ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ผู้หญิงขึ้นคาน !!! เป็นเพราะกรรมอะไร
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=4&t=24262
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ไหว้พระปล่อยปลา [ 24 ก.ค. 2009, 11:50 ]
หัวข้อกระทู้:  ผู้หญิงขึ้นคาน !!! เป็นเพราะกรรมอะไร

ผู้หญิงขึ้นคาน !!! เป็นเพราะกรรมอะไร

คำถาม 3 : อาจารย์ค่ะ คนไม่มีแฟน อยู่จนขึ้นคานก็ถือเป็นกรรมด้วยหรือค่ะ?
อาจารย์มีคำแนะนำสำหรับผู้หญิงที่อยู่เป็นโสดตลอดชีวิตอย่างไรค่ะ? (กาญจนา/ กทม)

คำตอบ : มีคำกล่าวว่า ‘อยู่คนเดียว เปลี่ยวกาย แสนสบายแต่ไม่สนุก อยู่สองครองสุข แสนสนุกแต่ไม่สบาย’
หมายความว่ามีคู่หรืออยู่คนเดียวสนุกกันคนละแบบ ว่ากันว่าการแต่งงานนั้น คนในอยากออกคนนอกอยากเข้า
ผู้หญิงบางคนบ่นว่า ‘แต่งไปแล้วอยู่อย่างทาสของสามี รับใช้สามีทุกอย่าง’
ฝ่ายสามีก็มีบ่นให้ผมฟังว่า ‘แต่งไปแล้วจะรู้ว่านรกมีจริง’
ก็ต้องขึ้นกับว่าแต่งกับใคร คนที่เรารักชอบพอนั้นเป็นอย่างไร
ถ้าได้คู่ดี มีศีลธรรมใกล้กัน คิดคล้ายกัน มีอุดมการณ์ อยู่กันจนแก่เฒ่าเป็นชีวิตที่มีความสุขมากในวงฆราวาสวิสัย
แต่ที่เห็นๆ อยู่ขณะนี้ สถิติหย่าร้างกันมีเพิ่มมากขึ้น ไม่แน่ว่าการได้แต่งงานจะเป็นความสุขหรือทุกข์
เพราะทุกวันนี้ มักจะสุขตอนต้นแล้วลงเอยเป็นโศกนาฎกรรมคือหย่าร้างกันซึ่งมีมากขึ้นทุกวัน

ในความเป็นจริง คนเราเกิดมาตัวคนเดียว ยามไปก็จะไปตัวคนเดียว พ่อแม่พี่น้องที่คลานตามกันมาก็มาตามกรรม
สามีและภรรยาก็มาตามกรรม กล่าวคือพบกันและอยู่ด้วยกันชั่วคราวเท่านั้น
ถึงยามจากก็จะจากไปตามกรรมของแต่ละคนเมื่อถึงเวลา และกรรมเท่านั้นที่จะบงการชีวิตเขาต่อไป
ว่าจะไปเกิดในภพภูมิที่ดีหรือเลว กรรมเท่านั้นที่จะกำหนดว่าต่อไปเขาจะได้เจอใคร อยู่กับใครอีก

พระพุทธเจ้ายังเคยตรัสทำนองว่า สัตว์โลกล้วนแต่เคยเกิดเป็นพ่อ,เป็นแม่, เป็นพี่, เป็นน้อง,
เป็นภรรยาสามีกันทั้งนั้น คู่แต่งงานที่ประเสริฐตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าก็คือ
ต้องส่งเสริมหรือให้สติกันในการปฏิบัติธรรมยิ่งๆ ขึ้น รักกันชอบกันก็ต้องตักเตือนกัน
คอยเป็น ‘เบรก’ ให้กันและกัน เพราะจิตมนุษย์เต็มไปด้วยความอยากที่ไม่จำกัดปริมาณ
ถ้าไม่มีเบรก ไม่มีวินัยก็จะมัวเมาได้ทุกเมื่อ

ถ้าการครองชีวิตคู่ไม่ได้ทำให้ภรรยาหรือสามีมีคุณธรรมดีขึ้น กลับต้องเลวร้ายลง กล่าวคือ
ต้องไปอยู่ในสถานการณ์หวานอมขมกลืน ทะเลาะกันประจำ การมีคู่แบบนี้สู้อยู่คนเดียวไม่ได้หรอกครับ
เมืองไทยมีพระสงฆ์กว่าสามแสนรูป หลายท่านไม่ยอมสึก
ท่านก็คิดอย่างนี้แหละครับ คือชอบชีวิตอยู่คนเดียว จะได้พัฒนากุศลธรรมได้สะดวกขึ้น

แต่ถ้ามีสามีหรือภรรยาแล้ว ชีวิตที่เคยห่างเหินธรรม มาเข้าใจธรรมมากขึ้น คู่สมรสนำพาให้เข้าถึงธรรม
มีธรรมที่ตัวเองรู้ถ่ายทอดไปยังลูกหลานที่เกิดมาให้มีคุณธรรมตาม การแต่งงานแบบนี้ประเสริฐ
เพราะจะทำให้คู่สมรส มีชีวิตสุขในบั้นปลายคือมีชีวิตที่สงบ
พ่อแม่หลายคนคงรู้สึกเหนื่อยที่จะต้องเสียเวลาไปกับการอบรมลูกให้เป็นคนดี
แต่ถ้าลูกดีตามตั้งใจ ความดีนั้นจะส่งผลให้พ่อแม่นั้นมีชีวิตที่สงบและความสุขในบั้นปลาย
เพราะลูกๆ ก็จะพากันกตัญญูมารับใช้ดูแลพ่อแม่ไม่ได้ขาด

จะบอกว่า ‘ขึ้นคาน’ เป็นผลกรรมเก่าหรือปล่าว ?
คำตอบก็คือใช่ แต่จะเป็นผลกรรมดีหรือชั่วก็ขึ้นกับสถานการณ์แต่ละคนอีกที
ถ้าผู้หญิงคนนั้น จิตใจไม่ออกห่างโลกียสุข ปรารถนาโลกียสุขตลอดแต่ไม่มีคู่ให้มีสุขได้
นี้ชื่อว่าเป็นผลกรรมชั่วในอดีตเพราะไม่ได้ดั่งหวัง
พระไตรปิฎก อธิบายเหตุผลที่ทำให้ผู้หญิงลำบากอยู่หลายกรณี เช่น สังยุตตนิกาย (18/471/299)
พระพุทธเจ้าตรัสว่า มาตุคาม (หญิงสาว) จะตายไปแล้วตกนรก ครั้นตกนรกแล้ว มาเกิดเป็นมนุษย์
เศษวิบากจะทำให้ลำบาก หวังสิ่งใดก็ไม่ได้ดั่งใจปรารถนา เพราะมีพฤติกรรม 5 อย่าง

1.อสัทโธ ไม่มีศรัทธาในพระรัตนตรัย ไม่เชื่อกฎแห่งกรรม
2.อหิริโก ไม่มียางอายสมแก่ที่เป็นสตรี
3.อโนตตัปปี ไม่กลัวผลบาปที่ทำ กล้าท้าทายกรรมชั่ว ไม่กลัวบาป
4.อุปนาหี มักผูกโกรธหรืออาฆาตพยาบาท ไม่เจริญเมตตาพรหมวิหาร
5.ทุปปัญโญ ไม่ศึกษาว่าสิ่งไรดี-ชั่ว สิ่งไรบุญ-บาป จนแยกไม่ออกว่าอะไรดี อะไรชั่ว

ผู้หญิงที่ไร้ยางอาย ชอบถ่ายรูปเปลื้องผ้า แก้ผ้าถ่ายรูป
อ้างว่าเป็นศิลปะเพราะถูกอิทธิพลตะวันตกล้างสมองก็เข้าข่ายไม่มีหิริและโอตตัปปะ
ชาตินี้ดูเขาจะเป็นสุข แต่ถ้าชาติหน้าจะเป็นอย่างไร เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

แต่ถ้าผู้หญิงคนนั้น มีจิตใจออกห่างจากโลกียสุข โน้มเอียงไปทางธรรมะมาก
การที่เธอไม่มีคู่ก็อาจเพราะเธอหาคนมีคุณธรรมใกล้เคียงไม่ได้
ถ้าแต่งงานไป จะทำให้ธรรมะที่เธออบรมมาแย่ลงกว่าเดิม ดังนั้น เธอจึงยินดีประพฤติธรรมยิ่งขึ้น
ผู้หญิงประเภทนี้ อาจบวชเป็นชี อาจรักษาศีล ๘ อาจฟังเทศน์ฟังธรรมประจำ
ถ้าใครมีอุปนิสัยโน้มเอียงไปทางอย่างนี้แสดงว่ากุศลธรรมชักพาให้เธอหลีกห่างชีวิตคู่
ซึ่งควรต้องดีใจจึงจะถูก เพราะชีวิตจะได้อบรมจิตยิ่งๆ ขึ้น.

ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ ( ผู้ตอบ)

เจ้าของ:  rawisada [ 24 ก.ค. 2009, 12:03 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้หญิงขึ้นคาน !!! เป็นเพราะกรรมอะไร

จงชราอย่างกล้าหาญ
และขึ้นคานอย่างสมศักดิ์ศรี :b4: :b4:

:b48: :b52: :b48: :b52: :b48: :b52: :b48: :b52: :b48: :b52:

จงเกรงบาปเร่งสร้าง
แสวงบุญ เถิดรา
กายจิตวจีคุณ
ชอบไว้
จักสุขจักทุกข์หนุน
ผลเพราะ กรรมเล
ตัวและพึ่งตัวได้
จบแล้วลาเอย :b34: :b34:

:b52: :b47: :b52: :b47: :b52: :b47: :b52: :b47: :b52: :b47:

อนุโมทนาบุญจร้า :b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  dhama [ 24 ก.ค. 2009, 12:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้หญิงขึ้นคาน !!! เป็นเพราะกรรมอะไร

ผมว่ากรรมดีนะแต่ไม่รู้ว่าทำกรรมอะไร โชคดีมากๆนะครับ

เจ้าของ:  Bwitch [ 24 ก.ค. 2009, 12:21 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้หญิงขึ้นคาน"! เป็นเพราะกรรมอะไร

รูปภาพ
:b46: :b47: :b53: :b51: :b52: :b54: :b53:

ขึ้นคานเป็นสุขอย่างยิ่ง :b4:
ขึ้นคานก็ใช่ว่าจะไม่รู้จักรักนะคะ
ถ้าเขาหรือเธออธิษฐานจิตไว้ละคะ
ก็เห็นอยู่แล้วว่า รักเป็นทุกข์

รูปภาพ รูปภาพ
อยู่คนเดียวก็มีความสุขได้คร๊า.... :b48:

เจ้าของ:  Bwitch [ 24 ก.ค. 2009, 12:25 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้หญิงขึ้นคาน !!! เป็นเพราะกรรมอะไร

rawisada เขียน:
จงชราอย่างกล้าหาญ
และขึ้นคานอย่างสมศักดิ์ศรี :b4: :b4:

:b48: :b52: :b48: :b52: :b48: :b52: :b48: :b52: :b48: :b52:

แหม...ถูกใจจังเลยค่ะ "จงชราอย่างกล้าหาญ"
แถมอีกนิด...ตายอย่างมีคุณภาพ... :b4: รูปภาพ

อนุโมทนาสาธุจร้า :b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 25 ก.ค. 2009, 20:14 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้หญิงขึ้นคาน !!! เป็นเพราะกรรมอะไร

หญิงอายุขึ้นเลข ๓ เค้าว่าขึ้นคาน :b21:

แล้วชายล่ะขึ้นอะไร ไม่เคยได้ยินใครพูดถึงบ้างเลยนิ :b16:

"ซำบายดีที่คานทอง" :b32:

http://www.imeem.com/people/0WDjDtx/music/ddL7hpT9//

เจ้าของ:  วรานนท์ [ 25 ก.ค. 2009, 20:31 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้หญิงขึ้นคาน !!! เป็นเพราะกรรมอะไร

:b8: :b8: :b8:

ผมว่าสามสิบยังไม่น่าจะเรียกว่าขึ้นคานนะ

เพราะชีวิตเริ่มต้นเมื่ออายุสามสิบ (สุภาษิตของคนขึ้น...ครับ)


:b8: :b8: :b8:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/