วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 16:34  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2010, 11:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2010, 21:14
โพสต์: 2

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อสมัยเรียน มีเพื่อนมาปรึกษาดิฉันและเพื่อนอีกคนว่า ... เค้าท้อง มาร้องห่มร้องไห้

และระบายให้ฟัง พร้อมขอให้ช่วยแนะหาทางออกให้เค้าหน่อยว่าจะทำงัยดี

ดิฉันและเพื่อน เมื่อตอนนั้นก็ยังไม่ค่อยจะนึกถึง บาปบุญคุณโทษเท่าไร และความคิดนะขณะนั้นคือ

คิดว่า ถ้าแม่และพ่อยังไม่พร้อม เด็กเกิดมาก็เป็นปัญหาสังคม และเพื่อนก็เรียนไม่จบอีก

สิ่งแนะนำดีที่สุดและมีความคิดเห็นพร้อมตรงกันก็คือ .... การทำแท้ง ในวัยเรียน และดิฉันก็ได้ช่วยเงินเค้าไป 500 บาท ในขณะเพื่อนอีกคน ช่วย 1500 บาท

ดิฉันคิดว่า แค่ช่วยเงินน่าจะจบสิ้น แต่ตลอดระยะเวลา เกือบยี่สิบปี สิ่งที่เห็นมาจนถึงปัจจุบันคือ เพื่อนที่ทำแท้ง ชีวิตล้มเหลว
ทั้งการครองเรือน และหน้าที่การงาน ในขณะเดียวกันเพื่อนที่ให้ยืมเงิน จะ ล้มเหลวเรื่องคู่ครอง มีแต่ความทุกข์

ขณะนี้เหลือดิฉัน ซึ่งยังไม่แต่งงาน ..... แต่กลับมีคนทักมาว่า ให้รีบไปทำอุทิศให้เด็กนะ เพราะเค้าตามมาใกล้ถึงตัวแล้ว ดิฉันขนลุก และมานั่งทบทวน ว่า สมัยเพื่อนทำแท้งใหม่ๆ เค้าไม่สบายใจ ไปทำบุญที่พิษณุโลก เคยโทรมาเล่าให้ฟังว่า หลวงพ่อที่วัดท่านทักเค้าว่า มีเด็กติดตาม ไปทำแท้งมาหรอ บอกเพื่อนสองคนด้วยนะ ว่า .... เด็กอาฆาตพยาบาท ตามแน่นอน.....

ดิฉันควรทำอย่างไรดีคะ วิธีแก้ไขที่ลดกรรมให้เบาบางลงได้

ส่วนดิฉันคิดว่า การเจริญสมาธิแผ่เมตตา เป็นการช่วยเค้าให้พ้นความอาฆาตพยาบาทได้ หรอถ้ามีอะไรนอกเหนือจากนี้ ช่วยแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณทุกท่านนะคะ


แก้ไขล่าสุดโดย nunyna เมื่อ 22 ส.ค. 2010, 11:05, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2010, 12:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ฟังๆ ดูแล้วก็น่ากลัว....จนทำให้เราคิดมาก...จิตตกไปเลยไม่ต้องกล้าทำอะไร..
หรือไม่มีความมั่นใจ ในสิ่งใด...แม้แต่ในการใช้ชีวิตประจำวัน..ก็จะคิดถึงแต่เรื่องนี้
สัญญา อดีต ความจำได้หมายรู้ นี้ ถ้าใช้ให้เป็นมันก็เป็นประโยชน์
แต่ถ้าใช้ไม่ถูกหลัก...มันก็มีโทษ..เช่นนี้แล..(อย่าไปคิดถึงมันอีก)
...การกระทำทุกอย่างอยู่ที่เจตนา...เหตุ..ปัจจัยมี..ผล ย่อมมีตามมา...
แต่ครั้งนั้น นานมาแล้ว...เพราะเรามีความตั้งใจ..จะช่วยเพื่อน...เราคิดดี..
ทำดีแล้ว...เพราะได้สงเคราะห์เพื่อน..เพราะความไม่รู้..ถ้าปล่อยไปคงต้องเสียการเรียนแน่...
ไม่รู้ว่าจะเป็นการส่งเสริมให้ทำบาป...
...ครับ..เมื่อยิ่งคิดถึงมันก็ยิ่งบาป(เพราะทุกข์ใจอยู่)...ยิ่งมีใครมาทัก..มันกลัวยิ่งกลัว..
อย่าไปคิดถึงมันอีกเลย...กรรมของใครก็ของมัน..เพื่อนๆ..ที่ชีวิตครอบครัวเป็นแบบนั้น..เพราะเหตุที่
เขาได้สร้างมาแบบนั้นต่างหาก...ก็เลยรับผลแบบนั้น
ทำบุญ...สวดมนต์ไหว้พระ...รักษาศีล...แผ่เมตตาให้เขา...จะได้อโหสิ..ให้กัน
ถ้าเรา..คิดดี..ทำดี...ทุกอย่างเป็นสัมมา..แล้ว..ก็ไม่ต้องกังวลอะไรอีก
ลืมมันไป..ไม่หวนกลับมาคิดถึงมันอีก...ปล่อยวางมันไป..มั่นใจในความดีของเรา
ขอเจริญในธรรม :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2010, 13:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2010, 00:17
โพสต์: 255

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปกติถ้ามีคนมาทักโน่นทักนี่ โดยเฉพาะเรื่องหมอดู ไอ้นั่นไอ้นี่ ชื่อนั้นชื่อนี้ เป็นการกินี ทิศนั้นทิศนี้ไม่เป็นมงคล ผมจะบอกว่างมงาย หมอดูหรือพวกที่แอบอ้างว่ามีคุณวิเศษสามารถเห็นนั่นเห็นนี่บางครั้งศีล5 ยังรักษาไม่ได้ เขาจะมีคุณวิเศษได้อย่างไร พวกนี้ก็แค่จิตวิทยาสูง ถ้าคุณมีสติปัญญาต่ำ เป็นพวกจิตตก ทำบาปมากกว่าทำบุญก็ตกเป็นเหยื่อให้เขาหลอกเงิน หรือบางครั้งถึงต้องขอโทษ เสียเนื้อเสียตัวกันทีเดียว บาปกรรมที่แท้จริงมันต้องมีเชื้อ ต้องมีเหตปัจจัย ในเรื่องของคุณถึงพระไม่บอก คุณก็ต้องตระหนักด้วยสติปัญญา ของตังเองมันมีเหตุปัจจัยแห่งกรรมจริง ถึงแม้ไม่ได้กระทำโดยตรง แต่ก็มี่ส่วนร่วมหรือสมรู้ร่วมคิด เป็นกฏหมายก็ร่วมกันฆ่าผู้อื่น โดยเจตนา ผมเน้นคำว่าโดยเจตนา เพราะมันจะมีทั้ง บาปและกรรมร่วมกันอยู่ ถ้าคิด จะฆ่า ได้กระทำการฆ่า และการฆ่าสำเร็จ คือเขาตาย นีแหละที่เขาเรียกว่าผิดครบองค์ศีล คือ มีบาป มีกรรมและผิดศีลครบเลย
ที่อยากจะบอกว่าคูณได้ร่วมกันมนุษย์(ซึ่งอาจมีกรรมพ้องที่ต้องเกิดมาแล้วถูกฆ่าในครรภ์) แต่พุทธองค์ทรงตรัสถึงคุณค่าของชีวิต จำแนกคุณค่าของชิวิตไว้ชัดเจนว่าคูณทำบุญกับใคร ช่วยเหลือสงเคราะห์ใครจะได้บุญมาก ทำบาปกับใคร ทำกรรมกับใครจะมีบาปหนัก มีกรรมหนัก แต่คำสอนนี้ท่านแฝงไว้ในหัวข้อธรรม ซึ่งไม่ค่อยมีใครเข้าใจและใส่ใจ มนุย์เป็นสัตว์ประเสริฐที่สามารถ ปฏิบัติธรรมและบรรลุธรรมได้สัตว์อื่นๆหรือแม้แต่เทวดาก็ล้วนทำไม่ได้ อันนี้พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญการเกิดในภพภูมิมนุษย์ และยิ่งเป็นมนุษย์ที่มีศีลแล้ว คูณค่าความเป็นมนุษย์ยิ่งมีมากขึ้นเป็นทวีคูณ(ผมเน้นคำว่ามีศีลไม่ใช่ถ์อศีล)
ที่นี้ปัญหาของคุณผมขอแนะนำดังนี้ คือทำความเข้าใจคำว่าปฏิบัติธรรม เริ่มต้นจากถือศีลสำรวมกายวาจาก่อน แล้วปฏิบัติธรรมจริงๆสักระยะหนึ่ง เอาตรงๆโดยต้องอาศัยกัลยาณมิตร ใช้สติปัญญาให้มาก เลือกครูบาอาจารย์ให้ตรงตามคำสอน ปฏิบัติธรรมได้ยิ่งมาก ก็อุทิศและขออโหสิกรรมทุกครั้ง ทำเฉพาะเวลาว่าง การงานและครอบครัวรักษาความปกติไว้ ไม่มีกุศลใดยิ่งใหญ่และมีพลานุ๓พเกินไปกว่าการเจริญภาวนา กุศลเหล่านี้จะช่วยให้เขาดีขึ้นจากกรรมเก่าของเขาเช่นกัน ความอาฆาตพยาบาทที่มีต่อคุณก็จะค่อยลดน้อยลงไป นอกเหนือจากนั้นเวลาคุณทำบูญทุกครั้ง ขอให้นึกไว้เสมอว่า เพื่อการเกื้อหนุน ศีล สมาธิ ปัญญาจะได้บุญมาก และก็แผ่ส่วนกุศลให้เขาทุกครั้ง หรืออาจทำตรงๆโดยเฉพาะเขาสักครั้งก็ดี ไปทำสังฆทานใหญ่ โดยต้องเลือกพระหรือวัดที่ปฏิบัติด๊ปฏิบัติชอบ เช่าพระพุทธรูปหนึ่งองค์ขนาดใดก็ได้จากวัดโดนตรงเช่นหลวงพ่อโสธร พระพุทธชินราช ซื้อบาตรอย่างดี "ตรจีวรอย่างดี ยาประจำบ้านอย่างดีครบชุด นม น้ำผลไม้อย่างดี พร้อมปัจจัยจำนวนหนึ่ง ถวายสังฆทานและตั้งใจบอกพระท่านว่าต้องการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนี้ให้ใครคนหนึ่งโดยช่วงนี้กำหนดจิตให้ดีให้ตรงว่าต้องเป็นคนๆนั้น กรวดน้ำให้เขาเสียด้วย
อย่างนี้เมือคุณทำจบตามที่ผมว่า และยังมีศีลอยู่ตลอดหวังได้เลย ว่าคุรพ้นจากความพยาบาท จงระลึกและเชื่อมั่นในบุญกุศล เพราะใครก็ตามสัตว์ในภพภูมไหนก็ตาม ถ้าเขาคิดร้ายทำร้ายมษุษย์มีศีล เขาย่อมเพิ่มบาปกรรมให้แกต้นเอง ขอให้คูณโชคดี/เจโตวิมุติ.. :b43: :b42: :b42:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2010, 14:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ขณะนี้เหลือดิฉัน ซึ่งยังไม่แต่งงาน ..... แต่กลับมีคนทักมาว่า ให้รีบไปทำอุทิศให้เด็กนะ เพราะเค้าตามมาใกล้ถึงตัวแล้ว ดิฉันขนลุก และมานั่งทบทวน ว่า สมัยเพื่อนทำแท้งใหม่ๆ เค้าไม่สบายใจ ไปทำบุญที่พิษณุโลก เคยโทรมาเล่าให้ฟังว่า หลวงพ่อที่วัดท่านทักเค้าว่า มีเด็กติดตาม ไปทำแท้งมาหรอ บอกเพื่อนสองคนด้วยนะ ว่า .... เด็กอาฆาตพยาบาท ตามแน่นอน.....

ดิฉันควรทำอย่างไรดีคะ วิธีแก้ไขที่ลดกรรมให้เบาบางลงได้

ส่วน ดิฉันคิดว่า การเจริญสมาธิแผ่เมตตา เป็นการช่วยเค้าให้พ้นความอาฆาตพยาบาทได้ หรอถ้ามีอะไรนอกเหนือจากนี้ ช่วยแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณทุกท่านนะคะ



การแก้บาปนั้น ไม่มีใครทำได้หรอกครับ

พึงเห็นเหมือนบุคคลนำเมล็ดข้าวสารมาหุงจนสุกเละไปแล้ว..หุงผิดสูตร ไม่ได้ข้าวสวยที่ดีรับประทานได้...ครั้นปรารถว่า เรานี้จะพึงแก้ไขข้าวสวยที่สุกเละแล้วนี่แหละ ให้กลับเป็นข้าวสารเสียใหม่ จะได้นำมาหุงใหม่ให้ดีกว่านี้...
ถามว่า...เรื่องนี้ อยู่ในฐานะที่จะเป็นไปได้หรือหนอ?
คำตอบก็คือ...เป็นไปไม่ได้..ไม่มีวิธีแก้ไขแล้ว จบแล้วจบกัน ถ้าจะหุงใหม่ก็ต้องเอาวัตถุดิบใหม่มาหุงนั่นแหละ

ทีนี้ หลายสำนัก ประกาศว่า.... มีวิธีแก้กรรม ล้างกรรม ล้างบาป อะไรต่อมิอะไรมากมาย..
โอโฮ...คนบาปมากมายก็ต่างพากันไปหาวิธีล้าง วิธีแก้กันยกใหญ่..เสียเงินเสียทองไปไม่ใช่น้อย..เพราะเป็นปัจจัยให้แก่พวกที่ปรารถนาในลาภทั้งหลาย ยกเอาเรื่องบาดใจอย่างนี้มาโฆษณาชวนเชื่อ และได้ผลมากคือมีคนไปหากันเยอะ คนขึ้นมาก.... เพราะทุกคนกลัวบาป ไม่อยากรับผลกรรมชั่ว... อยากจะลบล้างให้หมดไป โดยใช้วิธีลัดฟังดูแล้ว สะดวกดี


สิ่งที่บุคคลบางประเภทเชื่อ กับความจริงนั้น ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเรื่องเดียวกัน..
บางทีทั้งๆที่เป็นความจริงนั่นแหละ พวกเขาก็ไม่เชื่อ..
หรือบางทีคนอื่นมาหลอกลวงด้วยมายาต่างๆ พวกเขากลับเชื่อกันอย่างมากมาย ทั้งๆที่หาความจริงไม่ได้เลย อย่างนี้เป็นต้น

ขอให้ท่านผู้ถามตั้งใจฟังในเหตุผลความเป็นจริงต่อไปนี้ และเดินทางใหม่ให้ถูกทาง จึงจะชื่อว่า เดินถูกทาง ประกอบเหตุผล ..

ความเสียใจในบาปที่ตนทำไปแ้ล้ว......หรือความเสียใจในบุญที่ตนเองไม่ได้ทำในเวลาที่ควรทำ ..จิตใจที่ขึ้นทำการงานอย่างนั้น เป็นโทสะตลอดสาย.....

ดังนั้น เมื่อบาปเก่าจบลงไปแล้ว จิตที่ทำการงานแห่งบาปนั้นก็จบลงไปแล้ว..(บาปที่ทำแล้วมีผลตั้งขึ้นแล้วในทันที เพียงรอเหตุปัจจัยที่ประชุมพร้อมเพื่อ มาส่งให้ได้เสวยเท่านั้น)... ทีนี้ใจไม่ยอมจบ กลับผุดขึ้นปรากฏเป็นอารมณ์ให้จิตที่เป็นโทสะใหม่เกิดขึ้นแล้ว เกิดขึ้นอีก..ก็เท่ากับว่า ย่ำรอยบาปให้หนักขึ้น แน่นขึ้น มากขึ้น ยาวนานมากขึ้นไปอีก..
โทษได้แก่ กุกกุจจะ(ฟุ้งซ่าน) ที่ไม่ยอมจบยอมสิ้นนี่แหละ... ตรงนี้ซิน่ากลัวไม่น้อยเลย เพราะทำให้ใจเศร้าหมองเนืองๆ
ขอจงอย่านำทุกข์ของวันเก่าๆ กลับมาเป็นทุกข์ของวันใหม่เลย..มีแต่เสียประโยชน์ ...
วันคืนล่วงไป ท่านทำอะไรอยู่?..
ท่านมัวปล่อยใจให้เศร้าหมองหดหู่เสมอๆด้วยเรื่องเก่าๆ แล้วกลายมาเป็นบาปใหม่..? อย่างนี้ อันตราย..

ไม่พึงฟังคำทักอะไรๆที่ไม่มีเหตุผล เขาจะรู้จริงเห็นจริงหรือไม่ เราไม่อาจทราบได้ แต่เรื่องที่ว่ามีเด็กตามมานั้นดูจะเข้ากันได้ดีกับความเชื่อในเรื่องผีหรือวิญญานที่ล่องลอยที่คนแก่ชอบเล่าหลอกเด็ก หาความเป็นสาระไม่ได้ ทำราวกะว่าเด็กนั้นว่างมาก เลยเที่ยวตามใครๆ ทั้งยังหมุนเวียนตามคนโน้นคนนี้ราวบอดี้การ์ด ประโยชน์อะไรที่ต้องตามเขาไปเช่นนั้น จะว่าเด็กมีอำนาจพิเศษก็พิลึกที่ไม่รู้จักทำลายศัตรูคู่เวรทันที มัวตามเขาอยู่ตั้งนานเพื่ออะไร รอฤกษ์หรือ? ฟังดูน่าจะเป็นเรื่องขำขันเสียมากกว่า หาความเป็นเหตุผลอะไรไม่ได้สักอย่าง..

การเชื่อสิ่งงมงายไร้เหตุผลเช่นนี้นอกจากทำตนให้เสียหายเพราะขาดปัญญาแล้ว ยังพาใจให้วิบัติเพราะความกลัวรุมเร้า เรียกว่าจิตเป็นไปกับบาปคือโทสะ ย่อมเป็นปัจจัยที่จะนำร่องให้บาปเก่าอื่นๆได้ช่ิอง ได้โอกาสมาส่งผลร้ายท่วมทับทวีคูณอีก..

พึงขวนขวายเจริญบุญทั้งสิบประการ โดยเฉพาะเรื่อง"ศีล " นี่ให้เคร่งครัดให้ยิ่งเถิด.. ...
มะละกอเน่าเสียครึ่งลูก ฝานออกในส่วนที่เสีย นำเอาส่วนดีกลับมากิน ก็ยังชื่อว่า อิ่มท้องได้ ฉันใด....บุคคลที่ผิดไปแล้ว นำผิดนั้นเป็นครู กำจัดเสียซึ่งความโทมนัส แล้วตั้งใจที่จะมีสัจจะไม่กระทำบาปเยี่ยงนั้นอีก รักษาศีลให้มั่นคง ก็ยังชื่อว่า ประโยชน์เกิดได้มากมาย ..

ประโยชน์อะไรในโลกนี้ที่จะเกิดเป็นผลจากการเสียใจ มีอยู่หรือ?

ในโลกนี้ไม่มีใคร ไม่เคยทำผิด ไม่เคยทำชั่ว ล้วนทำผิดมากมายมาก่อนแล้วทั้งนั้น.... ผิดแล้วก็ยอมรับผิดรับใช้ไป จะได้ไม่ต้องคิดถึงอีก .....ที่ยังคิดอยู่ก็เพราะไม่ยอมรับผลที่จะเกิดขึ้น ไม่ชอบ..ดังนั้นใจจึงเดือดร้อนเนืองๆ
สู้นำเอาเวลาที่เหลืออยู่ในชีวิต ขวนขวายสร้างบุญให้เป็นที่พึ่งแห่งตนดีกว่า..เพราะเวลาบาปจะส่งผล ชะรอยบุญที่ได้สั่งสมไว้นี่แหละจะยังคงค้ำจุน อุปถัมภ์ไม่ให้เพลี่ยงพล้ำไปเกินขนาด ...ดุจเจ้าเมืองผู้ฉลาดเร่งสั่งสมกำลังกองทัพไว้รับมือกับข้าศึกที่รายล้อมเมืองอยู่ ฉะนั้น..

ส่วนเพื่อนผู้ทำแท้งนั้น หาได้วิบัติเพียงเพราะบาปจากการทำแท้งอย่างเดียวไม่ หากเขาประมาทในการดำเนินชีวิต มีการทุจริตล่วงศีลเป็นปกติ ย่อมเป็นทางไปสู่ความเสื่อมแต่ถ่ายเดียว..การทำแท้งคือการล่วงศีลข้อปาณาติบาตคือฆ่าคน ผลคือการมีอายุสั้นหรือถูกฆ่า ไม่ได้ส่งผลเป็นการเสียทรัพย์หรือเสื่อมลาภยศตลอดจนเสียสติเป็นต้น พึงศึกษาเหตุผลที่คล้องจองกันของกรรมและการให้ผล จะได้ไม่มั่วเดาเหมาเอาว่ากรรมอย่างหนึ่งให้ผลครอบจักรวาลดังที่ปรารภมาในกรณีของเพื่อนที่ทำแท้ง..

พระธรรมของพระพุทธเจ้า นั้นมีคุณยิ่งยวดที่สามารถจำแนกแจกแจงเหตุผลที่ถูกต้องได้อย่างชัดเจนในทุกกรณี..เปรียบเหมือนการหงายกะลาที่คว่ำ..เปิดของที่ปิด ทำให้เรามองเห็นทุกสิ่งได้อย่างหมดจดไม่สงสัยในสาระของสิ่งนั้นอีกต่อไป..มีค่าควรแก่การศึกษาให้มาก เพื่อความมีปัญญาสามารถคุ้มครองตนให้พ้นทุกข์ได้ในทุกกาล.. :b47: :b48: :b41:


.

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2010, 15:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว



กรรม คือ การกระทำ หรือเรียกง่ายๆว่า เหตุ ผลของการกระทำที่ได้รับ เรียกว่า วิบาก
สิ่งใดที่กระทำลงไปทุกๆการกระทำ ไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม ล้วนส่งผลหมด
ไม่มีใครคนไหนที่อยากทำผิดพลาด อดีตไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ควรอยู่กับปัจจุบัน

สิ่งใดก็ตามที่เกิดขึ้นในชีวิตของแต่ละคนนั้น ล้วนเกิดจากการกระทำของตนเองทั้งสิ้น
ไม่ใช่เป็นเพราะคนอื่นๆหรือใครหรืออะไรมาดลบันดาลให้เป็นไปแต่อย่างใดเลย
อย่าไปเชื่อหมอดู อย่านำจิตของตัวเองไปฝากไว้กับคำพูดของคนอื่นๆ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2010, 20:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ส.ค. 2010, 21:14
โพสต์: 2

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


..... ขอบคุณทุกความคิดเห็น และแนะนำนะคะ......


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2010, 21:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2010, 00:17
โพสต์: 255

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอต่ออีกนิด ผมพยายามพูดอะไรให้ง่าย ที่กล่าวไปข้างต้นผมไม่ได้มีคำไหนบอกว่าเป็นการแก้บาปหรือแก้กรรมเลยเจตนาของผมคือให้คุณสงบลง ด้วยการสร้างกุศล ทั้งทาน ศีล ภาวนาแล้วเชื่อมั่นในบุญกุศล
ส่วนการอุทิศส่วนกุศล เป็นเรื่องธรรมดาของชาวพุทธ ซึ่งก็ทำกันทุกคน ไม่ว่าจะอุทิศให้คนที่เรารักเช่นพ่อแม่ เราเคารพเช่น ครูบาอาจารย์ ยิ่งกว่านั้นบางคนจิตใจสูงไปอีกอุทิศ ให้คนที่เราเกลียด คนที่เราเคยสร้างกรรมสร้างเวรไว้กับเขา(ที่เราชอบเรียกว่าเจ้ากรรมนายเวร) ถ้ามาเจอปราชฌ์ใช้ตรรกกะตีความว่าคนที่ตายไปแล้วไม่รู้อยู่ที่ไหน มารับส่วนบุญ หรือกลับมาสร้างกรรมกับเราไม่ได้ ก็ต้องเลิกทำบูญตรวจน้ำกัน เพราะพ่อแม่ผมก็เสียไปเกิน20ปีเหมือนเด็กคนนั้นเหมือนกัน
ผมไม่อยากโตแย้งใคร แต่ผมบวชสายปฏิบัติ ผ่านประสบการและผลการปฏิบัติมาระดับหนึ่ง ทำให้ผมเข้าใจว่าอานิสงฆ์และบุญกุศลจากการเจริญภาวนานั้น สามารถแผ่ไปถึงพ่อแม่ของเราหรือคนที่เราต้องการแผ่ด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์แม้ท่านหรือคนเหล่านั้นจะจากเราไปนานแสนนาน กำลังเสวยบุญหรือกรรมอยู่ในภพภูมิใดก็ตาม เว้นแต่คนเหล่านั้นจะเป็นคนบาปหนักเช่นเปรตที่โขมยกินอาหารที่กษัติรย์องค์หนึ่งปรุงถวายพระพุทธเจ้าพวกนั้นบาปหนาแผ่ไปอาจไม่ถึง จิตทุกดวงยังเวียนว่ายตายเกิดในภพภูมิต่างๆตามเหตปัจจัยที่สร้าง อรหันต์เท่านั้นที่ไม่เกิดอีกแล้ว ทำไปเถิด อุทิศไปเถิด สำหรับคนทีเราคิดว่ายังต้องผูกพัน ไม่ว่าจะเป็นคนที่เรารัก เราเกลียด เรากลัวผลทางตรงได้บุญตามนั้นแน่นอน ผลทางอ้อมนั้นแล้วแต่ภาวะของจิตขณะที่ทำ/เจริญในธรรม.....เจโตวิมุติ :b42:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 28 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron