม่ ตั้งใจมากหรือน้อยก็รับผลจากการกระทำนั้นไป ตามที่ได้กระทำ ส่วนพอทำไปแล้ว กลับสำนึกในสิ่งที่ได้กระทำไปแล้วว่า ไม่ควรทำ ก็พยายามสร้างแต่เหตุดี ผลที่ได้รับในอนาคตคือดีแน่นอน ส่วนเหตุที่ทำไว้ไม่ดี ก็รับผลไปตามที่กระทำไว้ นำมาทดแทนกันไม่ได้หรอกค่ะ มาหักลบกบลหนี้กันไม่ได้ กุศลส่วนกุศล อกุศลส่วนอกุศล อีกกรณีหนึ่ง ที่ว่าทำไปแล้ว ไม่สำนึก ก็ยังทำอย่างต่อเนื่อง เขาก็รับผลที่เขาได้กระทำแหละค่ะ จะมากจะน้อยก็อยู่ที่เจตนาที่เขาทำ สรุปคือ สิ่งที่ได้ลงมือกระทำไปแล้ว ไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นกุศลหรืออกุศลก็ตาม ผลที่ได้รับก็ตามสิ่งที่ได้กระทำไว้ ส่วนที่ว่าสึกนึกกลับตัวได้ พยายามสร้างแต่เหตุดี ผลย่อมดีแน่นอนค่ะ แต่มันคนละส่วนจะนำมาปนกันไม่ได้ค่ะ |
เจ้าของ: | koi [ 11 พ.ค. 2009, 16:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความหนักเบาของกรรม ขึ้นอยู่กับคนไหม |
ถูกต้องค่ะ เห็นด้วยค่ะ ทุกอย่างของกรรม อยู่ที่ผลของการกระทำ จะมาลบล้างกันไม่ได้ค่ะ ถึงแม้ว่าจะทำดีแค่ไหนทดแทน แต่ก็ได้ได้รับกรรมที่ก่อไว้ ไม่มากก็น้อยค่ะ |
เจ้าของ: | -dd- [ 11 พ.ค. 2009, 17:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความหนักเบาของกรรม ขึ้นอยู่กับคนไหม |
อ้างคำพูด: คือว่าถ้าคนเราทำกรรมในชาตินี้ ระหว่างคนที่ไม่สำนึกถึงกรรมที่ทำไป กับ คนที่สำนึก แล้วกรรมที่จะได้รับในภายภาคหน้าจะต่างกันหรือไม่ครับ มีผลต่างกันแน่นอนครับ.. เมื่อเทียบกับหลักการในการเจริญกุศลให้ได้อานิสงค์สูงสุดคือ การรักษาเจตนาใน ๓ กาล ได้แก่ ก่อนทำ ขณะกำลังทำ และภายหลังทำ แล้ว เราสามารถกำหนดได้ว่ากรรม(ชั่ว)ที่ทำไป นั้นเรามี"เจตนา"ในการทำความชั่วนั้นทั้ง๓ กาลหรือไม่ เมื่อสำนึกผิดในภายหลัง แสดงว่าเราไม่มีเจตนา อันแรงกล้าในกรรมนั้น เช่นนี้ผลจึงลดลงตามเจตนานั้น.. บุคคลผู้ทำผิดแล้ว ภายหลังสำนึกได้ แม้พระพุทธเจ้ายังทรงสรรเสริญว่าย่อมสามารถเจริญได้ธรรมะทั้งหลายของพระองค์...ส่วนบุคคลผู้ขาดสติขาดปัญญาอันเห็นชอบในทางเจริญทางเสื่อมแห่งชีวิตตามที่เป็นจริงคือ ความระลึกได้ก่อนคิด-พูด-ทำ ว่ากรรมที่จะกระทำหรือประพฤติปฏิบัตินั้น ดีหรือชั่ว ถูกต้องหรือไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม เป็นคุณประโยชน์หรือเป็นโทษขณะเมื่อคิด-พูด-กระทำกรรมนั้นอยู่ ก็ไม่มีสัมปชัญญะ คือ ไม่มีความสำนึกได้ว่าผิดหรือถูก ควรหรือไม่ควร และแม้ภายหลังที่ได้คิด-พูด-ทำความผิดพลาดหรือไม่ถูกไม่ควรไปแล้ว ก็ยังไร้ความสำนึกว่าตนเองประพฤติถูกต้องหรือผิดพลาด ไม่ถูกไม่ควร จึงหลงมัวเมาในชีวิต ดำเนินชีวิตตนไปด้วยความประมาทขาดสติสัมปชัญญะและปัญญาอันเห็นชอบนำตนไปสู่ความเสื่อมเสีย เป็นโทษ เป็นความทุกข์เดือดร้อน ต่อๆ ไป ไม่มีที่สิ้นสุด |
เจ้าของ: | พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ [ 11 พ.ค. 2009, 19:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความหนักเบาของกรรม ขึ้นอยู่กับคนไหม |
ละอายกรรม เขียน: คือว่าถ้าคนเราทำกรรมในชาตินี้ ระหว่างคนที่ไม่สำนึกถึงกรรมที่ทำไป กับ คนที่สำนึก แล้วกรรมที่จะได้รับในภายภาคหน้าจะต่างกันหรือไม่ครับ ได้รับผลต่างกันมากครับ องคุลิมาลสำนึกในบาปกรรม ท่านได้รับผลกรรมเบาบางลงมาก ลองอ่านเรื่องที่ผมเขียนไว้ปีที่แล้วดูนะครับ เรื่อง องคุลิมาลไม่ต้องตกนรก เพราะทำการก้าวล่วงบาปกรรม ไม่ใช่เพราะเข้านิพพาน .......................................................................................................... มีคนจำนวนมากคิดว่า องคุลิมาลหนีกรรมได้เพราะบรรลุอรหันต์ เข้านิพพานไป เหมือนเข้าสู่เส้นชัยไปแล้ว วิปากกรรมก็มิอาจส่งผลได้อีก ไม่ต้องชดใช้กรรมใดๆอีกต่อไป กรรมที่เคยทำไว้จะกลายเป็นอโหสิกรรมไป แม้แต่กรรมที่ฆ่าและตัดนิ้วมือคน 999 คน เรื่องนั้นถูกเพียงส่วนเดียว แต่ผิดในเรื่องวิบากกรรมในการฆ่าและตัดนิ้วมือคน 999 คน ผมไปตอบปัญหาของบางท่านในเว็บพลังจิต นึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้ เลยนำมาลงในเว็บนี้ด้วย อ้างอิง: ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Jintasak ที่สับสนกันอยู่คือ เราไปขออโหสิกรรม กับกรรมของเรา ซึ่งจริงๆ ทำไม่ได้ ...เราขออโหสิกรรมได้เฉพาะ กับผู้ที่ผูกเวรกับเรา " เราไปขออโหสิกรรม กับกรรมของเรา ซึ่งจริงๆ ทำไม่ได้ ...เราขออโหสิกรรมได้เฉพาะ กับผู้ที่ผูกเวรกับเรา " ผมตอบว่า ทำได้ครับ พระพุทธเจ้าเรียกว่า การก้าวล่วงบาปกรรม พระพุทธองค์ทรงตรัสแนะนำให้ก้าวล่วงออกจากกรรมเสีย โดยการกำหนดอธิษฐานจิต ตั้งใจมั่นว่า: " กรรมนั้นๆเป็นสิ่งไม่สมควร ต่อไปนี้ตลอดไปนิรันดร เราจะไม่กระทำกรรมนั้นอีกเป็นอันขาด " ในโลกมนุษย์ เพราะว่าคุณได้สำนึกผิดอย่างเด็ดขาดไปแล้ว วิบากกรรมที่จะส่งผลถึงคุณนั้นจะเบาบางลง แม้เจ้ากรรมนายเวรไม่ได้ให้อภัย ส่วนในปรโลก วิบากกรรมนั้นจะกลายเป็นเศษกรรมไป ตัวอย่าง 1. หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม ในวัยเด็กท่านเคยฆ่าไก่ตายเป็นจำนวนมากด้วยการหักคอไก่ ต่อมาหลังจากท่านมาบวชเป็นพระแล้ว ท่านก็สำนึกในบาปกรรมที่เคยได้ทำในวัยเด็ก และท่านก็รู้ในจิตของท่านจากการปฏิบัติกรรมฐานด้วยว่า เหล่าวิญญาณไก่ที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของท่านตามมาทวงหนี้แล้ว ท่านก็ต้องรับผลกรรมนั้น โดยต้องคอหักตายในวันที่ 14 ตุลาคม 2521 (ขออภัยถ้าจำผิด) และแล้ว.....เหตุการณ์นั้นก็เกิดขึ้นจริงๆ ท่านรถคว่ำคอหัก แต่ทว่าท่านไม่ตายครับ อยู่ต่อมาถึงทุกวันนี้ให้เราได้กราบไหว้ เป็นผลมาจากการสำนึกบาปหรือการก้าวล่วงกรรมของท่าน ทำให้วิบากกรรมของท่านนั้นเบาบางลงนั่นเอง 2. องคุลิมาล คนส่วนใหญ่แม้กระทั่งพระสงฆ์ต่างก็เข้าใจผิดว่า องคุลิมาลหนีกรรมได้เพราะบรรลุอรหันต์ เข้านิพพานไป นั่นเป็นความคิดที่ผิด สิ่งที่ถูกคือ องคุลิมาลท่านก็สำนึกบาป ทำการก้าวล่วงบาปกรรม ทำให้วิบากกรรมทางโลกท่านเบาบางลง ส่วนวิบากกรรมในปรโลกท่านไม่ต้องรับ แม้ว่าองคุลิมาลท่านฆ่าคนมามาก เรื่องเป็นอย่างนี้ครับ : คัดจาก ๓๖. อังคุลีมาลสูตร สูตรว่าด้วยพระองคุลิมาล http://www.baanjomyut.com/pratripido...pidok/504.html ต่อมาท่านบำเพ็ญเพียรก็ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์.(ประโยคต้นนี่แหละทำให้เกิดความสับสน เมื่ออ่านคำพูดของพระพุทธเจ้าจะเข้าใจ) เมื่อท่านไปบิณฑบาต ท่านได้เข้าไปบิณฑบาติในเมืองสาวัตถี ถูกประชาชนขว้างปาด้วยก้อนอิฐ ก้อนหิน และท่อนไม้ จนศีรษะแตก เลือกไหล บาตรก็แตก ผ้าสังฆาฏิก็ขาดวิ่นมาเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคก็ตรัสว่า กรรมที่จะให้ผลไปหมกไหม้ในนรกเป็นเวลาหลายหมื่นหลายแสนปี เป็นอันท่านได้รับผลในปัจจุบัน. ย้ำ!!! พระผู้มีพระภาคก็ตรัสว่า กรรมที่จะให้ผลไปหมกไหม้ในนรกเป็นเวลาหลายหมื่นหลายแสนปี เป็นอันท่านได้รับผลในปัจจุบัน. ด้วยเหตุนี้ วิบากกรรมทางโลกขององคุลิมาลเบาบางลง ส่วนวิบากกรรมในปรโลกท่านไม่ต้องรับ สาเหตุมาจากองคุลิมาล ท่านทำการก้ารล่วงบาปกรรม นั่นเอง ไม่ใช่สาเหตุมาจากท่านบรรลุอรหันต์ แล้วไม่ต้องรับผลกรรมอันนี้ |
เจ้าของ: | วรานนท์ [ 11 พ.ค. 2009, 19:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความหนักเบาของกรรม ขึ้นอยู่กับคนไหม |
![]() ![]() ![]() ครับ ความชั่วเมื่อทำแล้ว จะมาอ้อนวอนให้ได้รับผลดีตอบแทน หาทำได้ไม่ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วตอบครับ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | อมิตาพุทธ [ 13 พ.ค. 2009, 08:44 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความหนักเบาของกรรม ขึ้นอยู่กับคนไหม |
"เพียงแค่วางมีดที่คิดจะฆ่าลง หนทางแห่งพระอรหันต์ก็อยู่ตรงหน้า" ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ผู้ดูแลสัตว์วิเศษ [ 30 พ.ค. 2009, 15:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความหนักเบาของกรรม ขึ้นอยู่กับคนไหม |
ละอายกรรม เขียน: คือว่าถ้าคนเราทำกรรมในชาตินี้ ระหว่างคนที่ไม่สำนึกถึงกรรมที่ทำไป กับ คนที่สำนึก แล้วกรรมที่จะได้รับในภายภาคหน้าจะต่างกันหรือไม่ครับ ผมว่าไม่ใช่ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |